“คุณแน่ใจเหรอว่าความหมายนี้ ถ้าถามอีกรอบว่า basketแปลว่าอะไร คุณกล้าพูดไหม” เสี่ยวเชี่ยนยังคงขุดหลุมฝังอีกฝ่ายต่อ
“ไร้สาระ อย่าคิดว่าตัวเองเก่งอยู่คนเดียว ตะกร้า ตะกร้า แปลว่าตะกร้าหมดนั่นแหละ” สาวตาโปนพูดติดกันสามครั้ง เสี่ยวเชี่ยนทำเสียงจึ๊ๆ
“เป็นสาวเป็นนาง มีตาโปนๆยังไม่เท่าไร หน้าตาไม่สวยก็ไม่ใช่ความผิดของคุณ แต่ทำไมพูดจาหยาบคายแบบนี้ พูดคำหยาบซะติดปาก เอาอวัยวะสืบพันธุ์ของผู้ชายมาพูดซะคล่องปากมันเหมาะแล้วเหรอ”
“ฮ่าๆๆ” สุ่ยเซียนหัวเราะจนน้ำตาไหล ภาพลักษณ์เรียบร้อยของเธอถูกทำลายแล้ว
สาวตาโปนพอคิดได้ว่าตัวเองหลงกลเข้าแล้วก็หน้าแดงกล่ำ ชี้หน้าเสี่ยวเชี่ยน “แกเลวมาก”
“ใช่ เป็นสาวเป็นแส้ ทำไมพูดจาไม่มีมารยาทแบบนี้” แม่ของสาวตาโปนช่วยลูกสาว
“ถ้าพวกคุณไม่พูดจาไม่ดีก่อนแล้วฉันจะทำแบบนี้ไหม”
เสี่ยวเชี่ยนหันไปพูดกับอาเหม็ด “ตะกร้าของตระกูลคาร์เตอร์อันสูงศักดิ์ อ้อ ขอโทษนะพูดผิด นายอาเหม็ด นายกล้าพนันกับฉันไหม ว่าฉันเข้าใจภาษาถิ่นของพวกเขา”
อาเหม็ดถูกเสี่ยวเชี่ยนปั่นหัวหลายครั้งจนมีประสบการณ์บ้างแล้ว เซ้นส์ของเขาบอกว่าอย่าพนันด้วยเลยจะดีกว่า
“ใครไม่พนันแสดงว่าอ่อน ไม่มีตะกร้าแม้แต่ใบเดียว”
“พนัน”
สุ่ยเซียนรู้สึกสงสารอาเหม็ดแล้ว เห็นสีหน้ากลุ้มๆของอาเหม็ดเธอก็รู้แล้วว่าเขารู้ว่าตัวเองจะต้องถูกเสี่ยวเชี่ยนปั่นหัวอีกแน่ๆ
“ดีมาก งั้นเรามาพนันกันว่าฉันสามารถแปลคำพูดที่สองคนนี้พูดออกมาได้ถูกต้องหรือเปล่า ถ้าฉันแปลถูก ต่อไปเวลานายเจอฉันต้องเรียกฉันว่าเจ๊ แต่ถ้าฉันแปลไม่ถูก ต่อไปเวลาฉันเจอนายจะเรียกนายว่าเฮีย เป็นไง”
“ไม่ต้องเรียกผมเฮียหรอก ต่อไปอย่าพูดเรื่องbasketต่อหน้าผมอีกก็พอ เป็นไง” อาเหม็ดรู้สึกว่าค่าเฉลี่ยไอคิวของตระกูลเขาถูกเสี่ยวเชี่ยนลากลงต่ำแล้ว
“ดีล”
เสี่ยวเชี่ยนยิ้มตาหยีหันหน้าไปพูดกับสองแม่ลูกความคิดประหลาด “คุณป้าท่านนี้พูดว่า เราสองคนเหมือนกับนางจิ้งจอกที่ยั่วยวนผู้ชาย แต่งตัวดูดี สงสัยว่าพวกเราจะมาจากสถานที่คาวโลกีย์หรือไม่ก็เป็นเมียน้อยมีเสี่ยเลี้ยง เหตุผลก็เพราะเราสองคนสวยกว่าลูกสาวคุณป้า ขออภัยที่ฉันต้องพูดตรงๆนะคะ จะให้พวกเราหน้าตาอัปลักษณ์กว่าลูกสาวป้ามันก็ไม่ง่ายนะคะ จากนั้นสาวตาโปนที่หน้าตาเหมือนปลาบู่ชนสันเขื่อนคนนี้ก็พูดเสริมว่า พวกเราไม่เหมือนผู้หญิงที่มาจากครอบครัวดี เพราะพี่ชายเขาไม่ดื่มเหล้า ตอนที่เดินผ่านโต๊ะพวกเราเห็นมีเหล้าตั้งอยู่ ก็เลยตัดสินว่าพวกเราเป็นผู้หญิงไม่ดี นี่ก็คือบทสนทนาของทั้งสองคนนี้ อันที่จริงมีคำหยาบคายสอดแทรกด้วยแต่ฉันไม่สะดวกแปล กลัวจะเอาสิ่งสกปรกไปเปื้อนหูคนอื่น”
