บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ บทที่ 60

เมเรดิธแสร้งกระพริบตาอย่างบริสุธิ์ดูไม่มีพิษไม่มีภัยใดๆ น้ำเสียงของเธอฟังดูนุ่มนวลและหมดแรง

แย่างไรก็ตาม ผู้ชายคนนี้ดูเหมือนจะตาบอดกับการแสดงที่ชัดเจนขนาดนี้แต่ไม่สามารถดูออกได้ การแสดงงี่เง่าเช่นนี้มีผลสำหรับผู้ชายโดยเฉพาะ

ไม่ต้องบอกมาเดลีนรู้ดีว่าเจเรมี่จะเห็นด้วยโดยแทบไม่มีคำถามใดๆกับเรื่องนี้ ไม่นานนัก เป็นดั่งเช่นมาเดลีนคิดไว้ไม่มีผิดเขาพยักหน้า “ถ้างั้นก็อยู่”

นั่นไง!

มาเดลีนรู้ว่าเจเรมี่จะทำแบบนี้โดยแทบไม่ต้องคาดเดากับเรื่องนี้ได้เลย และเธอรู้สึกได้ว่าเมเรดิธ มองมาที่เธอด้วยหางตาอย่างยั่วโมโห

กระทั้ง เมเรดิธที่ดูภาคภูมิใจได้เพียงไม่กี่วินาทีก่อนจะถูกเจเรมี่ทำลายวิมานแห่งชัยชนะของเธอ เขาหันไปทางแม่บ้านฮิวจ์ เขาพูดเพียงไม่กี่คำ “ไปเตรียมห้องรับรองสำหรับคุณครอว์ฟอร์ด”

มาเดลีนที่กำลังดื่มซุปแทบสำลักเมื่อเธอได้ยินสิ่งนี้กับหู

สีหน้าแห่งชัยชนะบนใบหน้าของเมเรดิธที่เคยมีแทบเลือนหายไปในพริบตา

นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน?

เมเรดิธรู้สึกว่าเรื่องนี้ไม่มีทางเป็นจริง ‘ฉันคือคุณครอว์ฟอร์ดที่เขาพูดถึงหรือเปล่า?’

มาเดลีนตระหนักคิดเรื่องนี้อย่างดี เธอรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ

เจเรมี่จะละเลยความรักที่เป็นทั้งชีวิตของเขาทั้งหมดได้อย่างไร?

อย่างไรก็ตาม ความจริงก็คือเขาหมายถึงเมเรดิธจริงๆ

เมื่อเห็นเมเรดิธพยายามรักษาภาพลักษณ์ที่อ่อนโยนและใจกว้างในขณะที่เส้นเลือดบนหน้าผากของเธอแทบจะแตก มาเดลีนเองกลับรู้สึกดีใจอยู่ลึกๆอย่างมาก

แม้ว่า มาเดลีนรู้ดีว่าเจเรมี่ไม่มีเจตนาในการหักหน้าเมเรดิธจริงๆ แต่คงเป็นเพราะเขาคงรู้สึกอายเกินไปที่ต้องมาจัดการเรื่องรักๆใคร่ๆกับเมเรดิธในขณะที่แม่บ้านอยู่ที่นี่และต้องมารับรู้เรื่องราวนี้

ในตอนนั้น ไม่นานนักมาเดลีนเดินกลับมาที่ห้อง เจเรมี่เดินเข้ามายังห้องที่เธออยู่

มาเดลีนรู้สึกเหนื่อยล้าขณะที่เธอมองไปที่ชายกำลังเปลื้องผ้าออกอย่างช้าๆ “เจเรมี่ คุณต้องการจะทำอะไร?”

