หลงฉางที่ลอยอยู่กลางอากาศบินลงมาราวกับพายุ ก่อนจะหยุดอยู่บริเวณห่างออกไปสามก้าว เขาจ้องมองเยี่ยยวนที่อยู่ตรงหน้าด้วยดวงตาที่ลุกวาว อาจเป็นเพราะตื่นเต้น เขาตัวสั่นเทา ภายในดวงตาเปียกชื้น สักพักเขาคุกเข่าลงไปทำความเคารพ
“ลูกศิษย์คารวะอาจารย์!”
เยี่ยยวนไม่มีปฏิกิริยาอะไร แม้แต่หน้ายังไม่หันกลับไปมอง เขาเพียงแค่มองตรงไปยังรอยร้าวของผนึกตรงหน้า ก่อนจะขมวดคิ้วราวกับรังเกียจ
หลงฉางกลับเหมือนว่าคุ้นชินกับท่าทางของอีกฝ่าย ทันใดนั้นราวกับอิ้งหลุนสิงร่าง เล่าบรรยายถึงความปวดใจของตนเองขึ้นมาอย่างไม่หยุดหย่อน
“อาจารย์ ท่านมาหาข้าแล้ว ข้ารู้ว่าท่านต้องมา”
“อาจารย์ ได้ยินศิษย์น้องบอกว่า หมื่นปีก่อนท่านไปโลกสวรรค์มาครั้งหนึ่ง ข้าก็รู้ว่าท่านต้องมายมโลกแน่”
“อาจารย์ ข้าไม่ได้ทำให้ท่านผิดหวัง ข้าเฝ้าอยู่ในโลกแห่งนี้นานนับหมื่นปี อีกทั้งยังฝึกฝนวิชาที่อาจารย์ถ่ายทอดให้จนสำเร็จ
“อาจารย์ ตอนนี้เหล่าปีศาจนับวันยิ่งอยู่ไม่สงบ หลายปีมานี้บุกรุกข้ามแดนนับครั้งไม่ถ้วน ครั้งนี้ข้าเองก็เกือบรับมือไม่ไหว แต่ว่ามีอาจารย์อยู่ เพียงแค่ปีศาจไม่ใช่เรื่องใหญ่”
“อาจารย์ ข้า…”
หลงฉางคิดอยากจะพูดต่อ แต่เขาเห็นเยี่ยยวนเดินตรงมา ทันใดนั้นเขาเกิดตื่นเต้นขึ้นมาภายในใจ อาจารย์ต้องมีอะไรสำคัญจะบอกเขาเป็นแน่
จากนั้น…เขาเดินเลยไป
อย่าว่าแต่หยุดพัก แม้แต่มองยังไม่มอง ราวกับไม่ได้ยินสิ่งที่เขาพูดก่อนหน้านี้
หลงฉาง “…”
รู้สึกเหมือนถูกมีดปักเข้าที่อก ไม่ๆๆ อาจเป็นเพราะเขาพูดเสียงเบาไป อาจารย์ไม่ได้ยิน ไม่ใช่ไม่สนใจเขาแน่ๆ
ในขณะที่เขาคิดจะหันหลังเดินตามไป กลับพบว่าเยี่ยยวนหันหลังเดินกลับมาอย่างรวดเร็ว
หลงฉางแอบดีใจ อาจารย์ยังรักเขา
“อา…”
เขายังพูดไม่ทันจบ เยี่ยยวนกลับเดินเลยเขาไปอีกครั้ง อีกฝ่ายเดินเข้าไปหาอวิ๋นเจี่ยวอย่างรวดเร็ว พร้อมกับพลางจูงมือพลางเดินพูด “กลับไปได้แล้ว” ใกล้ถึงเวลาอาหารกลางวันแล้ว ต้องรีบหาชายแก่ให้เจอ
หลงฉาง “…” มีดอีกเล่ม
อวิ๋นเจี่ยวผงะไป ก่อนจะชี้ไปยังผนึกที่ทะลุเป็นรูขนาดใหญ่ตรงหน้า “เดี๋ยว อาจารย์ปู่ ผนึกนี้…” ครั้งนี้ปีศาจถูกกำจัดหมดแล้ว แต่ก็ไม่อาจทิ้งรูใหญ่นี้ไว้แบบนี้
เยี่ยยวนขมวดคิ้ว ก่อนจะหันหลังกลับไปมองผนึกที่เสียหาย จากนั้นเขาผนึกมือทั้งสองข้าง ก่อนที่จะท่องคาถาซับซ้อนลอยออกไป นาทีถัดมาเห็นเพียงแต่ผนึกที่แหลกราวกับกระจกแตกนั้นเริ่มประกอบเข้าหากันทีละนิด เพียงครู่เดียวผนึกนั้นก็กลับมาเป็นเหมือนเดิม โลกปีศาจสีแดงด้านหลังหายลับไปต่อหน้าของทุกคนในทันที
เขาวางมือลงมองไปยังศิษย์หลานตัวน้อย “เสร็จแล้ว!”
