ตอนที่ 471 จบเห่
เฉินฝานซิงย่องเข้าไปหยุดอยู่ข้างๆ เขาอย่างเงียบๆ แล้วเอ่ยถามขึ้นเบาๆ “ทำไมยังไม่นอนคะ”
ป๋อจิ่งชวนเงยหน้าขึ้นรวบเอกสารในมือไปวางไว้อีกทางแล้วแหงนขึ้นมองเธอ
“ซิ่งรถสนุกไหม”
“…”
หัวใจเธอกระตุกวูบ
หลายนาทีกว่าที่เธอจะหาเสียงตัวเองเจอ “คุณ…”
“ผมก็กลัวว่าคุณจะออกไปประสบอันตราย แต่สุดท้ายก็เพิ่งจะรู้ว่าตัวอันตรายมันคือคุณเองต่างหาก ฝนตกหนักขนาดนั้น คุณยังจะออกไปเล่นรถแข่งบนทางภูเขาอีก เฉินฝานซิง คุณไม่กลัวตายเลยใช่ไหม หืม?”
เฉินฝานซิงเลียริมฝีปาก ภายในใจร้องตะโกนออกมาว่า จบเห่แล้ว
ตลอดทางเธอเอาแต่คิดว่าจะอธิบายเรื่องที่กลับดึกขนาดนี้ให้เขาฟังว่าอย่างไรดี ก่อนหน้านี้ก็ยังคิดว่าการที่อยู่กับจี้อี้สองต่อสองนานเกินไปจะทำให้เขาไม่สบอารมณ์ แต่เธอกลับคิดไม่ถึงเลยว่าเรื่องที่รับมือยากที่สุดจะรอเธออยู่ที่นี่
“ฉัน…ฉันคิดว่าไม่น่าเป็นไรเลยกล้าทำไปแบบนั้น…”
“นั่นมันบ้ามาก หากพลาดไปแค่นิดเดียว ผลสุดท้ายจะเป็นยังไง คุณรู้รึเปล่า”
“…”
เฉินฝานซิงไม่รู้ว่าควรพูดอะไรต่อไปดี เพราะดูเหมือนว่าเรื่องนี้จะน่ากลัวกว่าการถูกเขาหึงเสียอีก
วินาทีต่อมา เธอก็ตระหนักได้ว่าคำว่าเคราะห์ซ้ำกรรมซัดเป็นอย่างไร
“อีกอย่าง ดึกดื่นค่อนคืนแบบนี้แล้วคุณยังจะไปหาผู้หญิงคนนั้นทำไม ส่งเธอกลับบ้านทำไม”
อันที่จริงเธอก็รู้อยู่แล้วว่าจะหลุดพ้นจากสถานการณ์นี้ได้อย่างไร
โชคดีที่เธอไม่ได้ทำอะไรเลย!
จะว่าไป เธอกับจี้อี้จะไปทำอะไรกันได้ล่ะ!
“เราไม่ได้ทำอะไรกัน ฉันอยากจะช่วยเธอมาตั้งนานแล้ว วันนี้เลยถือเป็นโอกาสที่ดี”
คิ้วของป๋อจิ่งชวนนิ่งขรึม เฉินฝานซิงจ้องเขาอยู่สองวินาที ก่อนจะเอ่ยขึ้นทันที
“พอพูดถึงเรื่องนี้ ป๋อจิ่งชวน ฉันขอยืมเงินก่อนสักหน่อยได้ไหม”
“ยืมเงิน?” ป๋อจิ่งชวนขมวดคิ้วมองเธอ
เฉินฝานซิงลอบถอนหายใจ “จัดคอนเสิร์ตให้จี้อี้ ต้องใช้เงินสักก้อนใหญ่ๆ เลย แต่ว่าคุณวางใจได้นะ ถึงตอนนั้นฉันจะคืนให้คุณแน่”
ป๋อจิ่งชวนยืนขึ้นก่อนจะลากเธอไปที่ห้องนอน
“ต้องการเท่าไหร่”
“ก็…สัก…ร้อยล้านมั้ง”
“ตกลง ผมให้คุณ”
เฉินฝานซิงแอบประหลาดใจอยู่เล็กน้อย “คุณเชื่อใจฉันขนาดนั้นเลยหรอ สภาพของจี้อี้ในตอนนี้ แค่ฉันคิดจะจัดคอนเสิร์ตให้เธอ ใครต่อใครก็คงหาว่าฉันบ้าไปแล้ว…”
ป๋อจิ่งชวนถอดเสื้อกันฝนที่เธอสวมอยู่ออกมา พร้อมเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ “ใครกล้าหาว่าคุณบ้า”
“…” ประเด็นมันไม่ได้อยู่ตรงนั้นโอเคไหม
“ผมเชื่อใจคุณ” ป๋อจิ่งชวนเกี่ยวผมเธอแล้วลู่สายตาลงมอง “คุณฉลาดขนาดนี้ จะทำเรื่องที่ทำให้ตัวเองเสียเปรียบเหรอ”
เฉินฝานซิงหลุดขำ “ไม่มีวัน”
