ตอนที่ 234 การแข่งขันระหว่างสองค่าย

ปฏิญญาค่าแค้น

หม่า​โหยว​เหลียง​จ้องเขม็ง​ ​สีหน้าฟึด​ฟัด​ด้วย​ความโกรธ​เกรี้ยว​ ​อยาก​ฟาด​มือ​ลง​ไป​ตบ​ไอ้​คน​ไร้​สมอง​ผู้​นี้​จน​แทบ​ทนไม่ไหว​ ​ต้องการ​รนหาที่​ตาย​ถึง​เพียงนี้​เชียว​หรือ​ ​ถึง​ตอนนั้น​พี่น้อง​ของ​ค่าย​เป่ย​ซาน​คง​เป็นได้​แค่​ทหาร​ไร้ค่า​ ​จะ​อยู่​หรือ​ตาย​ก็​หา​ได้​สนใจ​ไม่​ ​ส่วน​คุณ​งาม​ความชอบ​ล้วน​เป็น​ไอ้​เด็กหนุ่ม​หนิง​ซิ่ง​นั้น​ช่วงชิง​ไป​ ​จะ​ลงทุนลงแรง​ทั้งที​ก็​ต้อง​รู้จัก​ใช้​ให้​มัน​ถูก​สถานที่​ถูก​เวลา​ไม่ใช่​หรือ​ ​ไอ้​ลูกน้อง​พวก​นี้​เหตุใด​ถึง​ไม่เข้าใจ​ ​ความเพียรพยายาม​อย่างหนัก​ของ​เขา​บ้าง

“​ใช่​เรื่อง​ที่​พวก​เจ้า​ต้อง​เป็น​เดือด​เป็น​ร้อน​หรือ​ ​ทุกคน​แห่​ไป​สู้รบ​กัน​หมด​แล้ว​ผู้ใด​จะ​มา​อารักขา​ใต้เท้า​หลี​่​ ​อย่า​ลืม​สิว​่า​พวกเรา​มาที​่​นี่​ด้วย​ภาระหน้าที่​อัน​ใด​”​ ​แม้ว่า​หม่า​โหยว​เหลียง​จะ​อยาก​ด่าทอ​มาก​เพียงใด​ ​แต่​ติด​ที่​ใต้เท้า​หลี​่​อยู่​ด้วย​ ​จึง​ทำได้​เพียง​อดกลั้น​ความโกรธ​เกรี้ยว​ไว้

ฟ่าน​เต​๋อ​และ​คนอื่นๆ​ ​แสดงออก​อย่างชัดเจน​ว่า​ไม่​อาจ​ตระหนักถึง​ ​‘​ความเพียรพยายาม​อย่างหนัก​’​ ​ของ​เขา​ได้​ ​จึง​กล่าว​อย่าง​ไม่ยอม​น้อยหน้า​ ​“​แม่ทัพ​หนิง​นำ​พี่น้อง​ทหาร​สอง​พัน​นาย​ลง​สู่​สนามรบ​ ​อย่างน้อย​ๆ​ ​ก็​ควร​นับ​ค่าย​เป่ย​ซาน​เป็น​ส่วนหนึ่ง​ด้วย​นะ​ขอรับ​ ​เรื่อง​ของ​การบุก​ตะลุย​โจมตี​ข้าศึก​อัน​ใด​ล้วน​เป็น​พี่​ๆ​ ​น้องๆ​ ​ของ​ค่าย​ซี​ซาน​พวกเขา​รับหน้า​ ​ทำให้​พวกเรา​พี่น้อง​แห่ง​ค่าย​เป่ย​ซาน​ดู​เป็น​คน​ประเภท​ขี้ขลาด​ตาขาว​เห็น​ๆ​”

