ตอนที่ 308 ไม่ใช่คนเช่นนั้น

แม่สาวเข็มเงิน

จิ้นเทียนหยู่ที่เดิมทีกำลังรู้สึกเบื่อหน่ายไม่ค่อยสนุกกับงานได้ยินชื่อเจียงป่าวชิง ร่างกายเขาขึงตึงขึ้นทันที รีบแหวกฝูงชนออกและต้องตกตะลึงเมื่อพบว่าคนที่นอนอยู่บนเตียง พยายามจะลวนลามเจ้าสาวคือเจียงป่าวชิง (?)

เห็นได้ชัดว่าเจียงป่าวชิงนอนไม่ได้สติอยู่ในตอนนี้ จิ้นเทียนหยู่แทบพ่นไฟออกมาจากในดวงตาได้อยู่แล้ว เขาก้าวเท้าไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วและขวางหมัดของหลู่เว่ยต้งที่ต้องการจะต่อยเจียงป่าวชิงให้ตายเอาไว้ได้ทัน

“เจ้าคิดจะทำอะไร ?!” จิ้นเทียนหยู่ตะคอกเสียงดัง

หลู่เว่ยต้งใกล้เป็นบ้าเต็มที ในหัวเขาตอนนี้มีแต่ความโกรธเคืองขุ่นแค้นใจ งานแต่งงานที่เฝ้ารอมานานกลับต้องมาเห็นชายอื่นลวนลามสตรีในดวงใจของเขา ไอ้หน้าขาวนี่ทำสิ่งที่ไม่น่าให้อภัยกับหญิงสาวว่าที่ภรรยาของเขา!

หลู่เว่ยต้งกัดฟันกรอด ตะคอกกลับ “เจ้าไสหัวไปซะ! ที่นี่ไม่มีธุระอะไรของเจ้า วันนี้ข้าจะต้องฆ่าไอ้หมอบ้านี่ให้ได้!”

จิ้นเทียนหยู่ปกป้องเจียงป่าวชิงอย่างเต็มที่ เขาผลักหลู่เว่ยต้งออกแรงมาก “เจ้าบ้าไปแล้วรึ ?! เรื่องนี้ยังไม่ทันถูกสืบสวนทำให้กระจ่างดีก็คิดจะฆ่าแกงกันแล้ว! ข้าอยู่ที่นี่ ดูซิว่าเจ้าจะแตะต้องเขาได้สักนิดหรือไม่!”

หลู่เว่ยต้งเหมือนสัตว์ป่าที่ออกจากกรง เขาสูญเสียเหตุผลไปทั้งหมด ไฟโกรธสุมแน่นในอก ดวงตาแดงฉานมองจิ้นเทียนหยู่อย่างโหดเหี้ยม “จิ้นเทียนหยู่ วันนี้เจ้าจะปกป้องไอ้บัดซบเจียงนั่นให้ได้เลยใช่ไหม ?! เขาว่ากันว่าไม่ควรรังแกภรรยาของพี่น้อง เจ้าดูสิว่าเขาทำสิ่งที่ไม่น่าให้อภัยกับหรูเอ๋อร์! วันนี้ข้าจะต้องฉีกเขาออกเป็นพันชิ้น!”

กู่ฟู่กุ้ยที่เพิ่งมาถึงรีบออกมาไกล่เกลี่ยทันที “น้องเจียงไม่ใช่คนเช่นนั้น นี่อาจมีการเข้าใจผิดอะไรกันก็ได้… เหล่าหลู่ เจ้าใจเย็นก่อน”

“เข้าใจผิดอย่างนั้นรึ ?!!!” หลู่เว่ยต้งหันไปจ้องกู่ฟู่กุ้ยอย่างเอาเป็นเอาตาย “ภาพมันฟ้องขนาดนี้แล้วยังจะเข้าใจผิดอะไรอีก! หัวหน้าใหญ่ ถ้าท่านจะเข้าข้างก็อย่าเข้าข้างให้มันเห็นชัดแบบนี้ มันทำให้พี่น้องผิดหวังในตัวท่านเปล่า ๆ!”

