เล่มที่ 10 บทที่ 281 บุตรสาวของเจ้าหายไปเกี่ยวอะไรกับคนอื่นด้วย

ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิต

เซียวไฉซุ่นกล่าวตำหนิ “ให้เจ้าดูแลน้องสาวดีๆ ไม่ใช่หรือ? ”

“นางเป็นเด็กผู้หญิง เล่นกับเด็กผู้หญิง ไม่ได้เล่นกับข้าเสียหน่อย” เซียวต้าจ้วงกล่าวอย่างไม่ใส่ใจ

เซียวไฉซุ่นยังจะตำหนิอีก เซี่ยยวี่หลัวขวางเขาไว้ “พี่เซียว ท่านอย่าเพิ่งตำหนิเลย จื่อเมิ่งบ้านข้าเล่นกับเสี่ยวฮวา ตอนนี้จื่อเมิ่งบ้านข้าก็ยังไม่กลับบ้าน”

หลัวไห่ฮวากระโดดด้วยขาเดียวออกมา พิงอยู่บนวงกบประตูห้องครัว พอได้ยินก็ด่าทันที “เด็กบ้านเจ้าไม่กลับบ้านจะมาบ้านข้าทำไม? หรือคิดว่าเสี่ยวฮวาบ้านข้าหลอกเซียวจื่อเมิ่งไปขาย! ”

เซียวไฉซุ่นหันกลับไปถลึงตาใส่หลัวไห่ฮวาทีหนึ่ง “ไม่พูดอะไรก็ไม่มีใครคิดว่าเจ้าเป็นใบ้”

เซี่ยยวี่หลัวรู้ว่าหลัวไห่ฮวาไม่พอใจนาง นางเองก็ไม่คิดสนใจ แต่กล่าวด้วยความร้อนใจ “หากเสี่ยวฮวาไม่กลับบ้าน นางจะไปเล่นที่ไหนบ้าง? ”

เสี่ยวฮวาเพิ่งหกขวบกว่า อายุเท่ากับเซียวจื่อเมิ่ง ตามหลักแล้วนี่ก็ใกล้ถึงเวลากินมื้อเที่ยง เด็กสองคนไม่มีทางเล่นอยู่ข้างนอก

เซียวไฉซุ่นรู้ว่าบุตรสาวตนเองเป็นคนรักสนุก เวลานี้ไม่แน่ว่าอาจไปเล่นซนอยู่ที่ไหนก็เป็นได้ จึงดูไม่วิตกกังวลเท่าไร “เสี่ยวฮวารักสนุก บางทีอาจยังเล่นอยู่ในซอกมุมไหนของหมู่บ้านก็เป็นได้”

เซี่ยยวี่หลัวไม่แน่ใจว่าเสี่ยวฮวาจะทำเช่นนั้นหรือไม่ แต่เซียวจื่อเมิ่งไม่มีทางทำเช่นนั้นแน่

เด็กคนนั้นว่าง่ายรู้ความ ไม่มีทางไม่กลับบ้านจนทำให้ผู้ใหญ่เป็นห่วง!

เซี่ยยวี่หลัววิตกยิ่งนัก “เช่นนั้นหากเสี่ยวฮวากลับมา รบกวนบอกข้าด้วยได้หรือไม่ ข้าจะลองไปตามหาในหมู่บ้านอีกครั้ง! ”

นางกล่าวจบ ก็หันขวับเดินไปทันที

นางตะโกนเรียกชื่อเซียวจื่อเมิ่งอยู่ในหมู่บ้าน เวลานี้เป็นช่วงเที่ยง เป็นเวลากินมื้อเที่ยงพอดี แต่ละบ้านต่างกำลังทำอาหารจนมีควันลอยขึ้น หมู่บ้านเงียบสงบมาก มีเพียงเสียงตะโกนของเซี่ยยวี่หลัวที่ดังก้องอยู่ในหมู่บ้าน

มีคนจำนวนไม่น้อยออกมา

เห็นเซี่ยยวี่หลัวตะโกนเรียกชื่อเซียวจื่อเมิ่งราวคนเสียสติก็มิปาน ทุกคนจึงรู้สึกตื่นตระหนก เซียวจื่อเมิ่งหายตัวไปเช่นนั้นหรือ?