หม่า​โหยว​เหลียง​เดือดดาล​จนถึง​ขีดสุด​ ​จึง​ก่น​ด่า​ออก​ไป​ ​“​การ​ปรับ​กองกำลัง​ทหาร​เป็น​รูปแบบ​เช่นไร​ ​ยัง​ต้อง​ให้​เจ้า​มาสั​่ง​สอน​ด้วย​หรือ​ ​พวก​เจ้า​ช่วย​ตา​สว่าง​หน่อย​ ​การปกป้อง​ใต้เท้า​หลี​่​ให้​ปลอดภัย​ต่างหาก​ที่​เป็น​ภาระหน้าที่​อันดับ​ต้นๆ​ ​ขืน​พูดจา​เพ้อเจ้อ​ไร้สาระ​อีก​ ​เชื่อ​หรือไม่​ว่า​ข้า​จะ​ปลด​ตำแหน่ง​ของ​เจ้า​เสีย​ ​”

หลี่หมิง​อวิ​นก​ล่าว​ด้วย​รอยยิ้ม​จางๆ​ ​“​พวก​ท่าน​ยึดมั่น​และ​จริงจัง​ต่อ​การรับใช้​บ้านเมือง​เช่นนี้​ ​ช่าง​น่าเลื่อมใส​ยิ่งนัก​ ​เพียงแต่​พวก​ท่าน​อย่า​ได้คิด​ว่าการ​ถอนตัว​ก็​คือ​การ​รัก​ตัว​กลัว​ตาย​ไป​เลย​ ​เรื่อง​หลาย​ๆ​ ​เรื่อง​จำเป็นต้อง​ยึด​สถานการณ์​เป็นหลัก​”

หลิน​หลัน​ไม่​อาจ​เข้าใจ​การกระทำ​ของ​หม่า​โหยว​เหลียง​ได้​จริงๆ​ ​นาง​นึกถึง​ตอนแรก​ที่เกิด​สงคราม​สวี​โจว​ทัง​เอินปั​๋​วก​็​เป็น​เช่นนี้​ ​เพื่อ​รักษา​อำนาจ​ของ​ตนเอง​ไว้​ ​จึง​หนี​ไป​ใน​ช่วงเวลา​คับขัน​ ​ส่งผล​ให้​กองทัพ​ฉวน​ต้อง​สู้รบ​ตามลำพัง​ ​ท้ายที่สุด​กองทัพ​จึง​พังพินาศ​ ​ว่า​กัน​จาก​ใจจริง​ ​การ​ให้​หม่า​โหยว​เหลียง​อารักขา​ ​ก็​ยัง​เป็นเรื่อง​ที่​ไม่​อาจ​วางใจ​ได้​จริงๆ​ ​ด้วยเหตุนี้​นาง​จึง​พึมพำ​ขึ้น​โดย​ไร้​สีหน้า​อาการ​ใดๆ​ ​“​อย่าง​พวก​ท่าน​ที่​เอาแต่​พร่ำ​เรียก​ค่าย​เป่ย​ซาน​ค่าย​ซี​ซาน​จน​ติดปาก​ ​แค่​ฟัง​ก็​รู้​แล้ว​ว่า​มิได้​มีใจ​รวมกัน​เป็นหนึ่ง​”

หลิน​หลัน​พึมพำ​แม้​จะ​เป็น​เสียง​บางเบา​ ​ทว่า​ทุกคน​ภายใน​ห้องโถง​ล้วน​ได้ยิน​กระจ่าง​ชัดแจ้ง

