ให้ฉินหร่านทดสอบพลังหมัดไปทำไมกัน?
นี่หมายความว่ายังไง?
ลอเรนไม่เข้าใจการกระทำของเฉิงสุ่ย คนบนอัฒจันทร์ก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน
มีเสียงกระซิบกระซาบและเริ่มพากันทายว่าพลังหมัดของฉินหร่านจะได้เท่าไหร่
“ฉันว่าน่าจะ 890!”
“นั่นก็พอๆ กับคุณเฉิงหั่วน่ะสิ?” อีกคนหนึ่งหรี่ตาพลางคิดว่า 890 ดูจะสูงไปหน่อย
870 ก็ยังถือว่าเป็นอุปสรรคสำหรับบรรดาคนในคฤหาสน์แล้ว คนที่ได้ 870 ขึ้นไปต้องเป็นถึงพวกหัวหน้าที่มีความแข็งแกร่ง
ยิ่งคนหลังๆ ที่อยากเพิ่มความแข็งแกร่งก็ยิ่งยากขึ้นไปอีก ดังนั้น890จึงเป็นจุดสูงสุดที่คนเหล่านี้คิดได้
“ขนาดถังชิง 769 ยังโดนเธอซัดซะขนาดนั้น อย่างน้อยคุณฉินจะต้องได้ 870 ขึ้นไปไม่ใช่เหรอ?” หนุ่มผมสั้นที่นั่งข้างๆ วิเคราะห์ด้วยสติปัญญา
พลังหมัด 800 ขึ้นไปเป็นจุดตัด ถังชิง 769 ยังถูกขยี้จนเละ ดังนั้นทั้งสองจะต้องมีพลังหมัดห่างกันอย่างน้อยหนึ่งร้อยขึ้นไป
870 เป็นสถิติที่ผู้มีฝีมือขั้นสูงแห่งหน่วยยุติธรรมไม่กี่คนเท่านั้นที่ทำได้
“ฉันมีความรู้สึกว่าจากรอยแตกร้าวบนสังเวียน มันน่าจะเกินพันหรือเปล่า…” ใครบางคนพูดเบาๆ “อันที่จริงคุณเฉิงสุ่ยก็ไม่เคยทำสังเวียนอยู่ในสภาพนี้มาก่อน…”
คนอื่นต่างก็เงียบไปตามๆ กัน ไม่ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้ แต่แค่ว่าถ้าถึงหนึ่งพันจริง ก็น่ากลัวไปหน่อย…
“ฉันคิดว่ายังเฉียดๆ 900”
โดยรวมแล้วพวกเขาแบ่งกันเป็นสองฝ่าย ฝ่ายหนึ่งบอกว่าพละกำลังฉินหร่านทำได้ถึง 900 ส่วนอีกฝ่ายบอกว่าพละกำลังฉินหร่านทำได้ถึง 1000
ขณะที่คนเหล่านี้กำลังคุยกันอยู่ก็ให้ความสนใจกับฉินหร่านไปด้วย
บนอัฒจันทร์หลัก หัวหน้าหลายคนรวมถึงเจียงตงเยี่ยและคนอื่นๆ ก็กำลังคาดเดาด้วยเช่นกัน
หัวหน้าตู้มองเฉิงหั่ว กระซิบถาม “คุณเฉิงหั่ว คุณฉินเคยทดสอบพลังหมัดหรือยัง ถึง900ไหม?”
