ตอนที่ 429 ขอถามคำถามสุดท้าย / ตอนที่ 430 ได้ยินว่ามีคนคิดจะแย่งคนของผม?

ลืมรักเลือนใจ

ตอนที่ 429 ขอถามคำถามสุดท้าย

เมื่อหลินเยียนได้ยินคำพูดของคนพวกนี้ก็ยิ้มเยาะ

พยานหลักฐาน?

รูปที่เธอเดินออกมาจากบริษัท แถมด้านข้างยังมีจ้าวหงหลิงผู้จัดการส่วนตัวของเธออยู่ด้วย ส่วนอันเชี่ยนเชี่ยนก็เป็นศิลปินภายใต้การดูแลของเกาจื้อเวยอยู่แล้ว เธอก็ต้องช่วยพูดให้เกาจื้อเวยอยู่แล้วสิ ‘หลักฐาน’ ตลกๆ แบบนี้ก็เอามาใช้มัดตัวได้ด้วย

เพราะภาพลักษณ์ต่อโลกภายนอกที่มีอยู่เดิมของเธอ ทำให้กลายเป็นว่าหลินเยียนจะต้องทำเรื่องแบบนี้แน่

เกาจื้อเวยจับจุดนี้ได้ดี ดังนั้นถึงกล้าสาดโคลนใส่เธอด้วยตัวเองโดยปราศจากหลักฐาน

ขณะนี้เอง มีนักข่าวเห็นเกาจื้อเวยกับอันเชี่ยนเชี่ยนสองคนเดินออกมาจากข้างหลัง

บรรดานักข่าวพลันกรูเข้าหาเกาจื้อเวยกับอันเชี่ยนเชี่ยนทันที

นักข่าว “ผู้อำนวยการเกา เมื่อครู่หลินเยียนปฏิเสธข้อกล่าวหาบนเวยปั๋วของคุณ ขอถามว่าคุณมีความคิดเห็นยังไงบ้างครับ?”

เกาจื้อเวยมองหลินเยียนด้วยสายตาชั่วร้าย พูดเนิบๆ ออกมาว่า “เรื่องแบบนี้ผมยังต้องใส่ความเธออีกอย่างงั้นเหรอ? ก่อนหน้านี้เห็นแก่ที่เธอเคยเป็นดาราในสังกัดบริษัทของพวกเรา ดังนั้นจึงมีหลายเรื่องที่ผมไม่ได้พูดให้ละเอียด ถือว่าผมไว้หน้าเธอมากพอแล้ว! ในเมื่อจนป่านนี้เธอยังไม่รู้จักสำนึก งั้นก็อย่ามาโทษผมก็แล้วกัน!”

ในเมื่อนังสารเลวนี่ให้สุราคารวะไม่ดื่มจะดื่มสุราลงทัณฑ์ ถ้าอย่างงั้นก็อย่าหาว่าเขาไม่เกรงใจ

ในเมื่อเขาไม่ได้ ก็ให้ทำลายไปซะเลย…

“รายละเอียด? รายละเอียดของคืนนั้นเป็นยังไงเหรอครับ?” เมื่อได้ยินคำพูดของเกาจื้อเวย นักข่าวที่อยู่ด้านข้างและเหล่าดาราที่มุงดูต่างพากันตื่นเต้นขึ้นมาทันที

เกาจื้อเวยพูดด้วยท่าทางเหมือนกำลังเดือดดาล “คืนนั้นเธอมาหาผมที่ออฟฟิศโดยสวมชุดโป๊เปลือย จากนั้นก็แก้ผ้าต่อหน้าผมทันที อ้อนวอนผม ขอร้องให้ผมรับเธอไว้ แถมยังพูดอีกว่าต่อให้ผมมีเมียแล้วก็ไม่ถือสา ขอเพียงผมยอมรับเธอไว้ เธอยินดีทำทุกอย่าง…”

เกาจื้อเวยพูดพลางมองหลินเยียนด้วยสีหน้าสมเพช “คุณหลินเยียน หรือว่าคุณลืมเรื่องพวกนี้ไปแล้วเหรอ?”

ชั่วพริบตาที่เกาจื้อเวยพูดจบ นักข่าวและดาราที่อยู่ตรงนั้นทุกคนต่างส่งเสียงฮือฮาขึ้นมาทันที

พระเจ้า!

นี่มันเรื่องใหญ่สุดๆ เลยนะ!

หลินเยียนคนนี้หน้าด้านเกินไปแล้วนะ! เรื่องแบบนี้ก็ยังทำได้?

หลินเยียนมองเกาจื้อเวยอย่างอับจนคำพูด ผู้ชายคนนี้เป็นผู้จัดการดาราออกจะเสียของแล้ว ไม่สู้ไปเป็นคนเขียนบทหรือผู้กำกับจะดีกว่า

ความสามารถในการแต่งเรื่องกับการแสดงช่างยอดเยี่ยมจริงๆ !

