ตอนที่ 473 รอเดี๋ยว! / ตอนที่ 474 ค่าปรับสองเท่า

ช้าก่อนคุณป๋อ! ครั้งนี้ขอเป็นรักสุดท้าย

ตอนที่ 473 รอเดี๋ยว!

“อีกทั้ง เมื่อครู่โปรดิวเซอร์อย่างคุณหลินสื่อเจียได้โพสต์ข้อความว่าเขาเป็นผู้เรียบเรียงบทเพลงที่ผ่านๆ มาก่อนหน้านี้ของรุ่นน้องของเขาหรือก็คือจี้อี้ ศิลปินในบริษัทเรา ด้วยตัวเองแทบจะทุกเพลง!

ทั้งนี้ โปรดิวเซอร์หลินยังตั้งใจจะแนบเนื้อเพลงต้นฉบับของบทเพลงที่ได้รับกระแสตอบรับดีที่สุดของจี้อี้สมัยที่เธอเพิ่งเข้าลงการเพื่อเป็นหลักฐาน!

ในฐานะที่คุณหลินเป็นศิษย์คนโปรดเพียงหนึ่งเดียวของอาจารย์ซื่อ ทั้งยังเป็นรุ่นพี่ของจี้อี้ เขาจึงคิดมาเสมอว่าเรื่องเช่นนี้เป็นเรื่องปกติ จึงอาจทำให้จี้อี้คิดไปว่าผลงานทั้งหมดของโปรดิวเซอร์หลินเป็นสิ่งที่เธองานของเธอเอง!

จี้อี้ที่เอาแต่ใจไร้เหตุผลเช่นนี้นำพามาซึ่งผลกระทบในเชิงลบที่ร้ายแรงต่อสาธารณชน ทั้งที่ยังอยู่ในระหว่างสัญญาของหลานอวิ้น ทั้งนี้หลานอวิ้นจึงขอเป็นตัวแทนศิลปินของบริษัทอย่างจี้อี้ ขออภัยต่อสาธารณชนทุกคนเป็นอย่างสูง!”

พูดจบ เจียงหรงหรงก็ถอยหลังหนึ่งก้าวแล้วหันหน้าเข้าหากล้องก่อนจะโค้งลงคำนับอย่างสุดซึ้ง

ทว่าบรรดาแฟนคลับตรงหน้าประตูกลับตอบปัดว่า “อยากให้เรารับคำขอโทษ ก็ไล่จี้อี้ออกไปซะ!”

จากนั้นเจียงหรงหรงก็ยืดกายขึ้นและก้าวเข้ามาหยุดลงตรงหน้าไมโครโฟนใหม่อีกครั้งแล้วพูดต่อว่า

“สำหรับจี้อี้ที่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน ไม่เห็นแก่ผลประโยชน์ของบริษัท ทั้งยังสร้างความเสียหายแก่ชื่อเสียงของศิลปินในบริษัท กระทำการให้ร้ายต่อเฉินเชียนโหรวอย่างต่ำช้า จนถึงวันนี้ก็ยังไม่ยอมมาปรากฏตัวเพื่อให้คำอธิบายต่อบริษัทและสาธารณชน ในฐานนะผู้ดูแลหลานอวิ้น ฉันขอ…”

“รอเดี๋ยว!” ในตอนนั้นเอง เสียงแหลมเสียงหนึ่งก็ได้เอ่ยแทรกขึ้นกะทันหัน

เจียงหรงหรงขมวดคิ้วแน่นกรอกตามองไปยังต้นเสียง

ใครคนนั้นก็คือฉีน่า เอเจนซี่ของบริษัท

“มีอะไร” เจียงหรงหรงถามเสียงเข้ม

ฉีน่าพยักหน้าเดินไปหยุดลงข้างๆ เจียงหรงหรงแล้วส่งเอกสารชุดนึงในมือให้กับเธอ

“นี่คือจดหมายขอยกเลิกสัญญาที่จี้อี้ส่งมา ฉันเพิ่งจะได้รับเมื่อกี้”

หัวคิ้วของเจียงหรงหรงขมวดชนกันแน่น สีหน้าของเฉินเชียนโหรวเองก็ขุ่นลงเช่นกัน

แฟนคลับที่ไม่ทราบสาเหตุกลับยิ่งเดือดจัด…

“เหอะ สงสัยยัยขี้ก๊อปนั่นจะร้อนตัวล่ะสิท่า!”