ตอนที่ฉินหร่านกับเฉิงเจวี้ยนมาถึงรัฐMตอนแรกๆ เฉิงสุ่ยก็ได้ให้หัวหน้าตู้คอยติดตามฉินหร่าน
แต่ขณะนั้นหัวหน้าตู้ใช้ข้ออ้างการฝึกซ้อมแข่งขันมาปฏิเสธ
ตอนนั้นพอเขาได้ยินว่าจะต้องเป็นเพื่อนเล่นให้สาวน้อยคนหนึ่ง เขาจึงไม่อยากตอบตกลง
ตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมา เขาได้ยินข่าวลือมากมายในคฤหาสน์และเพิ่งได้มาเห็นความแข็งแกร่งของฉินหร่านกับตาตัวเอง…
เมื่อได้ยินที่หัวหน้าตู้ถาม เฉิงหั่วก็ยิ้ม “คุณดูไปเดี๋ยวก็รู้”
**
การทดสอบพลังหมัดไม่ต้องต่อสู้อะไรมากมาย ฉินหร่านจึงไม่ถอดเสื้อแจ็กเกต เธอเดินลงไปข้างล่างโดยตรง หยุดอยู่ที่เครื่องทดสอบพลังหมัด กระแทกหมัดไปตรงๆ
ทุกคนในเหตุการณ์ต่างมองไปที่ตัวเลขบนหน้าจอใหญ่อย่างใจจดใจจ่อ
ผ่านไปได้ไม่กี่วิ สถิติถังชิง 769 ที่ค้างไว้ก็มีการอัปเดตสถิติใหม่——
1319
ทันใดนั้นเสียงเจี๊ยวจ๊าวของคนใต้สังเวียนที่กำลังถกกันว่าฉินหร่านจะทำได้ถึง 1000 หรือ 900 ก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย
ขณะนี้บนสนามฝึกใหญ่บวกกับคนรับใช้กว่าห้าร้อยถึงหกร้อยคน
โดยปกติจะมีเสียงรบกวนเล็กๆ น้อยๆ ตลอดเวลา
ทว่าในขณะนี้กลับเงียบไปทั้งสนาม เหนืออัฒจันทร์ได้ยินเพียงเสียงลมพัด
เฉิงสุ่ยรู้มาตั้งนานแล้วว่าฉินหร่านเป็นคนทำสถิติ 1321 แม้จะรู้ตั้งแต่แรกแล้ว แต่มันก็ให้ความรู้สึกต่างจากการที่ได้มาเห็นกับตาตัวเอง อย่างไรก็ตาม กระบวนการรับรู้ของเฉิงสุ่ยก็ย่อมดีกว่าคนอื่นอย่างแน่นอน
เขาแค่นิ่งไปไม่ถึงหนึ่งนาทีและหันไปมองลอเรนด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ “ผู้เข้าประเมินใหม่ลอเรน คุณยังอยากแข่งกับ 421 ต่อหรือไม่?”
ฉินหร่านยิ้มพลางมองไปด้านข้าง ดวงตาคู่สวยมองลอเรนพลางเลิกคิ้ว
ลอเรน “…”
เขารีบละสายตาไปจากฉินหร่าน พูดด้วยความสัตย์จริง “คุณเฉิงสุ่ย ผมคิดดีแล้ว ผมเลือกท้าดวลกับ39!”
ในที่สุดเขาก็เข้าใจว่าเฉิงสุ่ยให้ฉินหร่านทดสอบพลังหมัดทำไม
ตามที่เฉิงสุ่ยคาดการณ์ไว้ ทีแรกที่ลอเรนเลือกฉินหร่านนั้นเป็นเพราะเขาเกิดความอยากรู้อยากลอง บวกกับความทะเยอทะยาน
อย่างไรก็ตาม พอฉินหร่านต่อยพลังหมัดออกมาได้ 1319 ซึ่งต่างกันสี่ถึงห้าร้อย ถึงจะมีลอเรนสิบคนก็ไม่เพียงพอที่จะสู้กับฉินหร่าน
ลอเรนรู้ตัวดี เขาต้องผ่านการสัมภาษณ์หลายครั้งก่อนที่เข้ามาถึงรอบการประเมินการต่อสู้จริง ยากมากที่จะได้มีโอกาสเข้ามาในคฤหาสน์ที่ใฝ่ฝัน แทบเรียกได้ว่าเป็นการพลิกชีวิตเลยก็ว่าได้ เขาจะรนหาที่ตายไปทำไมกัน?
