บทที่ 278: ฉันต้องการมันทั้งหมด
ในห้องเรียนที่ 14 ของอาคาร 1 โรเอลถอนหายใจด้วยความโล่งอกและพยายามดึงท่าทางอันสุขุมกลับมา ในขณะเดียวกันความกังวลของลิเลียนเองก็บรรเทาลงเช่นกัน
ลิเลียนเก็บสื่อการสอนกลับเข้าที่ จัดเสื้อผ้าของเธอ เตรียมตัวออกจากห้องเรียน อย่างไรก็ตามก่อนที่โรเอลจะได้กล่าวคำอำลา ฝีเท้าของเธอก็หยุดลงราวกับว่านึกถึงสิ่งที่สำคัญบางอย่างได้
หืม? คราวนี้อะไรอีกล่ะ?
โรเอลมองดูลิเลียนที่ค่อย ๆ หันกลับมา ทำให้หัวใจของเขาเริ่มเต้นอย่างประหม่าอีกครั้ง เด็กหนุ่มกังวลว่าจู่ ๆ เธอจะเปลี่ยนใจเกี่ยวกับเรื่องของพอล อย่างไรก็ตามกลับกลายเป็นว่าเธอยื่นอะไรบางอย่างมาให้เขาเสียอย่างนั้น
“นี่ของเธอ”
“หา?”
ลิเลียนเดินไปที่โต๊ะของโรเอล หยิบบางอย่างออกมาจากกระเป๋าแล้ววางลงบนโต๊ะ โรเอลมองดูสิ่งของชิ้นนั้นด้วยความสงสัย ก่อนจะตกตะลึงทันทีที่ได้เห็นมัน
ตุ๊กตากระต่ายสีชมพูถูกวางลงเงียบ ๆ บนโต๊ะ จ้องมาที่เขาด้วยดวงตาสีทับทิมเล็ก ๆ เห็นได้ชัดว่ามันถูกทำจากวัสดุชั้นยอด ไม่เพียงแค่มีเนื้อสัมผัสอันนุ่มนิ่มเท่านั้น แต่ยังมีภายในที่อ่อนนุ่ม ซึ่งทำให้จับได้ถนัดมืออีกด้วย
“รุ่นพี่ น…นี่คือ…”
“มันเป็นอุปกรณ์เวทสำหรับสื่อสาร ฉันจะให้เธอยืมมันชั่วคราว”
“เอ๋?”
เมื่อเห็นความสับสนในดวงตาของโรเอล ลิเลียนก็เริ่มอธิบายอย่างใจเย็น
“มันจะทำให้คนอื่นสงสัยได้ถ้าเราเจอกันตอนกลางคืนบ่อย ๆ ดังนั้นฉันจะแจ้งให้เธอทราบเกี่ยวกับเวลาของชั้นเรียนซ่อมเอง ผ่านทางอุปกรณ์สื่อสารนี้ เธอน่าจะรู้วิธีใช้งานมันใช่ไหม?”
“ผมรู้ครับ แต่…”
โรเอลแหย่ตุ๊กตากระต่ายด้วยความงุนงง เห็นได้ชัดว่าเขายังคงประหลาดใจอยู่นิดหน่อย
อุปกรณ์เวทสื่อสารเป็นวิธีที่ใช้กันทั่วไป สำหรับนักเรียนในการติดต่อกันภายในสถาบันการศึกษาเซนต์เฟรย่า อุปกรณ์เหล่านี้ถูกจับคู่กันเป็นพิเศษ ซึ่งหมายความว่าอนุญาตสำหรับการสื่อสารแบบตัวต่อตัวเท่านั้น และมีการจำกัดช่วงที่สามารถส่งและรับข้อความได้ อย่างไรก็ตามมันก็ยังเป็นวิธีที่สะดวกสำหรับนักเรียนในสถาบันการศึกษาเดียวกันสำหรับใช้ในการสื่อสาร
โรเอลรู้ดีถึงการมีอยู่ของมัน และมันก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจที่ลิเลียน จะเสนอให้เขาใช้อุปกรณ์เหล่านี้เพื่อติดต่อหากัน
แต่… ทำไมมันถึงต้องเป็นรูปร่างแบบนี้ด้วยล่ะ? ตุ๊กตากระต่ายสีชมพูตัวนี้ดูน่ารักก็จริง หรือว่า… นี่เป็นรสนิยมจริง ๆ ของลิเลียนกันนะ?
