บทที่ 248

จ้านอู่ฉางตกใจมากจนขนลุกซู่ เลิกสนใจภาพลักษณ์ของตัวเอง รีบกลิ้งร่างไปบนพื้น ก่อนจะเคลื่อนตัวไปหยุดอยู่ตรงหน้าหยวนยู่

เมื่อทุกอย่างกลายเป็นแบบนี้ จ้านอู่ฉางก็ถือได้ว่าเข้าตาจนแล้ว ด้วยเขาถูกบังคับให้ล่าถอยอย่างต่อเนื่อง จากการโจมตีของร่างเงาและหยวนยู่ ทว่าในช่วงเวลาวิกฤตนี้เอง ที่จ้านอู่ตี้และทหารหนิงกว่าหมื่นนายเข้ามาช่วยทันเวลาพอดี !

หลังจากเห็นภาพตรงหน้า จ้านอู่ตี้ก็ตะโกนขึ้นทันที “นั่นเจ้าคิดจะทำอะไรกับพี่ใหญ่ของข้ากัน !” ว่าแล้วเขาก็พลันใช้ด้ามดาบทุบไปยังก้นของม้า พร้อม ๆ กันกับที่ใช้ออกด้วยวิชาหนามปราณ ! ไปยังร่างเงาและหยวนยู่

ซึ่งมันก็มีหนามจำนวนนับไม่ถ้วนที่ก่อตัวขึ้นจากพลังปราณที่ควบแน่นนั่น จนทำให้การป้องกันเป็นเรื่องยากยิ่ง !

…หากทว่าในจังหวะนั้นเอง จู่ ๆ หยวนยู่ก็ทำการเกร็งแขนทั้งสองข้าง จากนั้นจึงกวัดแกว่งดาบทั้งสองเล่มไปมา จนทำให้เกิดลมกระโชกแรงเป่าหนามปราณออกไปในพลัน !

“น่าสนใจดีนี่ ! จ้านอู่ตี้ใช่ไหม ถ้าอยากตายนักก็เข้ามาเลย !” หยวนยู่รั้งดาบของเขา เงยหน้าขึ้นมองไปที่จ้านอู่ตี้ที่กำลังพุ่งเข้ามา ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา

จ้านอู่ตี้รู้ได้ในทันทีว่าร่างเงาของถังหยินและหยวนยู่นั้นทรงพลังเพียงใด ทว่าตัวเขาเองก็ไม่เคยคิดจะใช้เพียงหนามปราณเพื่อทำร้ายศัตรูแต่อย่างใด ด้วยนี่เป็นเพียงแค่การดึงความสนใจ และปกป้องผู้เป็นพี่จากเงื้อมือของอีกฝ่ายก็เท่านั้น !

ระหว่างที่จ้านอู่ตี้กำลังวิ่งไป ทันใดนั้นร่างสีดำ 4 ร่างก็พลันปรากฏกายขึ้นด้านหน้าและด้านหลังของเขา ซึ่งคนเหล่านี้ก็ล้วนแล้วแต่สวมชุดดำกับถือมีดปราณที่มีสีเดียวกันอยู่ในมือ

จ้านอู่ตี้ตกใจกับภาพตรงหน้า ทว่ามันก็สายเกินไปที่จะหยุดการโจมตีในตอนนี้ ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงกระโดดขึ้นไปในอากาศ

…ในขณะที่เขากำลังจะกระโดดนั่นเอง มีดปราณ 4 เล่มก็ได้พุ่งเข้าใส่ม้าศึกของเขา จนทำให้ร่างของมันกลายเป็นชิ้น ๆ!

จ้านอู่ตี้ร่อนลงมาจากท้องฟ้า เช่นเดียวกับปากที่ร้องถามไปด้วยว่า “นั่นใคร ?”

“คนที่หวังจะฆ่าเจ้ายังไงเล่า !” หลังสิ้นเสียง ร่างของพวกเขาทั้งสี่ก็พลันหายไปในเวลาเดียวกัน และเมื่อปรากฏตัวอีกครั้ง พวกเขาก็เข้ามาใกล้จ้านอู่ตี้ พร้อมกับมีดปราณจากทุกทิศทาง โดยเน้นไปที่จุดตายทั่วร่าง !