เมื่อได้ยินที่ลอเรนพูด ฉินหร่าน “…”
เฉิงสุ่ยไม่มองเธออีก เขาให้ลอเรนไปทดสอบพลังหมัดและเริ่มการประเมิน
ถ้าให้ฉินหร่านสู้กับอีกหลายคน เฉิงสุ่ยเกรงว่าสังเวียนจะใช้การไม่ได้แล้ว
ฉินหร่านพยักหน้า “เอาเถอะ”
ไม่มีใครมาท้าทายเธอต่อ เธอจึงกลับไปนั่งที่ของตัวเอง เจียงตงเยี่ย หัวหน้าหยวน หัวหน้าตู้ และคนอื่นๆ ต่างส่งสายตามองตามการเคลื่อนไหวของเธอ
1319 ทุกคนจำสถิติสูงสุด 1321 บนเครื่องทดสอบพลังหมัดในคฤหาสน์เมื่อหนึ่งเดือนก่อนได้
ขณะนั้นทุกคนต่างก็คิดว่าเฉิงเจวี้ยนเป็นคนทำสถิติ
นายท่านของพวกเขาเป็นคนแกร่งมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว นี่เป็นเรื่องที่ใครๆ ต่างก็รู้ดี
ดังนั้นตอนที่เดากันว่าเฉิงเจวี้ยนเป็นคนทำสถิติ 1321 คนในคฤหาสน์จึงไม่ได้ตกใจอะไร
แต่ตอนนี้ทุกคนเห็นแล้วว่าฉินหร่านทำสถิติออกมาได้ 1319 ซึ่งต่างจาก 1321 ไปแค่สองแต้ม และพอต่อยเสร็จก็ไม่มีอาการเหนื่อยหอบใดๆ เลย ไม่มีใครรู้ว่านั่นใช่พลังทั้งหมดของเธอหรือเปล่า…
1319 เลยนะ…
ในสายตาของพวกเขา นี่คือการมีอยู่ของเทพผู้ยิ่งใหญ่…
ระดับความเก่งกาจอยู่ในระดับเดียวกับเฉิงเจวี้ยน
ชาตินี้พวกเขาคงทำไม่ได้ถึง 1000 แน่ๆ ดังนั้น 1319 จึงทำได้แค่ชะเง้อมองเท่านั้น
ขณะที่หัวหน้าหลายคนกำลังคิดเรื่องนี้ ก็มองไปทางหัวหน้าตู้ อย่างไรเสียเขาก็เป็นคนปฏิเสธเฉิงสุ่ยด้วยตัวเอง เมื่อเห็นคนอื่นมองมาก็โมโหจนอกแทบระเบิด “มองอะไร นอกจากซือลี่หมิงนั่น พวกคุณก็ปฏิเสธกันหมดไม่ใช่เหรอ?”
มีดไม่ได้แทงเขาแค่คนเดียว ถ้าแทงก็ต้องโดนแทงกันหมดทุกคน!
คนอื่น “…”
**
การประเมินใช้เวลาสี่วัน
ฉินหร่านเริ่มสนใจขึ้นมาบ้างแล้ว ที่สนามฝึกซ้อมที่แยกจากสังเวียนมีการเปิดโต๊ะพนัน
ก่อนการประเมินทุกครั้ง ฉินหร่านกับพรรคพวกเดิมพันใคร คนนั้นก็ชนะได้
นอกจากสังเวียนหลัก สังเวียนเล็กนี้ก็เป็นที่นิยมมากที่สุด
“ฉันลงฝั่งซ้าย!”
“ฉันว่าพลังหมัดฝั่งขวาสูง ฝั่งขวาน่าจะชนะ!”
“……”
“ชนะแล้ว ฉันชนะแล้ว รวยในชั่วข้ามคืนก็แค่นี้เอง ฮ่าฮ่าฮ่า! คุณฉินพนันใคร ฉันจะพนันตาม!” เด็กหนุ่มหวงเหมาตบโต๊ะด้วยความฮึกเหิม
“เถอะน่า นายยังกล้าตามคุณฉินอีกนะ นายลืมไปแล้วเหรอว่าเกมที่แล้วเธอโกงนายยังไง?” ชายคนหนึ่งที่อยู่ห่างจากฉินหร่านสามถึงสี่เมตรกระซิบ เขาคิดว่าฉินหร่านไปเรียนสาขาการแสดงก็ยังได้ โกงคนโดยไม่กะพริบตา เงินอั่งเปาปีใหม่ของเขาเกือบถูกโกงไปหมดแล้ว!
เห็นได้ชัดว่าก็เป็นคนที่ฉินหร่านโกง
หวงเหมาเงียบไปครู่หนึ่งแล้วมองฉินหร่าน “คุณฉิน ระหว่างมนุษย์เรายังพอมีความรักให้กันอยู่บ้างไหม? คุณว่าพอจะเป็นไปได้ไหมที่ผมจะกลายเป็นเศรษฐีรัฐM?”
“……”
โคมไฟเหนือศีรษะแกว่งไปมา บรรยากาศปีใหม่ภายในคฤหาสน์คึกคักกว่าในประเทศมาก
กลุ่มคนส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าว เฉิงสุ่ยที่อยู่บนสังเวียนไม่สามารถเพิกเฉยได้ แม้เขาต้องการเพิกเฉยก็ตาม
การพนันในคฤหาสน์เริ่มมีมากันตั้งแต่เมื่อไหร่?