โรเอลสลับสายตาไปมาระหว่างโฉมงามผู้เยือกเย็นตรงหน้า กับอุปกรณ์เวทสื่อสารที่น่ารัก ก่อนที่เขาจะรู้ตัวแก้มของเขาก็เริ่มกระตุก
“มีปัญหาอะไรรึเปล่า?”
มันเป็นเสียงอันเย็นชาจนทำให้โรเอลสั่นสะท้านไปทั้งตัว
โรเอลตระหนักในทันทีว่าการตอบสนองที่โจ่งแจ้งเกินไปของเขาได้จุดชนวนความไม่พอใจของลิเลียน เมื่อรู้ว่าตนเองอาจจะทำให้เธอโกรธได้ เขาจึงรีบหยิบตุ๊กตากระต่ายสีชมพูบนโต๊ะไปอย่างรวดเร็ว ชะงักไปชั่วครู่ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นเผยให้เห็นดวงตาอันเปล่งประกายด้วยความตื่นเต้น
“ช่างเป็นอุปกรณ์สื่อสารที่น่ารักจริง ๆ! เดี๋ยวก่อนนะ ตรานี่มันเป็นของร้านกาแฟที่เปิดโดยจอมเวทบนถนนการค้าไม่ใช่เหรอครับ? แสดงว่าตุ๊กตาตัวนี้เป็นของหายากสุด ๆ ที่เจ้าของร้านจะสุ่มแจกเฉพาะโอกาสพิเศษใช่ไหมเนี่ย! เหลือเชื่อจริง ๆ! รุ่นพี่หามันมาได้อย่างไรกันครับ?”
โรเอลลูบตุ๊กตาขนปุยพร้อมถามด้วยความสงสัยอย่างลึกซึ้ง โชคดีที่ชาร์ล็อตเคยพูดถึงมันในการสนทนาระหว่างพวกเขาในช่วงกลางวันก่อนหน้านี้
ลิเลียนกะพริบตาด้วยความประหลาดใจ เธอไม่คิดว่าโรเอลจะรู้เรื่องตุ๊กตาตัวนี้มากถึงขนาดนั้น ดวงตาอันเฉียบคมของเธออ่อนลง จากนั้นบรรยากาศที่ตึงเครียดก็คลายลงเล็กน้อย
“… จริง ๆ แล้วมันไม่ใช่เรื่องยากอะไรหรอก ปกติเจ้าของร้านจะมอบอุปกรณ์เวทให้กับลูกค้ารายแรกในวันรุ่งขึ้นหลังจากที่เธอร่ายคาถาเวทเสร็จ เธอก็แค่ต้องคอยจับตาดูวันที่เสบียงสำหรับร่ายคาถาเวทของเธอมาถึง และจดเวลาว่างที่เธอมีทุกวัน ด้วยข้อมูลนี้ เธอก็จะสามารถคาดการณ์วันที่อุปกรณ์เวทน่าจะเสร็จสมบูรณ์ได้”
“…”
ถึงกับคำนวณอย่างซับซ้อนขนาดนั้นเพื่อตุ๊กตาตัวนี้เลยเหรอ? เธอชอบมันมากขนาดไหนกันเนี่ย!