แม่ของผู้ชายฟีนิกซ์โกรธหน้าเขียว
สองแม่ลูกคู่นี้ไม่มีทางรู้หรอกว่าเถ้าแก่เล็กที่มหาวิทยาลัยของเสี่ยวเชี่ยนเป็นคนบ้านเดียวกันกับสองแม่ลูกนี้ วันๆต้องฟังสำเนียงทางนั้นแล้วจะไม่เข้าใจได้อย่างไร
“ขอโทษนะคะ พวกเราไม่ได้ขายเรือนร่าง ฉันเป็นหมอ เขาเป็นนักธุรกิจ ใช่ว่าผู้หญิงทุกคนจะต้องพึ่งพาผู้ชายเสมอไป ผู้หญิงที่ดื่มเหล้าใช่ว่าจะเป็นผู้หญิงไม่ดี ผู้ชายที่ไม่ดื่มเหล้าก็ไม่แน่ว่าจะมีอนาคต อย่างน้อยๆบ้านของพวกเราก็ซื้อมาด้วยน้ำพักน้ำแรงตัวเอง ไม่เหมือนกับผู้ชายบางคนที่ไร้ความสามารถที่ต้องพึ่งการแต่งงานเพื่อย่นระยะเวลาในการดิ้นรนซื้อบ้านไปเป็นสิบปี”
เซียนเอ๋อรู้สึกนับถือประธานเชี่ยนมาก ประธานเชี่ยนสุดยอดเลย
คำพูดพวกนี้เฉียบมาก ดูสีหน้าสองแม่ลูกนั่นสิ หน้าหงายไปเลย—เดี๋ยวนะ
ย่นระยะเวลาดิ้นรนไปเป็นสิบปีงั้นเหรอ สุ่ยเซียนฉุกคิดอะไรขึ้นมาได้ เธอหันไปจ้องเสี่ยวเชี่ยน คำพูดที่เมื่อกี้เชี่ยนเอ๋อพูดในห้องน้ำ ทันใดนั้นเธอก็เข้าใจ
เชี่ยนเอ๋อบอกว่า ขอแค่รู้จุดประสงค์ของคนพวกนี้ เธอก็จะรู้ว่าบอดี้การ์ดของชเรอดิงเงอร์มาทำอะไรที่นี่
ย่นระยะเวลาดิ้นรนไปเป็นสิบปี หรือว่าอาเหม็ดมาอยู่กับเธอเพราะเรื่องเงิน
เสี่ยวเชี่ยนพยักหน้าให้ “ผู้หญิงบางคนที่อ่อนต่อโลกแต่ฐานะทางบ้านดีเป็นเนื้ออันโอชะในสายตาของคนบางคน จะทิ้งไว้ก็น่าเสียดาย พวกคุณคิดว่าผู้หญิงมีค่าแค่คลอดลูกกับเอาไว้ให้กอบโกยผลประโยชน์ ฉันพูดถูกไหม”
เมฆหมอกในใจของสุ่ยเซียนจางหาย อดไม่ได้ที่จะรู้สึกแค้น โชคดีที่มีเชี่ยนเอ๋ออยู่ด้วย ถ้าเธอถูกอาเหม็ดฉวยโอกาสขึ้นมาล่ะก็ ทุกสิ่งทุกอย่างที่พ่อเธอสร้างมาอาจต้องเปลี่ยนชื่อเจ้าของ
“ครอบครัวผู้ชายฟีนิกซ์แบบนี้ไม่น่าเห็นใจเลยสักนิด เอาแต่คิดจะหาผู้หญิงที่ฐานะดีกว่าแต่งเข้าบ้าน แต่กลับไม่ยอมทำดีกับผู้หญิงที่แต่งเข้ามาแล้ว เพราะในสายตาของพวกคุณ ผู้หญิงพวกนี้ต่ำต้อย ไม่มีค่า ราคาถูก โง่ พวกคุณเอาแต่คิดว่าลูกชายตัวเองมีเสน่ห์ ไม่ต้องเสียเงินก็แต่งผู้หญิงเข้าบ้านได้”
