ตอนที่ 258

เสน่ห์คมดาบ

ตอนนี้จิตวิญญาณของมาริลินไม่ผันผวนอีกต่อไปแล้ว ดูเหมือนนางจะตัดสินใจแล้วว่าจะทำแบบนี้ต่อ 

 

 

“จริงๆ แล้วมันง่ายมาก เจ้าเป็นเทพีแห่งแสงที่แท้จริง เทพเจ้าแห่งความมืดร่วมมือกับเจ้าปลอมๆ เพื่อเพิ่มบารมีของเจ้าให้ไปถึงพวกเพรสไบทีเรียน หลังจากนั้นเจ้าก็อยู่อย่างสันติกับเทพเจ้าแห่งความมืด อย่างน้อยก็แบบลับๆ บางครั้งก็ให้มีการต่อสู้ปลอมๆ กันบ้าง” รอยยิ้มของชีอ้าวชวางเต็มไปด้วยเสน่ห์อันชั่วร้าย 

 

 

มาริลินกลืนน้ำลายเบาๆ และมองชีอ้าวชวางด้วยความงุนงง ปีศาจ! ผู้หญิงคนนี้เป็นมนุษย์แบบไหนกันนะ? นางเป็นปีศาจต่างหาก ปีศาจที่ล่อลวงวิญญาณให้เต็มใจตกนรก! 

 

 

แต่มาริลินก็ต้องยอมรับว่าวิธีนี้ดีมาก ดีมากจนนางมีความหวังเปี่ยมล้นและดวงตาของนางก็เป็นประกาย 

 

 

“ดี!” ทันใดนั้นดวงตาของมาริลินก็ร้อนแรงขึ้นมา นางมองไปที่ชีอ้าวชวาง จากนั้นรอยยิ้มที่บ้าคลั่งและน่าเกลียดก็ปรากฏบนใบหน้างดงามของนาง นางเอ่ยคำพูดโหดร้ายเบาๆ “ข้าได้เป็นผู้ปกครองโลกเทพเจ้าอย่างแท้จริง ผู้ใดที่ต้องการเหยียบย่ำข้าให้จมอยู่ใต้เท้า ข้าจะเหยียบย่ำพวกเขาให้สิ้นซาก! ข้าจะไม่มีวันกลายเป็นของเล่นของพวกที่น่าขยะแขยงพวกนั้น ข้าจะทำให้พวกเขาต้องชดใช้เป็นร้อยเท่าพันเท่า!” 

 

 

ชีอ้าวชวางหรี่ตาลงเล็กน้อยและพูดด้วยเสียงทุ้ม “ใช่ เจ้าจะเป็นผู้ปกครองที่แท้จริงของโลกเทพเจ้า” ดวงตาที่บ้าคลั่ง รอยยิ้มที่น่าเกลียด ไม่ว่าจะเป็นใคร เมื่อถูกกดขี่อย่างถึงที่สุด พลังที่ระเบิดออกมานั้นมักจะน่าทึ่งจริงๆ มาริลินคนนี้ถูกผลักให้ไปสู่ทางตัน หรือบางทีความบ้าคลั่งที่นางแสดงออกมานั้นอาจเป็นธรรมชาติที่แท้จริงของนาง? 

 

 

โลกที่สงบสุขเพิ่งจะเริ่มต้น… 

 

 

ด้านหนึ่งคือเทพเจ้าแห่งความมืดซิสทัล 

 

 

ด้านหนึ่งคือเทพีแห่งแสงมาริลิน 

 

 

โลกที่สงบสุขจะต้องสร้างรักษาสมดุลไว้ 

 

 

ชีอ้าวชวางหลับตาลงอย่างช้าๆ และเริ่มทำสมาธิ 

 

 

รถม้าเคลื่อนที่ไปข้างหน้าอย่างช้าๆ และเมื่อถึงช่องมิติมันก็พุ่งตรงไปในอากาศผ่านช่องมิติมาถึงอีกที่หนึ่ง 

 

 

ในโลกเทพเจ้ามีเพียงเทพีแห่งแสงที่ครอบครองเพกาซัสได้ 

 

 

พื้นที่นี้ทั้งมืดและอับชื้น 

 

 

นี่คืออาณาเขตของเทพเจ้าแห่งความมืด เทือกเขาแบล็ควิน พระราชวังของเทพเจ้าแห่งความมืดก็อยู่ด้านในสุดของภูเขานี้เช่นกัน 

 

 