การโต้กลับมากมายผุดขึ้นในหัวของโรเอล จนเริ่มมีปัญหาในการรักษาสีหน้า เด็กหนุ่มบีบหูอันนุ่มฟูของกระต่ายแล้วรีบขอบคุณลิเลียน
“มันสวยจริง ๆ ขอบคุณครับรุ่นพี่ลิเลียน ผมจะดูแลมันเป็นอย่างดี”
“อย่างนั้นหรือ? ดีมาก”
ลิเลียนตอบก่อนจะเดินออกจากห้องเรียนไป
โรเอลจ้องไปที่ประตูห้องเรียนที่ปิดสนิทอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะหันไปทางตุ๊กตาผ้าในมือ เขารู้สึกเหมือนตัวเองเพิ่งได้เห็นด้านหนึ่งของลิเลียนที่เขาไม่เคยได้รู้จักมาก่อน
ไม่มีอะไรในเกมที่บ่งบอกว่าลิเลียนมีรสนิยมแบบนี้ แต่พอลองคิดดูดี ๆ แล้ว ลิเลียนเองก็ค่อนข้างแต่งตัวแบบผู้หญิง เพียงแค่ว่าบุคลิกของเธอนั้นเย็นชาจนไม่มีใครใส่ใจ
พอมานึก ๆ ดูเธอก็มีมุมน่ารักด้วยเหมือนกันแฮะ
เมื่อจินตนาการถึงภาพของลิเลียนที่กำลังใช้อุปกรณ์สื่อสารของเล่นตุ๊กตากระต่ายด้วยใบหน้าอันเยือกเย็นตามปกติ โรเอลก็รู้สึกจั๊กจี้เล็กน้อย เขาเคยคิดว่าลิเลียนเป็นคนเคร่งขรึม แต่เหตุการณ์นี้ทำให้ความรู้สึกของเขาที่มีต่อเธออ่อนลงไปมาก
ทว่าตอนนี้ปัญหาก็คือ…
“เราจะต้องพกตุ๊กตาตัวนี้ไปไหนมาไหนทุกที่ด้วยสินะ”
เมื่อมองไปที่กระต่ายสีชมพูขนปุยในมือ โรเอลก็พบว่าตัวเองถอนหายใจออกมาอย่างช่วยไม่ได้
…
“พอล ฉันขอมอบหมายการก่อตั้งชมรมสารพัดจ้าง และการสรรหาสมาชิกให้กับนาย”
“!”
บนโต๊ะอาหารโรเอลพูดขึ้นขณะกำลังหั่นสเต็ก ทิ้งพอลที่กำลังหยิบขนมปังเข้าปากหันไปมองด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง คิดว่าตนเองได้ยินอะไรผิดไปแน่ ๆ
การสรรหาสมาชิกมีความสำคัญอย่างมากต่อการก่อตั้งกลุ่ม การนำคนเข้ามาเป็นสมาชิกหลัก และสร้างฐานผู้ติดตามถือเป็นรากฐานของการสร้างกองกำลัง เพราะประเภทของคนที่ถูกนำเข้ามาในกลุ่มนั้นมีผลกระทบอย่างลึกซึ้งต่อการพัฒนาในอนาคตของกลุ่ม
บุคคลที่รับผิดชอบในการสรรหาบุคลากรนั้นจะได้รับผลประโยชน์เป็นอย่างมากหากเขาจัดการมันได้ดี เพราะหน้าที่ในการคัดสรรสมาชิกเป็นอะไรที่สำคัญมาก
ในสถาบันการศึกษาเซนต์เฟรย่า ผู้รับผิดชอบในการสรรหาสมาชิกใหม่กลุ่ม มักจะเป็นหน้าที่ของรองหัวหน้า
หากโรเอลไม่ใช่ผู้ถือแหวนล่ะก็ เขาคงจะกลายเป็นผู้รับผิดชอบในการสรรหาคัดเลือกสมาชิกของฝ่ายกุหลาบทองไปแล้ว ทุกคนที่ต้องการเข้าใกล้ผู้สืบทอดของจักรวรรดิเซนต์เมซิทในอนาคตจะต้องพยายามทำให้โรเอลพอใจก่อน เพราะตราบใดที่เขายังไม่อนุมัติ แม้แต่คนที่มีความสามารถสูงที่สุดในรุ่นก็ไม่อาจเข้ามาเป็นสมาชิกของฝ่ายกุหลาบทองได้
และตอนนี้ โรเอล ได้มอบอำนาจอันยิ่งใหญ่นั้นให้กับพอล
ความไว้วางใจที่พอลได้รับจากโรเอลทำให้เขารู้สึกตื้นตันใจเป็นอย่างมาก มือของเขาสั่นเล็กน้อยขณะที่ใบหน้าของเขาแดงขึ้นอย่างรวดเร็วด้วยความปั่นป่วน อย่างไรก็ตามหลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็อดไม่ได้ที่จะกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของการเคลื่อนไหวนี้
“ลูกพี่โรเอล มันจะไม่ทำให้คุณลำบากเหรอ ถ้าให้ผมเป็นคนรับผิดชอบในการสรรหาบุคลากร?”