เซียวจื่อเซวียนวิ่งตามเสียงมา กล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ “พี่สะใภ้ใหญ่ เสี่ยวฮวาอยู่บ้านหรือไม่ขอรับ? ”

เซี่ยยวี่หลัวส่ายหน้า นางกลัวแทบตาย แต่ก็พยายามฝืนสะกดสภาวะอารมณ์ของตัวเอง “ไม่อยู่ อย่าห่วงเลย พวกเราลองหาดูว่าพวกนางไปเล่นที่อื่นหรือไม่”

เซียวจื่อเซวียนสาวเท้าวิ่งไปทันที วิ่งไปพลางตะโกนไปพลาง

เซี่ยยวี่หลัวไม่ได้เคลื่อนไหว นางกำลังครุ่นคิดว่าเซียวจื่อเมิ่งจะไปที่ไหน

ชาวบ้านจำนวนไม่น้อยต่างออกมา ได้ยินว่าเซียวจื่อเมิ่งหายตัวไป ต่างก็ช่วยกันหา ผ่านไปครู่เดียว เสียงตะโกนเรียกก็ดังไปทั่วหมู่บ้าน

“เซียวจื่อเมิ่ง เจ้าอยู่ที่ไหน? พี่ใหญ่กับพี่สะใภ้ใหญ่กำลังหาเจ้าอยู่” ชาวบ้านจำนวนไม่น้อยต่างก็เดินวนหาบริเวณรอบบ้านตัวเอง ไม่พบใคร จึงมารวมตัวกัน แต่ละคนต่างก็ส่ายหน้ากลับมา “ไม่พบเลย! ”

“เกิดอะไรขึ้นกันแน่? เหตุใดอยู่ดีๆ จื่อเมิ่งถึงหายไปได้? ” มีคนกล่าวอย่างไม่เข้าใจ

“พวกเราหาทั่วบริเวณบ้านแล้ว แต่ก็ยังไม่พบ ยิ่งไปกว่านั้น พวกเราตะโกนเรียกเสียงดังขนาดนี้ เด็กคนนั้นไม่มีทางได้ยินแล้วไม่ขานตอบพวกเรา! ”

“ปกติก็ดูแลอย่างดีไม่ใช่หรือ? ทำไมอยู่ๆ ถึงหายไปได้เล่า? ” หญิงชาวบ้านข้างๆ เริ่มกล่าวเป็นเชิงเหน็บแนม

เซี่ยยวี่หลัวกัดริมฝีปาก ไม่ได้แก้ต่าง นางไม่มีเวลามาโต้แย้งเรื่องใครผิดใครถูก นางกำลังคิดอยู่ตลอด ว่าเซียวจื่อเมิ่งจะไปที่ไหน นางไปทำอะไร

ระหว่างที่คิดอยู่ เซียวไฉซุ่นวิ่งมาหาด้วยสีหน้าตื่นตระหนก “จนถึงตอนนี้เสี่ยวฮวาบ้านข้าก็ยังไม่กลับ! ”

ถึงแม้เสี่ยวฮวาจะรักสนุก แต่หากถึงเวลากินข้าวย่อมต้องกลับมา บ้านเขาเตรียมอาหารไว้แล้ว รอแล้วรออีกก็ยังไม่เห็นนาง ได้ยินเสียงตะโกนเรียกหาเซียวจื่อเมิ่งจากด้านนอกดังไม่หยุด เซียวไฉซุ่นก็นั่งไม่ติดแล้ว

กลุ่มคนรวมตัวกันอยู่กลางหมู่บ้าน คนที่ออกไปหาต่างกลับมาแล้ว

หมู่บ้านสกุลเซียวกว้างเพียงเท่านี้ ทุกคนหาจนทั่วทุกที่แล้ว แต่ไม่พบวี่แววของเด็กสองคน

“ไม่เห็นจื่อเมิ่ง เสี่ยวฮวาบ้านเจ้า พวกเราก็ไม่เห็นเหมือนกัน เด็กสองคนนี้จะไปที่ไหนกัน? ” มีคนเอ่ยถาม

หลัวไห่ฮวาค้ำไม้เท้าไว้ เดินขากะเผลกเข้ามาใกล้ทีละก้าว “เซี่ยยวี่หลัว นางตัวซวย เจ้าเอาลูกสาวข้าไปไว้ที่ไหน? หากเสี่ยวฮวาเป็นอะไรไป ข้าไม่มีทางปล่อยเจ้าไปแน่! ”

ตอนนี้เซี่ยยวี่หลัวไม่มีแก่ใจจะโต้เถียงกับหลัวไห่ฮวา นางกลัวมาก

กลัวแทบตาย

ยังไม่พูดถึงเรื่องที่เซียวยวี่ไม่มีทางปล่อยนางไป นางชอบเด็กคนนี้มาก หากเด็กหายตัวไป นางคงไม่อาจให้อภัยตัวเองไปชั่วชีวิต

ไม่เกี่ยวข้องกับความแค้นเคืองของเซียวยวี่แม้แต่น้อย!

