ตอนที่ 541 ความจริง! ฉันนี่แหล่ะคือแม่แท้ๆ! (9) / ตอนที่ 542 ความจริง! ฉันนี่แหล่ะคือแม่แท้ๆ! (10)

หวานรักจับหัวใจท่านประธาน

ตอนที่ 541 ความจริง! ฉันนี่แหล่ะคือแม่แท้ๆ! (9)

 

 

“ไม่ได้หลอก”อวี๋เยว่หานตอบอย่างรวดเร็ว

 

 

แววตาที่จริงใจ มองไม่เห็นการซ่อนเร้นใดๆ

 

 

ไม่เหมือนกำลังโกหกเลยสักนิด

 

 

แต่ว่าเหนียนเสี่ยวมู่ไม่เชื่อ

 

 

หญิงสาวพลิกตัวออกจากอ้อมกออด ขยับมาเป็นนั่งค่อมอยู่บนตักของอวี๋เยว่หาน

 

 

มือเอื้อมไปโอบรอบคอของเขา พองแก้มขึ้น “ฉันจะให้โอกาสคุณอีกครั้งหนึ่ง คุณบอกฉันมาตามตรง คุณมีแฟนหรือมีคนที่แอบชอบมาก่อนหรือเปล่า”

 

 

“……”

 

 

แววตาของอวี๋เยว่หานขรึมลง เหมือนจะไม่ได้ฟังว่าเธอพูดอะไร กวาดตามองท่วงท่าที่ทั้งคู่อยู่ในตอนนี้ ลูกกระเดือกที่มีเสน่ห์ขยับขึ้นลงไปมา

 

 

ให้ตายเถอะ!

 

 

เขาไม่เคยรู้ตัวมาก่อนเลยว่า การควบคุมตัวเองของเขามันจะแย่ขนาดนี้

 

 

แค่เธอขยับตัวไปมาอยู่ในอ้อมกอดของเขา เขาก็แทบอยากจะจับเธอกดลงบนโต๊ะหนังสือ แล้วแสดงความรักให้เต็มที่

 

 

อวี๋เยว่หานไม่ใช่คนที่ชอบทรมานตัวเอง ร่างกายของเขาซื่อสัตย์ต่อความคิด!

 

 

เขาก้มหน้าลง กดจูบลงไปบนริมผีปากของเธอทีหนึ่ง

 

 

ขณะที่กำลังจะกดจูบลงไปอย่างดูดดื่ม เหนียนเสี่ยวมู่ก็ยกมือขึ้นปิดปากของเขาเอาไว้เสียก่อน

 

 

“ไม่พูดให้ชัดเจน ห้ามแตะต้องฉัน!”

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่เอ่ยขู่ขึ้นอย่างดุดัน

 

 

“ถ้าฉันไม่ได้คำตอบที่พอใจ คืนนี้เรานอนแยกห้องกัน เสี่ยวลิ่วลิ่วกำลังเสียขวัญอยู่พอดี ต้องการให้ฉันไปนอนเป็นเพื่อน……”

 

 

“เสียขวัญ!”

 

 

จู่ๆ อวี๋เยว่หานก็อุทานออกมาอย่างโอเวอร์ เมื่อเห็นแววตาตะลึงงันของเธอ เขาก็จับมือของเธอไปวางแนบไว้ที่อกของตัวเอง

 

 

“เหนียนเสี่ยวมู่ เมื่อกี้ผมก็เสียขวัญไปเหมือนกัน ไม่กล้านอนคนเดียว”

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่ “……” ผู้ชายตรงหน้านี้ เป็นอวี๋เยว่หานตัวปลอมแน่ๆ เลย

 

 

เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มไม่ยอมสารภาพออกมาเอง เหนียนเสี่ยวมู่ก็ไม่อ้อมค้อมอีก

 

 

มองไปที่ลิ้นชักชั้นล่างสุดของเขา เบ้ปากถาม

 

 

“ข้างในนั้นมีอะไร”

 

 

“……” อวี๋เยว่หานมองตามสายตาของเธอไป แล้วก็ยกยิ้มขึ้น

 

 

“รูปภาพของเสี่ยวลิ่วลิ่วน่ะสิ คุณคิดว่าคืออะไร”

 

 

“นอกจากรูปภาพของเสี่ยวลิ่วลิ่วล่ะ” เหนียนเสี่ยวมู่เอื้อมมือไปกำเสื้อของชายหนุ่มไว้แน่น ใช้สายตาเตือนให้เขาคิดให้ดีๆ

 

 

“มีอย่างอื่นอีกเหรอ” อวี๋เยว่หานเลิกคิ้วขึ้น ไม่เอ่ยตอบแต่ถามกลับมาแทน

 

 

ดูแล้ว เหมือนจะแปลกใจยิ่งกว่าเธอ

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่ไม่มีความโกรธเหลืออยู่แล้ว

 

 

ของอยู่ในลิ้นชักของเขา แต่เขากลับมาย้อนถามเธอ มีอะไรไม่ถูกหรือเปล่านะ

 

 

“ภาพวาด” เหนียนเสี่ยวมู่ใบ้ให้

 

 

เมื่อเห็นชายหนุ่มไม่มีปฏิกิริยาอะไร ก็ร้อนรนขึ้น “อวี๋เยว่หาน อย่ามาแกล้งทำเป็นไม่รู้นะ ภาพที่เหวินหย่าไต้ยังรู้จัก คุณอย่าบอกนะว่าคุณไม่เคยเห็นมัน!”