พอลถามอย่างประหม่า
ในฐานะที่เป็นคนที่ถูกรังเกียจกีดกันอย่างหนักภายในสถาบันการศึกษาเซนต์เฟรย่า พอลจึงกังวลว่าบุคคลที่มีความสามารถอาจจะหันหลังให้กับฝ่ายกุหลาบน้ำเงินของโรเอล เมื่อรู้ว่าเขาเป็นผู้สรรหาบุคลากร และสิ่งนี้จะต้องส่งผลเสียต่อการพัฒนาของฝ่ายกุหลาบสีน้ำเงินอย่างแน่นอน
ทว่าโรเอลกลับไม่ได้สนใจปัญหานั้นเลย
“ใครก็ตามที่เลือกจะหลบเลี่ยงฝ่ายกุหลาบน้ำเงิน เพราะมีนายอยู่ ก็ไม่สมควรที่จะเข้าร่วมกับเรา เพราะมันหมายความว่าสมองของพวกเขาทำงานได้ไม่ดี หรือไม่อุดมการณ์ของพวกเขาก็ไม่สอดคล้องกับเรา ฉะนั้นแล้วการนำคนเหล่านี้เข้ามาจะยิ่งทำให้เกิดปัญหา”
โรเอลกล่าวอย่างใจเย็นขณะจิบไวน์
แม้ว่าเขาจะมีท่าทางที่ดูเฉยเมย แต่จริง ๆ แล้วเด็กหนุ่มรู้สึกตื่นเต้นมากเกี่ยวกับเรื่องนี้
โรเอลเข้าใจถึงความสำคัญของบทบาท “ผู้สรรหาบุคลากร” ดี นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงมอบตำแหน่งนี้ให้กับพอล เพราะท้ายที่สุดแล้วพอลนั้นเป็นถึงตัวเอกของเกมอาย ออฟ โครนิเคิล!
ปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการพัฒนากลุ่มไม่ใช่สิ่งอำนวยความสะดวกหรือการเงินแต่คือกำลังคน
การมีสมาชิกหลาย ๆ คนในกลุ่มย่อมมีประโยชน์ แต่ความยากลำบากที่ชมรมรับจ้างสารพัดจะเผชิญในตอนท้าย ไม่ใช่ปัญหาที่สามารถแก้ไขได้ด้วยจำนวน ด้วยเหตุนี้โรเอลจึงตัดสินใจที่จะให้ความสำคัญกับคุณภาพมากกว่าปริมาณ
ถ้าหากพูดถึงเรื่องคุณภาพแล้วล่ะก็ จะมีใครสามารถเอาชนะพันธมิตรของตัวเอกดั้งเดิมได้กันล่ะ?
ถูกต้องแล้ว โรเอลต้องการมันทั้งหมด! แค่มีตัวเอกเป็นพวกนั้นยังไม่เพียงพอสำหรับเขา โรเอลต้องการพรรคพวกของตัวเอกในเกมด้วย!