ตอนที่มาริลินที่มีลมหายใจแห่งแสงปรากฏตัวที่นี่ก็ทำให้เกิดความปั่นป่วนทันที 

 

 

สิ่งมีชีวิตแห่งความมืดที่มีพลังอ่อนแอหนีไปอย่างรวดเร็ว และสิ่งมีชีวิตบางตัวที่ไม่รู้อะไรก็พยายามโจมตีและผลลัพธ์ที่ได้ก็แตกต่างกัน 

 

 

ไม่นานหลังจากที่พวกเขาเข้ามาในบริเวณนี้ พวกเขาก็ได้ยินเสียงดังก้องมาจากระยะไกล 

 

 

“นั่นคืออัศวินรัตติกาลของเทพเจ้าแห่งความมืด” มาริลินพูดด้วยสีหน้ากระวนกระวายใจ 

 

 

หือ? ชีอ้าวชวางเลิกคิ้วเล็กน้อย ดูเหมือนว่าเทพเจ้าแห่งความมืดจะเป็นระเบียบดี ได้ยินเสียงอัศวินไม่น้อยเลย 

 

 

“หยุด” ชีอ้าวชวางให้ชาร์ลอตต์หยุดรถม้าและกระโดดลงมายืนอยู่หน้ารถม้า 

 

 

กลุ่มอัศวินรัตติกาลมาถึงตรงหน้าชีอ้าวชวางอย่างรวดเร็วพร้อมกับฝุ่นที่คละคลุ้ง อัศวินดำทุกคนสวมชุดเกราะสีดำเงา ชุดเกราะบริเวณหัวของอัศวินยังมีเส้นเวทมนตร์บางๆ อยู่ด้วย อัศวินแต่ละคนสวมหมวกไว้เพื่อปิดบังรูปลักษณ์ของเขา 

 

 

อัศวินหยุดลง และหัวหน้าอัศวินก็ชี้หอกไปที่ชีอ้าวชวางและกำลังจะพูด 

 

 

ชีอ้าวชวางสะบัดนิ้วอย่างไม่สนใจแล้วหอกในมือของอัศวินก็กลายเป็นผงทันที 

 

 

ทุกอย่างรอบตัวก็เงียบลงเป็นเวลานาน 

 

 

“ไปบอกเทพเจ้าแห่งความมืดว่าแคลร์มาหาเขา หากชักช้าพวกเจ้าจะได้รู้ผลที่จะตามมา” น้ำเสียงของชีอ้าวชวางเย็นชามากแต่เต็มไปด้วยพลัง เหล่าอัศวินรัตติกาลตะลึงหลังจากที่ชีอ้าวชวางลงมือเมื่อครู่ และตอนนี้เมื่อพวกเขาได้ยินชื่อแคลร์ พวกเขาทั้งหมดก็ตัวแข็งทื่อ 

 

 

ทันทีที่คำพูดของชีอ้าวชวางจบลงก็มีเสียงที่น่าเบื่อเกิดขึ้นในความว่างเปล่าแต่เนื้อหาไม่ได้จริงจัง “ฮ่าๆ ข้าก็คิดว่าลมหายใจคุ้นๆ นี้คือใคร ที่แท้ก็เป็นแคลร์ของข้านี่เอง ข้าคิดถึงเจ้าจริงๆ เลย” 

 

 

เจอกับคำทักทายที่ไม่จริงจังเช่นนี้ ชีอ้าวชวางไม่ได้โกรธและหัวเราะ “ซิสทัล ท่านทักทายข้าด้วยการส่งอัศวินจำนวนมากมาทักทายแบบนี้หรือ? อีกอย่างข้าชื่อชีอ้าวชวาง ดูเหมือนข้าจะบอกท่านชัดเจนแล้วนะ?” น้ำเสียงฟังดูอันตรายเล็กน้อย 

 

 

“เหอะๆ ข้าเสียมารยาทเอง” เสียงของซิสทัลดังใกล้เข้ามามากขึ้นเรื่อยๆ อัศวินที่อยู่รอบๆ พวกเขาทั้งหมดก็ถอยออกไปด้านข้างทั้งสองข้างอย่างเรียบร้อย ชายหนุ่มในชุดสีดำเดินมายังถนนนี้ช้าๆ 

 

 

ชีอ้าวชวางเหลือบมองผู้ชายที่มาอย่างช้าๆ นี่คือเทพแห่งความมืด…ซิสทัล? 

