ตอนที่ 854 พรุ่งนี้ต้องตกเป็นพาดหัวข่าวหน้าหนึ่งแน่

วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์

ผู้เข้าประกวดร้องเพลงถูกทำร้ายร่างกายอย่างโจ่งแจ้ง หากข่าวนี้ถูกเปิดเผยออกไปต้องเป็นเรื่องราวใหญ่โตแน่

 

 

อย่างไรก็ตามในจังหวะนี้ซิงหลานไม่อาจสนใจสิ่งอื่นใดไปมากกว่าอาการบาดเจ็บของหลินเฉี่ยนได้

 

 

ก่อนหน้านี้เธอไม่ควรทิ้งให้หลินเฉี่ยนอยู่เพียงลำพัง แม้ว่ามันอาจจะทำให้พวกเธอทั้งสองคนได้รับบาดเจ็บและสถานการณ์แย่ลงก็ตาม มันคงจะดีกว่าความรู้สึกผิดที่เธอได้พบเจออยู่ในตอนนี้

 

 

ไม่นานหมอก็ก้าวออกมาจากห้องฉุกเฉินและพูดกับซิงหลานที่กำลังนั่งอยู่ริมทางเดิน “พยายามติดต่อญาติของเธอดูนะครับ เธอเสียเลือดมากและต้องถ่ายเลือด พอดีเลือดที่เรามีในคลังตอนนี้เพิ่งจะถูกส่งไปที่โรงพยาบาลอื่นน่ะครับ”

 

 

“เลือดของฉันใช้ได้ไหมคะ ใช้เลือดของฉันได้ไหม”

 

 

“คุณเลือดกรุปอะไรครับ”

 

 

“เอค่ะ”

 

 

“อย่างนั้นก็เลิกพูดเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ไปได้เลยครับ โทรหาครอบครัวของเธอ เลือดของคุณเข้ากับเธอไม่ได้ครับ” พูดจบเขาก็กลับเข้าไปในห้องฉุกเฉินอีกครั้ง

 

 

ซิงหลานกำโทรศัพท์ของหลินเฉี่ยนไว้และทำได้เพียงนึกถึงคนคนหนึ่ง เฉวียนจื่อเยี่ย เธอจึงต่อสายหาเขาโดยไม่รีรอ

 

 

เฉวียนจื่อเยี่ยมาถึงโรงพยาบาลในสิบนาทีให้หลังด้วยท่าทีตื่นตระหนกพร้อมเท้าเปลือยเปล่าทั้งยังอยู่ในชุดนอน

 

 

ทันทีที่หมอเดินออกมาอีกครั้ง เขาก็พลันตะโกนออกมา “ผมเลือดกรุปโอครับ”

 

 

“คุณเกี่ยวข้องอะไรกับคนไข้ครับ” หมอเอ่ยถาม

 

 

“ผมเป็นพี่ชายเธอครับ” เขาตอบ

 

 

“เราได้เลือดมาจากโรงพยาบาลอื่นแล้ว คุณเข้ามาด้านในก่อนก็ได้ครับ”

 

 

แม้ว่าจะรู้กันดีว่าเลือดกรุปโอสามารถให้เลือดได้กับทุกกรุป แต่มันก็ไม่อาจใช้ถ่ายเลือดให้คนอื่นได้มั่วซั่ว ด้วยเม็ดเลือดที่อาจมีแอนตี้เจนปะปนอยู่แม้จะเป็นไปได้ต่ำก็ตาม

 

 

ซิงหลานมองเฉวียนจื่อเยี่ยหายเข้าไปห้องฉุกเฉิน ไม่นานหลังจากนั้นเขาถึงได้กุมแขนตัวเองเดินกลับออกมา

 

 

เธอเดินเข้าไปหาเขาและพบว่าเสียงของตัวเองดูอ่อนแรงลงเล็กน้อย “คุณเฉวียนคะ…”

 

 