ที่แท้คนพวกนี้ก็คือร่างเงาของผู้ใช้ศาสตร์มือ !

ฉั่ว ! ฉั่ว ! เสียงการโจมตีดังขึ้น 2-3 ครั้ง หากแต่ทั้งหมดนั่นก็ถูกขัดขวางเอาไว้ด้วยดาบของจ้านอู่ตี้อย่างง่ายดาย !

โดยไม่หยุดให้หายใจเลยแม้แต่น้อย จ้านอู่ตี้ก็พลันกวาดดาบของเขาออกอีกครั้ง เพื่อโจมตีไปทางคู่ต่อสู้รอบ ๆ

ฟุบ ! ฟุบ ! ฟุบ ! ชายชุดดำ 3 คนตอบสนองอย่างรวดเร็วและกระโดดหนีทันที ทว่าหนึ่งในนั้นช้าไปครึ่งก้าว จนทำให้เขาโดนเข้ากับคมดาบสีม่วงที่ฟาดฟันลงมายังหน้าผาก

พร้อมเสียงดัง “ฟั่บ” ที่ทำให้คนในชุดดำถูกผ่ากลาง ร่างแยกออกเป็น 2 ส่วน

ทว่าถึงจะโดนเช่นนั้น หากแต่อีกฝ่ายก็ไม่มีเลือด หรือเศษซากของเนื้อหนังแต่อย่างใด จะมีก็เพียงอีกครึ่งร่างของคนชุดดำที่ยืนอยู่ในจุดเดิมโดยไม่ล้มลง

“ดูสิว่าจะยังยืนได้อีกไหม !!!” จ้านอู่ตี้ที่เห็นดังนั้นก็ไม่รอช้า ใส่พละกำลังทั้งหมดลงไปที่แขน แล้วจึงทำการฟาดฟันลงไป 3 ครั้ง จนร่างของอีกฝ่ายกลายเป็นชิ้น ๆ และไม่อาจคงสภาพได้อีก

…เศษชิ้นส่วนพวกนี้ไม่อาจคงตัวได้ พวกมันกลายเป็นหมอกสีดำ ก่อนจะลอยหายขึ้นไปในอากาศอย่างช้า ๆ

ผู้ใช้ศาสตร์มืดระดับสูงแตกต่างจากผู้ฝึกฝนวิชาแบบอื่น ๆ พวกเขาอาศัยการดูดซับพลังวิญญาณและลมปราณเพื่อเติมเต็มพลังของตน และแม้ว่าร่างเงาจะสลายหายไปก็ตาม หากทว่าร่างที่แท้จริงก็จะยังคงสามารถดูดซับพลังปราณได้อยู่ ซึ่งมันก็ผิดกับผู้ใช้ศาสตร์มืดระดับล่างอย่างสิ้นเชิง !

ด้วยเมื่อร่างเงาของผู้ใช้ศาสตร์มือระดับต่ำถูกทำลาย ร่างต้นที่เป็นผู้ควบคุมก็จะได้รับความเสียหายไปด้วย ซึ่งเรื่องที่ว่า มันก็กำลังเกิดกับร่างเงาของคนชุดดำที่ถูกทำลายไป เพราะคงเป็นเรื่องยากนัก ที่คนผู้นี้จะฟื้นตัวอย่างสมบูรณ์ในเวลาไม่ถึง 1 เดือน !

เมื่อเห็นร่างโคลนของสหายถูกทำลาย คนชุดดำอีก 3 คนก็พลันกำหมัดแน่นและกัดฟัน พร้อมกับส่งเสียงดังออกมา

…และโดยไม่ต้องใช้สัญญาณใด ๆ พวกเขาก็พากันพุ่งเข้าหาจ้านอู่ตี้แล้วในตอนนี้ !!!

เมื่อรู้ถึงความแตกต่างระหว่างร่างเงาตรงหน้ากับร่างเงาของถังหยิน จ้านอู่ตี้ก็ส่งเสียงอย่างเย็นชา ก่อนจะทำการรวบรวมพลังปราณทั้งหมดในร่างกายไปยังดาบสีม่วงในมือ จนทำให้คมดาบเกิดแสงที่แปลกประหลาด และโดยไม่ต้องรอให้คนชุดดำทั้งสามเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น พลังลมปราณก็ได้พุ่งเข้าหาพวกเขาแล้วในตอนนี้ !

