ตอนที่ 216 ฉินหงเหยียนล้างแค้นเย่เฉิน

เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?)

ฉินหงเหยียนเคยสัญญากับเขาว่าจะปิดบังอะไรกับเขา

แต่ไม่ได้แปลว่าหล่อนจะบอกเขาทุกเรื่อง

เรื่องที่เหอเหวินเจี้ยนชอบหล่อน ฉินหงเหยียนไม่ได้พูด หญิงสาวไม่ได้จงใจจะปิดบังแต่ไม่อยากพูดให้เย่เฉินต้องระคายหู

ผู้ชายที่ชอบเจ้าหล่อนมีมากมาย มนุษย์เพศชายที่อยู่กับหญิงสาวไม่ว่าจะประสบความสำเร็จหรือไม่คาดว่าน่าจะชอบหล่อนแทบทุกคน

ถ้าหากว่าฉินหงเหยียนรู้ว่ามีผู้ชายสักคนชอบตนเองแล้วก็บอกแฟนหนุ่ม คิดว่าเย่เฉินคงมีเรื่องให้หัวเสียทุกวัน

ดังนั้นเจ้าหล่อนจึงไม่ได้พูดเรื่องที่เหอเหวินเจี้ยนชอบหล่อน แต่ในเมื่อตอนนี้เย่เฉินสังเกตเห็นแล้วเป็นฝ่ายเอ่ยปากถาม ฉินหงเหยียนย่อมไม่ปฏิเสธ

ถ้าหากเป็นผู้หญิงสารเลวอย่างหวังเจียเหยาคาดว่าคงจะตอบว่า “แหมที่รัก จะเป็นไปได้ยังไง นายคิดมากไปแล้ว พวกเราเป็นแค่เพื่อนร่วมงานธรรมดาๆ”

ส่วนฉินหงเหยียนกลับถามเย่เฉินอย่างตั้งอกตั้งใจ “เขาเคยสารภาพรักกับฉันจริงๆ ค่ะ แต่ว่าฉันปฏิเสธเขาไปอย่างชัดเจนแล้วแล้วก็บอกเขาแล้วว่าระหว่างฉันกับเขามันเป็นไปไม่ได้ ฉันเองก็ไม่อยากจะไปทำงานร่วมกับเขา แต่ว่าเขาทำงานที่ไป๋ลี่มานาน ถือว่าเป็นพนักงานเก่าแก่ ตอนนี้ถึงแม้ว่าฉันจะเป็นประธานบริษัท แต่เกรงว่าก็ยังไม่สามารถไล่เขาออกได้ถามอำเภอใจ

ที่รัก คุณไม่สบายใจเหรอคะที่ฉันไปทำงานต่างจังหวัดกับเหอเหวินเจี้ยน?”

เย่เฉินยิ้มขณะลูบเรือนผมของแฟนสาว “จะเป็นไปได้ยังไงล่ะครับ ผมเชื่อใจคุณอยู่แล้วครับ ผมเคยเจอตาแก่เหอเหวินเจี้ยน หน้าตาเขาก็อัปลักษณ์ แก่ด้วย เงินก็ไม่ได้มีเท่าไหร่ ถ้าหากว่าคุณอยากจะได้แฟนแก่ คงจะเลือกสวี่ฉู่หมิงไปแล้ว ไม่มีทางเลือกเขาแน่ๆ”

คนที่สามารถทำให้เย่เฉินหวั่นใจได้มีแค่ตาแก่สวี่ฉู่หมิงเท่านั้น คนอย่างเหอเหวินเจี้ยนไม่คู่ควร

สวี่ฉู่หมิงเองก็กำลังตามจีบหญิงสาวใหม่อีกครั้ง ส่วนเหอเหวินเจี้ยนเองด้อยกว่าอีกฝ่ายในทุกด้าน

ดังนั้นถ้าหากว่าฉินหงเหยียนอยากจะหาผู้ชายที่ร่ำรวยและมีสถานะในสังคม หล่อนคงจะเลือกสวี่ฉู่หมิงไม่เลือกเหอเหวินเจี้ยน

ฉินหงเหยียนระบายยิ้ม “ขอบคุณนะคะที่รักที่คุณเชื่อฉัน!”