“เกิดอะไรขึ้นกันแน่” เขาถามขึ้นอย่างเกรี้ยวกราด เป็นครั้งแรกที่เขาสลัดท่าทีเจ้าเสน่ห์ของตัวเองและเอ่ยขึ้นอย่างจริงจัง

 

 

“เราโดนดักทำร้ายค่ะ…” ซิงหลานอธิบายสั้นๆ “หลินเฉี่ยนได้รับบาดเจ็บเพราะเธอพยายามจะปกป้องฉัน…”

 

 

ได้ยินดังนั้นเฉวียนจื่อเยี่ยก็ส่งโทรศัพท์ของตัวเองให้เธอ “ขอเบอร์เธอด้วย”

 

 

“โอเคค่ะ” ซิงหลานรับโทรศัพท์มาก่อนจะพบว่ามือของเธอยังคงสั่นระริกอยู่ เห็นได้ชัดว่าความหวาดกลัวยังคงหลงเหลือในใจเธอ หลังจากบันทึกเบอร์ในโทรศัพท์ของเขา เธอก็ยื่นมันคืนให้กับเจ้าของอย่างนอบน้อม

 

 

“อย่าบอกหลินเฉี่ยนว่าฉันมาที่นี่ ฉันจะจัดการเรื่องนี้เอง เฉี่ยนเอ๋อร์ไม่มีญาติที่ไหนอีก ฝากบอกถังหนิงว่าถ้าเฉี่ยนเฉี่ยนได้รับบาดเจ็บอีกฉันจะเป็นคนดูแลเธอเอง”

 

 

ซิงหลานดูออกว่าอีกฝ่ายวิตกกังวลไม่น้อย จนถึงขั้นเรียกหลินเฉี่ยนด้วยสามชื่อที่ไม่เหมือนเดิมในประโยคเดียว

 

 

ทว่าเพราะความใจแข็งของหลินเฉี่ยน เธอจึงปฏิเสธที่จะยุ่งเกี่ยวกับเฉวียนจื่อเยี่ยอย่างหนักแน่น

 

 

ด้วยเหตุนี้เขาจึงตัดสินใจที่จะปกป้องเธออยู่เงียบๆ

 

 

“เข้าใจแล้วค่ะ คุณเฉวียน”

 

 

หลังจากนั้นซิงหลานได้ติดต่อถังหนิง เธออยู่ระหว่างทางมาที่โรงพยาบาลในตอนที่ได้รับสายจากซิงหลาน แม้ว่าซิงหลานจะพะวงอยู่กับการช่วยชีวิตหลินเฉี่ยนและไม่ได้ติดต่อถังหนิงมาตั้งแต่ทีแรก แต่ข่าวก็เริ่มมีการรายงานถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ด้วยสถานที่เกิดเหตุอยู่ในบริเวณที่มีคนพลุกพล่าน

 

 

ถังหนิงและโม่ถิงใช้เวลาไม่นานในการมาถึงโรงพยาบาล

 

 

“พี่หนิงคะ…”

 

 

“หลินเฉี่ยนเป็นยังไงบ้าง” ถังหนิงถามทันที “เธอบาดเจ็บด้วยหรือเปล่า”

 

 

“ฉันไม่เป็นไรค่ะ หลินเฉี่ยนเพิ่งออกมาจากห้องฉุกเฉินเมื่อกี้นี้เอง” ซิงหลานตอบก่อนน้ำตาจะไหลอาบแก้ม “ฉันไม่เคยเจออะไรแบบนี้มาก่อนเลยค่ะ ฉันไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง”

 

 

“ไม่เป็นไรนะ มันไม่ใช่ความผิดของเธอ” ถังหนิงปลอบขณะที่โอบกอดซิงหลานไว้ “มันผ่านไปแล้วนะ ตอนนี้เธอปลอดภัยแล้วและหลินเฉี่ยนก็จะไม่เป็นไร”

 

 