คนชุดดำทั้ง 3 คนต่างก็ตกใจและไม่กล้าที่จะประมาท พวกเขาพากันใช้วิชาสลับเงาตามลำดับ ก่อนจะมาปรากฏตัวที่ด้านหลังของจ้านอู่ตี้โดยตรง

พวกเขาต้องการที่จะเล่นกลอุบายเดิมซ้ำ ด้วยการเข้าโจมตีจากด้านหลังต่อไป แต่ทว่าคราวนี้ จ้านอู่ตี้ได้เตรียมพร้อมไว้ก่อนแล้ว ! ทำให้ทันทีที่คนชุดดำคนหนึ่งปรากฏตัว เขาคนนั้นก็พลันถูกคว้าจับเข้าที่ลำคอ ก่อนจะตามมาด้วยแรงเหวี่ยงอันมหาศาล !

ตู้มมมม !

ร่างของคนชุดดำกระแทกกับพื้นอย่างแรง ทำให้เกิดหลุมลึก ก่อนตามมาด้วยการโจมตีครั้งถัดไปที่ตามมาติด ๆ!

ฉึก !

เป็นดาบสีม่วงในมือของจ้านอู่ตี้ที่เสือกแทงลงไปจนทะลุศีรษะของร่างเงานั่น ทำให้ร่างของอีกฝ่ายกลายเป็นหมอกสีดำ ก่อนจะจางหายไปอย่างรวดเร็ว

หลังจากสังหารร่างเงา 2 ครั้งติดต่อกัน ความแข็งแกร่งของจ้านอู่ตี้ก็ถูกเปิดเผยอย่างสมบูรณ์ ทว่าถึงจะเป็นเช่นนั้น หากแต่คนชุดดำอีก 2 คนที่เหลือกลับยังคงไม่ยอมถอย เลือกที่จะกัดฟันและเข้าขัดขวางต่อไป เพื่อป้องกันไม่ให้เขาเข้าไปช่วยจ้านอู่ฉาง !!!

ในเวลานี้จ้านอู่ฉางอยู่ในสถานะที่ยากลำบากอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ด้วยเขามีหยวนยู่คอยโจมตีจนต้องถอยหนีอยู่ตลอด เช่นเดียวกับวิชาสลับเงาของร่างเงาถังหยิน ที่ไล่ต้อนและบีบให้ตัวเขาไม่มีโอกาสได้ตั้งตัว

คมดาบของหยวนยู่กวาดเข้าหาเขาใกล้อีกครั้ง ทำให้ดวงตาของจ้านอู่ฉางเบิกกว้าง ก่อนที่เขาจะใช้กำลังทั้งหมดเพื่อก้มตัวหลบการโจมตี หากแต่เขาก็ยังคงช้าไปครึ่งก้าว ด้วยคมดาบของชายเลือดร้อนได้ตวัดเข้าใส่หมวกเกราะปราณ จนเกิดเสียงแตกหักดังขึ้น !!!

ร่างของจ้านอู่ฉางเปียกโชกไปด้วยเหงื่อเย็น ๆ พยายามคลานไปด้านข้างโดยใช้ทั้งมือและเท้าด้วยหวังว่าจะเพิ่มโอกาสรอดชีวิต

จ้านอู่ตี้ได้แต่มองไปทางพี่ใหญ่ของตนที่กำลังจะตายภายใต้คมดาบของศัตรู ก่อนที่เขาจะใช้นัยน์ตาสีแดงฉานจ้องมองไปยังคนชุดดำอีก 2 คนตรงหน้า !

…วิชาคมเขี้ยวหมาป่าเป็นวิชาที่ได้รับการพัฒนามาอย่างยาวนาน จนทำให้ความรุนแรงของมันลดลง เพื่อแลกมากับความรวดเร็วในการใช้ออก !

คนชุดดำทั้งสองไม่แม้แต่จะได้ทันรับรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ก่อนที่รอบ ๆ กายพวกเขาจะถูกปกคลุมไปด้วยกรวยแหลมจำนวนนับไม่ถ้วน และเมื่อทั้งสองคนรู้ว่าสถานการณ์วิกฤตแล้ว พวกเขาก็พยายามจะใช้วิชาสลับเงาเพื่อหลบหนี ทว่ามันก็สายไปแล้ว !!!