ป๋อจิ่งชวนกระตุกยิ้ม นิ้วของเขาเกลี่ยลงที่พวงแก้มของเธอ แล้วประทับจูบเบาๆ ลงบนหน้าผาก “ไปแช่น้ำอีกรอบ อย่าให้เป็นหวัด”
“อืม ค่ะ”
เฉินฝานซิงพยักหน้ารับ ความอบอุ่นค่อยๆ แผ่ซ่านไปทั้งหัวใจ
–
เก้าโมงเช้าวันถัดมา ในห้องประชุมของซิงเฉินกั๋วจี้ ทุกๆ คนต่างมีท่าทีคัดค้านต่อการที่เฉินฝานซิงตัดสินใจจะเซ็นสัญญากับจี้อี้
เฉินฝานซิงนั่งอยู่ตรงตำแหน่งประธาน ใบหน้าสวยเต็มไปด้วยความเคร่งขรึมและเย็นชา
“เรื่องเซนสัญญาฉันตัดสินใจดีแล้ว สิบโมง เซ็นสัญญาตรงเวลา” น้ำเสียงเด็ดขาดจนยากจะคัดค้าน
แต่เรื่องนี้มันไม่ใช่เรื่องปกติ เหล่าผู้บริหารระดับสูงต่างก็หันมองหน้ากันไปมา ทุกสีหน้าถูกฉาบไปด้วยความหนักใจและน่าเกรงขาม
“ประธานเฉิน ที่ผ่านมาเราไม่เคยไม่พอใจกับการตัดสินใจของคุณมากขนาดนี้มาก่อน แต่พักหลังๆ มานี้การกระทำแต่ละอย่างของคุณไม่มีใครเขารับได้จริงๆ!”
“ใช่ เป็นบริษัทพีอาร์อยู่ดีๆ คุณก็มาบอกว่าจะเปลี่ยนรูปแบบการจัดการ จนถึงตอนนี้ยังมีบางคนในบริษัทบ่นเรื่องนี้กันอยู่เลยนะ แล้วตอนนี้คุณยังจะมาเซ็นสัญญากับจี้อี้แบบกะทันหันอีก…นี่…”
ตอนที่ 472 งานแถลงข่าวของหลานอวิ้น
“ตอนนี้จี้อี้เป็นยังไง แย่เสียยิ่งกว่าแย่ แถมยังมีคดีที่ดิ้นยังไงก็ดิ้นไม่หลุดติดตัวมาอีก! คุณคิดอะไรอยู่กันแน่!”
“ใช่แล้ว ประธานเฉิน การตัดสินใจนี้มัน…เหนือความคาดหมายจริงๆ!”
“ก็นั่นนะสิ หากเซ็นสัญญากับศิลปินที่พัฒนาการธรรมดาๆ เสียยังดีกว่า แต่อย่าไปเซ็นกับเธอเลย นี่จะส่งผลกระทบต่อบริษัทมหาศาลเลยนะ!”
เฉินฝานซิงถือปากกาไว้ในมือขีดๆ เขียนๆ ลงไปในสมุดโน้ตอย่างใจจดใจจ่อ ท่าทางสบายๆ แต่ก็ดูเหมือนกำลังตั้งใจฟังพวกเขาพูดอยู่
สุดท้าย ขณะที่เสียงคัดค้านที่ไปในทิศทางเดียวกันดังขึ้นเรื่อยๆ เธอก็ค่อยๆ เอ่ยปากขึ้นอีกครั้ง
“ที่ฉันตัดสินใจแบบนี้ เพราะฉันมั่นใจแล้วว่ามันจะต้องหาผลประโยชน์มาให้กับบริษัท ก่อนหน้านี้เคยมีครั้งไหนไหมที่ฉันทำให้พวกคุณผิดหวัง คอยรับเงินของคุณไปเงียบๆ เถอะ ส่วนจี้อี้ ยังไงฉันก็จะเซ็นสัญญากับเธอ”
เฉินฝานซิงยืนกรานคำเดิมอีกครั้ง แม้ว่าผู้บริหารทุกคนยังทำสีหน้าบึ้งตึง ทว่าก็ไม่มีใครค้านอะไรขึ้นมาอีก
และในเวลาเดียวกันนั้น จอแอลซีดีในห้องประชุมก็ได้ฉายแถลงการณ์ของหลานอวิ้นออกมาอย่างตรงเวลา
สิบโมงเช้า ณ ตึกระฟ้าของหลานอวิ้น นักข่าวปิดล้อมตรงประตูใหญ่เอาไว้อย่างแน่นหนา
ทั้งยังมีบรรดาแฟนคลับของเฉินเชียนโหรวยืนถือป้ายผ้าพร้อมตะโกนสโลแกนอยู่หน้าประตูโดยที่ประโยคแรกจะพูดประมาณว่า ‘เฉินเชียนโหรว เธอเก่งที่สุด เราจะรักเธอตลอดไป’ ประโยคถัดมาก็คือ ‘ไม่เอานังขยะจี้อี้ขี้อิจฉาขโมยงานคนอื่น! แบนซะ แบนซะ! คืนความยุติธรรมให้นางฟ้าของเรา!’