“เอ่อ… ชะ… ใช่ นี่มันเกินไป วันนี้เป็นวันที่พี่หลู่แต่งงานนะขอรับ…” ใครคนหนึ่งพูดออกมาอย่างเห็นด้วยกับหลู่เว่ยต้ง “ถ้าหมอแซ่เจียงคิดอะไรกับแม่นางหลี่จริง ก็ควรออกมาแข่งกันชิงตัวนางตั้งแต่เนิ่น ๆ ไม่ใช่ทำเรื่องเลวร้ายเช่นนี้ในวันแต่งงาน นี่ไม่เท่ากับว่าเป็นการผิดประเวณีกับภรรยาของพี่น้องหรอกรึ ตามกฎของหมู่บ้านแล้วเขาจะต้องถูกประหารชีวิตนะขอรับหัวหน้าใหญ่”

หลายคนวิพากษ์วิจารณ์กันเสียงเบา พวกเขาล้วนคิดว่าเจียงป่าวชิงทำเรื่องเลว ๆ

จิ้นเทียนหยู่ฟังแล้วก็รู้สึกหงุดหงิด ความรู้สึกไร้สาระผุดในใจ เจียงป่าวชิงผิดประเวณีกับหลี่อันหรูได้รึ

ไม่มีทาง!

นางจะใช้อะไรทำผิดประเวณีได้ล่ะ

ในช่วงชุลมุนนั้นเอง เจียงป่าวชิงค่อย ๆ ขยับตัวและฟื้นขึ้นมาได้อย่างถูกเวลาพอดี

หลี่อันหรูราวกับได้รับการกระตุ้นให้ตื่นกลัวอย่างไรอย่างนั้น นางกรีดร้อง รีบหลบหลีกไปนั่งซุกในซอกเตียงด้วยท่าทางราวกับหญิงสาวที่ถูกทำมิดีมิร้าย หลายคนที่ได้เห็นรู้สึกสงสารนางทันที

หัวใจของหลู่เว่ยต้งเหมือนถูกทิ่มแทง เขาพุ่งไปข้างตัวหลี่อันหรูอย่างไว พยายามกอดนางโดยมีผ้าห่มกั้นกลางและพูดปลอบนางไม่หยุดหย่อน “ไม่เป็นไร เจ้าจะไม่เป็นไร…”

จิ้นเทียนหยู่มองดูเจียงป่าวชิงนวดขมับตัวเองและลุกขึ้นนั่งบนเตียง เสื้อผ้าด้านหน้าของนางถูกฉีกเละไม่เป็นท่าเช่นกัน ไฟโกรธในใจเขาพุ่งขึ้นมากะทันหัน รีบถามนางเสียงเบา “หมอเจียง นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ?”

เจียงป่าวชิงยังไม่ทันได้ตอบ หลี่อันหรูก็ร้องไห้สะอึกสะอื้นรีบแย่งพูดขึ้นมาเสียก่อน “ไอ้ปีศาจร้ายคนนี้บอกว่าเขาจะจับชีพจรให้ข้า แต่แล้วเขาก็พุ่งเข้ามาต้องการจะลวนลามข้า… โชคดีที่ข้าทุบเขาสลบได้ก่อน ไม่อย่างนั้น ตอนนี้เขาคงทำสำเร็จไปแล้ว!”

“หมอเจียง ตามปกติเจ้าดูเหมือนคนใจดี ไม่คิดว่าเจ้าจะเลวทรามต่ำช้าได้ขนาดนี้ พี่หลู่เองก็เป็นพี่น้องของเจ้า ทำไมเจ้าถึงได้ทำเรื่องขาดสติเช่นนี้ในงานแต่งงานของเขาได้ เจ้าคิดอะไรอยู่กันแน่ ?”

“ใช่ ๆ ๆ! ที่เจ้าทำนี่แทบไม่ใช่คนแล้ว นี่มันการกระทำของสัตว์ร้าย”

หลู่เว่ยต้งสีหน้าอึมครึม ในดวงตาเขาประหนึ่งเต็มไปด้วยพายุพัดโหม และท่าทางของเขาก็ราวกับจะกินคนได้

“เจียง! ป่าว! ชิง!” เขาตะโกน

จิ้นเทียนหยู่ยังคงคุ้มกันเจียงป่าวชิงและพูดขึ้นอย่างไม่พอใจ “เจ้าจะตะคอกทำไมเล่า หมอเจียงไม่มีวันทำเรื่องเช่นนี้แน่”

