ภาพตรงหน้าคือกลุ่มคนกำลังล้อมรอบเวนส์อยู่ ทุกคนล้วนมีท่าทีดุดัน คนที่เป็นผู้นำกำลังก่นด่าอย่างร้ายกาจทว่าเวนส์ก็เอาแต่ส่ายหัวไม่พูดอะไรสิ่งที่แปลกคือไม่มีลีดส์อยู่ด้วย
“ไม่ได้เรื่องเลย! จัดการมัน!” ชายที่เป็นหัวหน้าแสดงท่าทีคุกคามและเตะเวนส์อย่างดุเดือดพร้อมกับด่าไปด้วย “งี่เง่า แค่ให้เอาของไปใส่ในตู้ไม่ได้ให้ไปตายสักหน่อยแม่งเอ๊ย ไม่ได้เรื่องเลย!”
เวนส์ถูกเตะจนทรุดลงกับพื้น เขาส่งเสียงครวญครางพร้อมกับเลือดที่ไหลทะลักออกจากมุมปากแต่เขาก็ยังคงส่ายหัวอย่างดื้อดึงพร้อมรับเตะจากทุกคนโดยไม่พูดอะไรออกมา
สายตาของชีอ้าวชวางจมดิ่งลง ที่แท้อาการบาดเจ็บของเวนส์ก็เป็นเพราะแบบนี้นี่เอง! คนพวกนี้ขู่เขาเพื่อจะใส่ร้ายนางแต่เขาปฏิเสธจึงได้รับความอัปยศนี้ชีอ้าวชวางรู้ระดับของเวนส์ชัดเจนตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกันแล้ว ตอนนี้เขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของคนเหล่านี้แน่นอน
“ไอ้เด็กต่ำต้อย เจ้ารู้หรือไม่ว่าข้าเป็นใคร พี่สาวข้าเป็นภรรยาของเจ้าเมืองจวี้เฟิงนะ! แต่เจ้ากล้าขัดคำสั่งข้า!” ชายหนุ่มพูดและยกเท้าขึ้นเพื่อจะมุ่งไปที่หน้าของเวนส์อย่างโหดร้าย
“ใช่ ไอ้เด็กไม่รู้ความ แอชลินบอกให้เจ้าทำเรื่องนี้ก็ถือว่าเป็นเรื่องดีของเจ้าแล้ว แต่เจ้ากล้าปฏิเสธหรือ!” พวกคนที่อยู่ข้างๆ ช่วยพูด ท่าทีของพวกเขาดูเลวร้ายมาก
พอเท้าของคนที่ชื่อแอชลินกำลังจะเหยียบที่ใบหน้าของเวนส์การเคลื่อนไหวของเขาก็ต้องหยุดค้างกลางอากาศทันทีสีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความประหลาดใจเพราะเขาพบว่าจู่ๆ ร่างกายก็ขยับไม่ได้! สิ่งนี้แสดงถึงอะไรหรือแสดงว่ามีคนที่แข็งแกร่งกว่าเขามากอยู่ใกล้ๆ และแอบโจมตีเขาไง!
เวลาต่อมา สายลมก็พัดมาทางนี้อย่างแผ่วเบา
พวกกลุ่มคนที่อยู่ตัวแอชลินก็หันไปมองยังทิศทางของลมแปลกๆ นั้นในไม่ช้า สีหน้าของทุกคนก็เปลี่ยนไปทันที ตรงนั้นคือชายหนุ่มผมแดงที่มีใบหน้าเย็นชาจนน่ากลัว รอบตัวก็มีกลิ่นอายสังหารแผ่ออกมา เขาค่อยๆเ ดินเข้ามาทีละก้าวพวกเขารู้สึกถึงแรงกดดันอันน่ากลัวพานให้หายใจไม่ออกราวกับถูกความตายจับจ้องอยู่ทุกคนมองดวงตาสีเข้มของชีอ้าวชวางที่มีกลิ่นอายสังหารน่าเกรงกลัวแล้วพวกเขาก็รู้สึกหวาดหวั่นอยู่ในใจอยากจะหันกลับและวิ่งหนีไปแต่ดูเหมือนเท้าจะหยั่งรากอยู่ตรงนั้นจนไม่อาจขยับเขยื้อนได้แอชลินไม่สามารถขยับร่างกายได้แต่เขาก็มองจากหางตาอย่างยากลำบากเห็นเพียงแค่ประกายสีแดงเท่านั้นเอง
จากนั้นในใจของเขาก็สั่นสะท้านอย่างรุนแรง คนนั้นนี่!
