หมื่นสวรรค์สิ้นโลกา Online Ep.522 – ทำใจให้สบาย

 

ภายในห้อง เหลือแค่เพียงกู่ฉิงซานกับเหล่าขุนนางหญิง ที่ผู้คนมักจะเรียกพวกเธอว่าสตรีสูงศักดิ์

 

สตรีสูงศักดิ์ต่างพากันลอบมองกู่ฉิงซาน

 

‘ชายหนุ่มคนนี้ดูดีใช่ย่อยทีเดียว’

 

นี่คือสิ่งที่พวกเธอคิดอย่างลับๆ

 

ใช่แล้วล่ะ กู่ฉิงซานเองก็เป็นคนหนึ่งที่รูปลักษ์ภายนอกดูดีไม่เลว เขาผ่านวันเดือนปีแห่งการฝึกฝนมาซ้ำแล้วซ้ำเล่า ดังนั้นคลื่นความผันผวนและวุฒิภาวะจึงดูมีความเป็นผู้ใหญ่ ขัดกับใบหน้าที่ยังเยาว์วัยของเขา

 

ส่งผลให้กู่ฉิงซานดูมีเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร

 

ที่สำคัญยิ่งกว่านั้นก็คือ เขาถูกนำมาโดยหญิงที่มีเกียรติเป็นการส่วนตัว!

 

หญิงที่ยากนัก ที่จะปรากกฏกายออกมาพบปะสังสรรค์กับผู้อื่น

 

สตรีสูงศักดิ์หันไปสบตากันและกัน

 

หนึ่งในสตรีสูงศักดิ์ที่ยังเยาว์วัยอยู่ค่อยๆหันข้อมือของเธอไปทางกู่ฉิงซาน และหมุนแหวนมรกตบนนิ้วของเธออย่างเงียบๆ

 

แหวนมรกตสั่นไหวเล็กน้อย จนหากไม่สังเกตก็มิอาจสัมผัสได้

 

แล้วข้อความที่บังเกิดขึ้นจากในแหวนมรกต ก็ถูกส่งผ่านไปในหัวใจของเด็กสาวอย่างรวดเร็ว

 

“ร่างกายมีชีวิตอยู่มาน้อยกว่า 20 ปี , มีความแข็งแกร่งประมาณระดับ 35 ,เชี่ยวชาญในการใช้ดาบ”

 

เด็กสาวเผยอปากเล็กน้อยด้วยความประหลาดใจ

 

ระดับ 35 มันคือมาตรฐานที่ใช้แบ่งแยกความแข็งแกร่งในโลกที่เด็กสาวอาศัยอยู่

 

มันคือเส้นแบ่ง

 

ในระดับนี้ นักดาบจะสามารถเรียกวิญญาณธาตุ และฝึกฝนเทคนิคดาบขั้นสูงได้

 

เด็กสาวมองไปทางกู่ฉิงซาน ในจิตใจค่อยๆบังเกิดความคิดต่างๆนาๆขึ้นมากมาย

 

ยังเยาว์วัย แต่กลับสามารถมีความแข็งแกร่งถึงระดับ 35

 

ตัวตนดังกล่าว แม้แต่ในโลกของเธอเอง ก็ยังนับว่าเป็นคนที่มีพรสวรรค์อันดับต้นๆ

 

และเธอก็มาจากบรรดาโลกในดินแดนชิงอำนาจ

 

ซึ่งเป็นโลกที่ทรงพลังอย่างเหลือล้น

 

—ในความเป็นจริง จากมุมมองอื่นๆ หากตัดสินวรยุทธจากมาตรฐานของโลกทั้งหมดในระดับสากล นับว่ายากเย็นนัก ที่จะพบเจอกับคนหนุ่มสาวที่แข็งแกร่งเช่นนี้

 

ต้องรู้นะว่า แม้กู่ฉิงซานจะมาจากโลกกระจัดกระจาย แต่เขาก็ไม่เคยหยุดฝึกยุทธเลยแม้เพียงครู่

 

พรสวรรค์โดยกำเนิดของเขาก็ค่อนข้างดี

 