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่พูด แล้วดึงลิ้นชักออก หยิบภาพวาดที่เคยทำให้เธอรู้สึกเสียใจออกมา วางมันลงบนโต๊ะ

 

 

“คุณดูเอาเองแล้วกัน!”

 

 

ดูซิว่าเขาจะอธิบายยังไง

 

 

“……”

 

 

อวี๋เยว่หานกวาดตามองมาทางเธอแวบหนึ่ง จากนั้นก็หยุดสายตาลงที่โต๊ะ นิ้วเรียวยาวหยิบภาพวาดนั้นขึ้นมากางออกดู

 

 

เมื่อเห็นคนในภาพ คิ้วของชายหนุ่มก็กระตุกขึ้นเล็กน้อย

 

 

เมื่อเห็นปฏิกิริยาของชายหนุ่ม ใจของเหนียนเสี่ยวมู่ก็กระตุก “ฮ่าฮ่า เมื่อกี้ยังปากแข็งอยู่เลย ตอนนี้หลักฐานมัดตัวแล้ว พูดอะไรไม่ออกเลยใช่ไหม คุณบอกฉันมาตามตรง คุณกับผู้หญิงในภาพเป็นอะไรกัน ที่คุณชอบฉัน เป็นเพราะเธอหรือเปล่า เราหน้าคล้ายกันมากใช่ไหม ไม่ใช่สิ ฉันต้องสวยกว่าเธออยู่แล้ว!”

 

 

พอเหนียนเสี่ยวมู่ตื่นเต้นขึ้น ก็พูดพล่ามออกมาไม่ไหยุด

 

 

พูดถึงตอนสุดท้าย เห็นว่าอวี๋เยว่หานยังคงไม่สนใจเธอ ปากก็เริ่มเบะ ดวงตาแดงก่ำขึ้นในพริบตา

 

 

“คำพูดหวานๆ ของผู้ชายมีเอาไว้หลอกลวงจริงๆ ด้วย เมื่อวานยังบอกว่ามีฉันแค่คนเดียวอยู่เลย เผลอแป๊บเดียว รักแรกก็โผล่ออกมา มันลืมยากมากใช่ไหม เธอเป็นความทรงจำที่งดงามของคุณหรือว่าเป็นคนที่สลักลึกอยู่ในใจคุณ……”

 

 

 

 

 

ตอนที่ 542 ความจริง! ฉันนี่แหล่ะคือแม่แท้ๆ! (10)

 

 

คำพูดของเหนียนเสี่ยวมู่ จู่ๆ ก็สะอึกไป

 

 

อวี๋เยว่หานกวาดตามองไปทางเธอด้วยสีหน้าไม่ชอบใจ ริมฝีปากเอ่ยขึ้นนิ่งๆ “ผมยังไม่ทันพูดอะไรเลย คุณร้องไห้ทำไม”

 

 

พูดจบ เหนียนเสี่ยวมู่ไม่ได้สะบัดมือของเขาออกในทันที “คุณไม่ต้องพูดแล้ว สีหน้าลังเลของคุณมันก็พิสูจน์ทุกอย่างชัดเจนแล้วไม่ใช่หรือไง ฉันเพิ่งถูกขอหมั้น ชุดหมั้นยังไม่ทันจะได้เห็นเลย อยู่ดีๆ ก็จะกลายเป็นหม้ายขันหมากแล้ว ที่แย่ที่สุดก็คือ ฉันเห็นหน้าศัตรูหัวใจของตัวเองไม่ชัดเลยด้วยซ้ำ บนโลกนี้ มีใครน่าเวทนากว่าฉันอีกไหม”

 

 

หญิงสาวพูดแล้วก็เอื้อมมือไปเช็ดน้ำตาตรงหัวตาที่แทบไม่มีอยู่ให้เห็นเลย

 

 

อวี๋เยว่หานดีดนิ้วไปที่หน้าผากของเธอทีหนึ่ง “เหนียนเสี่ยวมู่ วิญญาณนักแสดงเข้าสิงหรือไง”

 

 

“คุณจะไปเข้าใจอะไร!” เหนียนเสี่ยวมู่ปัดมือของขาออก

 

 

วิญญาณนักแสดงเข้าสิงอะไรกัน ดูถูกเธอชัดๆ เธอแสดงออกมาจากใจต่างหาก

 

 

“สรุป คุณกับผู้หญิงคนนั้นเป็นอะไรกันแน่” เหนียนเสี่ยวมู่ไม่ได้โง่ เธอถึงขนาดยอมเปิดเผยว่าแอบมายุ่งกับของส่วนตัวของเขาขนาดนี้แล้ว วันนี้ต้องได้คำตอบเรื่องนี้ให้ชัดเจน

