“ไปกันเถอะเสี่ยวชวางชวาง ข้ารอเจ้ามาตลอดเลย” ซิสทัลเดินนำหลังจากพูดประโยคนั้นแล้วหันกลับมายิ้มให้ชีอ้าวชวาง “มาเร็ว”
ซิสทัลคนนี้เป็นผู้ชายที่หล่อเหลามาก และเสน่ห์ของเขาก็ไม่อาจหยุดยั้งได้ แต่น่าเสียดายที่ชีอ้าวชวางไม่มีความเห็นอกเห็นใจเลย ไม่แม้แต่จะมอง นางเดิมตามเขาไปอย่างไม่สนใจ
มาริลินและทูตสวรรค์ทั้งสี่ก็รีบตามไป มาริลินไม่กล้าอยู่ห่างจากชีอ้าวชวางมากเกินไป อยู่ที่นี่มีเพียงแค่อยู่กับชีอ้าวชวางเท่านั้นที่นางจะรู้สึกปลอดภัย
เดินตามซิสทัลเข้าไปยังพื้นที่ ตลอดทางที่เดินมา หลายสิ่งที่ชีอ้าวชวางเห็นจะเป็นสีดำ พืชและสัตว์ต่างๆ ก็เต็มไปด้วยสีดำ อัศวินเดินช้าลงและตามอยู่ข้างหลัง เสียงกีบม้าฟังดูเรียบร้อยโอ่อ่ามาก
เดินไปจนสุดทางก็เจอพระราชวังขนาดใหญ่งดงามปรากฏต่อหน้าพวกเขา พระราชวังที่สวยงามน่าประหลาดใจ ชีอ้าวชวางแอบถอนหายใจ ซิสทัลคนนี้น่าจะเพลิดเพลินกับมันจริงๆ
ระหว่างทาง ซิสทัลและชีอ้าวชวางก็คุยกันไปหัวเราะกันไปโดยไม่สนใจมาริลินและคนอื่นๆ ที่อยู่ข้างหลังเลย ราวกับว่าพวกเขาไม่มีตัวตน
พอเข้าไปในวัง สาวใช้ข้างในก็สวมชุดสีดำซึ่งแตกต่างจากความคิดของชีอ้าวชวาง สาวใช้เหล่านี้ไม่ได้เป็นอย่างที่นางจินตนาการไว้ ทุกคนเคร่งครัดมาก และพวกเขาทั้งหมดให้ความเคารพซิสทัลเป็นอย่างมาก
ซิสทัลเดินนำทุกคนไปตลอดทางผ่านห้องโถงผ่านทางเดินยาวจนมาถึงประตูห้องโถงเล็กๆ
เขาค่อยๆ ดันประตูเข้าไป ห้องนี้เป็นห้องโถงเล็กๆ ที่ได้รับการตกแต่งอย่างหรูหรา ก่อนเข้าประตูชีอ้าวชวางก็ได้กลิ่นชากุหลาบที่คุ้นเคย
หลังจากเข้าไปชีอ้าวชวางก็ตะลึง
เพราะคนในห้องโถงเล็กๆ คือคนที่นางคุ้นเคยสุดๆ
รอยยิ้มอ่อนโยนของคามิลล์ช่างคุ้นเคยและอบอุ่นเหลือเกิน เขาถือกาน้ำชาที่สวยงามในมือที่มีกลิ่นของชากุหลาบลอยมา
คามิลล์อยู่ที่นี่หรือ?
“เฮ้! ของเล่นตัวน้อย เจ้ามาช้าจัง!” เสียงที่หยาบคายดึงความคิดของชีอ้าวชวางกลับมา
ชีอ้าวชวางตกใจมาก นางเห็นนายน้อย! นอกจากนี้ยังมีเฟิงอี้เซวียนที่มีใบหน้าซับซ้อนอยู่ข้างๆ นายน้อย เขายังคงมีความโศกเศร้าอยู่ลึกๆ ในดวงตาสีเข้มของเขา หลังจากมองกันและกัน เฟิงอี้เซวียนก็ค่อยๆ หันหน้าหนี ไม่มองชีอ้าวชวางอีก
เฟิงอี้เซวียน เฟิงอี้เซวียน…
ทำไมเรื่องมาถึงขั้นนี้แล้วถึงยังจำนางไม่ได้อีก? เกิดอะไรขึ้นกันแน่?