อย่างในชีวิตก่อนหน้า เขาเข้าสู่โลกแห่งผู้ฝึกยุทธช้ากว่าคนอื่นๆตั้งครึ่งปี ดังนั้นจุดเริ่มต้นของเขาจึงต่ำกว่าคนอื่นๆมาก

 

เขาต้องก้าวข้ามผ่านเส้นทางที่ยากลำบากยิ่งกว่าทุกๆคน แต่สุดท้ายก็ก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในตัวตนที่ยืนอยู่บนจุดสูงสุดได้ในที่สุด

 

ดังนั้น เมื่อได้ย้อนเวลากลับมาอีกครั้ง ความแข็งแกร่งของเขา จึงนับได้ว่าสูสีหรือเหนือยิ่งกว่าคนวัยเดียวกันหากเทียบกับโลกอื่นๆ

 

แม้ว่าเด็กสาวจะไม่รู้ถึงเรื่องเหล่านี้ แต่เฉพาะแค่เรื่องนักดาบระดับ35 ที่อายุต่ำกว่า 20 ก็ควรค่าแก่การเป็นสหายแล้ว

 

คนๆนี้มีคุณสมบัติเพียงพอที่จะกระชับความสัมพันธ์กับเธอ

 

อีกอย่าง เขาก็ดูดีไม่เลวเลยด้วย

 

เมื่อคิดจุดจุดนี้สตรีสูงศักดิ์ก็เผยใบหน้ายิ้มแย้ม เดินไปพูดคุยกับกู่ฉิงซาน “สวัสดี ฉันขอรบกวนถามหน่อยจะได้ไหม ว่าคุณมาจากที่ใดกัน?”

 

“สวัสดี ผมมาจากโลกอันห่างไกลที่เรียกกันว่าโลกกระจัดกระจาย” กู่ฉิงซานกล่าวอย่างเป็นมิตร

 

พอได้ฟัง รอยยิ้มบนใบหน้าของสตรีสูงศักดิ์ก็แข็งค้างไปทันที

 

ในสมองของเธอไม่อาจขบคิดคำกล่าวต่อไปได้

 

‘โลกกระจัดกระจาย’

 

มันเป็นตัวแทนที่บ่งบอกถึงความล้าสมัยและป่าเถื่อน

 

สถานที่เหล่านั้นมักจะแบกรับโชคชะตาแห่งการทำลายล้างอยู่เสมอ เป็นโลกที่ไม่ทันจะเคยสร้างอารยธรรมอันสูงส่ง ก็ถูกทำลายลงเสียแล้ว

 

สตรีสูงศักดิ์ถอนหายใจและรู้สึกผิดหวังมาก

 

–ในความเป็นจริง หากเป็นเรื่องราวระหว่างชายยากจนกับขุนนางหญิง มันก็ยังพอจะเป็นเรื่องราวโรแมนติกที่ยอมรับได้

 

แต่ชายที่อยู่ตรงหน้านี้มาจากโลกกระจัดกระจาย เขาไม่ใกล้เคียงแม้แต่กับคำว่าชายยากจน

 

มันยากลำบากเกินไปหากคิดจะกระชับสัมพันธ์กับคนที่มาจากโลกเหล่านี้ เพราะต่อให้คุณกล่าวสิ่งใดออกไป เขาก็คงจะไม่เข้าใจสิ่งที่คุณพูดอยู่ดี

 

ทั้งสองฝ่ายมิได้อยู่ในระดับเดียวกัน

 

แต่พอลองมาคิดๆดู …

 

ความจริงแล้ว คนๆนี้คงจะต้องจ่ายบางสิ่งที่มีราคาสูงยิ่งให้แก่หญิงที่มีเกียรติคนนั้นเป็นแน่ มิฉะนั้นเธอคงไม่คิดยื่นมือช่วยเขา

 

นั่นหมายความว่าเขาไม่ได้มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งๆใดๆกับอีกฝ่าย

 

นั่นเพราะเขาเป็นคนที่มาจากโลกกระจัดกระจาย!

 

ดังนั้น แม้ว่าเขาจะมีระดับ 35 แต่สุดท้ายก็เป็นแค่คนเถื่อน!