ซิงหลานใจเย็นลงด้วยคำปลอบโยนของถังหนิง

 

 

แน่นอนว่าต้องขอบคุณการจัดการของลู่เช่อจึงไม่มีนักข่าวสักคนโผล่มาที่โรงพยาบาล ทั้งยังโทรติดต่อตำรวจหลังตรวจสอบอาการของหลินเฉี่ยนโดยที่โม่ถิงยังไม่ได้สั่ง มีเหตุการณ์ลอบกัดมากมายเกิดขึ้นในวงการนี้ แต่ทว่าไม่มีใครกล้ามาลองดีกับไห่รุ่ย ครั้งนี้พวกเขาทำเกินไปแล้ว!

 

 

ถังหนิงพอจะคาดเดาได้ว่าเกิดอะไรขึ้น มีบางคนกำลังพยายามบีบให้ซิงหลานถอนตัวจากการประกวด

 

 

และผู้หญิงที่ต้องการให้ลูกสาวของตัวเองได้รับชัยชนะคือผู้ต้องสงสัยอันดับหนึ่ง…

 

 

 

 

ไม่นานหลินเฉี่ยนก็ได้สติขึ้น ในจังหวะที่ลืมตาขึ้นมาและเห็นคนอยู่ข้างเตียง สิ่งแรกที่เธอเอ่ยถามคือ “เฉวียนจื่อเยี่ยมาที่นี่หรือเปล่าคะ ฉันคิดว่าตัวเองเห็นเขาตอนที่ยังไม่รู้สึกตัวดี”

 

 

“ดื่มน้ำก่อนเถอะนะคะ” ซิงหลานไม่ได้ตอบพลางยกแก้วน้ำอุ่นจ่อกับริมฝีปากที่แห้งแตกของหลินเฉี่ยน “คุณหัวแตกน่ะค่ะ”

 

 

“ตอนนี้เย็บแล้วใช่ไหมคะ” หลินเฉี่ยนถามทีเล่นทีจริงอย่างพยายามคลายบรรยากาศความตึงเครียดในห้อง

 

 

“หยุดพูดเล่นแบบนี้ได้แล้วค่ะ” เดิมทีซิงหลานเองก็รู้สึกผิดไม่น้อย แต่หลินเฉี่ยนยังทำทีเหมือนไม่เป็นอะไร ทำให้เธอยิ่งโทษตัวเองมากขึ้นไปอีก

 

 

“ตอนนี้ฉันเป็นคนช่วยชีวิตคุณไว้นะคะ” หลินเฉี่ยนส่งสายตาหยอกล้อให้ทั้งซิงหลานและถังหนิง “อีกอย่างคุณยังไม่ได้ตอบคำถามฉันว่าเฉวียนจื่อเยี่ยได้มาที่นี่หรือเปล่าเลยนะคะ”

 

 

“เธอหวังให้เขามาหรือเปล่าล่ะ” ถังหนิงถามขณะที่ขยับเข้าไปใกล้

 

 

“คิดๆ ดูแล้วฉันไม่ได้หวังให้เขามาหรอกค่ะ แต่ลึกๆ ในใจเขาก็เป็นครอบครัวที่แท้จริงของฉันเพียงคนเดียวมาหลายปี…”

 

 

“เขามาแล้วเขาก็ไปแล้วหลังจากให้เลือดกับคุณค่ะ เขารีบมาที่นี่จนสายตรวจบนทางด่วนมารอเขาอยู่ด้านล่าง พวกเขาตามไล่จับเขามาตลอดทางที่มาที่นี่ พรุ่งนี้เขาจะต้องตกเป็นพาดหัวข่าวหน้าหนึ่งแน่ค่ะ” ซิงหลานเล่าออกมา

 

 

เมื่อได้ยินดังนั้นหลินเฉี่ยนก็หลับตาลงช้าๆ นานมากแล้วที่เธอไม่ได้สัมผัสถึงความรักที่อบอุ่นเช่นนี้