สีหน้า​หม่า​โหยว​เหลียง​แปรเปลี่ยน​ไป​ฉับพลัน​ ​เขา​มีความรู้สึก​กลืนไม่เข้าคายไม่ออก​จาก​การถู​กม​องค​วาม​คิดเล็กคิดน้อย​ได้​อย่าง​ทะลุปรุโปร่ง​ ​และ​ผู้​ที่​กล่าว​ดัน​เป็น​ภรรยา​ของ​ใต้เท้า​หลี​่​ ​เขา​จึง​ไม่​สะดวก​ใจ​ที่จะ​เสียมร​รยาท​ใส่​ ​แต่​คำ​นี้​หาก​เข้า​ไม่​โต้แย้ง​สักหน่อย​ ​คน​เขา​จะ​กล่าวว่า​เขา​คิด​ไม่​ซื่อ​เอา​ได้​ ​จึง​กล่าว​ ​“​หมอ​หลิน​พูด​ประโยค​นี้​ออกมา​ ​ดูเหมือน​จะ​เกิด​ความเข้าใจผิด​ไป​หน่อย​นะ​ขอรับ​!​ ​พวก​ข้ามา​จาก​ค่าย​เป่ย​ซาน​ ​จึง​พูด​กัน​ใน​ชีวิตประจำวัน​จน​เคยชิน​เสีย​แล้ว​ ​เป็นเรื่อง​ธรรมดา​ที่จะ​ไม่​อาจ​แก้​ความเคยชิน​นี้​ได้​ใน​ช่าง​เวลา​อัน​สั้น​ ​พวกเรา​ล้วน​เป็น​คนตรง​ไป​ตรง​มา​ ​ไม่รู้​จัก​การ​อ้อมค้อม​อัน​ใด​เหล่านั้น​”

หลิน​หลัน​กล่าว​ด้วย​รอยยิ้ม​อย่าง​ไม่แยแส​ ​“​แม่ทัพ​หม่า​อย่า​ร้อนใจ​ไป​ ​ข้า​เพียงแค่​ว่า​ไป​ตาม​ท้องเรื่อง​เท่านั้น​ ​ไม่ว่า​พวก​ท่าน​มาจาก​ค่าย​เป่ย​ซาน​หรือ​มาจาก​ค่าย​ซี​ซาน​ ​ล้วน​เป็น​ทหาร​อารักขา​ที่​ฮ่องเต้​ทรงพระ​ราช​ทานให้​ทั้งสิ้น​ ​พวก​ท่าน​คอย​แต่​นำ​ฐานะ​ของ​ตนเอง​พูด​ติดปาก​อยู่​เรื่อย​ ​ผู้อื่น​ได้ยิน​ ​จึง​เป็นการ​ยาก​ที่จะ​ไม่​คิด​เป็นอื่น​”

“​หมอ​หลิน​พูด​ได้​อย่างถูกต้อง​ยิ่งนัก​ขอรับ​ ​ในเมื่อ​ทุกคน​ล้วน​เป็น​ทหาร​อารักขา​ทั้งสิ้น​ ​แม่ทัพ​หนิง​ก็​ควร​ปฏิบัติ​ต่อ​ทุกคน​อย่าง​เท่าเทียม​ ​จะ​นึกถึง​แต่​พี่น้อง​ของ​ตนเอง​ใน​ทุกๆ​ ​ครั้ง​ที่​มีเรื่อง​ดีงาม​ ​แล้ว​เห็น​พวกเรา​เป็น​เสมือน​ลูก​เมียน้อย​มิได้​”​ ​ฟ่าน​เต​๋อ​ผู้กระทำ​ตาม​เจตจำนง​ของ​ตน​เพื่อให้​ได้มา​ซึ่ง​ชื่อเสียง​และ​ฐานะ​ผู้​นี้​ ​ไม่รู้​เช่นกัน​ว่า​เข้าใจ​ความหมาย​ใน​คำพูด​ของ​หลิน​หลัน​บ้าง​หรือไม่

หลี่หมิง​อวิ​นม​อง​ไป​ยัง​หม่า​โหยว​เหลียง​โดย​ไม่​แสดง​สีหน้า​ใดๆ​ ​การ​เปิด​ประเด็น​สอง​สาม​ประโยค​นี้​ของ​หลิน​หลัน​ก็​เป็น​สิ่ง​ที่​จำเป็น​เช่นกัน​ ​ความ​มาก​เล่ห์​เพทุบาย​ของ​หม่า​โหยว​เหลียง​ ​อย่า​คิด​เชียว​ว่า​คนอื่น​เขา​โง่เขลา​กัน​หมด