 

วิสัยทัศน์แคบ ด้อยซึ่งความรู้ แถมอนาคตก็ไม่แน่ไม่นอน ถูกจำกัดเป็นอย่างมาก

 

เมื่อคิดถึงจุดนี้ สตรีสูงศักดิ์ก็เลือกที่จะถอยกลับไป

 

สตรีสูงศักดิ์คนอื่นๆ หลังจากได้ยินบทสนทนานี้ ทั้งหมดต่างก็ขยิบตาให้กันและกัน

 

พวกเธอบรรลุข้อตกลงกันอย่างรวดเร็ว

 

“ขออภัยด้วย พอดีว่าพวกเรามีบางสิ่งที่ต้องไปจัดการ” พวกเธอกล่าว

 

“เชิญ” กู่ฉิงซานตอบ

 

สตรีสูงศักดิ์ลุกขึ้นยืน โค้งตัวน้อยๆ น้อยจริงๆไปทางกู่ฉิงซาน และเดินออกจากโซนที่นั่งพิเศษไป

 

ตามด้วยเสียงหัวเราะที่ดังขึ้นในระหว่างทางเดิน

 

“เธอหัวเราะอะไร?” เด็กสาวที่พูดกับกู่ฉิงซานในตอนแรกกล่าวอย่างเคืองๆ

 

“ฮี่ฮี่ฮี่ โลกกระจัดกระจายล่ะ เธอก็ดันไปคุยกับเขา … ”

 

สตรีสูงศักดิ์คนอื่นๆหัวเราะดังกว่าเดิม

 

แล้วประตูก็ปิดลง

 

เสียงหัวเราะค่อยๆจางหายไป

 

ไม่มีใครอยู่โดยรอบ

 

หลงเหลือกู่ฉิงซานเพียงลำพังอยู่ในห้อง

 

กู่ฉิงซานสังเกตเห็นถึงความตั้งใจ และปฏิกิรยาของคนอื่นๆมาตั้งนานแล้ว

 

แต่เขาก็ไม่คิดจะใยดีใดๆ ตรงกันข้าม ตนกลับค่อยๆผ่อนคลายลง

 

เรื่องทุกอย่าง ทั้งหมดเกือบจะเรียบร้อยแล้ว

 

ตอนนี้ จึงเป็นเวลาพักผ่อนที่หาได้ยากยิ่ง

 

เขาไม่รีบร้อนที่จะไปดูภารกิจระบบเทพสงคราม แต่กลับมองไปยังเค้กสูงกว่า 20 ชั้นบนโต๊ะ

 

เค้กนี้ถูกตกแต่งด้วยทุกชนิดของผลไม้ที่แปลกใหม่ เพียงแค่เฉพาะผลไม้ก็รู้สึกน่ารับประทานแล้ว แถมยังส่งกลิ่นหอมจางๆ ที่ไม่ได้ทำให้คนสูดดมรู้สึกหวานเลี่ยนจนเกินไปออกมาอีกต่างหาก

 

กู่ฉิงซานมองไปที่มุมโต๊ะ

 

ภายในถังน้ำแข็งขนาดใหญ่ มีทุกชนิดของเครื่องดื่มที่ถูกแช่เย็นเอาไว้อยู่

 

กู่ฉิงซานจึงเอื้อมมือไปคว้าแบบสุ่มๆ แล้วเขาก็ได้ขวดไวน์สีดำบริสุทธิ์ขึ้นมา ขณะเดียวกันก็นั่งลง และเริ่มตัดชิ้นเค้กอย่างสบายๆ

 

เขาไม่รู้หรอกนะว่าคนอื่นจะรู้สึกยังไงหลังจากที่พึ่งผ่านการเดินทางอันยาวนาน

 

แต่กู่ฉิงซานข้ามผ่านโลกหลายร้อยชั้น และต้องมาจัดการเรื่องราวหลายสิ่งหลายอย่าง จนตอนนี้เขารู้สึกว่ามันเหนื่อยมากจริงๆ

 

ในเมื่อได้รับข้อมูลมาว่าเรื่องของซูเซี่ยเอ๋อคงจะไม่มีปัญหาอะไร แถมภารกิจของระบบก็เสร็จสมบูรณ์แล้ว …

 

งั้นก็ขอพักหน่อยเถอะ

 

จุกไวน์สีดำถูกเปิดออก

 

กลิ่นหมักอันยอดเยี่ยมฟุ้งออกมา

 