ผู้ชายผมแดงที่ดูเหมือนงูพิษและเทพเจ้าแห่งความตายคนนั้น
หรือว่าเขาจะได้ยินสิ่งที่พวกเขาพูดเมื่อครู่แล้ว? เห็นหมดทุกอย่างเลยหรือ
เมื่อแอชลินนึกถึงเรื่องนี้ฟันของเขาก็เหมือนเจ็บปวดมากขึ้น และหัวใจของเขาก็สั่นไหวด้วย
เวนส์ตะลึงงันและเงยหน้าขึ้นมองชีอ้าวชวางด้วยความงุนงง แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา
“ไสหัวไป!” ชีอ้าวชวางเดินเข้าไปช้าๆ แล้วพูดออกมาอย่างเย็นชา
ทุกคนมองแอชลินที่ไม่สามารถขยับได้ด้วยความลังเลและความกลัวที่อยู่ในแววตาเวลาต่อมาก็มีใบมีดลมเกิดขึ้น ใบมีดลมนั้นแตกต่างจากที่เคยเห็นพบเจอมาก่อนอย่างเห็นได้ชัด มันเป็นสีดำและดูเหมือนว่าจะมีสีแดงปนอยู่บางเบา แปลกประหลาดมากแปลกจนน่าสะพรึง
“พวกเจ้าจะกลัวอะไร อีกฝ่ายก็แค่นักเรียนใหม่!” แอชลินยังคงมีท่าทางแปลกๆ และตะโกนออกมา “พวกเจ้าอยู่ระดับหกดาวนะ! ถ้าพวกเจ้ากล้าทิ้งข้าและหนีไปวันนี้ ข้าจะให้ท่านเจ้าเมืองลงโทษพวกเจ้าอย่างหนัก!”
คำที่ใช้ได้ผลก็คือประโยคสุดท้ายนั่นเองคนเหล่านี้ปกติจะอยู่กับลีดส์และแอชลิน สถานะของพวกนี้ด้อยกว่าพวกเขาสองคนมากเมื่อได้ยินคำขู่เช่นนี้ก็รู้สึกกลัวอยู่ในใจ
พวกคนที่ถอยออกไปตอนนี้กำลังเกาหัวอยู่ จากนั้นก็สร้างเขตกั้นขึ้นมาเพื่อปิดกั้นใบมีดลมของชีอ้าวชวางไว้ส่วนบางคนก็เตรียมพร้อมที่จะใช้เวทมนตร์เพื่อตอบโต้
เสียงใบมีดลมของชีอ้าวชวางดังขึ้นและตัดเขตกั้นทั้งหมดที่สร้างขึ้นทุกคนต่างร้องออกมาและรีบหลบแต่พวกเขาก็หลบไม่ทันจนถูกใบมีดลมประหลาดพวกนั้นบาดตามร่างอาการบาดเจ็บไม่ได้ร้ายแรงมากประการแรกเพราะชีอ้าวชวางไม่มีเจตนาที่จะฆ่าและประการที่สองก็คือเพราะใบมีดลมอ่อนแอลงหลังจากถูกเขตกั้นขัดขวางไว้
“ไอ้โง่! เร็วสิ!” เมื่อเห็นสถานการณ์เช่นนี้แอชลินก็รู้สึกกังวลมากยิ่งขึ้นร่างกายของเขายังไม่สามารถขยับได้เขาได้แต่ก่นด่าอยู่ในใจ ไม่รู้ว่าผู้ชายผมแดงนี่ใช้เวทมนตร์ชั่วร้ายอะไรมาร่ายใส่เขาทำให้เขาไม่สามารถขยับได้เลยรอให้ขยับได้ก่อนเถอะเขาจะจัดการกับเด็กนั่นแน่!