ในระหว่างคนรักและสามีภรรยา สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือต้องเชื่อใจกันและกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคู่รักที่มักจะต้องแยกกันหรือไปทำงานต่างจังหวัดบ่อยๆ

แน่นอนว่าก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าคู่รักจำนวนมากที่มักจะมีปัญหากันเมื่อแยกกันอยู่ การระแวดระวังที่ควรต้องมีนั้นถือเป็นสิ่งจำเป็น

……

แล้วเวลาสองวันก็ผ่านไป

ตอนบ่ายวันนี้ เย่เฉินที่อยู่ในตึกขนาดใหญ่กำลังอบรมผู้หญิงกลุ่มหนึ่งจากแอลเบเนีย

แอลเบเนียเป็นประเทศเล็กๆ ในยุโรป ประเทศนี้จนมากเสียด้วย ถูกขนานนามว่าเป็นขอทานแห่งยุโรป

แต่ว่าผู้หญิงหน้าตาสะสวยในประเทศนี้มีจำนวนมาก อีกทั้งยังเป็นพวกหุ่นดีขายาวเสียด้วย

ในบรรดาผู้หญิงพวกนี้ ตอนนี้ยังมีคนใช้ Iphone4 อยู่เลย บางคนถึงขนาดที่ว่าหลังจากมาที่นี่ พวกหล่อนถึงได้รู้จักอะไรสักอินและ Tiktok ต่างก็ตกหลุมรักเจ้าแอพพลิเคชันตัวนี้อย่างรวดเร็ว

พวกหล่อนมีใบหน้าสะสวย แต่กลับไม่มีมาตรฐานชีวิตที่ดี

ผู้ชายในประเทศนี้มีเงินเดือนประมาณ 5000 หยวน ต่อให้ไม่มีบ้านพวกหล่อนก็ยอมแต่งงานกับเขา

ถ้าหากว่ามีบ้านและรถแล้วเลือกจะแต่งงานกับพวกหล่อน พวกหล่อนคงรู้สึกว่าเป็นเรื่องเหลือเชื่อ และคงรู้สึกซาบซึ้งอย่างมากไม่เหมือนผู้หญิงที่นี่ที่จะรู้สึกว่าเป็นเรื่องที่สมควรจะเกิดขึ้น

ในตอนที่เย่เฉินกำลังคอยดูการอบรมนั้นเอง จู่ๆ มือถือของเขาก็ได้รับข้อความบางอย่าง

เป็นข้อความจากเบอร์ที่เขาไม่รู้จัก เนื้อความว่า

“นายคือแฟนของฉินหงเหยียนประธานไป๋ลี่ใช่ไหม? เหอะๆ ฉันเพิ่งเห็นแฟนนายไปเปิดห้องกับผู้ชายคนอื่น ถ้าไม่เชื่อก็ลองโทรหาฉินหงเหยียนดูได้”

เย่เฉินดูข้อความเสร็จแล้ว ในวินาทีนั้นในใจก็ไม่พอใจอย่างมาก

“เชี่ย ไอ้คนสารเลวคนไหนเป็นคนส่งมา! หรือว่าเป็นฝีมือหลิ่วอวี่เจ๋อ?”

เย่เฉินไม่เชื่อเนื้อหาในข้อความ แต่ก็เหมือนว่าเขาไม่เคยล่วงเกินใครในเทียนไห่มาก่อน

ตอนนี้ผู้ชายที่เกลียดชังเขาก็มีแค่สองคน คนหนึ่งคือหลิ่วอวี่เจ๋อ อีกคนก็คือสวี่ฉู่หมิงสวี่ฉู่หมิงเป็นถึงประธานบริษัทมูลค่าแสนล้าน อายุก็ปาเข้าไปห้าสิบกว่าปี เขาไม่มีทางทำเรื่องปัญญาอ่อนแบบนี้แน่

แต่เป็นไปได้อย่างมากว่าจะเป็นหลิ่วอวี่เจ๋อ แต่เขาก็เคยรับปากแล้วว่าจะสงบศึกกับเย่เฉินเป็นการชั่วคราว แล้วไม่หาเรื่องเขากับฉินหงเหยียนอีก

“หรือจะบอกว่าเพราะช่วงนี้ชุนเฟิงเอ็กซ์เพรสเป็นรองไป๋ลี่อย่างหนัก ดังนั้นเขาถึงทนไม่ไหวแล้วเหรอ?”

มีความเป็นไปได้ แต่จากด้วยความเข้าใจที่เย่เฉินมีกับหลิ่วอวี่เจ๋อ เขาก็รู้สึกว่าอีกฝ่ายไม่น่าทำแบบนี้

ถ้าหากว่าไม่ใช่พวกเขาสองคนแล้ว ข่าวสารนี้ก็อาจจะเป็นเรื่องจริงก็ได้!

ตอนนี้เป็นเวลาทำงาน เขาถึงได้ส่งข้อความหาฉินหงเหยียน “ทำอะไรอยู่ครับ?”

ฉินหงเหยียนตอนนี้ยังอยู่ที่เซิ่งหยาง ตอนที่ทั้งสองคนโทรวีดีโอคอลกันเมื่อวาน หล่อนบอกว่าจะต้องรออีกสองวัน

แต่ห้านาทีผ่านไปก็ยังไม่มีการตอบกลับจากหญิงสาว

เย่เฉินเริ่มร้อนใจขึ้นมาแล้ว

ไม่ว่าผู้ชายคนไหนได้รับข้อความแบบนี้ก็ต้องกระวนกระวายใจกันทั้งนั้น

สิบนาทีผ่านไป หญิงสาวก็ยังไม่ตอบเขา

เย่เฉินเริ่มลนลาน!