“นังชั่วนี่! บริษัทยังไม่ทันทำอะไรเธอเลยนะ! ชิงออกตัวก่อนซะงั้น!”

“ก็ดีเหมือนกัน แค่เห็นว่านางต้องอยู่ร่วมบริษัทเดียวกับเทพธิดาของเราฉันก็จะอ้วกแล้ว!”

แม้บรรดาแฟนคลับด้านหน้าจะวิจารณ์กันเช่นนั้น ทว่าเหล่านักข่าวคงจะไม่เห็นด้วย

เป็นฝ่ายส่งจดหมายขอยกเลิกสัญญามาเองคงไม่ใช่เพราะร้อนตัวหรอก แต่เป็นการร้องเรียนต่อความไม่เป็นธรรมภายในหลานอวิ้นเสียมากกว่า อีกทั้งยังอาจจะมีข้อเท็จจริงบางอย่างที่เกี่ยวกับเรื่อง ‘คัดลอกผลงาน’ นี่ก็เป็นได้!

“ไม่ นี่อาจเป็นเพราะจี้อี้ถูกกลั่นแกล้งจริงๆ ก็ได้นะ!”

“ใช่แล้ว ยิ่งไปกว่านั้นใครๆ ก็รู้ว่าหลานอวิ้นไม่ได้เพิ่งจะเข้าข้างเฉินเชียนโหรวได้แค่วันสองวัน”

“จริงด้วย ก่อนหน้านี้ไม่ใช่ว่าเพิ่งจะมีเรื่องที่ประธานเจียงติดสินบนกรรมการให้เฉินเชียนโหรวในงานแข่งเปียโนโอเชี่ยนซาวด์คัพเมื่อหกปีก่อนไปหรอกเหรอ”

“ฉันยังเคยได้ยินอีกนะว่า ตอนนั้นเธอไม่ยอมให้หลานสาวคนโตของเธอไปลงแข่ง แต่สุดท้ายหลานสาวคนโตของเธอก็ไม่ยอม เธอดันจับหลานสาวขังไว้ในห้องเสียอย่างนั้น ปล่อยให้อดอาหารไปหนึ่งวันเต็มๆ วันถัดมาเธอแอบไปกินอาหารในห้องพัก ก็เกือบจะโดนกรรมการใช้กำลังล่วงเกินอีก!”

“ขนาดหลานในไส้ยังสองมาตรฐานให้เห็นกันจะๆ แบบนี้ จะนับประสาอะไรกับคนที่ไม่ใช่สายเลือดคนหนึ่งอย่างจี้อี้ล่ะ ยิ่งตอนนี้เธอเป็นแค่ลูกผู้หญิงตัวคนเดียวไร้ที่พึ่ง จะบีบจะคลายก็ต้องขึ้นอยู่กับหลานอวิ้นอยู่แล้ว!”

แม้จะเป็นเพียงเสียงกระซิบกระซาบของพวกนักข่าว แต่ทุกถ้อยคำก็ได้ยินไปถึงหูของเจียงหรงหรง ใบหน้าที่ดูแย่เป็นทุนเดิมอยู่แล้วเยือกเย็นจนถึงจุดเยือกแข็งไปในชั่วพริบตา

เธอจ้องเขม็งไปยังฉีน่าด้วยสายตาเกลียดชัง ก่อนจะยื่นมือออกไปรับจดหมายขอยกเลิกสัญญามาไว้ในมือ