สีหน้า​ของ​หม่า​โหยว​เหลียง​ย่ำแย่​หนัก​ขึ้น​กว่า​เก่า​ ​เขา​หันมา​ยก​สอง​มือขึ้น​คารวะ​หลี่หมิง​อวิน​แล้ว​กล่าว​ ​“​ใต้เท้า​หลี​่​ ​ข้ามิ​ได้​มี​เจตนา​อื่นใด​ ​หาก​ใต้เท้า​หลี​่​ไม่เชื่อ​มั่น​ก็​แค่​ขอพระราชทาน​พระราช​โองการ​ปลด​ข้า​ออกจาก​หน้าที่​ได้​เลย​ขอรับ​”

หลี่หมิง​อวิน​หลุด​หัวเราะ​ ​ต้องการ​จะ​ปลด​เจ้า​ออกจาก​หน้าที่​ ​ไย​ต้อง​ประทาน​ขอพระ​ราชโองการ​ให้​วุ่นวาย​เพียงนั้น​ด้วย​ ​หม่า​โหยว​เหลียง​คง​ลืม​ไป​แล้ว​ว่า​ ​เขา​มีอำนาจ​สูงสุด​ใน​กองทัพ​นี้​ ​สั่งการ​และ​ปลด​หน้าที่​ผู้ใด​ก็ได้​ตามที่​ต้องการ​ ​ที่​ไม่​แตะต้อง​เขา​ ​เพราะ​เกรง​จะ​สร้าง​ความไม่พึงพอใจ​ให้​บรรดา​พี่น้อง​แห่ง​ค่าย​เป่ย​ซาน​ ​หาก​หม่า​โหยว​เหลียง​ตา​สว่าง​ได้​ทันการณ์​ก็แล้วไป​ ​หาก​ยัง​มัว​หน้ามืดตามัว​ ​เขา​ก็​มี​วิธี​จัดการ​เช่นกัน

“​แม่ทัพ​หม่า​ก็​พูด​เกินไป​แล้ว​ ​เรา​จะ​ไม่เชื่อ​มั่น​ใน​ตัว​แม่ทัพ​หม่า​ได้​หรือ​”​ ​หลี่หมิง​อวิ​นก​ล่า​วอ​ย่าง​สบาย​อก​สบายใจ​ ​แล้วจึง​หันไป​กล่าว​ต่อ​ฟ่าน​เต​๋อ​และ​คนอื่นๆ​ ​“​ความรู้สึก​ของ​พวก​ท่าน​ข้า​เข้าใจ​ดี​ ​แม่ทัพ​หนิง​ก็​มิได้​มี​เจตนา​มอง​พวก​ท่าน​อย่าง​ดูถูกดูแคลน​เช่นกัน​ ​พวก​ท่าน​ออก​ไป​กัน​ก่อน​เถอะ​!​”

ขณะ​กล่าว​ ​เสียง​ตะโกน​เข่นฆ่า​ก็​ดังสนั่น​ขึ้น​ ​พวก​ทู่​เจ​วี​๋ย​บุกรุก​มาถึง​หัวเมือง​เป็น​ที่​เรียบร้อย​แล้ว

ผู้คน​ต่าง​มีสี​หน้า​เปลี่ยนไป​ ​หลี่หมิง​อวิ​นก​ล่าว​ขึ้น​ทันควัน​ ​“​ทุกคน​รีบ​ไปรวม​ตัว​กัน​ ​เตรียมรับมือ​การสู้​รบ​ให้พร​้​อม​”​ ​ตอนนี้​จะ​ถอนกำลัง​พล​ไป​ได้​หรือไม่​ยัง​ไม่​อาจ​รับรู้​ได้​ ​ถึงอย่างไร​การเตรียมพร้อม​ไว้​ก่อน​ก็​เป็นการ​ดี

ฟ่าน​เต​๋​อพร​้​อม​คนอื่นๆ​ ​น้อม​รับ​บัญชา​ด้วย​สีหน้า​เคร่งขรึม​ก่อน​ถอย​ออก​ไป