พวกเฟิงอี้เซวียนอยู่ที่นี่แล้วคนอื่นๆ ล่ะ?
สายตาของชีอ้าวชวางมองกวาดไปทั่วห้องโถงเล็กๆ แต่ไม่เจอใครเลย
“ไม่ต้องมองแล้ว ที่นี่มีแค่พวกเรา คนงี่เง่าพวกนั้นที่มาด้วยกัน ตอนนี้ไม่รู้ว่าไปอยู่ไหน” นายน้อยจ้องชีอ้าวชวางและพูดอย่างโกรธเคือง “ยังจะมัวทำอะไรอยู่ตรงนั้น? มานั่งสิ!”
ชีอ้าวชวางผงะไปครู่หนึ่งแล้วยิ้มจางๆ จากนั้นหันไปหามาริลินและพูด “มาสิ”
มีความสับสนในดวงตาของมาริลิน แต่พอมองใบหน้าที่ยิ้มแย้มของชีอ้าวชวา งในที่สุดนางก็สงบอารมณ์ได้เล็กน้อยแล้วตามชีอ้าวชวางไปนั่งลงอย่างเชื่อฟัง
“เฮ้ เจ้าเก่งจริงๆ พอมาที่นี่ก็ผูกมิตรกับเทพีแห่งแสงได้เลย” นายน้อยกระโดดลงจากที่นั่งวิ่งไปข้างหน้าแล้วก็ลดตัวลงเพื่อมองมาริลิน
มาริลินและนายน้อยสบตากันแล้วก็ตกใจลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว จากนั้นนางก็ร้องออกมาด้วยความเหลือเชื่อ “ปีศาจ?!”
“ใช่! จะเรียกทำไม!” นายน้อยตะโกนอย่างร้อนรน “ปีศาจแล้วทำไม ปีศาจก็ยังดีกว่าพวกเจ้าเล่ห์อย่างพวกเจ้ามาก”
มาริลินขบกรามแน่นและสั่นเทาเล็กน้อย น้ำตาแห่งความอัปยศอดสูไหลออกมา วันนี้นางได้รับการดูถูกเหยียดหยามมากกว่าที่นางได้รับมาทั้งชีวิตอีก
“พอแล้ว นายน้อย ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว” ชีอ้าวชวางพูดเบาๆ “คราวนี้สถานการณ์ของมาริลินไม่ดีเท่าไหร่ อย่าทำแบบนี้กับนางอีก นางเป็นกุญแจสำคัญสำหรับการยุติสงครามศักดิ์สิทธิ์”
ทันใดนั้นสีหน้าของนายน้อยก็เปลี่ยนไป นางกระแทกโต๊ะและจ้องชีอ้าวชวางอย่างโมโห “ไม่ใช่เพราะว่า…”
“ลาเดีย!” เฟิงอี้เซวียนตะโกนอย่างดุๆ แล้วนายน้อยก็เงียบไป
สีหน้าของนายน้อยดูโกรธมากจนมองชีอ้าวชวางอย่างดุร้ายราวกับว่าเขาอยากจะโจมตีชีอ้าวชวางสักพันครั้ง แต่ในที่สุดดวงตาของเขาก็ค่อยๆ นิ่งลง เขาพลันทำอะไรไม่ถูกแล้วหันหน้าไปทางอื่นด้วยความโกรธและนั่งก้มหน้าเงียบๆ อยู่ข้างเฟิงอี้ซวนโดยไม่พูดอะไร
นายน้อยชื่อลาเดีย?
ชีอ้าวชวางตะลึงและมองเฟิงอี้ซวียน แต่เฟิงอี้เซวียนหันหน้าหนีและไม่ได้มองชีอ้าวชวางเลย ส่วนนายน้อยก็ดูเหมือนจะไม่พอใจอยู่
นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?
เฟิงอี้เซวียนปิดบังอะไรจากนาง? เขามีปัญหาอะไร?