หลู่เว่ยต้งเห็นว่าเรื่องมาถึงขนาดนี้แล้วแต่จิ้นเทียนหยู่ยังคงปกป้องเจียงป่าวชิงอยู่อย่างนั้น จึงแค่นเสียงหัวเราะเยาะ

“หึ ๆ ก่อนหน้านี้ข้าได้ยินว่าเจ้าแค้นที่ข้าแย่งหรูเอ๋อร์ไปจึงต้องการแก้แค้นข้า” หลู่เว่ยต้งพูดอย่างโหดเหี้ยม “แต่ไม่คิดว่าเจ้าจะเลวทรามต่ำช้าถึงขนาดสนับสนุนคนทำชั่วเช่นนี้ในงานแต่งงานข้า! อ้อ ข้ารู้แล้ว เจ้าบงการเจียงป่าวชิงใช่หรือไม่ ?! เจ้าต้องการทำลายนาง ทำลายงานแต่งงานของเรา!”

หลู่เว่ยต้งเลิกชายเสื้อขึ้น เผยให้เห็นว่าใต้เสื้อคลุมสีแดงของเจ้าบ่าวมีมีดยาวซ่อนอยู่ ในขณะเดียวกันมีหลายคนที่เลิกชายเสื้อขึ้นเผยให้เห็นมิดเงินที่ติดอยู่ตรงเอวของพวกเขาเช่นกัน

สีหน้ากู่ฟู่กุ้ยเปลี่ยนไปทันที เขาก้าวไปข้างหน้า ตวาดขึ้นเสียงดังก้อง “หยุด! นี่พวกเจ้าคิดจะทำอะไรกันวะ!”

หลู่เว่ยต้งส่งเสียงไม่พอใจ “เหอะ! หัวหน้าใหญ่ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับท่าน ข้าก็แค่ต้องการจะล้างแค้นให้ว่าที่ภรรยาที่ถูกดูหมิ่นของข้าเท่านั้น! ข้าเตรียมการป้องกันไม่ให้ไอ้บ้าจิ้นเทียนหยู่สร้างปัญหาในงานแต่งงานของข้าตั้งแต่เนิ่น ๆ แล้ว ข้าจึงพกอาวุธเผื่อไว้ ไม่คิดว่ามันจะได้ใช้งานจริงในตอนนี้!”

หลู่เว่ยต้งพูดขึ้นเสียงแหบ “จิ้นเทียนหยู่ ข้าจะพูดครั้งสุดท้าย เจ้าหลีกไปซะ ข้าจะฟันไอ้หมอแซ่เจียงบัดซบนั่นก่อน แล้วค่อยมาสะสางความแค้นกับเจ้า!”

จิ้นเทียนหยู่ไม่กลัวแม้แต่น้อย เขามองหลู่เว่ยต้งอย่างเงียบ ๆ ยังคงไม่หลีกทางให้อีกฝ่าย

ในขณะเดียวกัน หลายคนเดินออกมาจากขบวนรับเจ้าสาวซึ่งนำโดยจิ้นหนิวมายืนคุ้มกันอยู่ตรงหน้าจิ้นเทียนหยู่ เห็นได้ชัดว่ามีการคุมเชิงสถานการณ์ระหว่างหลู่เว่ยต้งกับคนพวกนั้นด้วยเช่นกัน

ท่าทีของพวกเขาแสดงให้เห็นชัดเจนว่าพวกเขาต้องการหนุนหลังให้เจียงป่าวชิงจนถึงที่สุด นี่ทำให้หลู่เว่ยต้งบันดาลโทสะถึงขีดสุด

บัดนี้ไม่สนอะไรแล้ว หลู่เว่ยต้งกัดฟันพูดอย่างหยายคาย “ไอ้พวกบัดซบ! อย่าคิดว่าข้าไม่กล้าลงไม้ลงมือกับพวกเจ้านะโว้ย!”

จิ้นเทียนหยู่หัวเราะเยาะ “เอ้า เจ้าก็เข้ามาสิ ใครกลัววะ!”