หลินเยียนมองเกาจื้อเวยด้วยท่าทางสงบเยือกเย็น “ผู้อำนวยการเกา คุณแน่ใจนะว่าฉันเคยพูดแบบนั้น เคยทำเรื่องแบบนั้น?”

เกาจื้อเวยตอบโดยปราศจากความกลัวเกรง “แน่นอน ฉันรับผิดชอบกับทุกคำที่ฉันพูดออกมา มิหนำซ้ำตอนนั้นอันเชี่ยนเชี่ยนก็อยู่ข้างฉัน เธอเห็นพฤติกรรมไม่สำรวมของเธอกับตา! ซึ่งก็คือเรื่องเมื่อสี่วันก่อน!”

เพื่อพิสูจน์ว่าคำพูดของตัวเองเป็นเรื่องจริง เกาจื้อเวยจึงลากอันเชี่ยนเชี่ยนลงน้ำด้วยทันที

หลินเยียนจึงมองไปทางอันเชี่ยนเชี่ยน “คุณอัน งั้นเหรอ? คุณก็อยู่ด้วยเหรอ?”

ตอนนี้อันเชี่ยนเชี่ยนต้องช่วยเกาจื้อเวยอยู่แล้ว แถมเธอเองก็คาดได้ว่าหลินเยียนทำอะไรพวกเธอไม่ได้แน่ ดังนั้นจึงพูดอย่างจริงจังหนักแน่น “ใช่แล้ว ตอนนั้นฉันก็อยู่ด้วย ก่อนหน้านี้เพราะเห็นว่าเป็นเพื่อนร่วมงาน ถึงไม่ได้บอกทุกคนทันที ใครจะรู้ว่าเธอกลับยังปฏิเสธอยู่ตรงนี้อีก! หลินเยียน เธอทำเกินไปแล้วจริงๆ นะ”

เมื่อได้ยินคำพูดของอันเชี่ยนเชี่ยน หลินเยียนก็ผงกศีรษะด้วยความพึงพอใจ ดีมาก

เดิมทีเธอยังไม่อยากดึงอันเชี่ยนเชี่ยนเข้ามาด้วย ใครจะรู้ว่าเธอกลับถูกผู้จัดการส่วนตัวของตัวเองลากลงน้ำ

ดังนั้นหลินเยียนจึงยืนยันกับทั้งสองคนเป็นครั้งสุดท้าย “เอาเถอะ งั้นฉันขอถามคำถามสุดท้าย ทำไมฉันต้องทำแบบนี้ด้วย?”

ตอนที่ 430 ได้ยินว่ามีคนคิดจะแย่งคนของผม?

เมื่อเกาจื้อเวยได้ยินก็หัวเราะเย้ยหยันออกมาทันที “หลินเยียน เธอนี่รู้อยู่แก่ใจก็ยังถามออกมาอีกนะ ก่อนหน้านี้ถูกฉันไล่ออกจากบริษัทเพราะมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ตอนนี้เธอก็ต้องทำเพื่อขอกลับมาที่ฉี่ซิง เอนเตอร์เทนเมนต์ของพวกเราน่ะสิ! มีปัญหาอะไรรึไง”

เมื่อพูดถึงตรงนี้ เหล่านักข่าวและดาราที่อยู่ตรงนั้นต่างเชื่อคำพูดของเกาจื้อเวยจนหมดสิ้น

เกาจื้อเวยยังคิดจะฉวยโอกาสนี้สร้างชื่อเสียงขึ้นไปอีก ดังนั้นจึงมองทุกคนพร้อมพูดต่อไปว่า “เรื่องที่เกี่ยวพันกับชื่อเสียงแบบนี้ ผมจะพูดซี้ซั้วได้ยังไงกัน ผมรู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าเธอมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ดังนั้นต่อให้ตอนนี้เธอกำลังโด่งดังมาก แต่ผมก็ไม่ได้รับปากที่จะเซ็นสัญญากับเธอง่ายๆ

ใครจะไปรู้…เธอกลับใช้วิธีการที่ต่ำช้าแบบนั้น! ผมเป็นคนมีครอบครัวแล้วนะ! แล้วจะไปทำเรื่องแบบนั้นได้ยังไง!”

“นั่นน่ะสิ หลินเยียนคนนี้ช่างหน้าด้านเหลือเกิน เธอนึกว่าทุกคนจะไร้ศีลธรรมเหมือนเธอหมดรึไง…” คนที่อยู่โดยรอบพอได้ฟังคำพูดของเกาจื้อเวยก็พูดเห็นด้วยขึ้นมาทันที รู้สึกโมโหเดือดดาลมากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันก็ชื่นชมคุณธรรมของเกาจื้อเวย

วันนี้ภาพยนตร์ที่อันเชี่ยนเชี่ยนร่วมแสดงก็เข้ารอบด้วย เพียงแต่เธอไม่ได้รับรางวัล

ทว่าด้านเกาจื้อเวยกลับอาศัยการสร้างกระแสช่วงนี้จนได้ชื่อเสียงที่ดีกลับมาไม่น้อย มีคนในงานจำนวนมากเข้ามาสนทนากับเขา ซ้ำยังแสดงการสนับสนุนเขาอีกด้วย ทำให้เกาจื้อเวยฉวยโอกาสสร้างสายสัมพันธ์ได้ไม่น้อย