กู่ฉิงซานสูดหายใจลึก

 

ไวน์ชั้นสูงเช่นนี้ มันเกือบจะเทียบได้กับผลงานชิ้นเอกของเขาเลยทีเดียว

 

กู่ฉิงซานไม่คิดมองหาแก้ว แต่เขาเลือกที่จะยกขวดไวน์ขึ้นซดเข้าปากเลยโดยตรง

 

“คุณไม่คิดจะใช้แม้กระทั่งแก้ว ช่างเป็นคนที่มารยาททรามเสียจริงๆ”

 

ทันใดนั้นเอง เสียงของผู้หญิงก็ดังขึ้น

 

กู่ฉิงซานตกใจ จนเผลอสำลักไวน์ที่กำลังกลืนออกมา

 

“พรวด!”

 

แค่ก แค่ก แค่ก

 

เขาไอไม่หยุด ขณะเดียวกันก็มองไปยังฝั่งตรงข้าม

 

เห็นแค่เพียงเด็กสาวตัวเล็กๆในชุดคนใช้ยืนอยู่ตรงกันข้ามเขา ทั้งหน้าทั้งตัวเปียกชุ่มไปด้วยไวน์ที่พึ่งถูกพ่นใส่

 

กู่ฉิงซานรู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างยิ่ง

 

–แปลกจัง ตนเองก็ได้ปลดปล่อยจิตสัมผัสเทวะออกไปแล้วนี่นา และก็พบว่าไม่มีใครอยู่รอบๆแล้วชัดๆ

 

แล้วเด็กสาวตัวน้อยคนนี้โผล่ออกมาจากที่ไหนกัน?

 

“อ๋า ขอโทษที ฉันไม่ได้ตั้งใจ”

 

กู่ฉิงซานรีบขอโทษอย่างรวดเร็ว

 

สาวน้อยไม่เคยพบเจอกับสถานการณ์แบบนี้มาก่อน ดูเหมือนว่าเธอจะกำลังอึ้งทึ่งเป็นอย่างมาก

 

แต่เธอก็พยายามอย่างหนักที่จะไม่กรีดร้องออกมา

 

เห็นแค่เพียงเด็กสาวที่กำลั่งสั่นเทา ราวกับกำลังจะเป็นลมได้ในวินาทีต่อไป

 

แต่เธอก็กัดฟันสู้ และไม่ยอมล้มลง

 

เด็กสาวพยายามพูดด้วยน้ำเสียงสงบและยับยั้งชั่งใจ “น้ำลายของคุณ แถมยังมีเศษอาหาร แล้วก็ไวน์ที่เลอะอยู่บนหน้า บอกตรงๆว่าฉันไม่เคยพบเจอกับเรื่องอะไรแบบนี้มาก่อนเลย … ฉันขอรบกวนถามหน่อยจะได้ไหม ว่าจะผ่านเหตุการณ์อันน่าอึดอัดนี้ไปได้อย่างไร?”

 

กู่ฉิงซานได้สติกลับคืน มือเขาจีบออกด้วยวิชาลับ กระตุ้นพลังวิญญาณทันที

 

ทันใดนั้น สิ่งแปลกปลอมทั้งหมดบนใบหน้าของเด็กสาวก็หายไป ใบหน้าของเธอกลับมาเกลี้ยงเกลา

 

กู่ฉิงซานได้ใช้น้ำวิญญาณอีกครั้ง เพื่อชำระล้างเด็กสาวให้อีกครา

 

“ตอนนี้น่าจะโอเคแล้ว ฉันขอโทษจริงๆนะสำหรับเรื่องเมื่อครู่”

 

กู่ฉิงซานกล่าวด้วยความรู้สึกผิด

 

เด็กสาวจับลงบนใบหน้าของเธอ แตะๆมันไปมาอย่างระมัดระวัง

 

หลังจากนั้นสักพัก ร่างกายของเธอก็หยุดสั่น

 

เธอสูดหายใจลึก และหันมาโค้งกายทักทายกู่ฉิงซานอย่างอ่อนโยน “ฉันเกลียดพฤติกรรมของคุณก่อนหน้านี้ ดังนั้น อย่าคาดหวังว่าฉันจะพูดอะไรกับคุณอีกต่อ”