เมื่อการต่อสู้นองเลือดกำลังจะเริ่มต้นขึ้น จู่ ๆ ก็มีเสียงพูดขึ้นมา เป็นเจียงป่าวชิงนั่นเอง

“หยุด! ข้าคิดว่า…” เจียงป่าวชิงนวดศีรษะตัวเอง “พวกเจ้าเลิกบ้าคลั่งและฟังบุคคลที่เกี่ยวข้องอย่างข้าพูดก่อน”

หลู่เว่ยต้งถ่มน้ำลายลงพื้น มองเจียงป่าวชิงอย่างอาฆาตมาดร้าย “เจ้าจะพูดอะไรอีก เราต่างก็เห็นว่าเจ้า…”

เจียงป่าวชิงขัดคำพูดของหลู่เว่ยต้งและถามกลับ “เจ้าเห็นอะไร เห็นว่าข้าถอดเสื้อผ้าของหลี่อันหรูรึไง หรือว่าเห็นข้าขึ้นคร่อมนางอย่างนั้นรึ ?”

“ไร้ยางอายสิ้นดี!” หลู่เว่ยต้งโกรธจนตัวสั่นเทา เขายกมีดจะฟันเจียงป่าวชิงแต่กู่ฟู่กุ้ยตะคอกห้ามเสียงดัง

“พอได้แล้ว! เจ้าหยุดเดี๋ยวนี้!!!”

หลู่เว่ยต้งมองกู่ฟู่กุ้ยอย่างยากที่จะเชื่อและตะคอกกลับ “หัวหน้าใหญ่ ต่อให้ท่านลำเอียงแค่ไหนก็อย่าทำให้เห็นชัดเจนแบบนี้เซ่!”

กูฟู่กุ้ยสีหน้าอึมครึม “อย่างน้อยเจ้าก็ควรฟังน้องเจียงเขาพูดก่อน ถ้าสุดท้ายแล้วเขาทำผิดต่อเจ้าจริง ๆ เจ้าไม่ต้องฟันเขาให้เปลืองแรง ข้านี่แหละจะลงมือฟันเขาด้วยตัวข้าเอง!”

หลู่เว่ยต้งหอบหายใจอย่างแรง มือที่กำมีดสั่นเทาคล้ายกับว่าเขากำลังพยายามอย่างหนักเพื่อสงบสติอารมณ์

หลี่อันหรูเรียกออกมาว่า “พี่ต้ง” อย่างเศร้าใจ นางกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ซูรุ่ยเอ๋อร์พุ่งตัวมาถึงข้างเตียงอย่างรวดเร็วและกดร่างหลี่อันหรูไว้ สีหน้าของนางดูเหมือนจะอ่อนโยนแต่แววตานั้นไม่เลย

“น้องสาว เจ้าหุบปากก่อน อย่าเติมเชื้อเพลิงลงกองไฟ เจ้าค่อยพูดตอนที่ถึงคราวเจ้าพูด ถ้าหากว่าเจ้าไม่ได้รับความเป็นธรรมจริง ๆ เจ้าเป็นภรรยาของเหล่าหลู่ที่ยังไม่แต่งเข้าบ้าน เราต้องให้คำอธิบายกับเจ้าเป็นธรรมดา ที่นี่เราตัดสินกันด้วยเหตุด้วยผล ไม่ใช่ว่าใครร้องไห้เสียงดังสุดแล้วจะมีเหตุผลที่สุด เจ้าเข้าใจไหม ?”

หลี่อันหรูมองดูแววตาน่ากลัวของซูรุ่ยเอ๋อร์แล้วอดตัวสั่นไม่ได้

น่ากลัวเกินไป! แววตาของซูรุ่ยเอ๋อร์ทำให้นางนึกถึงแววตาของจิ้นเทียนหยู่ที่ทำให้นางกลัวสุดขีดเหมือนเมื่อตอนที่นางเพิ่งถูกลักพาตัวครั้งแรก

สายตาเช่นนั้นราวกับว่าไม่ได้กำลังมองคน แต่มองสิ่งของไร้ค่าชิ้นหนึ่งเท่านั้น และผู้ที่ถูกมองจะถูกควบคุมความเป็นความตายได้ตามต้องการ…

หลี่อันหรูเหมือนถูกใครบางคนปิดกั้นเสียงในลำคอไว้ ภายใต้ความหวาดกลัวถึงขีดสุดทำให้นางไม่กล้าพูดอะไรออกมาอีก