พอทุกคนต้านการโจมตีของชีอ้าวชวางได้ก็เตรียมพร้อมที่จะโจมตีกลับ
ทันใดนั้นก็มีเสียงเหมือนเสียงธรรมชาติในอากาศ เสียงนั้นไพเราะมากจนทำให้จิตใจของผู้ฟังสั่นไหวได้เลย
“อ้าว พวกเจ้ากำลังทำอะไรกันอยู่ พวกศิษย์พี่มาทำอะไรที่นี่หรือ” ศีรษะเล็กๆ โผล่ออกมาจากมุมหนึ่งด้านหลังชีอ้าวชวางพร้อมกับรอยยิ้มที่บริสุทธิ์และไร้เดียงสาที่วาดอยู่บนใบหน้างดงามของนาง
รอยยิ้มที่บริสุทธิ์และไร้เดียงสาที่ทำให้ผู้คนสั่นสะท้าน แต่ก็ทำให้ผู้คนลืมความตั้งใจเดิมไปชั่วพริบตาด้วยทั้งกลุ่มตรงนั้นต่างก็ตกตะลึงกันหมด
ชีอ้าวชวางรู้สึกอึดอัดเมื่อได้ยินเสียงนี้ แน่นอนว่านางรู้ว่าเจ้าของเสียงนี้เป็นใคร ก็อสูรที่แสร้งทำเป็นไร้เดียงสาริมทะเลสาบในวันนั้นไง ชีอ้าวชวางไม่คิดว่ามันจะเป็นเรื่องบังเอิญที่นางเข้ามาในเวลานี้ หรือเมื่อครู่นางกำลังตามหาตนเองอยู่
“พา…พาริน่า เจ้ามาที่นี่ทำไม” พวกที่กำลังจะโจมตีหยุดชะงักทันทีเมื่อเห็นหญิงสาวปรากฏตัวขึ้นและถามประโยคนี้ไปอย่างสงสัย น้ำเสียงนั้นมีความซับซ้อน มีความลังเล ความสงสารและเอาใจอยู่ด้วย
“ศิษย์พี่มาทำอะไรที่นี่ล่ะกำลังเล่นสนุกกันอยู่หรือ” พาริน่าเบิกตากว้างอย่างอยากรู้อยากเห็นและอยากเข้ามาดูว่าเกิดอะไรขึ้นใบหน้าสวยอมชมพูยิ่งดูน่ามองขึ้นอีกขนตายาวสวยนั้นก็ด้วยและริมฝีปากสีแดงเล็กๆ ก็ดูน่ารักมาก
“อ๋อ ไม่มีอะไรหรอก พาริน่าอย่าเข้ามาเลย” น่าแปลกที่แอชลินดูเริ่มกังวลเล็กน้อยจากนั้นเขาก็หันไปตะโกนใส่คนพวกนั้น “ไปเถอะ ยังไม่รีบมาพาข้าไปอีก”
ชีอ้าวชวางเลิกคิ้วขึ้นมองคนพวกนั้นอุ้มแอชลินวิ่งหนีไปอย่างตื่นตระหนกชีอ้าวชวางก็ไม่ได้ขวางเอาไว้ การมีเรื่องในสถาบันมันไม่ดีกับนางและมันก็ไม่ดีกับเวนส์ด้วย เวนส์ถูกบีบบังคับแต่ยังคงเก็บเอาไว้ เขาคงต้องมีเหตุผลของเขา หากชีอ้าวชวางทำอะไรผลีผลามอาจทำให้เวนส์ลำบากใจได้ หลังจากนั้นก็ได้รู้ว่าการคาดเดาของชีอ้าวชวางนั้นถูกจริงๆ เวนส์มีความยากลำบากส่วนตัวของเขาจริงๆ
“นี่ พวกเขาไปแล้ว พวกเจ้าสองคนเป็นนักเรียนใหม่สินะ พวกเจ้ามาทำอะไรที่นี่” พาริน่าเดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว นางเอียงหัวมองไปที่ชีอ้าวชวางและเวนส์แล้วถามพร้อมกับทำตาโต น้ำเสียงของนางมีเสน่ห์อย่างบอกไม่ถูก
ชีอ้าวชวางส่งเสียงเย็นชา ไม่สนใจพาริน่าแล้วเดินไปช่วยเวนส์
“ศิษย์น้อง ทำไมเจ้าได้รับบาดเจ็บล่ะเป็นอะไรมากหรือไม่” พาริน่าเห็นชีอ้าวชวางไม่สนใจและแอบมองนางอย่างไม่พอใจเท่าไหร่ สีหน้าของนางก็กลับมาดูใสซื่อบริสุทธิ์แบบในวันนั้นอีกครั้งแล้วถามเวนส์
“มะ ไม่เป็นไร ขอบคุณศิษย์พี่ที่เป็นห่วง”เวนส์ถอนหายใจอย่างเจ็บปวดแต่ตอบด้วยการพยักหน้าอย่างสุภาพ
