หมื่นสวรรค์สิ้นโลกา Online Ep.523 – พงศาวดารวันสิ้นโลก

 

เด็กสาวตัวน้อยยืนอยู่ตรงข้ามกับกู่ฉิงซาน เจ้าตัวเผยท่าทีกังวลและประหม่าเล็กน้อย

 

กู่ฉิงซานที่เห็นท่าทีแบบนั้น เขาก็เอ่ยถามเจ้าตัวออกไปเลยโดยตรง

 

“ทำไมเธอถึงซ่อนตัวจากทุกคน แล้วปรากฏตัวแค่เฉพาะต่อหน้าฉันคนเพียงคนเดียวล่ะ?”

 

เด็กสาวตัวน้อยได้ยินคำถามจากเขา เธอก็ยกหนังสือพิมพ์ขึ้น

 

เห็นแค่เพียงพาดหัวข่าวใหญ่พร้อมกับรูปภาพประกอบ

 

มันเป็นภาพของชายแก่คนหนึ่งที่กำลังโอบขาของแบรี่ ขณะเดียวกันก็มีกู่ฉิงซานคอยมองอยู่ข้างๆ

 

ใช่แล้วล่ะ นั่นคือหนังสือพิมพ์เล่มเดียวกันกับที่ซูเซี่ยเอ๋อเห็น

 

มันคือเหตุผลที่ซูเซี่ยเอ๋อมาดักรอเขาอยู่ที่อัลเบอัส

 

เด็กสาวตัวน้อยชูหนังสือพิมพ์ให้กู่ฉิงซานดู ขณะเดียวกันก็เอ่ยตอบเขา “ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม คุณเป็นคนที่ได้รับการยอมรับจากกำปั้นเหล็กแบรี่ ดังนั้นอย่างน้อยก็ไม่น่าจะใช่คนไม่ดี”

 

เธอลองคิดเกี่ยวกับมัน และเริ่มเอ่ยเสริมว่า “ถึงแม้ว่าแบรี่จะเป๋มานานเป็นพันปี แถมยังมีหนี้สินมากมาย แต่ทัศนคติและความเชื่อมั่นของเขาก็ไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปเลย”

 

“เพราะงั้นเธอก็เลยเชื่อใจเขา?”

 

“ท่านแม่บอกว่าคนที่สามารถเพลิดเพลินไปกับสิ่งที่ดีที่สุด และทนแบกรับต่อสิ่งที่เลวร้ายที่สุดได้ โดยที่พฤติกรรมและความเชื่อมั่นดั้งเดิมไม่แปรเปลี่ยนและสั่นคลอนจากสิ่งเร้าภายนอก เขาคนนั้นแหละคือพระเอกตัวจริงล่ะ!”

 

“เธอมีแม่ที่ฉลาดทีเดียว”

 

แต่พอถูกชมด้วยประโยคข้างต้น สีหน้าของเด็กสาวตัวน้อยกลับเผยถึงร่องรอยของความเสียใจ

 

แต่เธอก็รีบยับยั้งอารมณ์ตนเองอย่างรวดเร็วและกล่าวว่า “ในตลอด 1000 ปีมานี้ สมาคมกำปั้นเหล็กไม่เคยรับสมาชิกใหม่เลย แต่คุณกลับเป็นคนเดียวที่เข้าตาของแบรี่กับเสี่ยวเหมียว ดังนั้นฉันเลยสันนิษฐานว่าคุณคงไม่มีทางที่จะทำเรื่องสกปรกน่ารังเกียจ”

 

“เรื่องสกปรกน่ารังเกียจงั้นหรอ? เธอหมายถึงอะไรกัน?”

 

“ก็เรื่องอย่างการที่ ‘เปิดเผยตัวตนของเด็กสาวใช้ผู้น่าสงสาร และปล่อยให้เธอจมลงสู่เส้นทางแห่งความตาย’ ไง”

 

“ขอบคุณสำหรับความไว้วางใจของเธอนะ แต่อันที่จริงแล้วมันเป็นเพราะว่าฉันไม่ต้องการจะหาเรื่องใส่ตัวต่างหาก”

 

กู่ฉิงซานค่อยๆผ่อนคลายหัวใจของตน

 

เขากวาดสายตามองเด็กสาวตัวน้อยขึ้นๆลง

 