หม่า​โหยว​เหลียง​ร้อนรน​ใจ​อยาก​ออก​ไป​อบรมสั่งสอน​คน​พวก​นั้น​เสียหน่อย​ ​จึง​กล่าว​ขึ้น​มา​เช่นกัน​ ​“​ข้า​ขอตัว​ออก​ไป​เตรียมการ​สักหน่อย​นะ​ขอรับ​”

หลี่หมิง​อวิ​นพ​ยัก​หน้า​เล็กน้อย

หลิน​หลัน​เห็น​ทุกคน​ล้วน​ออก​ไป​กัน​หมด​แล้ว​ ​จึง​กล่าว​ ​“​เห็นที​ว่า​คน​ของ​ค่าย​เป่ย​ซ่าน​ก็​เหลืออด​กัน​แล้ว​เช่นกัน​”

หลี่หมิง​อวิ​นก​ล่าว​ด้วย​ความ​อ่อนใจ​ ​“​ล้วน​เป็น​ชาว​ฮั่น​ด้วยกัน​ทั้งนั้น​ ​หาก​แม่ทัพ​หม่า​ลดละ​ทิฐิ​ของ​ตนเอง​ได้​ ​ก็​คงช่วย​เหลือ​ได้มาก​”

“​เดา​ว่า​กระตุ้น​หม่า​โหยว​เหลียง​อีก​สัก​สามสี​่​ครั้ง​ ​บารมี​ของ​เขา​ก็​คง​เป็นอัน​หมดสิ้น​แล้ว​ ​ถึง​ตอนนั้น​ค่อย​ดำเนินการ​จัดระเบียบ​กองทัพ​อีกครั้ง​ ​ค่าย​เป่ย​ซาน​ ​ค่าย​ซี​ซาน​อะไร​นั่น​ ​จับ​มา​ผสม​กัน​ให้​หมด​ ​ให้​มี​เพียง​ท่ามกลาง​เจ้า​มี​ข้า​ ​ท่ามกลาง​ข้ามี​เจ้า​ ​แล้ว​ดู​สิว​่า​เขา​จะ​ทำ​อัน​ใด​ได้​”​ ​หลิน​หลัน​หยาม

หลี่หมิง​อวิน​เลิก​คิ้ว​ ​เขา​ไตร่ตรอง​อย่างละเอียดถี่ถ้วน​ ​วิธีการ​นี้​ยอดเยี่ยม​ทีเดียว​ ​จัดการ​ให้​ทั้งหมด​ผสม​กัน​แล้ว​มัด​รวม​ไว้​เป็นหนึ่งเดียว

หลิน​เฟิง​และ​จ้าวจั​วอี​้​เดิน​เข้ามา

หลี่หมิง​อวิน​เอ่ย​ถาม​ ​“​สถานการณ์​ด้านนอก​เป็น​เช่นไร​บ้าง​”

หลิน​เฟิ​งก​ล่าว​ ​“​ชาว​ทู่​เจ​วี​๋ย​เริ่ม​บุก​อย่างหนัก​ ​ประตู​ตะวันออก​ ​ตะวันตก​ ​และ​เหนือ​ ​ทั้ง​สาม​แห่ง​ถูก​โจมตี​”

“​เจ้า​ไป​จับตามอง​ไว้​หน่อย​ ​มี​เหตุการณ์​อัน​ใด​ให้​มารา​ยงาน​ได้​ตลอดเวลา​”

หลิน​เฟิ​งม​อง​เห็น​น้องสาว​ ​จึง​นึกถึง​ความสงสัย​ที่อยู่​ใน​ใจ​ขึ้น​มา​ได้​ ​เพียงแต่​ตอนนี้​สถานการณ์​คับขัน​ ​ไม่ใช่​เวลา​ที่จะ​มา​พูดคุย​จึง​ไม่​เอ่ยปาก​ ​เขา​ยก​สอง​มือ​คารวะ​แล้ว​ถอย​ออก​ไป