 

เธอเดินไปนั่งข้างๆเขาด้วยความโกรธ หยิบมืดและส้อมขึ้นมา จากนั้นก็เริ่มตัดชิ้นเค้กเล็กๆ จากทั้ง 20 ชั้น มาค่อยๆบรรจงรับประทานอย่างสง่างาม

 

เธอดูจะหิวมาก เพราะชิ้นเค้กที่ตักมา 2-3คำมันก็หมดแล้ว

 

หลังจากกินเสร็จ เด็กสาวก็ลังเลไปครู่ แต่สุดท้ายก็เลือกที่จะตัดเค้กชิ้นต่อไปและยังคงกินมัน

 

กู่ฉิงซานเมื่อเห็นว่าเธอไม่สนใจตัวเขา เขาก็อดไม่ได้ที่จะเริ่มหันมาขบคิด

 

เขาไม่เคยพบเจอกับสถานการณ์แบบนี้มาก่อนเลยเหมือนกัน

 

—ในโลก 900 ล้านชั้น ที่มีทุกชนิดของสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ ดังนั้นมันคงไม่น่าแปลกใจหรอกที่จะมีบางสิ่งที่สามารถเล็ดรอดจิตสัมผัสเทวะของเขาไปได้

 

ยิ่งไปกว่านั้น โซนที่นั่งพิเศษแห่งนี้คือที่ของราชวงศ์วิหคหนาม แสดงว่าเด็กสาวคนนี้ย่อมที่จะมีสัมพันธ์ใกล้ชิดกับวิหคหนาม ไม่อย่างนั้นเธอคงไม่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาที่นี่ได้

 

กู่ฉิงซานมาขอความช่วยเหลือกับวิหคหนาม -เขาจึงไม่สมควรทำอะไรผลีผลามหรือไม่ดีใดๆภายในอาณาเขตของอีกฝ่าย

 

ดังนั้น ตั้งแต่ที่ตนได้ขอโทษอีกฝ่าย และอีกฝ่ายก็ตัดสินใจไม่พูดคุยกับตนเอง เขาก็อย่าไปยั่วยุอะไรเพิ่มเติมอีกคงจะดีกว่า

 

เมื่อเกิดความคิดนี้ กู่ฉิงซานก็พยักหน้าอย่างลับๆ

 

แต่หลังจากผ่านเหตุการณ์เมื่อครู่ไป ตัวเขาก็ไม่มีอารมณ์ที่จะดื่มกินอีก

 

เขาเบนสายตาไปมองหน้าต่างระบบเทพสงคราม

 

เห็นแค่เพียงบรรทัดแสงหิ่งห้อยที่แขวนเด่นอยู่บนหน้าต่างอย่างเงียบๆ

 

“ภารกิจของคุณเสร็จสิ้นลงแล้ว”

 

“โปรดหยิบเหรียญของทริสเต้ออกมา และกำมันเอาไว้ในมือของคุณ”

 

กู่ฉิงซานหยิบเหรียญออกมา และกำไว้ในมือของเขา

 

บนเหรียญ จู่ๆก็เกิดเสียงกรีดร้องของทริสเต้ดังขึ้นมาอย่างน่าฉงน

 

แล้วเธอก็หายตัวไป

 

บนหน้าต่างระบบเทพสงคราม บรรทัดแสงหิ่งห้อยปรากฏขึ้น

 

“ช่องทางข้อมูลเริ่มทำการเชื่อมต่อ และกำลังพยายามที่จะเปิดใช้งานฟังก์ชั่นใหม่ของระบบเทพสงคราม”

 

“กระบวนการเชื่อมต่อนี้จะกินเวลาอยู่หลายนาที ดังนั้นโปรดอย่าปล่อยเหรียญออกจากมือของคุณเด็ดขาด”

 

กู่ฉิงซานกำมือแน่นขึ้น และเฝ้ารอคอยอย่างเงียบๆ

 

ปัง!