อวิ๋นเจี่ยว “…” รู้สึกว่าการศึกษาของตนมีช่องว่างในการพัฒนา
หลงฉาง “…” อาจารย์ ข้าอยู่ตรงนี้!
(ಥ_ಥ)
…
เมืองหมิ่นเฟิน จวนเจ้าเมือง
เนื่องจากมีตัวช่วย ภัยอันตรายจากการบุกรุกของเหล่าปีศาจก็ถูกจัดการไปอย่างง่ายดาย ไม่เพียงแต่เหล่าลูกศิษย์ในยมโลก แม้แต่อวิ๋นเจี่ยวและชายแก่ก็ยังรู้สึกไม่สะใจเท่าไหร่ นอนรอชัยชนะ นอนไปนอนมา…ชักไม่อยากจะชนะแล้ว!
ถึงแม้เรื่องของปีศาจจะจัดการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ยังมีบางเรื่องยังไม่ได้จัดการ อย่างเช่นพลังปีศาจที่อยู่ใกล้เคียงผนึกที่ยังไม่สลายไป หากไม่รีบจัดการ รอกระทั่งพวกมันรวมตัวกัน อาจก่อเป็นเมฆาปีศาจใหม่ก็เป็นได้
เหล่าลูกศิษย์ส่วนใหญ่ไม่ได้กลับเข้าเมือง แต่กระจายตัวไปกำจัดพลังปีศาจเหล่านั้น
ครานี้หลงฉางไม่ได้ไปด้วย หลังจากสั่งกำชับเสร็จ เขาก็รีบกลับมา ก่อนจะเดินเข้าห้องโถงใหญ่ด้วยสีหน้าตื่นเต้น
ในขณะที่กำลังจะย่างเท้าเข้าไปในห้องโถง เขาขมวดคิ้วขึ้นเมื่อเห็นอะไรบางอย่าง สักพักเขาเดินตรงไปหาชายแก่อย่างอดกลั้นไม่ได้ ก่อนจะพูดกับอีกฝ่ายด้วยใบหน้าจริงจัง “ศิษย์หลานไป๋ อย่าขยับ!”
“อ้า!” ชายแก่ตกใจ ก่อนจะยืนนิ่งไม่กล้าขยับ
เขาเอื้อมมือขึ้นไปเหนือหัวของชายแก่ ก่อนจะ…กดเส้นผมทางด้านขวาที่ชี้ตรงบนหัวของชายแก่ลงไป
แต่ทันทีที่ปล่อยมือ เส้นผมนั้นกลับตั้งตรงขึ้นมาอีกครั้ง เส้นเลือดบริเวณหน้าผากของหลงฉางปูดโปนขึ้น เขาเอื้อมมือกดมันลงไปอีกครั้ง จนสุดท้ายต้องใช้คาถาถึงได้กดเส้นผมเส้นนั้นของชายแก่ลงไปได้
เขาถึงได้ถอนหายใจอย่างโล่งอก “อืม สบายตา!”
อวิ๋นเจี่ยว “…”
ไป๋อวี้ “…”
เขาเป็นโรคหนักขนาดไหนกัน!
“อา…อาจารย์อาหลง?” ชายแก่ที่ถูกคาถาพันจินทับจนเงยหัวไม่ขึ้นแทบจะร้องไห้ออกมา “มีความจำเป็นนี้หรือ”
“ทำไมไม่จำเป็น” หลงฉางขมวดคิ้ว ก่อนจะพูดสั่งสอนขึ้นมา “พวกเจ้าเป็นลูกศิษย์ของชิงหยาง ต้องรักษาภาพลักษณ์ของชิงหยางเอาไว้ อีกทั้งพวกเจ้ายังเป็นลูกศิษย์ที่อาจารย์ถ่ายทอดวิชาให้ด้วยตัวเอง ยิ่งไม่อาจทำให้ชิงหยางเสียชื่อเสียงได้!”