“อ้อ เจ้าชื่ออะไรหรือ คนผมแดงคนนี้เป็นเพื่อนของเจ้าใช่หรือไม่ เขาชื่ออะไรหรือ” พาริน่าและเวนส์มองหน้ากัน สายตาดูอ่อนโยนขึ้นอย่างผิดปกติและดูเหมือนจะมีแรงดึงดูดบางอย่างที่ไม่สามารถบรรยายได้นางมองตรงไปที่เวนส์และพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนมาก “ข้าชื่อพาริน่านะ พวกเจ้าล่ะ”
“ข้าชื่อเวนส์ นี่คือเพื่อนร่วมห้องนอนของข้าชื่อว่าชีอ้าวชวาง…” เวนส์พูดขณะที่มองตาของพาริน่า
ชีอ้าวชวางขมวดคิ้วและหันไปมองพาริน่า จากนั้นก็ส่งเสียงเย็นชา
พาริน่ารู้สึกได้ทันทีว่ามีพลังปราณรุนแรงที่มองไม่เห็นพุ่งเข้ามาหานางจนต้องถอยหลังไปหน้าอกก็หายใจแทบไม่ออกมนตร์เสน่ห์ในดวงตาของพาริน่าหายไปแล้วแทนที่ด้วยความประหลาดใจแทนแต่ไม่มีความหวาดกลัวเลย
ชีอ้าวชวางไม่ได้มองพาริน่าอีกเลยแต่ไปช่วยพยุงเวนส์เดินจากไปอย่างช้าๆ
พาริน่าไม่ได้ส่งเสียงห้ามไว้ แต่ยืนนิ่งและมองแผ่นหลังของชีอ้าวชวางพร้อมกับรอยยิ้มเจ้าเล่ห์บนใบหน้าหลังจากที่ชีอ้าวชวางและเวนส์หายตัวไปพาริน่าก็พูดกับตัวเองด้วยเสียงต่ำ“ชีอ้าวชวางหรือเหอะๆ ได้รู้ชื่อของเจ้าแล้ว ข้าจะรอวันที่เจ้ากลายมาเป็นทาสของข้า”พาริน่าทัดผมที่หูของนางแต่ดวงตาของนางกลับจมดิ่งลงเมื่อครู่เขาขัดจังหวะมนตร์เสน่ห์ของนางได้และเกือบจะทำร้ายนางด้วยหึๆ น่าสนใจ
ชีอ้าวชวางช่วยพยุงเวนส์เดินไปที่หอพักชีอ้าวชวางไม่ได้พูดอะไรเลยตลอดทางแต่เวนส์รู้สึกประหม่าเล็กน้อย
กลับไปถึงที่หอพักชีอ้าวชวางก็เอาน้ำร้อนมาวางบนโต๊ะจากนั้นก็ไปนั่งอีกด้านหนึ่งไม่พูดอะไรอีกเลย แค่มองเวนส์ด้วยความเงียบเท่านั้น
เวนส์หยิบผ้าขนหนูมาเช็ดทำความสะอาดแผลและทายาอย่างเงียบๆหลังจากทำเรื่องพวกนี้เสร็จแล้วก็พูด“ขอโทษนะ ข้าก็ไม่รู้ว่าเมื่อครู่เกิดอะไรขึ้นก็เลยบอกชื่อเจ้ากับคนนั้นไป”
ชีอ้าวชวางตกใจ จากนั้นก็ยิ้มอย่างขมขื่นและถอนหายใจเวนส์ผู้นี้เป็นคนดีจริงๆ!
“ไม่ต้องถือสาหรอก เมื่อครู่ผู้หญิงคนนั้นใช้เล่ห์กลกับเจ้า นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้เจ้าสติหลุดไป” ชีอ้าวชวางพูดอย่างเคร่งขรึม “สิ่งที่ข้าอยากถามคือทำไมเจ้าถึงทำแบบนี้” ชีอ้าวชวางพูดจบก็มองไปที่อาการบาดเจ็บของเวนส์แล้วเงียบตั้งแต่เมื่อครู่ที่ชีอ้าวชวางได้รู้ความจริงในเรื่องนี้ นางก็รู้สึกประทับใจผู้ชายที่อยู่ตรงหน้านี้อย่างยิ่ง แม้ว่าเขาจะเป็นคนดูอ่อนแอแต่เขาก็เป็นคนที่ยึดมั่นในหลักการของตัวเองขนาดเขาได้รับบาดเจ็บและถูกทำให้อับอายถึงเพียงนั้น แต่เขาก็ไม่ยอมทำเรื่องที่เป็นการใส่ร้ายนางเขาเป็นเพียงนักเรียนใหม่เท่านั้นเอง แต่กลับกล้าเผชิญหน้ากับนักเรียนเหล่านั้นที่มีความแข็งแกร่งระดับหกดาวอย่างไม่ยอมแพ้
เมื่อเวนส์ได้ยินคำถามของชีอ้าวชวางสีหน้าของเขาก็ดูประหลาดใจจากนั้นก็ครุ่นคิดราวกับนึกถึงตอนที่พาริน่าใช้มนตร์เสน่ห์เมื่อครู่
ชีอ้าวชวางไม่ได้พูดอะไรอีก นางก็แค่นั่งรอคำตอบของเวนส์เงียบๆ เท่านั้น