บทที่ 293
บทที่ 293

กองทัพหนิงที่ล่าถอยเข้าไปในเมืองทางตะวันตกจะยังคงมีโอกาสรอดอยู่ โดยเฉพาะพวกที่หนีกลับไปยังเขตของแคว้นหนิง ส่วนคนที่หนีไม่ได้ ก็จะต้องปะทะกับพวกเฟิงในเมือง !

ยังไงเสียพวกหนิงก็ไม่กล้าหนีอยู่แล้ว ด้วยพวกเขาต้องรักษาประตูตงเอาไว้ยิ่งชีพ ชนิดที่ว่าต่อให้ตายไปก็ต้องห้ามให้สถานที่แห่งนี้

พวกเขารอคอยให้กองทัพเสี้ยวติงมาช่วย แต่ถึงจะมาพวกเขาก็คงไม่สามารถเข้ามาในประตูตงได้ เพราะพวกชานชุยได้ยึดเอาไว้หมดแล้ว และได้เริ่มตั้งกองกำลังปกป้องมันเอาไว้

เหลียงฉีสั่งให้พวกทหารของเขาจัดหาฟางและราดน้ำมันเดือดลงไปเพื่อเตรียมเผาที่เก็บเสบียงของพวกหนิง และเมื่อทหารชานชุยหาของที่ว่าได้ พวกเขาก็เริ่มทำการจัดแจงเผามันทันที

กองไฟขนาดใหญ่ถูกจุดขึ้นที่บ้านพักของแม่ทัพซึ่งเป็นสถานที่เก็บคลังเสบียงอาหาร ทำให้พวกที่อยู่ด้านในร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด จนกระทั่งมีแม่ทัพบางคนที่วิ่งหนีออกมาด้วยสภาพที่น่าสงสาร ก่อนโดนธนูยิงเข้าใส่จนตายไป

ไม่ว่าเป็นใครก็ตาม จะชาวบ้านหรือว่าทหารที่หนีทัพ แต่เมื่อเป็นพวกหนิง ทหารชานชุยก็จะสังหารสิ้นจนหมดไม่มีเหลือ

และในเวลานี้ กองทหารชานชุยก็ได้เริ่มทำการสังหารหมู่ทั้งเมืองแล้ว !

หลังจากประตูตงถูกยึดไป ชาวเมืองทั้งหลายก็ถูกพาตัวออกไปและฆ่าแขวนคอ ซึ่งนอกจากนี้ พวกเขายังเข้าไปค้นตามซอกบ้านและจุดไฟเผามันให้หมดอีกด้วย จนตอนนี้ทั้งเมืองได้กลายเป็นลานประหารที่น่าสยดสยองไปแล้ว

แม้ว่าทางประตูตงจะดำเนินการไปได้ด้วยดี แต่ทางหยวนยู่กลับกำลังมีปัญหาใหญ่ทีเดียว !

เพราะเมื่อพวกทหารถูกเขาจัดการไป ก็จะมีคนใหม่เข้ามาแทนที่เสมอ ทำให้เขาจำต้องฝ่าฟันหนทางไปจนถึงใจกลางของค่าย !!!

จางเฟิงที่ตายไปทำให้กระโจมใหญ่นี้โล่งโจ้งไม่มีคนอยู่เหมาะแก่การใช้เป็นที่ตั้งรับได้ ทว่าการโจมตีหลายครั้งก็ทำให้กระโจมนี้เสียหายมากขึ้น จนหยวนยู่ที่ยืนอยู่ตรงกลางนั่นกับดาบในมือจำต้องร่ายรำสังหารทหารหนิงที่พยายามเข้ามาอย่างต่อเนื่อง

ชาวบ้านคนนี้ไม่ธรรมดา เขาเป็นเหมือนดั่งเทพสงครามที่สามารถร่ายรำและเข่นฆ่าศัตรูไปพร้อม ๆ กันได้ ทำให้มีหลายชีวิตต้องสังเวยให้กับเขาไปมากมายในเวลานี้

พวกหนิงเริ่มท้อแท้ จนเปิดโอกาสให้หยวนยู่ได้พักผ่อนบ้าง ซึ่งระหว่างนั้นเขาก็ได้หยิบเหล้าขึ้นมาดื่ม

แต่หลังจากที่กินเข้าไป เขาก็ต้องพ่นมันออกมาโดยเร็ว “แม่งเอ้ย ! เหล้าอะไรวะไร้รสชาติฉิบหาย !” ว่าแล้วชายเลือดร้อนก็โยนไหสุราทิ้งไปแล้วร้องตะโกน “เข้ามาเลย ! ใครอยากตายก็เข้ามา !”

พวกทหารหนิงไม่รอช้า รีบพุ่งเข้าไปอีกครั้งด้วยทหารจำนวนมหาศาล อาวุธทุกชนิดถูกงัดออกมาใช้จัดการหยวนยู่ แต่ชายเลือดร้อนก็เพียงหัวเราะออกมาพร้อมกับใช้เกราะปราณเข้าปะทะกับพวกทหารที่มุ่งหน้าเข้ามา

ดาบถูกเหวี่ยงไป ทำให้พวกหนิงตัวขาดครึ่งในพริบตา !