เฉิงสุ่ยไม่แสดงอารมณ์ผ่านทางสีหน้า แต่ในใจกลับทอดถอนใจ เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่เขาได้กลิ่นอายของดอกไม้ไฟ
เมื่อก่อนถึงการประเมินประจำปีจะคึกคัก แต่เนื่องจากคนเยอะเกินไป ทุกคนจึงใจจดใจจ่ออยู่กับการประเมิน จึงไม่มีบรรยากาศแบบนี้
ฉินหร่านเล่นกับกลุ่มคนพวกนี้จนสนุกสุดเหวี่ยง
“นายท่าน การประเมินสมาชิกใหม่แข่งกันหมดแล้วครับ” เฉิงสุ่ยละสายตา น้อยมากที่จะเห็นหน้าตาเขาดูมีความสุข เขานำรายชื่อมอบให้เฉิงเจวี้ยน “มีสองคนที่ไม่ผ่าน รายชื่ออื่นอยู่ในนี้หมดแล้ว ต่อไปเป็นการประเมินสมาชิกเก่า”
เฉิงเจวี้ยนมองไปทางฉินหร่านและคนกลุ่มนั้นโดยไม่ละสายตา เขารับรายชื่อมาจากเฉิงสุ่ยด้วยท่าทางเอื่อยเฉื่อย
“ในนี้มีคนหนึ่ง ถังชิง จะให้เธอผ่านดีไหมครับ?” เฉิงสุ่ยชี้ไปที่ข้อมูลในหน้าแรก
ในนั้นเขียนข้อมูลถังชิงโดยละเอียด
“ฉันได้ยินเฉิงหั่วบอกว่าเธอเคยพยายามตรวจสอบข้อมูลของเรา?” เฉิงเจวี้ยนเหลือบมองพลางวางเอกสารลงบนโต๊ะส่งๆ น้ำเสียงราบเรียบ
เฉิงหั่วไม่ได้ปิดบังเรื่องนี้กับเฉิงเจวี้ยน
เฉิงสุ่ยเข้าใจเฉิงเจวี้ยนทันทีที่ได้ยิน
เขาพยักหน้า “ใช่ครับ เฉิงหั่วพบว่าคืนนั้นเธอตรวจสอบข้อมูลนายท่านกับคุณฉิน ในเมื่อเป็นแบบนี้ผมจะไปแจ้งคุณถังโดยตรงว่าเธอไม่ผ่านการประเมิน”
พอพูดถึงตรงนี้เฉิงสุ่ยก็ชะงัก
ตอนที่ฉินหร่านกับถังชิงดวลกันก่อนหน้านี้ เห็นได้ชัดว่าทักษะแฮ็กเกอร์ของถังชิงเก่งไม่เท่าฉินหร่าน ดังนั้น ในคืนนั้น คนที่เฉิงหั่วคิดว่าเป็นคนที่ไปขัดขวางถังชิงจากการแฮ็กระบบในคฤหาสน์และเปิดเผยเบาะแสถังชิงให้เฉิงหั่วทราบไม่ใช่คนของแมทธิว แต่เป็นฉินหร่าน ? !
“มีอะไร?” เฉิงเจวี้ยนยื่นมือปิดรายชื่อพลางเงยหน้าขึ้น
เฉิงสุ่ยตอบ “คือ…นึกอะไรขึ้นมาได้น่ะครับ”
**
ในเวลาเดียวกัน นอกประตูคฤหาสน์
เนื่องจากเป็นกิจกรรมใหญ่ภายในคฤหาสน์ คนเฝ้าประตูจึงเข้าไปในสนามฝึกเพื่อดูความตื่นเต้นและร่วมเล่นการพนัน
ภายนอกคฤหาสน์จึงเหลือเพียงระบบการตรวจสอบแบบอัตโนมัติเท่านั้น
รถสีรอยัลบลูค่อยๆ มาจอดอยู่ที่หน้าประตูใหญ่
ชายคนหนึ่งลงจากฝั่งที่นั่งคนขับ รูปร่างเพรียวบาง แต่งกายด้วยชุดลำลองทั่วไป
เขายืนอยู่หน้าประตูใหญ่ หยิบโทรศัพท์ออกมาดูที่อยู่ นิ้วของเขาสวยราวกับหินหยก เรียวยาวและสะอาดสะอ้าน
“น่าจะใช่ที่นี่?” เขาพูดเบาๆ
จากนั้นก็เดินไปสองก้าว
เสียงกลไกของประตูเหล็กปัญญาประดิษฐ์ขนาดใหญ่ดังขึ้นมา “คฤหาสน์หยุดรับแขกชั่วคราว”
ชายหนุ่มยิ้ม “เสี่ยวเฮย ฉันมาหาพ่อนาย”