หยู่ซินรู้จักชื่อของฟางเทียน

นั่นเป็นผู้แข็งแกร่งที่แท้จริงแห่งคณะหยินหยางของพวกเขา ยอดฝีมือที่เป็นตัวแทนคณะหยินหยาง ไปแข่งขันต่อสู้จัดอันดับของสถาบัน

แต่ไม่กี่วันก่อนหน้านี้ เขาได้ยินว่าฟางเทียนโดนคนจัดการ และเป็นผู้หญิงในสถาบันที่จัดการเขา ทำให้ฟางเทียนต้องนอนบนเตียงเป็นเดือน

เรื่องนี้ วุ่นวายไปทั้งคณะหยินหยาง

ส่วนนักเรียนหญิงที่จัดการฟางเทียนคือใคร มีคนรู้น้อยมาก ฟางเทียนก็ยิ่งอับอายเป็นเท่าตัว ดังนั้นจึงปิดปากเงียบ สิ่งที่หยู่ซินรู้เพียงสิ่งเดียวคือ นักเรียนหญิงคนนี้ มัดผมหางม้า

สายตาจ้องไปที่ผมหางม้าของฮ่วนเย่ว์ หยู่ซินสีหน้าเปลี่ยนไป

ใช่เธอหรือเปล่า

ถ้าเป็นเธอจริงๆ งั้นวันนี้เขาต้องเสียเปรียบแล้ว หยู่ซินเคยเห็นสภาพที่ฟางเทียนโดนซัดจนเละ พละกำลังของเขาด้อยกว่าฟางเทียนเล็กน้อย ไม่รู้จะเอาชีวิตรอดได้ไหม นี่ยังเป็นปัญหา

เขาชอบต่อสู้ แต่ไม่ได้หมายความว่าชอบโดนรุมกระทืบ

สำหรับหยู่ซิน รอยยิ้มของฮ่วนเย่ว์เหมือนกับรอยยิ้มตอนที่หมาป่าจ้องกระต่ายตัวน้อย

หยู่ซินแอบสบถในใจ ไอ้ปัญญาอ่อนเหลิ่งหาน วันนี้ต้องซวยเพราะเขาจริงๆ

เหลิ่งหานเดินเข้ามา ปล่อยพลังปราณออกมา

“ฉันไม่ใช่คนโง่อย่างอี้ว์หวานะ ฉันจะทำให้นายรู้ว่า ภายใต้พละกำลังอย่างแท้จริง ทักษะทั้งหมดเป็นแค่สิ่งที่จับต้องไม่ได้ นักบู๊แดนปราณในไม่มีทางเป็นคู่ต่อสู้ของนักบู๊แดนปราณนอก”

พลังปราณปกคลุมร่างกาย เสื้อพลังปราณสีขาวธรรมดาๆ ที่ปกคลุมร่างกาย เทียบไม่ได้กับจ้าวคั่วที่ลู่ฝานเอาชนะมาได้

พละกำลังแบบนี้ยังกล้ามาอวดดีต่อหน้าลู่ฝาน ขนาดคนที่นั่งกินยาอยู่ข้างๆ อย่างหานเฟิง ยังเห็นจุดจบของเหลิ่งหานแล้ว หานเฟิงจิตใจหดหู่มาก เขาเพิ่งออกมาจากหอคอยฝึกฝนอย่างมีความสุข เห็นหลิงเหยาโดนจับเอาไว้จึงโมโหขึ้นมาทันที หานเฟิงพุ่งเข้าไปอย่างไม่พูดพร่ำทำเพลง แต่สุดท้าย โดนหยู่ซินกับเหลิ่งหานรุมกระทืบอย่างโหดเหี้ยม

หานเฟิงพึมพำกับตัวเอง “ถ้าไม่ใช่เพราะฉันบาดเจ็บอยู่แล้ว ไอ้สองคนนี้ จะเอาชนะฉันง่ายๆ ได้เหรอ ให้ตายเถอะ หยู่ซินเก่งกาจอยู่บ้าง แต่เหลิ่งหานเป็นแค่คนปัญญาอ่อน ระดับแค่นี้ ยังกล้าเหิมเกริมกับศิษย์น้องลู่ฝาน รนหาที่ตายแท้ๆ”

เหลิ่งหานไม่ได้ยินเสียงบ่นของหานเฟิง ยกกระบี่พุ่งเข้ามา เหลิ่งหานใช้วิชากระบี่ของตัวเอง

ลมกระบี่สังหาร!

ทันใดนั้น บริเวณรอบๆ เกิดลมพัด ตัวของเหลิ่งหานผสานกับลมเหลือเพียงแสงเงาสีขาว พุ่งไปด้านหน้า

รวดเร็วมาก กระบี่ยาวผสานเข้าไปในลม พุ่งเข้ามาตรงหน้าลู่ฝานทันที

นี่เป็นวิชากระบี่ที่เหลิ่งหานภูมิใจที่สุด ตัวเหมือนลำแสง กระบี่เหมือนสายลม

ลู่ฝานสัมผัสถึงพลังรอบๆ โจมตีเข้ามา ทั้งซ้ายและขวา ทั่วทุกทิศทาง สายลมพิฆาตใกล้เข้ามาถึงตัว

ลู่ฝานพลิกมือ สะบัดกระบี่หนัก เปลี่ยนปราณชี่เป็นพลังปราณ 20 เท่า ปลดปล่อยออกมาทันที

กระบี่หนักรวดเร็ว จนไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า

เสียงดังปัง เหลิ่งหานที่พุ่งเข้ามาฆ่าลู่ฝาน โดนกระบี่ตบจนลอยออกไป

ลู่ฝานอาศัยสัญชาตญาณ ที่ได้จากการฝึกฝนวิชากระบี่พื้นฐาน ตัดสินทิศทางที่เหลิ่งหานพุ่งเข้ามา และโจมตีกลับทันที ทำลายพลังปราณรอบตัวเหลิ่งหาน

ปัง เหลิ่งหานกระแทกลงไปบนพื้นดิน

ด้านหลังหอคอยฝึกฝน เป็นลานกว้างขนาดใหญ่ แผ่นหินสีเขียวถูกเหลิ่งหานกระแทกจนเป็นรอยยุบรูปคน

เหลิ่งหานลุกขึ้นมาทันที แววตาเต็มไปด้วยความตกตะลึง

เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น เหลิ่งหานรู้สึกเพียงพลังอันแหลมคมและแข็งแกร่ง ซัดพลังปราณบนตัวเขาจนกระจายออก

“ไร้เหตุผล เป็นไปไม่ได้ ทำไมนักบู๊แดนปราณใน ถึงมีพลังปราณแข็งแกร่งเช่นนี้”

เหลิ่งหานไม่เชื่อ และพุ่งเข้ามาอีกครั้ง กระบี่ยาวมาพร้อมแสงแสบตาหนึ่งชั้น