ฉีน่าหัวเราะเยาะออกมาหนึ่งครั้ง แต่ก็ไม่ได้ลงไปจากเวทีทั้งยังเอ่ยขึ้นอีกว่า

ตอนที่ 474 ค่าปรับสองเท่า

ฉีน่าหัวเราะเยาะออกมาหนึ่งครั้ง แต่ก็ไม่ได้ลงไปจากเวทีทั้งยังเอ่ยขึ้นอีกว่า

“ในจดหมายขอยกเลิกสัญญา จี้อี้ได้ชี้แจงเรื่องที่บริษัทไม่เป็นธรรมกับเธอไว้ชัดเจน อีกทั้งยังมีเหตุการณ์การลำเอียงเรื่องเงินสนับสนุนอย่างร้ายแรง ทุกๆ การกระทำของบริษัททำลายผลประโยชน์ตลอดหลายปีที่ผ่านมาของเธออย่างมหาศาล เรื่องการจัดสรรเงินสนับสนุนและอีเวนท์ต่างๆ อย่างที่เคยชวนเชื่อไว้และข้อตกลงที่เคยทำกันไว้ในสัญญาก่อนหน้านี้ก็ไม่ถึงเป้า และยังมีรายละเอียดอื่นๆ! ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่หลานอวิ้นได้รับปากกับอาจารย์ซื่อซือซินไว้เป็นพิเศษในขณะที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ ดังนั้นในส่วนเนื้อหาของจดหมายยกเลิกสัญญานี้ จี้อี้มีความประสงค์ที่จะให้หลานอวิ้นจ่ายค่าปรับเป็นจำนวนเงินสองเท่า!”

เจียงหรงหรงเดือดจนหน้าดำหน้าแดง สีหน้าของเฉินเชียนโหรวเองก็ไม่ได้ดีไปกว่ากันมากนัก

สองย่าหลานต่างก็จ้องมองไปยังเธอด้วยสีหน้าขุ่นแค้น

เรื่องแบบนี้ควรจะเอามาพูดในสถานการณ์แบบนี้ไหม

เธอเป็นเอเจนซี่มาหลายปีขนาดนี้ได้ยังไง

ทว่าคำพูดพวกที่ฉีน่าพ่นออกมานั้น พวกเธอกลับไร้ข้อหักล้าง!

ในจดหมายยกเลิกสัญญานั่นไม่ได้เอ่ยถึงเรื่อง ‘การคัดลอกผลงาน’ สักประโยคเดียว ทั้งหมดนี่เป็นแค่การเปิดบัญชีเก่าขึ้นมา!

หากเธอไม่ยอมรับ หลายปีมานี้อีเวนท์และประกาศของจี้อี้ก็ไม่ได้มีให้เห็นบ่อยนัก คนอื่นๆ ก็ใช่ว่าจะตาบอดเสียที่ไหน แถมเอเจนซี่ของเธอที่ยืนอยู่ตรงนี้ก็เป็นพยานได้เป็นอย่างดี ข้างล่างก็รายล้อมไปด้วยนักข่าวมากมายขนาดนั้น จะให้เธออธิบายอย่างไร

เดิมที่คิดว่าเรื่องในวันนี้จะมีแค่หลานอวิ้นเพียงฝ่ายเดียวที่จะประกาศขอยุติสัญญา สิทธิ์ในการเริ่มก่อนเป็นของพวกเธอ!

ตอนนี้กลับกลายมาเป็นจี้อี้ที่เป็นฝ่ายขอยกเลิกสัญญาก่อน ท่ามกลางสายตาของพวกนักข่าวที่จมูกไวยิ่งกว่าสุนัขเหล่านั้น ไม่มีใครรู้ว่าพวกเขาจะขุดเรื่องอะไรขึ้นมาตอนไหน

“เนื้อร้ายอย่างจี้อี้ ควรจะเตะออกจากบริษัทไปตั้งนานแล้ว ยังจะลังเลอะไรอยู่อีก!”

“ใช่! ค่าเสียหายก็จ่ายๆ ให้เธอไปเถอะ ฉันว่าต่อไปเธอก็ได้แต่พึ่งเงินค่าปรับพวกนั้นประทังชีวิตนั่นแหละ!”

“คนอย่างจี้อี้แบบนี้จะเก็บไว้ทำไม! กะอีแค่สิ่งของชิ้นเดียว ขอให้หลานอวิ้นแบนเธอซะ!”