คิ้วของชีอ้าวชวางขมวด หัวใจของนางก็เต็มไปด้วยความสงสัยและความกังวล
“อี้เซวียน…” ชีอ้าวชวางเรียกออกมาเบาๆ แล้วคามิลล์ก็เดินมาหานางด้วยรอยยิ้ม บังนางที่กำลังมองไปยังเฟิงอี้เซวียนอยู่
“เสี่ยวอ้าวชวาง เจ้ามาเหนื่อยๆ เรามาดื่มชากันก่อนดีกว่า” คามิลล์ยังคงมีรอยยิ้มที่อ่อนโยนบนใบหน้าของเขาและรินชากุหลาบหอมๆ ให้ชีอ้าวชวางอย่างสง่างามแล้ววางไว้ข้างๆ นาง
ชีอ้าวชวางดึงสายตากลับมาและมองชากุหลาบในมืออย่างเหม่อลอย ฉากเมื่อครู่นี้ยังเล่นอยู่หัวของนางซ้ำๆ เฟิงอี้เซวียนกำลังปิดบังอะไรอยู่? ทำไมนายน้อยถึงตอบสนองอย่างรุนแรงเช่นนั้น?
“สาวสวย เจ้าก็ทำงานหนัก มาดื่มชาสักหน่อยสิ” คามิลล์ยิ้มอย่างอ่อนโยนและเป็นมิตร เขารินชาร้อนให้มาริลินด้วยหนึ่งถ้วย
มาริลินมองคนหล่อที่อยู่ตรงหน้าอย่างชื่นชมยินดี หลังจากมาถึงสถานที่ของเทพเจ้าแห่งความมืดนางก็หดหู่อย่างมาก คนๆ นี้เป็นคนแรกที่เป็นมิตรกับนาง ความอ่อนโยนเช่นนี้ ความสง่างามเช่นนี้ คนที่มีประกายเช่นนี้ เขาเป็นคนของเทพเจ้าแห่งความมืดหรือ?
“ขะ ขอบคุณ…” มาริลินตอบอย่างเชื่องช้า
คามิลล์ยิ้มเล็กน้อยและไม่ได้พูดอะไร
ชาร์ลอตต์ก้มหน้าอยู่ด้านหลังมาริลินและมีประกายที่อธิบายไม่ได้สว่างวาบในแววตาของเขา
“เหมียว?” แมวล่าสมบัติกระโดดจากหัวของชีอ้าวชวางไปที่โต๊ะและมองชีอ้าวชวางด้วยความงุนงงแล้วสัมผัสนางด้วยอุ้งเท้าของมัน
ชีอ้าวชวางเรียกสติกลับมาอีกครั้ง นางยิ้มให้แมวล่าสมบัติและยกถ้วยน้ำชาขึ้นจิบเบาๆ จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นมองทุกคนและพูดเบาๆ “พวกเจ้าเดาว่าข้าจะมาที่นี่ ดังนั้นเลยมารอข้าที่นี่หรือ?”
“อืม” คามิลล์พยักหน้าเบาๆ และเติมน้ำชาให้ชีอ้าวชวาง
“แต่ข้าไม่ได้คิดว่าเจ้าจะพาเทพีแห่งแสงมาตรงๆ แบบนี้” ซิสทัลยังคงพูดอย่างเย็นชา
“ที่ข้าพานางมาที่นี่เพราะข้ามีจุดประสงค์” ชีอ้าวชวางพูดอย่างไม่ไว้หน้าซิสทัล น้ำเสียงของนางเย็นชาและเยาะเย้ยเล็กน้อย “ซิสทัล ท่านถูกแสงสว่างกดมาหลายปี ท่านอยากจะให้มันเป็นเช่นนั้นไปตลอดหรือ?”
ใบหน้าของซิสทัลดูไม่พอใจและเขาก็มองมาริลินอย่างดุร้าย เห็นได้ชัดว่าเขาคิดว่ามาริลินเป็นคนบอกข่าวพวกนี้กับชีอ้าวชวาง
มาริลินกะพริบตาอย่างไร้เดียงสาและเสียใจมาก นางพูดเรื่องแบบนี้ที่ไหนกัน? ทั้งหมดนี้เป็นการคาดเดาของหญิงสาวคนนี้เอง ไม่เกี่ยวอะไรกับนางสักนิด!
“แล้วอย่างไร?” ซิสทัลกัดฟันถาม “เจ้าเปลี่ยนสถานการณ์ที่เป็นแบบนี้มานานนับหมื่นปีได้หรือ?”