กรวยแหลมพวกนั้นพุ่งออกอย่างรวดเร็ว ทำให้ร่างเงาของพวกเขากลายเป็นดั่งเม่น ก่อนที่ร่างของทั้งคู่จะกลายเป็นไอหมอก และสลายหายไปในท้ายที่สุด

เมื่อเห็นว่าอีก 2 คนตายแน่แล้ว จ้านอู่ตี้ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก ก่อนที่จะรีบวิ่งไปข้างหน้าด้วยความเร็วเต็มที่ เพื่อช่วยเหลือจ้านอู่ฉางผู้เป็นพี่ชาย

การมาถึงของจ้านอู่ตี้ ทำให้ความกดดันของจ้านอู่ฉางลดลง แต่เพราะพวกเขาสองคนพี่น้องใช้พลังปราณไปมาก จึงทำให้สถานการณ์ไม่ค่อยเปลี่ยนไปมากนัก ด้วยร่างเงาของถังหยินและหยวนยู่ก็ยังคงได้เปรียบมากกว่าอยู่ดี

อีกทางด้านหนึ่ง พวกหนิงก็กำลังรับศึกหนักอยู่กับทหารม้าเกราะเบา ซึ่งมันก็วุ่นวายมากทีเดียว ด้วยพวกเขากำลังถูกบีบให้พ่ายแพ้อย่างช้า ๆ!

จ้านอู่ฉางใช้ประโยชน์จากข้อเท็จจริงที่ว่า จ้านอู่ตี้กำลังต่อสู้กับร่างเงาและหยวนยู่ เพื่อหันไปมองสถานการณ์โดยรวม ก่อนที่เขาจะต้องขมวดคิ้วแน่นกับภาพตรงหน้า นี่พวกเขากำลังจะแพ้จริง ๆ งั้นหรือ ?

ในขณะที่เขากำลังครุ่นคิด สถานการณ์ในสนามรบตรงหน้าก็พลันเปลี่ยนไปอีกครั้ง ด้วยมีพวกทหารม้าเกราะหนักฉวยเอาโอกาสนี้พุ่งเข้ามาโจมตีอีกครั้ง ! จนทำให้เกิดความโกลาหลครั้งใหญ่ ก่อนจะตามมาด้วยการล้มตายลงเป็นจำนวนมากของพวกหนิง

หากการสู้รบนี้ดำเนินต่อไปเช่นนี้ ไม่เพียงแต่พวกเขาจะไม่สามารถพลิกสถานการณ์ได้ แต่ทว่ามันยังก่อให้เกิดความเสียหายครั้งใหญ่ในแบบที่ไม่อาจย้อนคืนมาอีกด้วย ดังนั้นแล้วจ้านอู่ฉางก็พลันทำการถอนหายใจ แล้วจึงร้องตะโกนออกไปว่า “ถอนทัพ ! ทั้งหมดถอย !”

เมื่อได้ยินเสียงตะโกนของพี่ใหญ่ จ้านอู่ตี้ที่กำลังต่อสู้อย่างยากลำบากกับร่างเงาและหยวนยู่ก็พลันตัวสั่นเทา รีบกระโดดออกจากวงต่อสู้ ก่อนจะเข้าไปหาจ้านอู่ฉางและถามว่า “พี่ใหญ่ นี่เป็นช่วงเวลาที่อันตรายยิ่ง จะสั่งให้เราถอยได้อย่างไร ?”

“ไม่มีความเป็นไปได้ที่กองทัพของเราจะชนะศึกครั้งนี้ เพราะงั้นแล้วก็ไม่จำเป็นต้องต่อสู้ต่ออีก !” จ้านอู่ฉางกล่าวอย่างแผ่วเบา

“พี่ใหญ่ ??” จ้านอู่ตี้ยังคงต้องการที่จะพูดมากกว่านี้ หากแต่ร่างเงาของถังหยินและหยวนยู่ได้ปิดโอกาสนั้นไป ด้วยการใช้คลื่นพลังปราณจำนวนมากฟาดฟันเข้าใส่อย่างต่อเนื่อง !