ท่าทางของลิลี่ดูจะไม่สบอารมณ์นัก คิ้วของเธอเป็นรูปจันทร์เสี้ยว มากกว่าสัปดาห์แล้วที่เธอไม่เห็นแดร์ริลเลย เขาไม่กลับมาบ้านหรือแม้แต่โทรกลับมา มีบางครั้งที่ลิลี่พยายามจะโทรหาเขา แต่เธอก็นึกขึ้นได้ว่าเกิดอะไรขึ้นที่วอร์ด
‘ทำไมเขาถึงเป็นคนอีโก้สูงแบบนี้? นี่เราต้องโทรหาเขาก่อนจริงเหรอ? อา ช่างมัน ปล่อยเขาไปเลย!’ เธอคิดในขณะที่เดินเข้าล้อบบี้
เมื่อเข้ามาถึงล็อบบี้ เธอก็รู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ปกติ ปกติพนักงานที่โต๊ะประชาสัมพันธ์จะยืนขึ้นทำความเคารพเธอ แต่วันนี้พวกเขากลับนั่งคุยกันต่อทั้ง ๆ ที่เห็นเธอแล้ว
ลิลี่ขมวดคิ้วด้วยความสับสน หรือบางทีพวกเธออาจจะมีสุดสัปดาห์ที่ยากลำบาก? มันเป็นแค่ความผิดพลาดเล็กน้อย เธอจึงมองช้ามมันไปแล้วเดินไปที่ออฟฟิศของเธอต่อ ยังไงก็ตาม ระหว่างทางที่เธอเดิน เธอเห็นพนักงานบางคนพูดคุยกัน และบางคนก็ถึงขนาดเล่นเกมในมือถือ วันทำงานเริ่มแล้วนะ! สิ่งที่รบกวนใจเธอมากกว่านั้น คือคนพวกนั้นเมินเธอโดยสิ้นเชิง พวกเขาทำเหมือนเธอเป็นอากาศธาตุ! ไม่เขาไม่แม้แต่จะทักทายหรือปฏิบัติตัวอย่างเหมาะสมต่อหน้าผู้อำนวยการบอร์ดบริหาร
“นี่ พวกเธอ! วางมือถือลงซะ! ใครอนุญาตให้พวกเธอเล่นมือถือในเวลาทำงาน?” ลิลี่เดินจ้ำเข้ามาดุ
เหล่าพนักงานดูจะไม่สนใจ พวกเขามองหน้ากัน ดูไม่ได้ใส่ใจเลยสักนิด แล้วก็เล่นมือถือต่อ พวกเขาไม่สนใจลิลี่ ในขณะเดียวกัน พนักงานคนอื่นรอบ ๆ พวกเขาก็เริ่มหัวเราะคิกคัก
‘เกิดอะไรขึ้น? ทำไมพวกเขาไม่กลัวหัวหน้า?’ ลิลี่คิด
“เฮ้ พวกเธอทุกคน! เก็บของแล้วออกไปเดี๋ยวนี้! เราไม่ต้องการพนักงานแบบพวกเธอที่นี่” ลิลี่สั่ง เธอตัวสั่นด้วยความโกรธ
ในขณะเดียวกัน ผู้ช่วยของเธอเดนิมาหาด้วยความเร่งรีบด้วยความกระวนกระวายและไม่สบายใจบนสีหน้า
“ท่านประธานลินดัน มีบางอย่างเกิดขึ้น…” เธอกล่าว
‘มียางอย่างเกิดขึ้น?’ ลิลี่สงสัย
“อะไรเหรอ? ใครมอบสิทธิ์ให้พวกเขาไม่เชื่อฟังคำสั่งของประธาน? เฮ้! ได้ยินที่ฉันพูดไหม? เก็บของเดี๋ยวนี้เพราะพวกเธอถูกไล่ออกแล้ว!” ลิลี่ตอบอย่างใจเย็น
ในตอนนั้นเอง เสียงแหบแห้งก็ดังออกมาจากประตู “ฉันบอกพวกเขาเอง”
คุณย่าลินดันเข้ามาในออฟฟิศอย่างเชื่องช้า โดยมีวิลเลียมและคนอื่นเป็นผู้ช่วยเหลือ
‘คุณย่ามาทำอะไรที่นี่? เท่าที่จำได้ คุณย่าไม่เคยออกจากคฤหาสน์นี่? แล้วเธอมาทำอะไรที่นี่วันนี้กัน?’ ลิลี่สงสัย
“ลิลี่ หยุดสร้างเรื่องได้แล้ว ฉันบอกให้พวกเขาหยุดพักเอง หลังจากพวกเราประชุมบอร์ดบริหารกันก่อนหน้านี้ เราได้ตัดสินให้ปลดเธอออกจากการเป็นประธานบอร์ดบริหาร” คุณย่ากล่าวอย่างเมินเฉย น้ำเสียงไม่เหมือนกับตอนที่เธอพยายามชักชวนให้ลิลี่มอบหุ้นให้เธอเลยสักนิด
น้ำเสียงนี้ฟังดูดุดันอย่างมาก
ร่างกายของเธอสั่นไปถึงกระดูก ลิลี่ถาม พร้อมกัดริมฝีปาก “คุณย่า ทำไมกันคะ?”