หลัวไห่ฮวายังก่นด่าไม่เลิก เซียวไฉซุ่นรู้สึกไม่พอใจ จึงหันไปตะคอกใส่หลัวไห่ฮวา “เกี่ยวอะไรกับนางด้วย จื่อเมิ่งก็หายไปเหมือนกัน ตอนนี้หาเด็กให้พบถึงจะสำคัญที่สุด! ”

หลัวไห่ฮวาก็ตะคอกกลับ “ต้องเป็นเซียวจื่อเมิ่งที่พาเสี่ยวฮวาของพวกเราไปแน่! ไม่โทษนางจะโทษใคร! ”

เซียวไฉซุ่นโมโหจนหัวเราะออกมา “เสี่ยวฮวาของเจ้าเป็นเด็กอย่างไร จื่อเมิ่งเป็นเด็กอย่างไร จื่อเมิ่งพาเสี่ยวฮวาไป? ทำไมเจ้าถึงไม่บอกว่าลูกสาวเจ้าขึ้นสวรรค์ได้เล่า? ”

หลัวไห่ฮวา “เจ้าที่เป็นพ่อของลูกเป็นอะไรไป ตอนนี้คนที่หายไปคือลูกสาวเจ้า! ”

“หายไปเป็นเรื่องหนึ่ง เกี่ยวกับนางหรือไม่เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ลูกสาวของเราอุปนิสัยเป็นอย่างไรพวกเรารู้ดีแก่ใจ จื่อเมิ่งเห็นเสี่ยวฮวาไม่หลบหน้าก็ถือว่าไม่เลวแล้ว เจ้าอย่าเอาแต่โยนความผิดให้คนอื่น! ” เซียวไฉซุ่นเป็นคนมีเหตุผลไม่ลำเอียง

หลัวไห่ฮวาโมโหเสียยิ่งกว่าอะไร คิดจะก่นด่าอีก เซียวไฉซุ่นปราดสายตามองไป หลัวไห่ฮวาไม่กล้ากล่าวอะไรอีก ได้แต่ถลึงตาใส่เซี่ยยวี่หลัวด้วยความเคียดแค้น

เซี่ยยวี่หลัวไม่ได้สนใจหลัวไห่ฮวา ยุคสมัยนี้มีพวกค้ามนุษย์ที่เหิมเกริมหลอกเด็กไปขาย นางรู้สึกขนหัวลุก

“พี่เซียว บางทีเด็กสองคนอาจไปเล่นค่อนข้างไกล บางทีอาจเล่นเพลินเกินไปจึงไม่ได้ยิน ให้จื่อเซวียนพาคนกลุ่มหนึ่งตามหาในหมู่บ้านต่อ อีกกลุ่มหนึ่งออกไปหานอกหมู่บ้าน ต้องหาโดยละเอียด ยังมีริมแม่น้ำและในผืนป่า ล้วนต้องหา”

หลัวซื่อหันขวับ “ทำไมข้าต้องฟังเจ้า? ทำไมต้องช่วยเจ้าหา? ลูกสาวข้า ข้าจะไปหาเอง”

เซียวไฉซุ่นจับไหล่นางก่อนดึงมา กล่าวด้วยน้ำเสียงหยาบกระด้าง “เจ้ากลับบ้านไปเสีย! ที่นี่ไม่มีธุระของเจ้า! ”

เดิมทีขาก็หักอยู่แล้ว เดินขากะเผลกช่วยอะไรไม่ได้ ยังจะสร้างความวุ่นวายที่นี่อีก

หลัวซื่อยังคิดจะด่า เซียวไฉซุ่นตะคอกเสียงดัง “หุบปาก! ”

เซียวไฉซุ่นโมโหแล้วจริงๆ เด็กหายตัวไป ต้องหาเด็กให้พบเป็นอันดับแรก

หลัวไห่ฮวาตัวสั่น ไม่กล้ากล่าวอะไรอีก กลับยังถลึงตาใส่เซี่ยยวี่หลัวพร้อมกล่าวด้วยท่าทางดุดัน “หากลูกสาวข้าเป็นอะไรไป ข้าจะสู้ตายกับเจ้า! ”

กล่าวจบ ก็เดินขากะเผลกกลับไป เมื่อไม่มีหลัวไห่ฮวาคอยก่อความวุ่นวาย เซียวไฉซุ่นจึงหันมองเซี่ยยวี่หลัว เบิกตากว้างจนดูกลมโต “เช่นนั้นหากหาในหมู่บ้านไม่พบเล่า! ”

เซี่ยยวี่หลัวเองก็ไม่รู้ “พี่เซียว พวกเราหาตามเส้นทางใหญ่เข้าไปในตัวเมือง! ”

“ไปหาที่ไหน? เด็กหายไปจากหมู่บ้าน จะไปหาข้างนอกทำไม! ” เซียวไฉซุ่นกล่าวพลางขมวดคิ้ว

กล่าวตามจริง เมื่อครู่เขาเองก็ไม่รู้ว่าเป็นอะไร เซี่ยยวี่หลัวกล่าวอะไร เขาก็ให้ภรรยาของตัวเองทำตามที่นางบอก

“เด็กสองคนหายตัวไป ยังมีความเป็นไปได้อีกอย่างหนึ่ง นั่นคือ… ถูกพวกค้ามนุษย์จับตัวไป”