 

 

ใบหน้าที่รูปงามไม่มีใครเทียบได้ ดวงตาสีแดงที่สวยงามราวกับอัญมณี ผมสีเข้มสยายลงมาอย่างนุ่มนวล ดวงตาที่ลึกล้ำเย็นชาราวกับน้ำวนที่เหมือนจะดูดคนเข้าไปได้ ลมหายใจเย็นเยือกอยู่รอบตัวเขา เขาหล่อมากจนทำให้คนละสายตาไม่ได้ ที่ชายเสื้อสีดำปักด้วยลวดลายสีทองเรียบง่ายดูมีเกียรติและลึกลับ 

 

 

เขาเดินไปทางชีอ้าวชวางช้าๆ พร้อมกับรอยยิ้มชั่วร้ายบนใบหน้าอันหล่อเหลาของเขา ชายผู้สูงศักดิ์เดินอยู่ตรงกลางเช่นนี้ช่างโดดเด่น และเห็นได้ชัดเมื่อเทียบกับอัศวินที่ยืนอยู่ทั้งสองด้าน 

 

 

“เสี่ยวชวางชวาง ไม่เจอกันนานเลย มากอดๆ…” ซิสทัลเดินไปหาชีอ้าวชวางและทำท่าทางตื่นเต้นพร้อมกับเอื้อมมือจะไปกอดชีอ้าวชวาง 

 

 

ชีอ้าวชวางขมวดคิ้วและเกือบจะยกเท้าไปที่ใบหน้าของซิสทัลโดยไม่รู้ตัว แต่มีใครบางคนเดินเร็วกว่านาง! เห็นแผ่นหลังสีขาวแวบผ่านมา 

 

 

แง้ว! แมวล่าสมบัติตะโกนอย่างโกรธเกรี้ยวแล้วกระโดดไปข้างหน้า คว้าเข้าใบหน้ารูปงามไม่มีใครเทียบของซิสทัลอย่างดุเดือดด้วยความเร็วดุจสายฟ้า 

 

 

หลังจากเสร็จสิ้นทั้งหมดนี้ แมวล่าสมบัติก็ถอยกลับมาเกาะหลังของชีอ้าวชวางอย่างรวดเร็วจากนั้นก็โผล่หัวครึ่งหนึ่งออกมาจากไหล่ของชีอ้าวชวางและมองซิสทัลด้วยดวงตาสีอำพันของมัน 

 

 

ทุกคนตกอยู่ในความเงียบจนได้ยินเสียงหัวใจเต้นของตัวเอง 

 

 

ชีอ้าวชวางมองซิสทัลที่นิ่งค้างอยู่อย่างเงียบๆ 

 

 

มาริลินและทูตสวรรค์ทั้งสี่ที่อยู่ข้างหลังนางก็มองสิ่งเหล่านี้ด้วยความประหลาดใจ 

 

 

เทพเจ้าแห่งความมืดที่เจ้าเล่ห์และร้ายกาจกลับมาถูกลูกแมวข่วน! 

 

 

ถูกลูกแมว… 

 

 

ลูกแมว… 

 

 

เสียงสะท้อนไม่มีที่สิ้นสุดดังขึ้น… 

 

 

ติ๊ง… 

 

 

เลือดที่ไหลจากบนใบหน้าของซิสทัลหยดลงที่พื้นและเสียงนั้นก็ทำลายความเงียบไป 

 

 

“เอ่อ แค่กๆ…” ชีอ้าวชวางแสร้งกระแอมทำลายความอึดอัด ไม่ว่าอย่างไร สถานะอันสูงส่งของซิสทัล ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้กลับมาถูกแมวของนางข่วนต่อหน้าผู้ใต้บังคับบัญชาจำนวนมาก มันเป็นเรื่องที่น่าอายจริงๆ อย่างไรก็ต้องไว้หน้าเขาสิ ตอนนี้… 

 

 

ใบหน้าหล่อเหลาของซิสทัลกระตุกอย่างเห็นได้ชัด แม้ว่าคราบเลือดจะหายเร็ว แต่ฉากที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ก็เกิดขึ้นแล้วทุกคนในที่นี้มองเห็นกันอย่างชัดเจน 

 

 

“เอ่อ…ซิสทัล เอ่อ อาเป่าของข้าไม่ได้ตั้งใจ ตัวตนของท่านสูงส่งขนาดนั้น คงไม่รังเกียจหรอกใช่หรือไม่?” ชีอ้าวชวางยิ้มและพูดอะไรที่หน้าด้านแบบนี้ออกไป 

 

 