“สารเลว! ไสหัวออกจากวงการบันเทิงไปเลยนะ!” ไม่รู้ว่าใครเป็นคนส่งเสียงตวาดด่าทอออกมาจากฝูงชน

ถัดจากเสียงด่าทอนี้ก็มีคนจำนวนมากเริ่มพูดตามขึ้นมาทันที

“ใช่! ไสหัวออกจากวงการบันเทิงไปซะ! คนแบบนี้ไม่สมควรให้เธออยู่ทำลายชื่อเสียงวงการบันเทิงของเราอีกต่อไป!”

“ทำไมถึงมีคนหน้าด้านแบบนี้อยู่ได้นะ! ก่อนหน้านี้ยังมีคนที่อยู่กองถ่ายเดียวกับเธอแฉว่าเธอเคยไปยั่วยวนแม้กระทั่งราชาภาพยนตร์เผยเสียด้วยซ้ำ!”

“นั่นสิ เมื่อกี้ได้ยินว่าราชาภาพยนตร์เผยแสดงท่าทีดีกับเธอมากเป็นพิเศษ! ไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนี้ใช้ลูกไม้หน้าด้านๆ อะไรอีก!”

……

เมื่อเห็นหลินเยียนไม่พูด เกาจื้อเวยจึงคิดว่าเธอหมดสิ้นหนทางแล้ว ดังนั้นจึงเดินออกมาแล้วแสร้งทำท่าถอนหายใจ “ที่จริงผมเป็นคนที่เห็นแก่มิตรภาพมากเลยนะครับ หลินเยียนคงหลงผิดไปชั่วขณะ ทุกคนอย่าตำหนิเธอเกินไปนักเลย เห็นแก่มิตรภาพครั้งเก่า ขอเพียงวันหลังเธอทำตัวว่านอนสอนง่าย ทำงานให้ดี ก็ใช่ว่าผมจะไม่เซ็นสัญญากับเธอนะครับ”

จนถึงตอนนี้เกาจื้อเวยก็ยังคิดที่จะบดขยี้คุณค่าสุดท้ายของหลินเยียนอยู่ดี เป็นทั้งคนเลวและคนดีในตัวคนเดียวกัน

และในขณะที่ทุกคนกำลังด่าทอหลินเยียนไม่หยุด และเกาจื้อเวยกำลังฉวยโอกาสเสแสร้งเป็นคนดีอยู่นั้น พลันมีเสียงพูดด้วยท่าทางสบายอารมณ์แว่วมาจากประตูที่อยู่ด้านข้าง

“แหม! วันนี้คึกคักจังเลยนะ!”

ทุกคนมองไปทางต้นเสียงโดยอัตโนมัติ

ผู้ที่มากลับเป็นฉู่จยาเหยา ประธานบริษัทพินนาเคิล เอนเตอร์เทนเมนต์!

ขณะนี้ฉู่จยาเหยากำลังเดินเข้ามาพร้อมการคุ้มกันของบอดี้การ์ด ยังมีราชาภาพยนตร์เผยหนานซวี่เดินมาพร้อมเขาอีกด้วย

ทุกคนต่างคิดไม่ถึงว่าเถ้าแก่พินนาเคิล เอนเตอร์เทนเมนต์จะมางานเทศกาลภาพยนตร์ในวันนี้ ดังนั้นจึงรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันที

ฉู่จยาเหยาถือเป็นจระเข้ยักษ์ใหญ่แห่งวงการบันเทิง เถ้าแก่พินนาเคิล เอนเตอร์เทนเมนต์ไม่เพียงมีสายตาอันยอดเยี่ยม ฝีมือเหนือชั้น มิหนำซ้ำยังมีรูปลักษณ์ภายนอกโดดเด่นไม่ด้อยไปกว่าดาราเลย แม้จะยืนเคียงข้างเผยหนานซวี่ แต่กลับไม่ถูกบดบังรัศมีแม้แต่น้อย

นักข่าวจำนวนหนึ่งคิดจะฉวยโอกาสเข้าไปขวางหน้าเพื่อไปสัมภาษณ์สักหลายๆ ประโยค คิดไม่ถึงว่า ฉู่จยาเหยากลับเดินตรงมาหาพวกเขาทันที

จากนั้นฉู่จยาเหยาซึ่งใบหน้าประดับรอยยิ้มบางมาตลอดประหนึ่งเสือหน้ายิ้มพลันรั้งสายตาอยู่บนใบหน้าเกาจื้อเวย เขายิ้มแย้มพร้อมเอ่ยปากพูดลากเสียงยาวออกมาว่า “ได้ยินว่า…มีคนคิดจะแย่งคนจากพินนาเคิล เอนเตอร์เทนเมนต์ของเราอย่างงั้นเหรอครับ?”