เจียงหรงหรงหรี่ตาลงจนเล็ก จ้องมองจดหมายยกเลิกสัญญาอยู่ค่อนวัน ก่อนจะหันไปมองเฉินเชียนโหรววูบหนึ่ง เฉินเชียนโหรวเองก็หันมามองเธอก่อนจะพยักหน้า สุดท้ายเธอก็คว้าเอาปากกาขึ้นมาแล้วเซ็นลงไปบนจดหมายขอยกเลิกสัญญานั้นต่อหน้าสื่อ!

เมื่อเฉินฝานซิงที่นั่งอยู่ในห้องทำงานเห็นภาพนั้น มุมปากของเธอก็ค่อยๆ กระตุกรอยยิ้มแห่งชัยชนะ

ก่อนหน้านี้ที่จี้อี้ลังเลไม่ยอมออกจากหลานอวิ้นอยู่เรื่อยมา ใช่ว่าเธอจะไม่รู้

แต่เธอกลัวเรื่องที่จะต้องจ่ายค่าปรับมาโดยตลอด เธอตัวคนเดียวมาตั้งแต่ไหนแต่ไร เกรงว่าหากเป็นฝ่ายยกเลิกสัญญาก่อน หลานอวิ้นจะยกเรื่องค่าปรับขึ้นมา

แต่ถ้าหากใช้เรื่องนี้เป็นทางออกล่ะก็ เธอจะไม่เพียงแค่อยากให้จี้อี้ยุติสัญญาได้อย่างราบรื่น แต่จะทำให้หลานอวิ้นต้องสูญเสียทรัพย์สินอีกด้วย เธอใช้โอกาสนี้จ้องมองสีหน้าจนมุมของเจียงหรงหรงและเฉินเชียนโหรว เรื่องกล้วยๆ

หลังจากที่เจียงหรงหรงเซ็นชื่อเสร็จแล้ว ความเยือกเย็นจับขั้วหัวใจก็ได้ก่อตัวขึ้นบนใบหน้าเดือดดาลอีกครั้ง

“ทุกการกระทำที่ผ่านมาของจี้อี้ ไม่เพียงแค่ไม่สำนึกในความผิด แต่กลับยังเป็นฝ่ายขอถอนสัญญาด้วยกิริยาเย่อหยิ่งจองหอง ฉันจะเป็นตัวแทนหลานอวิ้นขอประกาศให้ทราบโดยทั่วกันว่า…

บัดนี้ จี้อี้ได้ยกเลิกสัญญากับหลานอวิ้นอย่างเป็นทางการแล้ว นับแต่นี้ไปหลานอวิ้นจะไม่มีการเซ็นสัญญากับจี้อี้อีก! หลานอวิ้นไม่อนุญาตให้มีศิลปินที่มีพฤติกรรมขโมยผลงาน คัดลอกผลงาน การประพฤติมิชอบ หรือพฤติกรรมไม่เหมาะสมร้ายแรงต่างๆ โดยเด็ดขาด! และในขณะเดียวกัน…

ฉันขอถือโอกาสนี้สนับสนุนว่า ผู้ที่คัดลอกและขโมยผลงานจากการตรากตรำทำงานหนักของคนอื่น เอาแต่เสวยสุขจากผลพวงของความสำเร็จของผู้อื่นเป็นพวกหน้าไม่อายที่ไม่ควรให้อภัยที่สุด คนประเภทนี้ ควรจะถูกแบนจากสังคมไปเลย! ตอนนี้ ฉันหวังว่าทุกท่านจะร่วมแรงร่วมใจกันต่อต้านพวกกระทำต่ำช้าเช่นนี้ไปโดยตลอด พวกมีความคิดพิกลพิการยังคงลอยนวลอยู่ในแดนสุขาวดี! ฉันขอใช้โอกาสนี้เพื่อเป็นเยี่ยงอย่าง หลานอวิ้นจะพยายามแบนจี้อี้ในทุกๆ ทางอย่างสุดกำลัง!”