ครั้งนี้​ชาว​ทู่​เจ​วี​๋​ยมา​พร้อม​ความแข็ง​แกร่ง​ ​ราวกับ​ท่าที​ที่​ได้​ปฏิญาณตน​ไว้​ว่า​ทำลาย​เมือง​ไม่ได้​ก็​ไม่​ขอ​ยอมแพ้​ ​บรรดา​แม่ทัพ​ของ​เมือง​ซา​อีก​็​แข็งแกร่ง​ยิ่ง​เช่นกัน​ ​การสู้​รบ​ดำเนิน​ต่อเนื่อง​เป็นเวลา​สอง​ชั่วโมง​เข้าไป​แล้ว​ ​แต่​ยังคง​ดำเนินต่อไป​โดย​ไม่มี​ทีท่า​จะ​จบ​ลง

หลิน​หลัน​นึก​ขึ้น​มา​ได้​ว่า​คง​ต้อง​มีท​หาร​ได้รับบาดเจ็บ​จำนวนมาก​เป็นแน่​ ​นาง​อยาก​ไป​ช่วยเหลือ​ที่​บริเวณ​โรง​หมอ​เป็น​อย่างยิ่ง​ ​ทว่า​หลี่หมิง​อวิน​ไม่​อนุญาต​ ​ตราบใดที่​เขา​พยักหน้า​ยินยอม​ ​การ​จะ​ดึง​ตัว​หลิน​หลัน​กลับมา​อีกครั้ง​คง​เป็นเรื่อง​ยาก​ ​ด้วย​สัญชาตญาณ​ของ​การ​ช่วยชีวิต​ผู้บาดเจ็บ​ของ​นาง​นั้น​ ​เดา​ได้​เลย​ว่านา​งคง​ไป​ช่วยชีวิต​คน​ถึง​หัวเมือง​เป็นแน่​ ​นั่น​มัน​อันตราย​เกินไป

หยาง​ว่าน​หลี​่​เข้ามา​รายงาน​อย่าง​รีบร้อน​ ​“​ใต้เท้า​หลี​่​ ​ข้า​น้อย​ส่ง​ทหาร​สอดแนม​ออก​ไป​สอง​ชุด​ ​จนกระทั่ง​ตอนนี้​ยัง​ไม่มี​กลับมา​เลย​สัก​คน​ ​เกรง​ว่า​ส่วนหลัง​จะ​เกิดเรื่อง​ไม่ชอบมาพากล​เข้า​แล้ว​นะ​ขอรับ​”

หลี่หมิง​อวิน​เผย​สีหน้า​ตื่นตกใจ​ขึ้น​มาชั​่​ววูบ​ ​และ​แล้วก็​เป็นไป​ดังที่​คาดการณ์​ไว้​จริงๆ​ ​ชาว​ทู่​เจ​วี​๋ย​ไม่ยอม​ลดละ​ต่อ​เส้นทาง​ส่ง​เสบียง​ใน​หยาง​ซาน​ ​ตอนนี้​หลี่หมิง​อวิ​นอด​เป็นกังวล​ต่อ​ความปลอดภัย​ของ​ซา​อี​ไม่ได้​ ​และ​ยิ่งไปกว่านั้น​ ​คือ​กังวล​ทาง​ด้าน​เมือง​เซิ​่ง​โจว​นั่น

หลิน​หลัน​ร้อนรน​ใจ​ไม่​แพ้​กัน​ ​“​แล้ว​นี่​จะ​ทำ​อย่างไร​กัน​ดี​ ​เอาเรื่อง​ที่ว่า​พวกเรา​จะ​ถอน​ทัพ​ออก​ไป​ได้​หรือไม่​พัก​ไว้​ก่อน​ ​เกิด​พวก​ทู่​เจ​วี​๋ย​ยึด​เส้นทาง​ส่ง​เสบียง​ที่​หยาง​ซาน​ไว้​ได้​แล้ว​และ​บุก​โจมตี​เซิ​่ง​โจว​จะ​ทำ​อย่างไร​หรือ​”