“ข้า ข้าไม่รังเกียจ” ใบหน้าหล่อเหลาของซิสทัลยังคงกระตุก เขาแทบจะกัดฟันพูดคำเหล่านั้นเลย 

 

 

“โอ้ เช่นนั้นก็ดีเลย ครั้งนี้ข้ามาหาท่านเพื่อพูดคุยเรื่องสำคัญ” ชีอ้าวชวางพูด แต่ซิสตัลได้ระเบิดออกมาแล้ว 

 

 

“ไม่รังเกียจ ใครบอกว่าข้าไม่รังเกียจ แมวตัวเหม็นนี่กล้าข่วนหน้าข้า! ข้าจะนึ่งมัน! ข้าอยากจะเผามัน!” ซิสทัลกระโดดไปคว้าแมวล่าสมบัติที่หลังของชีอ้าวชวางอย่างรวดเร็ว ในเวลานี้เขาจะมีความสง่างามและความสูงส่งแบบเมื่อครู่ได้อย่างไรล่ะ? 

 

 

“เอาละ! ซิสทัล ครั้งนี้ข้ามีธุระกับท่าน ท่านไม่เห็นหรือว่าเทพีแห่งแสงอยู่ที่นี่ด้วย?” ชีอ้าวชวางปวดหัวและเริ่มจัดการกับซิสทัลก่อน คิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะใจแคบขนาดนี้ ไม่สนใจภาพลักษณ์อะไรแล้ว แสดงท่าทางเช่นนี้ต่อหน้าผู้บังคับบัญชาได้อย่างไร แต่เห็นอัศวินดูสงบกันหมด พวกเขาคงจะเคยชินกับการเห็นท่าทีแบบนี้เสียแล้ว 

 

 

“หือ?” ซิสทัลได้สติและหยุด เขามองตรงไปที่มาริลินข้างๆ ชีอ้าวชวาง และเหล่าทูตสวรรค์ที่อยู่ข้างหลัง จากนั้นก็ขมวดคิ้วและหัวเราะเยาะ “ทำไมเทพีแห่งแสงผู้ยิ่งใหญ่ถึงได้อัปยศเช่นนี้ล่ะ? มีอะไรกันหรือ?” 

 

 

สีหน้าของมาริลินซีดลงในทันที และใบหน้าของชาร์ลอตต์และคนอื่นๆ ที่อยู่ด้านหลังก็เปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมทันที พวกเขาทั้งหมดชักดาบและชี้ดาบไปที่ซิสทัล 

 

 

เหล่าอัศวินที่อยู่เบื้องหลังซิสทัลก็ส่งเสียงโห่ร้องดังขึ้นพร้อมกับชี้อาวุธของพวกเขาไปที่มาริลิ ม้าสีดำของพวกเขาก็หอบหายใจหนักขึ้นด้วย 

 

 

ในพริบตา ที่แห่งนี้เกือจะเกิดความกาหลแล้ว 

 

 

ฝ่ามือของมาริลินมีเหงื่อออกเต็มไปหมดด้วยความตึงเครียด หากเทพเจ้าแห่งความมืดระเบิดที่นี่ ทุกอย่างก็จะไร้ผล 

 

 

“เอาละ ซิสทัล ข้าไม่ได้มาที่นี่เพื่อคุยกับท่านเรื่องสารทุกข์” ใบหน้าของชีอ้าวชวางนิ่งลงและยกมือขึ้นเบาๆ โดยมีนางเป็นศูนย์กลางแล้วลมหายใจร้อนก็แผ่กระจายออกไป 

 

 

ในพริบตา ทุกคนที่นั่นก็รู้สึกหดหู่ใจอย่างท่วมท้น ร่างกายของเขาร้อนจนกำลังจะมอดไหม้ 

 

 

“เสี่ยวชวางชวาง แต่ข้าอยากคุยกับเจ้า เอาละ เข้าไปคุยกัน ข้ามีชากุหลาบที่เจ้าชอบด้วย” ซิสทัลยิ้มและโบกมือให้อัศวินที่อยู่ข้างหลังเขาเก็บอาวุธ 

 

 

จากนั้นชีอ้าวชวางก็เอาลมหายใจร้อนแรงนั้นกลับคืนมา 

 

 

มาริลินบีบฝ่ามือของนางจนรู้สึกถึงฝ่ามือที่เปียกชื้นและถอนหายใจยาวอย่างโล่งอก วันนี้พลังแห่งแสงช่างน่าสงสารจริงๆ ชาร์ลอตต์และคนอื่นๆ ต่างก็เก็บอาวุธของตนเองเช่นกัน