ชีอ้าวชวางแทบจะสำลักออกมา หลายหมื่นปี? เป็นเวลาหลายหมื่นปีแล้วที่ซิสทัลถูกเทพีแห่งแสงกดดันและคอยปราบ ไม่แปลกใจเลยที่เขามีความแค้นอย่างมาก ไม่แปลกใจที่เขามีความเกลียดชังอย่างสุดซึ้งต่อเทพีแห่งแสง และไม่แปลกใจที่เขาเยาะเย้ยมาริลิน
ที่แท้นี่คือฝ่ายที่ถูกกดมาตลอดนับหมื่นปีมิน่าเล่า มิน่าเล่า…
ชีอ้าวชวางมองการแสดงออกของซิสทัลด้วยความเห็นใจ เด็กที่น่าสงสาร…
ซิสทัลมองชีอ้าวชวางอย่างดุร้ายโดยไม่สนใจความเห็นใจของนาง
“อย่ามองข้าแบบนั้น ไม่ใช่ข้าเสียหน่อยที่รังแกท่านมาหลายหมื่นปี” ชีอ้าวชวางยิ้มหยอกและพูด “ข้ามาที่นี่เพื่อเปลี่ยนแปลงสถานการณ์นี้ กุญแจสำคัญในการเปลี่ยนแปลงสถานการณ์นี้คือเทพีแห่งแสงที่แท้จริง…มาริลิน”
“อะไรนะ?!” ซิสทัลขมวดคิ้วและร้องออกมา “นางตกมาถึงจุดนี้แล้วนางจะเปลี่ยนอะไรได้?”
ใบหน้าของมาริลินซีดลงและน่าสงสารมาก ความเชื่อมั่นและศักดิ์ศรีของนางเกือบจะถูกทำลายเพราะซิสทัล
“อย่าพูดอย่างนั้นสิ” ชีอ้าวชวางพูดช้าๆ แล้วกระซิบกับมาริลิน “ไม่ต้องถือสาหรอก ผู้ชายคนนี้ก็นิสัยไม่ดีเช่นนี้แหละ”
มาริลินพยักหน้าอย่างน่าสงสาร นางไม่กล้าพูดอีกต่อไปเพราะกลัวว่ามันจะมาถึงตัวของนางอีก หัวใจที่เปราะบางของนางทนต่อการทำลายครั้งแล้วครั้งเล่าไม่ได้อีกต่อไป
“แสดงสัญลักษณ์สถานะของเจ้าให้พวกเขาดูสิ” ชีอ้าวชวางพยักหน้าให้มาริลิน
มาริลินแสดงคริสตัลหลากสีบนหน้าผากของนางทันที
“สิ่งนี้จะทำอะไรได้?” ซิสทัลเห็นอย่างชัดเจน นั่นเป็นสมบัติที่เทพีแห่งแสงใช้เพื่อดูดซับพลังแห่งศรัทธาและยังเป็นสัญลักษณ์สถานะของเทพีแห่งแสงอีกด้วย แต่จำนวนผู้ศรัทธาเทพีแห่งแสงในโลกมนุษย์ลดลงอย่างมาก และพลังของเทพีแห่งแสงก็อ่อนแอลงมากเช่นกัน สิ่งนี้จะทำอะไรได้ล่ะ? เทพีแห่งแสงที่อ่อนแอเช่นนี้น่ะหรือที่ต้องการจะหยุดสงครามศักดิ์สิทธิ์ ความฝันหรือไง?
“นางเป็นเทพีแห่งแสงที่แท้จริง” ชีอ้าวชวางพูดอย่างมีความหมาย “เทพีแห่งแสงที่แท้จริงคือผู้ที่มีสัญลักษณ์นี้ นางนี่แหละที่เป็นเจ้านายที่แท้จริงของศาลแห่งแสง…”
“ความหมายของเจ้า?!” ซิสทัลเป็นคนร้ายกาจ หลังจากที่คิดดูเขาก็เข้าใจแผนของชีอ้าวชวางแล้วก็รู้สึกตื่นเต้น เรื่องใหญ่ขนาดนี้เลยหรือ? เจ้าวางแผนที่จะทำสิ่งนี้จริงๆ หรือ?
“เจ้าเป็นคนฉลาด และมาริลินก็เป็นคนฉลาดเช่นกัน” ชีอ้าวชวางจิบชากุหลาบและมองซิสทัลด้วยรอยยิ้ม
ซิสทัลลูบคางของเขาและมองมาริลินแต่ไม่ได้พูดอะไรราวกับว่าเข้ากำลังครุ่นคิดอยู่