เห็นแค่เพียงหน้าตาบ้านๆธรรมดาๆ หนังบนสองมือเล็กๆค่อนข้างหยาบกร้าน ขณะเดียวกันสีหน้าก็เผยถึงร่องรอยของความเหนื่อยล้า ชุดสาวใช้ที่สวมใส่ก็ดูค่อนข้างจะสกปรกเล็กน้อย

 

แต่ดูเหมือนว่าเธอจะอายุราวๆ 10 กว่าปีเท่านั้นเอง

 

สองตาของกู่ฉิงซานหรี่แคบลง เขาสำรวจสายตามองอีกครั้งอย่างระมัดระวัง

 

มือของเด็กสาวหยาบด้านจริงๆ ผิวไม่เพียงแต่คล้ำ แต่บางจุดยังมีร่องรอยของบาดแผลแลดูน่าเกลียดอีก แต่ยังไงก็ตาม

 

—ลึกเข้าไปใต้แขนเสื้อของเด็กสาว มันกลับเผยให้เห็นถึงผิวที่ขาวผ่องดุจน้ำนม

 

กู่ฉิงซานเข้าใจในทันที

 

เด็กสาวคนนี้คงจะพอรู้เกี่ยวกับการปลอมตัว เพื่อปกปิดสถานะของตัวเอง

 

“ทำไมเธอถึงเป็นสาวใช้ตั้งแต่อายุยังน้อยล่ะ?”

 

กู่ฉิงซานเอ่ยถามอย่างจริงจัง

 

“องค์หญิงจำเป็นต้องมีคู่หูที่สมวัย ตัวติดกันตลอดเวลา เพื่อที่จะได้ตอบรับกับความต้องการของเธอ ดังนั้น ฉันที่มีคุณสมบัติตรงตามที่ว่า จึงถูกเลือกให้มาเป็นสาวใช้ของเธอ” เด็กสาวตัวน้อยกล่าวออกมาด้วยท่าทีน่าสงสาร

 

กู่ฉิงซานพยักหน้าเล็กน้อย

 

อื้มๆ สร้างเรื่องราวได้ดี ถือว่าผ่าน

 

เจ้าหญิงหนามมีอายุเพียงแค่ 12 ปี ดังนั้นเธอจึงต้องการเพื่อนหรือคู่หูที่พร้อมรับฟังตลอดเวลาไว้ข้างตัว

 

และด้วยอายุของสาวใช้คนนี้ ก็เหมาะสมที่จะเป็นคู่หูกับเจ้าหญิงพอดิบพอดีจริงๆ

 

ดูเหมือนว่าสาวน้อยคนนี้จะหลักแหลมไม่เบา แต่น่าเสียดาย ที่ ‘ประสบการณ์ชีวิตของเธอน้อยเกินไป’

 

เด็กสาวตัวน้อยจ้องมองไปยังกู่ฉิงซาน ปากเอ่ยกล่าวด้วยน้ำเสียงยกสูง “ในเมื่อคุณไม่ได้เปิดเผยว่าฉันซ่อนตัวอยู่ที่นี่ ถ้าอย่างนั้นฉันจะให้อภัยต่อการกระทำที่ไม่สุภาพเมื่อครู่ของคุณก็แล้วกัน”

 

กู่ฉิงซานถึงกับไร้คำจะกล่าว

 

เขาไม่ได้เตรียมตัวที่จะมาฟาดฝีปากกับสาวน้อยที่กำลังหลบหนีผู้นี้

 

ในจิตใจของเขา กำลังคาดคำนวณถึงผลได้ผลเสียอย่างคร่าวๆ

 

ตราบใดที่เขาสามารถคาดเดาความจริงบางส่วนของเรื่องนี้ได้ มันก็คงจะเป็นเรื่องง่ายดายที่จะได้ข้อสรุปที่มันชัดเจน

 

อย่างไรก็ตาม ได้ข้อสรุปชัดเจนแล้วมันอย่างไร? อย่าลืมนะว่ากู่ฉิงซานไม่ได้ต้องการที่จะเข้าไปมีส่วนพัวพันธ์กับสิ่งใด

 

เขาหลับตาลง และตัดสินถึงน้ำหนักผลได้เสียของเรื่องนี้ได้อย่างรวดเร็ว

 

ที่เขาต้องทำ ก็เพียงแค่เฝ้ารอซูเซี่ยเอ๋ออยู่ที่นี่

 