 

 

เผื่อว่าคราวหลังจะมีใครมาพูดกับเธอเรื่องตัวแทนอะไรนี่อีก

 

 

ได้ยินคำพูดของเธอ อวี๋เยว่หานจึงมองไปที่รูปวาดนั้นอีกครั้ง จากนั้นก็เอ่ยพูดขึ้น

 

 

“ไม่รู้จัก”

 

 

“……” เหนียนเสี่ยวมู่นิ่งอึ้งไป

 

 

เธอเหมือนจะโง่ไปแล้ว

 

 

เธอคิดคำตอบไว้หลายแบบ คำตอบที่แย่ที่สุดเธอก็เตรียมคิดเอาไว้แล้ว

 

 

แต่ว่าคิดอย่างไร ก็นึกไม่ถึงว่า เขาจะตอบออกมาว่าไม่รู้จัก

 

 

“คุณโกหก ถ้าไม่รู้จักแล้วคุณจะเก็บภาพวาดของเธอไว้ทำไม” เหนียนเสี่ยวมู่จ้องไปที่ชายหนุ่มอย่างสงสัย

 

 

มองราวกับจะให้ทะลุปรุโปร่ง เข้าไปในใจของเขา ว่าสรุปแล้วเขาโกหกเธอหรือเปล่า

 

 

วินาทีต่อมา ร่างของเธอก็ถูกอวี๋เยว่หานดึงเข้าไปกอด

 

 

กำลังจะขยับ มือใหญ่ของเขาก็วางลงบนศีรษะของเธอ พูดด้วยน้ำเสียงที่บอกไม่ถูก

 

 

“มีคุณคนเดียวก็พอแล้ว คนอื่นเป็นส่วนเกินทั้งนั้น”

 

 

“……”

 

 

อ๊ายยยยยยยย!

 

 

จู่ๆ มาบอกรักเธอทำไมกัน ผิดกฎ!

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่ซบอยู่ในอ้อมอกของชายหนุ่ม อ่อนระทวยไปทั้งร่าง ใจก็เริ่มเอนอ่อน กำลังคิดอยู่ว่าจะปล่อยมันไปดีไหม

 

 

เธอซุกตัวในอ้อมกอดของเขา พึมพำเสียงเบา

 

 

“ไม่รู้ว่าเหวินหย่าไต้รู้ได้ยังไงว่าคุณซ่อนภาพวาดของผู้หญิงคนหนึ่งไว้ที่ห้องหนังสือ เธอจงใจบอกกับฉันว่า ผู้หญิงคนนี้คือแม่แท้ๆ ของเสี่ยวลิ่วลิ่ว คุณเห็นว่าฉันหน้าเหมือนเธอ เลยชอบฉัน ทำเอาฉันเสียใจอยู่ตั้งนาน”

 

 

“ตอนแรกฉันไม่เชื่อคำพูดของเธอ แต่ตอนที่คุณซื้อแหวนราชินีมาแล้วไม่ยอมให้มันกับฉันซักที แล้วผู้หญิงในภาพวาดก็สวมแหวนราชินีไว้เหมือนกัน ฉันเลยเข้าใจผิด……”

 

 

ยิ่งพูดเสียงของเหนียนเสี่ยวมู่ก็ยิ่งเบาลง

 

 

ราวกับว่ากลัวจะขายหน้า เธอซุกใบหน้าเข้ากับอกของเขา

 

 

“……”

 

 

อวี๋เยว่หานกระชับอ้อมกอดแน่น ขมวดคิ้วมองไปที่ภาพวาดภาพนั้น

 

 

เขานึกไม่ออกจริงๆ

 

 

จำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าที่ห้องหนังสือของตัวเอง มีภาพแบบนี้อยู่

 

 

“เรื่องแหวนน่าจะเป็นเรื่องบังเอิญ”

 

 

แหวนราชินีมีประวัติมาเป็นร้อยปี

 

 

คนที่เคยมีแหวนนี้ไว้ในครอบครอง ไม่ใช่แค่คนเดียวอยู่แล้ว

 

 

มีคนวาดมันลงไปในภาพ ก็ใช่เรื่องแปลกอะไร

 

 

นิ้วเรียวยาวของอวี๋เยว่หานลูบไล้ไปตามเส้นผมของเธอ ม้วนเล่นราวกับมันคือเส้นไหม มองผ่านเส้นผมของเธอไปหยุดอยู่ที่ภาพวาดภาพนั้น

 

 

อวี๋เยว่หานจ้องนิ่งไปที่ภาพวาดภาพนั้น ในสมองของเขาเหมือนจะมีอะไรแวบขึ้นมา

 

 

“คือเธอ!”

 

 

“อะไรนะ” เหนียนเสี่ยวมู่ได้ยินเสียงของเขา ก็เงยหน้าขึ้นมาอย่างงงๆ

 

 

แล้วก็ได้สติ ลุกขึ้นนั่งอย่างรวดเร็ว

 

 

“คุณนึกออกแล้วเหรอว่าผู้หญิงในภาพเป็นใคร”