แน่นอนว่าเด็กหนุ่มนั้นเข้าใจดีว่า เหตุการณ์ในตอนนี้แตกต่างออกไปจากเรื่องราวในเกม ทำให้สิ่งต่าง ๆ อาจไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้ แต่โรเอลก็ยังรู้สึกว่าเขาควรปล่อยให้พอลเป็นคนจัดการเรื่องนี้ เพราะพอลประสบความสำเร็จในการรับสมัครคนเหล่านั้นในเกม ดังนั้นมันจะต้องมีบางอย่างเกี่ยวกับตัวเขาที่สามารถดึงดูดพันธมิตรเหล่านั้นเข้ามาได้แน่ ๆ
นอกจากนี้โรเอลยังต้องการกีดกันบุคคลที่มีอคติต่อพอลออกไป เพราะเป้าหมายของเขาคือการสร้างองค์กรที่เป็นกลางและไม่ขึ้นกับอาณาจักรใด ๆ แต่เพื่อให้บรรลุเป้าหมายนั้น เขาต้องนำบุคลากรที่มีความคิดเหมือน ๆ กันเข้ามา หรืออย่างน้อยก็ผู้คนที่ไม่ได้คัดค้านแนวคิดของเขา
เมื่อพิจารณาถึงอุปสรรคที่ชมรมสารพัดจ้างจะต้องเผชิญ สมาชิกจะที่เข้าร่วมจะต้องเป็นหนึ่งเดียวกัน ความขัดแย้งใด ๆ ที่เกี่ยวกับความแตกต่างทางอาณาจักรของสมาชิก ถือเป็นสิ่งต้องห้าม เขาจึงไม่ต้องการรับสมาชิกที่มีรูปแบบความคิดขัดแย้งกับคนอื่นด้วยเรื่องไร้สาระเช่นนั้น
“นายลองมองหาคนที่นายชื่นชม และสามารถทำงานร่วมกับเราได้ จำนวนคนที่นายนำเข้ามาไม่สำคัญ ดำเนินการอย่างค่อยเป็นค่อยไป เราจะเริ่มรับสมัครอย่างเป็นทางการเมื่อนายได้สมาชิกหลักมากจนพอใจแล้ว”
โรเอลกล่าว
ความตั้งใจของเขาคือการรักษาเงื่อนไขที่พอลใช้คัดเลือกสมาชิกดั้งเดิมของชมรมสารพัดจ้างให้มากที่สุด อย่างไรก็ตามพอลกลับตีความหมายแตกต่างออกไปจากสิ่งที่โรเอลคิด
เข้าใจแล้ว ลูกพี่โรเอลกลัวว่าเราจะถูกทิ้งให้โดดเดี่ยว ดังนั้นเขาจึงชะลอกระบวนการสรรหาสมาชิกเพื่อประโยชน์ของเรา
พอลรู้สึกซาบซึ้งใจเป็นอย่างมาก เขาเงยหน้าขึ้นมองโรเอล ก่อนจะเห็นอีกฝ่ายจ้องมองมาที่เขาด้วยสายตาอันคาดหวัง นี่เป็นหนึ่งในโอกาสที่หาได้ยาก ในการที่ความรู้สึกถูกถ่ายทอดออกมามากกว่าคำพูด
เมื่อเห็นสิ่งนี้ พอลก็ไม่ลังเลอีกต่อไป
“ลูกพี่โรเอล ผมจะรับผิดชอบการสรรหาสมาชิกเอง ถึงผมจะไม่สามารถรับรองได้ว่า ตัวเองจะสามารถหาคนที่มีศักยภาพมาให้กับฝ่ายกุหลาบน้ำเงินได้รึเปล่า แต่ผมจะพยายามทำให้ดีที่สุด”
พอลกล่าวพร้อมกับกำมือแน่น
ที่ฝั่งตรงข้ามของโต๊ะโรเอลรู้สึกว่าหัวใจของเขากำลังเต้นแรงด้วยความปิติยินดี
“นายควรเชื่อใจตัวเองให้มากขึ้นนะ ฉันเชื่อมั่นในตัวนาย”
โรเอลพูดด้วยรอยยิ้มลึก ๆ