—เมื่อซูเซี่ยเอ๋อกลับมา เขาก็จะพาเธอออกไปทันที

 

ถึงแม้ว่าสมาคมกำปั้นเหล็กจะไม่ใหญ่มาก แต่แบรี่กับเสี่ยวเหมียวก็เป็นคนดี ดังนั้นคงน่าจะพร้อมรับเอาซูเซี่ยเอ๋อมาอยู่ด้วย

 

สมาคมกำปั้นเหล็กของตนเองก็อยู่ภายในโลกมิติอนันต์ นั่นหมายความว่ามันเป็นสถานที่ๆปลอดภัย

 

แถมเสี่ยวเหมียวมีความสามารถเกี่ยวกับมิติที่ค่อนข้างจะทรงพลัง

 

ประจวบไปกับอาการบาดเจ็บที่ขาของแบรี่ที่กำลังฟื้นตัวจนใกล้จะหายดีในไม่ช้า ในอนาคต สมาคมกำปั้นเหล็กก็จะกลับมาแข็งแกร่งขึ้นอีกครั้ง

 

นอกจากนี้ กู่ฉิงซานก็ยังได้รับรางวัลอันเลอค่าจากทริสเต้มาแล้วอีกด้วย ฉะนั้น รางวัลนี้ก็น่าจะเพียงพอต่อการชำระหนี้ของสมาคมแล้ว

 

ด้วยหนทางดังที่กล่าวมา ชีวิตต่อจากนี้ไปก็จะมั่นคงและปลอดภัย

 

เขากับซูเซี่ยเอ๋อจะได้สามารถใช้เวลาอยู่ด้วยกันนานๆได้ซะที

 

และกู่ฉิงซานก็ยังได้รับผลประโยชน์อีกอย่างหนึ่งจากการที่ตนได้อยู่ในสมาคมกำปั้นเหล็กอีกด้วย นั่นก็คือ ในช่วงเวลายามว่าง กู่ฉิงซานยังสามารถขอคำปรึกษาเกี่ยวกับปัญหาการฝึกยุทธบางประการ – โดยการใช้อาหารอร่อยๆเป็นการแลกเปลี่ยนหรือตัวล่อกับแบรี่

 

ได้ยินจากเสี่ยวเหมียวมาว่า ลำธารเล็กๆที่อยู่หลังสมาคมสามารถออกไปตกปลาได้ในช่วงสภาพอากาศแจ่มใส

 

แต่ปลาเหล่านั้นมันเจ้าเล่ห์และมีไหวพริบไม่น้อยเหมือนกัน เพราะหากพวกมันสังเกตว่ามีใครเข้ามาใกล้แล้วล่ะก็ เจ้าปลาจะรีบหนีออกไปยังโลกอื่นทันที

 

แบรี่จึงเกลียดการจับปลาเป็นอย่างมาก ขณะเดียวกันเสี่ยวเหมียวก็ทอดปลาไม่เป็น ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ค่อยได้มีโอกาสกินปลาเหล่านั้นสักเท่าไหร่

 

อย่างไรก็ตาม เนื้อของปลาพวกนั้นก็มีคุณภาพที่ค่อนข้างดี และร้านอาหารติดดาวดังๆก็ยินดีที่จะซื้อมันต่อจากพวกเขา

 

เมื่อกู่ฉิงซานคิดถึงจุดนี้ แววตาของเขาก็อ่อนโยนลง

 

ใช่แล้วล่ะ ในเมื่ออนาคตกำลังจะกลายเป็นแบบนี้ แล้วทำไมตนจะต้องโยนตัวเองเข้าไปพัวพันธ์กับเรื่องอันตรายด้วยเล่า?

 

สิ่งเดียวที่ต้องทำในตอนนี้คือการเฝ้ารอซูเซี่ยเอ๋อกลับมา

 

กู่ฉิงซานได้ตัดสินใจเป็นที่เรียบร้อย เขาหันไปมองเด็กสาวตัวน้อยและกล่าว “นับจากนี้ไป เมื่อไหร่ที่ฉันไม่เห็นเธอ ฉันจะไม่บอกกับคนอื่นๆเกี่ยวกับเรื่องของเธออย่างแน่นอน ฉะนั้นเชิญทำตัวตามสบายได้เลย”

 