 

 

“ฉันไม่เป็นไรค่ะ”

 

 

“ฉันจะตามสืบและทำเรื่องนี้ให้เธอกระจ่างเอง” ถังหนิงรับปาก

 

 

“พี่หนิงคะ ฉันพอจะคาดเดาสาเหตุได้อยู่ เป็นความผิดของฉันเองที่ไม่ระวังและอยู่ที่บริษัทจนดึกดื่น”

 

 

“คือว่า…” ซิงหลานออกอาการลังเล แต่สุดท้ายก็บอกกับถังหนิง “เฉวียนจื่อเยี่ยบอกก่อนที่เขาจะไป ว่าถ้าคุณปล่อยให้หลินเฉี่ยนบาดเจ็บอีกเขาจะเป็นคนดูแลเธอเองค่ะ…”

 

 

“พวกคุณกลับบ้านกันไปได้เถอะค่ะ ฉันไม่เป็นไรแล้ว พรุ่งนี้ต้องมีข่าวใหญ่แน่ๆ ” หลินเฉี่ยนเอ่ยพลางโบกมือไปมาอย่างอ่อนแรง “พยาบาลหลายคนก็อยู่ที่นี่ด้วยค่ะ”

 

 

ถังหนิงมองหลินเฉี่ยนอย่างเดาได้รางๆ ว่าอีกฝ่ายคิดอะไรอยู่จึงบอกกับซิงหลาน “กลับบ้านไปพักผ่อนเถอะ”

 

 

“ฉันอยากอยู่นี่คะ…”

 

 

“ไม่จำเป็นต้องอยู่หรอก มีคนจะมาดูแลเธออยู่แล้วล่ะ” ถังหนิงบอกใบ้ขณะที่ดึงตัวซิงหลานออกมา

 

 

ในเวลาเดียวกันโม่ถิงคอยปกป้องภรรยาเขาอยู่ตลอดเวลาพร้อมพยายามเก็บซ่อนความไม่พอใจในแววตาของตัวเอง หากมีใครกล้าตั้งตัวเป็นศัตรูกับถังหนิงจริง ต่อให้พลิกปักกิ่งหาก็ต้องทำ!

 

 

ไม่นานหลังจากนั้น…

 

 

ในขณะที่หลินเฉี่ยนนอนอยู่บนเตียง เธอชะเง้อคอมองไปนอกประตู สัมผัสได้ชัดว่ามีบางคนอยู่ด้านนอก ก่อนจะว่าขึ้นพร้อมถอนหายใจในท้ายที่สุด “เข้ามาสิ”

 

 

เฉวียนจื่อเยี่ยที่ยืนกอดอกอยู่ค่อยๆ ปรากฏตัวขึ้นหน้าประตูพลางส่ายหน้า “ฉันจะคอยเฝ้าเธออยู่แค่ตรงนี้ นอนได้แล้วล่ะ”

 

 

“บอกให้เข้ามาไงล่ะ…”

 

 

“เธอไม่ได้บอกว่าไม่อยากเห็นหน้าฉันเหรอ” เขาเอ่ยถาม “เฉี่ยนเฉี่ยน ให้ฉันได้ดูแลเธอหรือหาคนมาดูแลเธอก็ได้ อย่าให้ฉันต้องปล่อยให้เธออยู่คนเดียวแบบนี้เลยนะ สำหรับฉันแล้วนี่มันแย่กว่าการตายซะอีก ถึงยังไงฉันก็ดูแลเธอในฐานะพี่ชายมานานหลายปี”

 

 

“นายก็รู้ดีว่ามันเป็นเพราะฉันไม่รู้จะเข้าหน้ากับนายยังไง ฉันเองก็ทรมานใจไม่ต่างกับนายหรอกนะ” เธอตอบ “ฉันแค่อยากให้เราใช้ชีวิตอย่างให้เกียรติกันบ้างเท่านั้นเอง”