“…” นี่มันข้ออ้างชัดๆ
หลงฉางมองชายแก่อีกครั้ง เมื่อเขามั่นใจว่าเส้นผมนั้นจะไม่ตั้งขึ้นมาอีก เขาจึงปล่อยมืออย่างสบายใจ จากนั้นยังดึงเส้นผมสีดำที่เพิ่งงอกขึ้นมาบนหัวของชายแก่ไปอีกหลายเส้น นอกจากนี้ยังลากชายแก่ไปนั่งอยู่อีกฝั่ง รักษาความสมดุลของห้องโถงถึงจะทำคารวะเยี่ยยวน
“ลูกศิษย์หลงฉาง คารวะอาจารย์!”
“…” ไร้ปฏิกิริยาต่อคนตรงข้ามอย่างไม่ประหลาดใจ
หลงฉางยังคงท่าคารวะไว้เหมือนเดิม สีหน้าของเขาแข็งทื่อ ก่อนที่จะผลักชายแก่ที่อยู่ด้านข้างเบาๆ พร้อมกับถามเสียงต่ำ “ศิษย์หลานไป๋ อาจารย์ท่าน…สูญเสียความทรงจำหรือไม่”
“สูญเสียความทรงจำ?” ชายแก่ผงะ หมายความว่าอย่างไร
“ตั้งแต่ตอนกำจัดปีศาจ อาจารย์ก็ไม่สนใจข้าแม้แต่น้อย ราวกับไม่รู้จักข้า” หลงฉางพูดด้วยสีหน้าร้อนใจ “แม้มองยังไม่มองข้า”
“อาจารย์อาหลงไม่ต้องเป็นกังวล” ชายแก่ปลอบใจ “ท่านวางใจ อาจารย์ปู่ไม่ได้ปฏิบัติเช่นนี้กับท่านคนเดียว อาจารย์อาคนอื่นก็เช่นกัน!” นอกจากเจ้าหนูแล้ว อาจารย์ปู่ก็ไม่เคยสนใจคนอื่น เขาเคยชินแล้ว!
“…” ไม่ได้ปลอบใจสักนิด
“อาจารย์…” หลงฉางยังคงพูดต่อยังไม่ย่อท้อ “ครั้งนี้เป็นความบุ่มบ่ามของศิษย์ถึงทำให้ปีศาจพังทลายผนึกได้ หวังอาจารย์จะให้อภัย!”
“…” คนตรงข้ามยังคงไม่มีปฏิกิริยา
“นับหมื่นปีมานี้ เหล่าปีศาจพยายามบุกรุกเข้ามาในยมโลก พลังปีศาจบริเวณใกล้เคียงนับวันยิ่งมากขึ้น ลูกศิษย์คิดจะรายงานอาจารย์มานานแล้ว เพียงแต่ไม่อาจปลีกตัวไปได้”
“…” กำลังแทะขนม
“นับพันปีมานี้ เวลาของ ‘วันกลืนปริวรรต’ เกิดขึ้นเร็วในทุกปี อาจารย์ ลูกศิษย์เดาว่า ภายในโลกปีศาจอาจมีการเปลี่ยนแปลงบางอย่าง จึงส่งผลให้เกิดปรากฏการณ์นี้”
“…” ยังคงกำลังแทะขนม
“อาจารย์…”
เมื่อเห็นหลงฉางใกล้จะร้องไห้ออกมา อวิ๋นเจี่ยวจึงดึงขนมในมือของใครบางคนออก ก่อนจะเรียก “อาจารย์ปู่!”
เมื่อมือของเยี่ยยวนว่างเปล่า เขาจึงหันไปมองหลงฉางที่ก้มลงจนเอวจะหักอยู่กลางห้องโถง คิ้วของเขาขมวดขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย “ข้าคือจี้เฉิน!” ใครเป็นอาจารย์เจ้า
พูดจบยังชี้ไปยังใบหน้าของตนเอง
อวิ๋นเจี่ยว “…”
ชายแก่ “…”
หลงฉาง “…”
|(*′口`)