เด็กสาวพอได้ยิน ก็เผยใบหน้ายิ้มแย้มออกมา เธอโค้งกายลงแสดงการขอบคุณ “ถึงแม้จะเป็นผู้ชายไร้มารยาท แต่คุณก็ไม่ได้เลวร้ายซะทีเดียว”

 

เด็กสาวตัวน้อยมองดูกู่ฉิงซาน และสังเกตเห็นว่าเขาไม่ได้สนใจตัวเองอีกต่อไป เธอจึงค่อยโล่งใจลงเล็กน้อย

 

จากนั้น เธอก็รู้สึกได้ว่าท้องยังร้องอยู่ จึงถือจานเค้กในมือขึ้นมา แล้วเริ่มบรรจงกินมันอย่างสง่างามอีกที

 

กู่ฉิงซานไม่คิดจะให้ความสนใจกับสาวน้อยคนนี้อีกต่อไป

 

แต่นั่นก็เพราะ เหรียญในมือของเขาเริ่มรู้สึกร้อนรุ่มขึ้นเล็กน้อย ขณะเดียวกัน บนหน้าต่างระบบเทพสงครามก็ได้บังเกิดการเปลี่ยนแปลงใหม่ขึ้นแล้ว

 

กู่ฉิงซานรีบเบนสายตามามองหน้าต่างระบบเทพสงคราม

 

เห็นแค่เพียงบนหน้าต่าง ในส่วนล่างที่อยู่หลังจาก ‘วิชายุทธเทพสงคราม’ , ‘พลังศักดิ์สิทธิ์เทพสงคราม’ และ ‘สมญาเทพสงคราม’ ในที่สุดก็มีไอค่อนใหม่สว่างขึ้นมาเสียที

 

ไอค่อนนี้ค่อนข้างเรียบง่าย แลดูคล้ายกับตัวหนังสือหนาๆ

 

“โหนดเวลา ได้รับการยืนยันแล้ว”

 

“ได้รับข้อมูลสำคัญที่เกี่ยวข้อง”

 

“เปิดฟังก์ชั่นคุณสมบัติใหม่ของระบบ”

 

“คุณได้รับฟังก์ชั่นใหม่ : ‘พงศาวดารวันสิ้นโลก’ ”

 

“พงศาวดารวันสิ้นโลก : ตอนนี้ คุณจะสามารถตรวจสอบเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ที่มีชื่อเสียงหรือเรื่องราวพิเศษบางอย่างที่เกี่ยวข้องจากไอเท็มที่อยู่ในมือตนเองได้”

 

“สืบเนื่องมาจากในชีวิตก่อนหน้า คุณสามารถเอาชีวิตรอดต่อไปได้อีกสิบปีหากนับจากปัจจุบันนี้ ดังนั้น เหตุการณ์ข้อมูลที่คุณจะสามารถรับรู้ได้ จึงจะเริ่มจากอดีตอันไร้ที่สิ้นสุดไปจนถึงในอีกสิบปีข้างหน้าตามที่กล่าวมาข้างต้นเท่านั้น”

 

“หมายเหตุพิเศษ : ระบบจะบันทึกแค่เพียงเหตุการทางประวัติศาสตร์ที่โด่งดัง มีชื่อเสียงมากที่สุดเท่านั้น แต่สิ่งที่อยู่เบื้องหลังของเรื่องราวและความเป็นจริงที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ระบบไม่อาจตระหนักถึงมันได้”

 

กู่ฉิงซานตั้งใจอ่านมันอย่างเป็นเรื่องเป็นราว และก็เผยรอยยิ้มออกมาอย่างไม่คาดคิด

 

นี่มันเป็นฟังก์ชั่นที่น่าสนใจไม่น้อยเลย

 

ในขณะนั้นเอง บนมือของเขา เหรียญตราของทริสเต้ก็แสดงถึงหลายบรรทัดเล็กๆบนหน้าต่างของเขา

 

“เหรียญของทริสเต้”

 

“วิชายุทธเทพสงคราม : ไอเท็มชิ้นนี้ไม่มีสกิลใดๆ จึงไม่สามารถศึกษาและเรียนรู้มันได้”

 

“คำอธิบายตามพงศาวดาร : มันคือสิ่งที่พิสูจน์ว่าคุณได้มีส่วนร่วมในการเรียกขานของวิหคหนาม”

 

“หากต้องการจะตรวจสอบเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับเหรียญนี้ โปรดทำการจ่าย 100000 แต้มพลังวิญญาณด้วย”

 

-ต้องการแต้มพลังวิญญาณมากมายถึงเพียงนั้นเชียวหรือ?