 

แต่แล้วประตูโซนพิเศษก็ถูกกระแทกเปิดออกทันใด

 

“ขออภัยที่ขัดจังหวะ แต่พวกเรากำลังตามหาสมบัติของราชวงศ์อยู่”

 

องครักษ์ติดอาวุธหลายคนเดินเข้ามา และกล่าวคำขอโทษแก่เขา

 

ทั้งหมดมองไปยังกู่ฉิงซาน ก่อนจะเห็นถึงเหรียญในมือของเขา แล้วทัศนคติที่แสดงออกมาก็ดูสุภาพกว่าเดิมมากนัก

 

“ทำตามที่พวกคุณต้องการเถอะ” กู่ฉิงซานกล่าว

 

องครักษ์หลายคนเริ่มทำการค้นห้อง

 

กู่ฉิงซานเฝ้ามองดูการกระทำของพวกเขา ขณะที่ความสงสัยเล็กๆน้อยค่อยๆบังเกิดขึ้นในจิตใจ

 

องครักษ์พวกนี้บอกว่ากำลังค้นหาสมบัติ แต่แทนที่จะพลิกตู้หรือเปิดลิ้นชัก พวกเขากลับเดินถือไม้เท้ามนตราวนไปรอบๆห้อง

 

คล้ายกับว่ากำลังตรวจจับถึงบางสิ่งบางอย่างอยู่เสียมากกว่า

 

เดี๋ยวก่อนนะ!

 

นอกไปจากองครักษ์ ทำไมภายในห้อง ถึงมีเพียงแค่ตัวเขาเองล่ะ?

 

ในหัวใจของกู่ฉิงซานเริ่มเต้นครึกโครม

 

เขาหันไปมองรอบๆห้อง พร้อมกับกวาดจิตสัมผัสเทวะออกไปในขณะเดียวกัน

 

แล้วสาวน้อยคนนั้นไปอยู่ที่ไหนแล้ว?

 

ทำไมจู่ๆถึงหายไปอย่างเงียบๆได้?

 

กล่าวกันอย่างจริงจัง ต่อให้อีกฝ่ายเป็นผี ก็ไม่มีทางที่จะหลบเร้นการค้นหาของจิตสัมผัสเทวะไปได้

 

แต่สาวน้อยคนนั้นกลับสามารถหายตัวไปได้อย่างสมบูรณ์

 

พอลองนึกๆดู ในตอนที่เธอปรากฏตัวขึ้น กู่ฉิงซานก็ไม่รู้สึกตัวเลยเหมือนกัน

 

ดูจากลักษณะที่แสดงออกของพวกองครักษ์แล้ว ดูเหมือนว่าพวกเขาจะไม่ทราบถึงเรื่องนี้เหมือนกัน

 

นี่มันเป็นเหตุการณ์ที่แปลกประหลาดจริงๆ

 

ความคิดของกู่ฉิงซานหมุนเร็วจี๋ แต่สีหน้าของเขากลับยังคงเรียบเฉย

 

ไม่นานนัก องครักษ์หลายคนก็เสร็จสิ้นการค้นหา และพากันเดินมายังกู่ฉิงซาน

 

“ขออภัยสำหรับความหยาบคายในครั้งนี้ แต่นี่เป็นกิจวัตรประจำวันของพวกเรา” หัวหน้าองครักษ์กล่าว

 

กู่ฉิงซานมองอีกฝ่าย และดูการแสดงออกทางสีหน้าขององครักษ์คนอื่นๆ

 

พวกเขาดูสงบมาก

 

เหมือนกับว่าพวกเขาจะรู้อยู่แล้วว่าการค้นหาในครั้งนี้ อย่างไรก็คงจะคว้าน้ำเหลว

 

“ไม่เป็นไรหรอก พวกคุณไม่ได้ทำอะไรผมสักหน่อย” กู่ฉิงซานหัวเราะ

 

แล้วองครักษ์ก็พยักหน้าให้เขา ก่อนจะค่อยๆทยอยกันออกจากประตูไป

 

ภายในห้อง เหลือกู่ฉิงซานอยู่เพียงลำพังอีกครั้ง

 

กู่ฉิงซานหลับตาลง

 

นี่มันไม่ถูกต้อง

 

ถ้าเด็กสาวตัวเล็กนั่นเป็นแขกเช่นกัน พวกองครักษ์ก็จะต้องเห็นเธอ และไม่มีทางขอโทษแค่เขาคนเดียวเป็นแน่

 

เพราะพวกเขาปฏิบัติตามพิธีมารยาทเป็นอย่างดี ดังนั้นจึงย่อมต้องขออภัยต่อแขกทุกคนอย่างแน่นอน

 

กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ พวกองครักษ์วิหคหนามไม่ทราบถึงการดำรงอยู่ของสาวน้อยคนนี้!