เขาเริ่มทนไม่ไหว จึงอยากจะโทรศัพท์เพื่อยืนยันสักหน่อย

เพราะตอนนี้เป็นเวลาทำงาน เขาจึงไม่กดวีดีโอคอลไปหาอีกฝ่ายทันที หากว่าหล่อนกำลังประชุมหรือว่ากำลังคุยงานกับคู่ค้าที่สำคัญอยู่ก็จะเสียมารยาทอย่างมากทีเดียว

โทรศัพท์ดังขึ้นอีกนาน ฉินหงเหยียนก็รับสายเสียที

เย่เฉินดีใจ ขอแค่ฉินหงเหยียนรับสาย ก็จะแปลว่าเนื้อหาในข้อความนั้นเป็นเรื่องโกหก

“แฮ่ก…แฮ่ก… ฮัลโหล ที่รัก มีอะไรคะ?”

หลังจากฉินหงเหยียนรับสาย ตอนพูดจากับหอบหายใจอย่างหนัก

เย่เฉินมีความคิดที่ไม่ดีทันที หรือว่า…

“อ้อ หงเหยียน คุณ…กำลังทำอะไร? ทำไมถึงได้หายใจหอบแรงแบบนั้นล่ะ?” เย่เฉินถาม

ฉินหงเหยียนตอบ “อ้อ…ฉันกำลัง… วิ่งบนลู่อยู่ค่ะ เร็วมากเลย”

เย่เฉินเอาโทรศัพท์แนบหู แล้วพยายามจะฟังเสียงพื้นหลังในปลายสาย ก็ได้ยินเสียงที่เป็นระบบบางอย่าง แต่ก็ยากจะตัดสินได้ว่าใช่เสียงลู่วิ่งหรือไม่

เย่เฉินเองก็รู้ว่าแฟนสาวของตนเองชอบออกกำลังกาย หล่อนเป็นหญิงสาวอายุ 30 ปี ยังสามารถรักษาหุ่นได้ขนาดนี้ ถ้าไม่ออกกำลังกายเป็ปนระจำไม่มีทางทำได้

โดยเฉพาะอย่างยิ่งตั้งแต่มีแฟนเด็กอย่างเขา ฉินหงเหยียนก็ยิ่งออกกำลังกายบ่อยขึ้น

“อ่อ ผมไม่มีอะไร ก็แค่คิดถึงคุณเลยโทรหา คุณวิ่งต่อเถอะ ดึกๆ เราค่อยคุยกัน”

จนในที่สุดเขาก็วางใจ

แต่ว่าในตอนกำลังจะวางสาย ทันใดนั้นเองได้ยินเสียงกรีดร้องของหญิงสาว!

จากนั้นก็ได้ยินเสียงตะโกนของหล่อน “เหอเหวินเจี้ยนคุณจะทำอะไรน่ะ?”

“ฮัลโหล? หงเหยียนเป็นอะไรไป?”

เย่เฉินถามอย่างรวดเร็ว

แต่ในตอนนั้นเองโทรศัพท์ก็ตัดสายไป!

“วางสายไปแล้วเหรอ? ทำไมถึงวางสายไปแล้วล่ะ?”

ใบหน้าเย่เฉินดำคล้ำ เขาเริ่มมีความคิดไม่ดีขึ้นมา!

หรือว่าฉินหงเหยียนกับเหอเหวินเจี้ยนจะ…

แต่นี่มันไม่สมเหตุสมผล ทำไมฉินหงเหยียนต้องทำแบบนี้ด้วย?

เหอเหวินเจี้ยนนั้นด้อยกว่าสวี่ฉู่หมิงในทุกด้าน ต่อให้หญิงสาวจะทิ้งเย่เฉินไปเลือกผู้ชายที่โตกว่า ก็ควรจะเลือกสวี่ฉู่หมิงสิ!

และในเวลานี้เอง จู่ๆ หวังเจียเหยาก็ส่งข้อความมา “เย่เฉิน คุณทำอะไรเหรอ? ได้ยินมาว่าฉินหงเหยียนไปทำงานต่างจังหวัดนี่? ออกมาจิบชาด้วยกันไหม?”

เย่เฉินเห็นชื่อหวังเจียเหยาเขาก็เกิดหวาดกลัวขึ้นมาจับใจใ!

“หรือว่า… หวังเจียเหยาบอกฉินหงเหยียนเรื่องคืนนั้น? ดังนั้นหงเหยียนถึงได้ล้างแค้นเขา!”