 

กู่ฉิงซานก้มลงมองเหรียญตราด้วยความประหลาดใจ

 

มีความลับอันน่าอัศจรรย์ใจเพียงใดกันที่ซ่อนอยู่ในเหรียญตรานี้?

 

กู่ฉิงซานครุ่นคิด และทันใดนั้นเขาก็โบกมือไปคว้าดาบเช่าหยินออกมาจากความว่างเปล่า

 

ก่อนที่จะทำอะไร เขาขอยืนยันโดยการตรวจสอบความสงสามารถของฟังก์ชั่นใหม่ให้ดีซะก่อนดีกว่า

 

เห็นแค่เพียงบนหน้าต่างระบบเทพสงคราม สองสามเส้นแสงบรรทัดตัวอักษารปรากฏขึ้นมา

 

“ดาบจากยุคโบราณอันไกลโพล้น , มีชื่อเรียกว่าเช่าหยิน”

 

“ในสมัยโบราณ โลกเทวะประกอบไปด้วยท้องทะเลอันกว้างใหญ่ไร้ที่สิ้นสุด เมื่อทวยเทพได้จากไป พวกเขาก็ได้ทิ้งดาบเล่มนี้ไว้ในห้วงสมุทร”

 

“ผู้ที่ถือครองดาบเล่มนี้จะกลายเป็นราชาแห่งท้องทะเล”

 

“ดาบเล่มนี้มีจิตอาร์ติแฟคพลังศักดิ์สิทธิ์ : ก้าวข้ามผ่านมหาสมุทรแห่งความทุกข์ระทม”

 

“วิชายุทธเทพสงคราม : ดาบเล่มนี้ไม่มีสกิลใดๆ จึงไม่สามารถศึกษาและเรียนรู้มันได้”

 

“คำอธิบายตามพงศาวดาร : ระบบยังไม่ได้สืบค้นเกี่ยวกับเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์อันมีชื่อเสียงที่เกี่ยวข้องกับดาบเล่มนี้”

 

กู่ฉิงซานพยักหน้าเล็กน้อย

 

แน่นอน ถ้าชีวิตนี้เขาไม่ได้เข้าสู่โลกเทวะ เกรงว่าดาบเล่มนี้ก็คงจะไม่เกิดขึ้น

 

นี่มันเป็นคุณสมบัติใหม่ที่น่าสนใจจริงๆ

 

ฟังก์ชั่นนี้ จะช่วยให้คุณสามารถขยายมุมมอง และล่วงรู้เกี่ยวกับความลับเพิ่มมากขึ้นได้

 

กู่ฉิงซานเพียงคิด เขาก็ตบลงในถุงสัมภาระ และเตรียมนำสิ่งต่างๆมากมายออกมาเพื่อทดลองใช้กับฟังก์ชั่นใหม่ของระบบเทพสงคราม

 

อย่างไรก็ตาม ทันทีที่ถุงสัมภาระของเขาถูกเปิดออก จดหมายใบหนึ่งก็พรวดออกมาทันที และโคจรไปมารอบๆตัวเขา

 

กู่ฉิงซานรีบคว้าจดหมายไว้ในมืออย่างรวดเร็ว

 

จดหมายฉบับนี้ ช่วงก่อนหน้ามันก็เด้งออกมาเหมือนกัน แต่ตอนนั้นเขากำลังขอความช่วยเหลือจากหญิงงามไม้สลัก ตนจึงไม่มีเวลาเพียงพอที่จะใส่ใจมัน

 

ตอนนี้ คงถึงเวลาแล้วว่าจะตรวจดูว่ามันคืออะไรกันแน่

 

กู่ฉิงซานกางจดหมายออก

 

แต่กลับพบว่ามันเป็นเพียงแผ่นกระดาษสีขาว

 

บนจดหมาย … ไม่มีอะไรถูกเขียนเอาไว้เลย!?

 

ทว่าไม่นาน เสียงอันเร่งร้อนของหญิงสาวก็ดังขึ้นมาจากภายในกระดาษอย่างกระทันหัน

 

“กู่ฉิงซาน นี่ฉันเองนะ เสี่ยวเหมียว”

 

“ฉันมีเรื่องน่าสะพรึงกลัว ที่จะต้องรีบบอกนายทันที!”