ครอบครัวนี้ได้ทำให้เสี่ยวเชี่ยนมีโอกาสยิงปืนหนึ่งนัดได้นกสองตัว เธอไม่เพียงแต่จะได้เหน็บอีกฝ่าย ยังได้สื่อความนัยถึงจุดประสงค์ของอาเหม็ด
ถ้าไม่มีการเตือนจากเสี่ยวเชี่ยนจะเกิดอะไรขึ้น
สุ่ยเซียนอดไม่ได้ที่จะใช้สมองคิดอย่างรวดเร็ว
เธอเพิ่งเลิกกับจูขี้บ่น แถมยังต้องรับช่วงต่อกิจการอันใหญ่โต จึงเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องเจอกับการแข่งขันอันโหดร้าย ร่างกายและจิตใจย่อมเหนื่อยล้า ถ้าในเวลานี้อาเหม็ดเอาใจใส่เธอเป็นอย่างดี ช่วยเธอทีละเล็กละน้อย จากนั้นก็เปิดเผยตัวตน ถึงตอนนั้นเธอจะประทับใจในตัวเขาหรือเปล่า
ก็อาจจะ
ถ้าในช่วงที่เธออ่อนล้ามีคนวางแผนเข้าหาเธอ ก็เป็นไปได้มากว่าเธอจะประทับใจ โดยเฉพาะยามที่เธอเพิ่งอกหัก เธอจะรู้สึกอย่างไร
สุ่ยเซียนยิ่งคิดยิ่งขนลุก ในใจแอบหวั่น
เสี่ยวเชี่ยนเอามือข้างหนึ่งล้วงกระเป๋า ทำตัวสบายๆต่อหน้าสองแม่ลูกคู่นั้น ทำเหมือนพูดกับทั้งสองคน แต่คำพูดที่พูดออกมากลับตั้งใจพูดให้สุ่ยเซียนฟัง
“แกพูดอะไรน่ะ พวกเราไม่เข้าใจ” แม่ของผู้ชายฟีนิกซ์ที่ถูกเสี่ยวเชี่ยนแฉความในใจมีสีหน้าแย่มาก เธอนึกไม่ถึงว่าคำพูดที่คุยกับคนในบ้านจะลอยไปเข้าหูเสี่ยวเชี่ยนเข้า
“ลูกชายที่แสน ‘มีอนาคต’ ของคุณหน้าหนามาก ใช้ผู้หญิงเป็นตัวลดระยะเวลาทำฝันให้เป็นจริงได้ก่อนเป็นสิบปี ส่วนพวกคุณไม่เพียงแต่จะไม่ละอายยังภาคภูมิใจด้วยซ้ำ ถ้าผู้หญิงแต่งเข้าบ้านคุณ พวกคุณก็จะคิดว่าเขาโง่เอง แต่ถ้าผู้หญิงถูกคุณหลอกไม่สำเร็จ พวกคุณก็จะคิดหาทางทำให้เขาท้องก่อน จากนั้นก็บังคับให้แต่งงาน ฉันพูดถูกไหมล่ะ แน่นอนว่า ต่อให้แผนท้องก่อนแต่งเป็นความคิดของพวกคุณ พวกคุณก็ยังคงคิดว่าผู้หญิงคนนั้นชั้นต่ำ”
“แก แก พูดเพ้อเจ้ออะไรน่ะ”
“ไม่เกี่ยวกับแก แม่ ไปเถอะ ผู้หญิงคนนี้สมองมีปัญหา พวกเราอย่าไปเสวนาด้วยเลย”
สองแม่ลูกที่ถูกเสี่ยวเชี่ยนพูดแฉความในใจทำได้แค่โต้กลับเสี่ยวเชี่ยนด้วยสีหน้าเจื่อนๆ ไม่กล้าอยู่นานเพราะเถียงสู้เสี่ยวเชี่ยนไม่ได้ ทั้งสองคนรีบออกไปทันที
คำพูดของเสี่ยวเชี่ยนด้านหนึ่งก็เพื่อหยั่งเชิงสิ่งที่สองแม่ลูกจะทำในอนาคต ส่วนอีกด้านก็เพื่อสุ่ยเซียน เธอมองไปที่ท้องสุ่ยเซียน สุ่ยเซียนหน้าซีด เอามือลูบท้อง เริ่มรู้สึกกลัว
หรืออาเหม็ดคนนี้คิดจะใช้กำลังบีบบังคับขืนใจเธอแล้วให้เธอแต่งงานด้วย