หยาง​ว่าน​หลี​่​กล่าว​ ​“​ประเด็น​นี้​มิต​้​อง​เป็นกังวล​ไป​ขอรับ​ ​ใต้เท้าเฝิง​เพิ่ม​กำลัง​รักษาการณ์​ชายแดน​ทั้ง​สาม​ส่วน​ไว้​อย่าง​แข็งแกร่ง​ ​รหัสผ่าน​เข้า​ประตู​ก็​ปรับเปลี่ยน​เป็น​ที่​เรียบร้อย​แล้ว​เช่นกัน​ ​การ​ที่​ชาว​ทู่​เจ​วี​๋ย​คิด​จะ​ใช้​แผน​ชั่วร้าย​ข้าม​ชายแดน​เข้าไป​จึง​เป็นไป​มิได้​ ​หาก​จะ​บุก​โจมตี​ ​ทั้ง​สาม​ด่าน​นี้​ล้วน​เป็น​ภูมิประเทศ​ที่​อันตราย​ยิ่ง​ ​ง่าย​ต่อ​การรักษาการณ​์​แต่​ยาก​สำหรับ​การ​เข้า​โจมตี​ ​จึง​ไม่​ง่ายดาย​เพียงนั้น​ขอรับ​”

หลี่หมิง​อวิน​เดิน​มือ​ไพล่หลัง​วกไปวนมา​ ​แต่​แล้ว​จู่ๆ​ ​ก็​หยุดชะงัก​ฝีก​้า​วลง​ ​ดวงตา​คู่​นั้น​เป็นประกาย​วาววับ​ราวกับ​ตัดสินใจ​อย่างเด็ดขาด​ ​ก่อน​กล่าว​สั่งการ​ ​“​หยาง​เซี​่​ยน​เว​่ย​ ​เรื่อง​นี้​มิใช่​เรื่องเล็ก​ๆ​ ​ถึงอย่างไร​คง​ต้อง​รบกวน​ท่าน​ให้​ตรวจสอบ​สถานการณ์​ของ​เส้นทาง​ส่ง​เสบียง​ใน​หยาง​ซาน​ให้​กระจ่าง​ชัดแจ้ง​ด้วย​”

หยาง​ว่าน​หลี​่​กล่าว​ขึ้น​ทันควัน​ ​“​ข้า​น้อย​น้อม​รับ​บัญชา​ ​ข้า​น้อย​จะ​ไป​ตรวจสอบ​สถานการณ์​ให้​ประจักษ์​ด้วย​ตนเอง​ขอรับ​”​ ​เขา​กล่าว​แล้ว​เตรียม​เดิน​จากไป

หลี่หมิง​อวิน​เรียก​เขา​ขึ้น​อีกครั้ง​ ​“​ใต้เท้า​หยาง​…​”

หยาง​ว่าน​หลี​่​หันกลับ​มา​ ​“​ใต้เท้า​หลี​่​ยัง​มี​อัน​ใด​สั่งการ​อีก​หรือ​ขอรับ​”

หลี่หมิง​อวิน​สูด​หายใจ​เขา​เฮือก​ใหญ่​แล้ว​กล่าว​ ​“​ท่าน​ต้อง​ระมัดระวัง​ตัว​ให้​มาก​ๆ​ ​หาก​เห็นท่า​ไม่ดี​ ​ให้​ถอน​ทัพ​ออกมา​ทันที​ ​ยึด​ความปลอดภัย​ไว้​เป็นอัน​ดับ​แรก​”​ ​หาก​ไม่ใช่​สถานการณ์​พิเศษ​ ​หลี่หมิง​อวิน​ไม่มีทาง​ให้​หยาง​ว่าน​หลี​่​ไป​เสี่ยงอันตราย​ด้วย​ตนเอง​เป็นแน่​ ​ดังนั้น​จึง​อด​กล่าว​กำชับ​ไม่ได้

นัยน์ตา​ของ​หยาง​ว่าน​หลี​่​เปล่งประกาย​เล็กน้อย​ ​“​ข้า​น้อย​เข้าใจ​แล้ว​ขอรับ​”