ที่ตรงนั้นเต็มไปด้วยความอลหม่าน
แต่หลานอวิ้นก็ไม่ได้ใส่ใจกับสถานการณ์นี้ ทั้งยังปล่อยให้เหล่าแฟนคลับตะโกนโหวกเหวกกันต่อไป
จนกระทั่งบรรดาแฟนคลับตะโกนจนเสียงแหบและหมดแรง เมื่อจวนจะได้เวลา เจียงหรงหรงจึงปรากฏตัวออกมาด้วยตัวเอง ตามมาด้วยเฉินเชียนโหรวที่ตรงมาหยุดอยู่ข้างๆ เธอด้วยสีหน้าไม่สู้ดี
นักข่าวกรูกันเข้าไปตีวงล้อมเอาไว้ปานฝูงผึ้ง บรรดาแฟนคลับเองก็ไม่น้อยหน้า พวกเขาดิ้นหลุดจากหน่วยรักษาความปลอดภัยก่อนจะพุ่งเข้าไปด้านหน้า
“ต้องแบนนังขี้ขโมยจี้อี้ให้เด็ดขาด!”
“ใช่! ครั้งนี้ขอให้หลานอวิ้นแบนเธอซะ คนชั่วขี้อิจฉาชอบทำลายคนอื่น!”
“ยืนหยัดไว้เชียนโหรว เราเชื่อมั่นในตัวเธอ!”
ใบหน้าซีดเซียวและอิดโรยของเฉินเชียนโหรวประดับไปด้วยรอยยิ้มอ่อนโยนและซาบซึ้ง เธอโค้งคำนับให้กับเหล่าแฟนคลับของเธอครั้งหนึ่งอย่างเงียบๆ!
เรียกเสียงกรี๊ดและความเห็นใจจากแฟนคลับไปได้ยกใหญ่
“ดูสีหน้าของเชียนโหรวสิ น่าสงสารจริงๆ”
“หมู่นี้ไม่รู้ว่าเธอไปสร้างเวรไว้กับใคร ถึงได้ถูกจงใจทำลายชื่อเสียงแบบนี้!”
“จริงด้วย ตอนนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลยที่จะยืนหยัดขึ้นมาด้วยความสามารถของตัวเองได้อีกครั้ง นึกไม่ถึงเลยว่าจู่ๆ นังชั่วจี้อี้นั่นจะโผล่เข้ามา!”
“คงไม่ใช่ว่าเชียนโหรวของพวกเราจะเด่นเกินไป จนเผลอไปขวางทางใครเข้า ถึงได้โดนพวกลอบกัดนั่นปั้นเรื่องใส่ร้ายเอาหรอกนะ”
ในตอนนั้นเอง เจียงหรงหรงที่ฟังจนพอใจแล้วก็ส่งสายตาไปให้เฉินเชียนโหรวหนึ่งครั้งก่อนจะแบมือทั้งสองข้างออกเป็นสัญญาณให้เงียบ
“เอาละค่ะ ช่วยลดเสียงลงหน่อย งานแถลงข่าววันนี้ ฉันรับรองว่า จะต้องให้คำตอบที่น่าพอใจให้กับทุกท่านได้อย่างแน่นอน ขอให้ทุกท่านอยู่ในความสงบด้วยค่ะ!”
จากนั้นเฉินเชียนโหรวเองก็ยกนิ้วมือขึ้นอิงกับริมฝีปาก ส่งสัญญาณให้ทุกคนเงียบลงด้วยวิธีที่นุ่มนวล
บรรดาแฟนคลับค่อยๆ เงียบเสียงลงตามที่คาดไว้
ต่อมา เจียงหรงหรงก็เริ่มให้สัมภาษณ์…
“ก่อนอื่น ต้องขอขอบคุณนักข่าวทุกท่านที่มาพร้อมกัน ณ ที่แห่งนี้ และแฟนๆ ทุกท่านที่ให้ความสนใจกับเรื่องนี้พร้อมทั้งเชื่อใจและคอยสนับสนุนเฉินเชียนโหรว
นับตั้งแต่นาทีที่เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ทางบริษัทก็ตรวจสอบเรื่องนี้มาโดยตลอด จนถึงตอนนี้ ฉันเชื่อว่าทุกท่านก็คงจะกระจ่างชัดแล้ว หลายปีมานี้ศิลปินในบริษัทของเราไม่ได้ปล่อยผลงานออกมาเลย และมีการร้องเรียนต่อการจัดอีเวนต์ของบริษัทอยู่เสมอมา”