หลังจากพูดออกไป ไร้เสียงตอบกลับจากคนตรงหน้า มีเพียงเสียงเดียวที่ได้ยินขณะนี้คือเสียงฝนที่ตกนอกหน้าต่าง

ในสถานการณ์ที่น่าอึดอัดนี้จบลง เมื่อเจเรมี่พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาเช่นเคย “เธอไม่อยากรักษาตำแหน่งคุณนายวิทแมนของเธอไว้งั้นเหรอ?” เขาหันศีรษะเล็กน้อยและแสงที่น่าสนใจในดวงตาที่ลึกล้ำของเขาถูกถ่ายทอดออกมา “เนื่องจากเธอเลือกลังเลที่จะสละตำแหน่งนี้ ดังนั้นเธอควรที่จะเพลิดเพลินกับมันให้เต็มที่นะ”

น้ำเสียงของเขาฟังดูสงบมาก แต่มาเดลีนรู้สึกได้ถึงอากาศที่เย็นยะเยือกไปทั่วร่างกายของเธอ ความหนาวเย็นนี้ได้แทรกซึมเข้าสู่ผิวหนังของเธอและตรงไปที่หัวใจของเธอ ทำให้เธอสั่นสะท้าน

วันรุ่งขึ้นเมื่อมาเดลีนลุกขึ้น บ้านทั้งหลังก็ว่างเปล่า

มาเดลีนรู้ในใจว่าเมื่อคืนเมเรดิธโกรธแค้นเธอมาก ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่หล่อนจะหยุดสร้างปัญหาในตอนนี้

เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เมเรดิธใส่ความเธออีกครั้ง มาเดลีนตัดสินใจจากไปเพื่อจะกลับไปยังที่อยู่ของเอวา

เอวายังคงนอนอยู่ เธอดีดขึ้นจากเตียงหลังจากได้ยินการเล่าเรื่องโดยละเอียดของมาเดลีนว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อวานนี้ “เจเรมี่ไม่ได้หย่ากับเธอเหรอ? บอกมา แมดดี้ จู่ๆเขาเกิดมีความรู้สึกผิดขึ้นมาดื้อๆงั้นหรอ? นั่นเป็นสาเหตุที่เขารู้สึกเสียใจกับเธอและต้องการทำให้เธอยกโทษให้งั้นหรอ? ”

มาเดลีนส่ายหัวและยิ้มอย่างเศร้าๆ “เขาจะมาสนใจเรื่องแบบนั้นได้ยังไง? เขาไม่มีทางเลือกเขาต้องตามคำสั่งคุณปู่ คนที่เขารักคือเมเรดิธ ”

ใช่

เขาบอกเธอว่านับตั้งแต่วันที่เขาได้พบกับเมเรดิธ เขาอยากจะรับเธอมาเป็นภรรยาของเขา

เขารักเมเรดิธ และเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะปล่อยให้ผู้หญิงที่รักของเขารู้สึกเสียใจเพียงเพราะเขารู้สึกผิดกับสิ่งที่เขาทำกับเธอ

ยิ่งไปกว่านั้น เขาสามารถเพิกเฉยต่อลูกสาวที่เป็นเลือดเนื้อของตัวเองได้ ดังนั้นเขาจะมาใส่ใจชีวิตหรือแม้กระทั่งความตายของเธออย่างไร?

เธอรู้สึกเจ็บปวดอย่างกะทันหันในหัวใจและบริเวณที่มีเนื้องอกเริ่มสั่นไปพร้อมกับหัวใจที่สั่นวูบเช่นกัน มาเดลีนรีบกินยาที่อดัมมอบให้เธอ

เหงื่อเม็ดเล็กๆปกคลุมทั่วทั้งหน้าผากของเธอโดยใช้เพียงเวลาแค่ไม่นาน ริมฝีปากถูกกัดอย่างแรงในขณะที่เธอรนึกถึงความเจ็บปวดที่แสนสาหัสในขณะที่มีสติสัมปชัญญะหลงเหลืออยู่ เธอนึกถึงเด็กทารกที่จากโลกนี้ไปก่อนที่เธอจะได้มองหน้าเธอด้วยซ้ำ น้ำตาที่ล่วงหล่นทำให้การมองเห็นของเธอพร่ามัวในทันที

เธอจำเป็นต้องยืนหยัด!