“ทำไม? นี่เธอถามจริง ๆ เหรอว่าทำไม?” วิลเลียมเดินไปข้างหน้าด้วยรอยยิ้มเย็นชา “เธอยังไม่พอใจอีกรึไงที่ได้เป็นประธานตั้งหลายวัน? เธอกุมอำนาจมานานพอแล้ว ถึงเวลาที่มันจะต้องถูกริบคืนสักที!”
ไม่กี่วันที่ผ่านมา วิลเลียมพูดใส่ร้ายลิลี่กับคุณย่าตลอด ในเมื่อเขาเป็นหลานคนโปรดของเธอ คุณย่าจึงถูกชักจูงอย่างง่ายดายและเริ่มดูหมิ่นลิลี่ภายใต้อิทธิพลของวิลเลียม
“คุณย่าคะ!” ลิลี่เก็บความโกรธไว้แล้วสูดหายใจ “ไม่กี่วันก่อน คุณย่าอยากได้หุ้นของหนู หนูก็ให้ย่า 20% พวกมันถูกระบุชัดเจนในสัญญา หนูยังมี 30% ในหุ้นบริษัท คุณย่าจะไล่หนูออกได้ยังไงคะ? ย่าไม่มีสิทธิื!”
ถึงแม้ว่าเธอจะมีหุ้นที่เหลือเพียง 30% เธอก็ยังคงเป็นบุคคลที่มีหุ้นมากที่สุดในตระกูลลินดัน ใครจะไล่เธออกได้?
“ดูสัญญาเองแล้วกัน!” วิลเลียมฟาดเอกสารลงบนโต๊ะ “มันบอกชัดเจนว่าเรามีอำนาจในการไล่เธอออก”
สัญญาบอกไว้อย่างชัดเจนว่าลิลี่มอบหุ้นทั้งหมดของเธอให้โดยสมัครใจ!
ไม่กี่วันก่อน คุณย่าได้ขอหุ้นบางส่วนของลิลี่ และลิลี่ก็เซ็นมันโดยที่ไม่ได้อ่านให้ครบถ้วน เธอไม่คิดว่าคุณย่าจะเล่นสกปรกกับเธอ
“เก็บของแล้วออกไปได้แล้ว!” วิลเลียมกล่าวอย่างหมดความอดทน
ในขณะเดียวกัน ลิลี่หัวใจสลายและผิดหวังอย่างที่สุด เธอทำงานหนักเพื่อตระกูลมาหลายปี แต่เธอกลับไม่ได้รับคำชื่นชมและถูกไล่ออกเป็นการตอบแทน
“คุณย่า…” ลิลี่กล่าวอย่างช่วยไม่ได้
“หนูน้อยลิลี่” คุณย่ายืนขึ้น ด้วยความช่วยเหลือจากไม้เท้าของเธอ “วิลเลียมพูดถูก ไม่มีใครมั่นใจให้เธอเป็นประธานบริษัท ต่อให้เธอจะทำได้ไม่ได้แย่นักและทำให้บริษัทยังคงรูปอยู่ได้ แต่เธอก็ยังเป็นแค่ผู้หญิงวันยังค่ำ เธอไม่เหมาะกับอำนาจนี้ ตอนนี้ในเมื่อเธอไม่มีหุ้นของตระกูลหลงเหลืออยู่แล้ว ไปเสีย แล้วไม่ต้องกลับมาที่เขตของลินดันอีก”