 

กู่ฉิงซานเปิดตา

 

แล้วเขาก็เห็นเด็กสาวอีกครั้ง

 

เธอปรากฏตัวขึ้นทันทีหลังจากที่องครักษ์จากไป

 

เด็กสาวถอนหายใจยาว แสดงท่าทีเหนื่อยล้าเล็กน้อย

 

ดูเหมือนกับว่าเธอคงจะไปทำเรื่องอะไรบางอย่างที่มันน่าหนักใจมา

 

ทั้งสองมองตากันอย่างเงียบๆ

 

“ฉันเสียใจจริงๆ แต่ฉันจำเป็นต้องซ่อนตัวสักพัก ได้โปรดอย่าบอกพวกองครักษ์เลยนะว่าฉันอยู่ที่นี่” เด็กสาวตัวเล็กๆอ้อนวอน

 

“ให้ตายเถอะ เธอเป็นใครกันแน่?” กู่ฉิงซานถาม

 

“ฉันเป็นคนรับใช้ขององค์หญิง หลังจากที่องค์หญิงหายตัวไป ฉันก็เลยต้องหลบหนีมา”

 

“องค์หญิงหายตัวไป?” กู่ฉิงซานกล่าวอย่างคาดไม่ถึง

 

วันนี้ เห็นได้ชัดว่ามันเป็นวันพิธีฉลองวันเกิดครบ 12 ปีขององค์หญิง แล้วทำไมจู่ๆเธอถึงได้หายตัวไปกัน?

 

เด็กสาวใช้กล่าว “ใช่ ทางราชวงศ์คิดว่าฉันในฐานะสาวใช้ดูแลองค์หญิงไม่ดี จนทำให้เธอหายตัวไป พวกเขาเลยตัดสินใจที่จะฆ่าฉัน”

 

“ที่แท้ก็เป็นแบบนี้”

 

กู่ฉิงซานเผยสีหน้าหายสงสัย แต่ในหัวใจของเขากลับบังเกิดความสงสัยอันลึกล้ำยิ่งกว่าเดิม

 

กู่ฉิงซานเค้นสมองตนอย่างรวดเร็ว

 

ลองมองย้อนกลับไปในตอนที่เขาเดินเข้ามา เขามั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่า ในโซนที่นั่งพิเศษ มีองครักษ์คอยตรวจตราอย่างเข้มงวด มีตัวตนอันแข็งแกร่งมากมายคอยปกป้องที่นี่อยู่อย่างหนาแน่น

 

อย่างไรก็ตาม ตัวตนที่แข็งแกร่งเหล่านั้นกลับไม่สามารถค้นพบถึงตัวตนของเด็กสาวใช้ได้

 

แล้วถ้าหากเด็กสาวใช้อยู่ที่นี่ตั้งแต่เริ่มต้น ถ้าอย่างงั้นกระทั่งแสงแห่งรุ่งอรุณทริสเต้ก็ยังไม่ตระหนักถึงการดำรงอยู่ของเธอ

 

หญิงผู้มีเกียรติอย่างหยิงงามไม้สลัก , ไก่ใหญ่ และ 7-8 สตรีสูงศักดิ์จากในแต่ละโลกก็เหมือนกัน ทั้งหมดดูจะไม่ได้ตระหนักถึงการดำรงอยู่ของเธอเลย

 

หรืออีกความหมายนึงก็คือ เธอสามารถปิดซ่อนตัวตนจากคนอื่นๆได้

 

… แต่เธอเปิดเผยรูปลักษณ์ตัวเองต่อหน้ากู่ฉิงซานเท่านั้น

 

โดยที่ไม่มีใครล่วงรู้ถึงเรื่องนี้เลย

 

เมื่อคิดถึงจุดนี้ กู่ฉิงซานก็สัมผัสได้ถึงความเย็นเยียบที่กัดกินเข้าในจิตใจของเขา