…หยวนยู่จัดการพวกทหารหนิงได้มากมายจนเกินกว่าเขาจะนับได้อีกต่อไปแล้ว

ในเวลานี้เสี้ยวติงก็ได้มาถึงพอดีพร้อมกับทหารอีก 2 หมื่นนาย และเมื่อเห็นภาพตรงหน้า เขาก็ถึงกับตะลึง ! ทหารนับหมื่นนายไม่มีใครที่จะล้มหยวนยู่ได้เลยแม้แต่คนเดียวเลยหรือ เจ้าหมอนี่เป็นใครกัน ? เขามองหยวนยู่ที่อยู่บนกระโจม

เกราะและอาวุธของชายเลือดร้อนเต็มไปด้วยเลือด เขาก้มมองดูศพที่ใต้เท้าแล้วพบว่ามันช่างเยอะเสียเหลือเกิน เช่นเดียวกับรัศมีความเก่งกาจของเขาที่แผ่ออกมาจนทำให้พวกทหารไม่มีใครกล้าเข้าไปอีก

เสี้ยวติงตะลึงกับภาพตรงหน้า และไม่ว่าจะเป็นหรือตาย เขาก็จะต้องล้มชายคนนี้ให้ได้ !

ด้วยกองทหารที่เพิ่มเข้ามา ทำให้การต่อสู้ดุเดือดมากขึ้นเท่าตัว ก่อนเป็นหยวนยู่ที่หัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง “เข้ามาพร้อมกันหมดเลยก็ยังได้ !” จากนั้นเขาก็ใช้คลื่นปราณคลั่งเข้าสังหารพวกหนิงไปอีกมากมาย

คลื่นปราณนี้ถูกยิงออกมาราวกับแสงเลเซอร์ มันพุ่งตัดผ่านทุกอย่างจนขาดครึ่ง จนพวกหนิงถูกบีบให้ล่าถอยไปอีกครั้งกับการใช้พลังอย่างไม่บันยะบันยังของหยวนยู่

เสี้ยวติงเริ่มคิดหนัก หัวใจของเขาหวาดกลัวมากกว่าเดิมหลายเท่า ก่อนจะลองใช้เนตรทิพย์สอดส่องดู ทว่าเขาก็ไม่สามารถเดาได้ว่าอีกฝ่ายแข็งแกร่งเพียงใด !!!

พูดง่าย ๆ ก็คืออีกฝ่ายมีพลังที่เกินกว่าเขาจะใช้เนตรทิพย์ตรวจสอบได้นั่นเอง …เรื่องนี้ทำให้เสี้ยวติงพูดไม่ออกไปอีกสักพัก

จากนั้นก็มีควันลอยขึ้นมาจากประตูตง แต่ทว่าเสี้ยวติงกลับไม่เห็นมัน จนกระทั่งเทียนฟานและซูจีต้องตะโกนบอก “ท่านแม่ทัพ ประตูตงกำลังแย่แล้ว !”

“อะไรนะ ?” เสี้ยวติงที่ได้ยินดังนั้นก็มองกลับไปยังทิศที่เขาจากมาทันที ก่อนจะเห็นเข้ากับควันสัญญาณขอความช่วยเหลือนั่น !!!

เสี้ยวติงอ้าปากค้าง ไม่เข้าใจว่ากำลังเกิดเหตุอะไรกันแน่ ทำไมถึงมีสัญญาณควันเกิดขึ้นกัน ? มันไม่มีทางที่จะถูกพวกทหารเข้ามาโจมตีได้อยู่แล้วไม่ใช่หรือ ?

เทียนฟานกล่าว “ท่านแม่ทัพ พวกเราต้องรีบกลับไปช่วยเหลือประตูตงนะขอรับ !”

“ถอยงั้นหรือ ?” เสี้ยวติงส่ายหัว

พวกเขาเกือบล้อมจับหยวนยู่เอาไว้ได้อยู่แล้ว ถ้าหากถอยไปก็จะเป็นการปล่อยให้มันหนีไปได้อย่างง่ายดาย และนั่นมันก็จะหมายความว่าจางเฟิงกับทหารที่ตายไปเป็นเรื่องสูญเปล่า “เทียนฟาน จงนำทหาร 5 พันนายกลับไปที่ประตูตง จงไปดูเสียว่าเกิดอะไรขึ้น”

“รับทราบท่านแม่ทัพ !”

เทียนฟานรับคำแล้วรีบนำกองทหารกลับไปยังประตูตงทันที

หยวนยู่เองก็เห็นควันเช่นกัน และเขาก็เข้าใจดีเลยว่ามันกำลังเกิดอะไรขึ้นที่ประตูตง ด้วยต้องเป็นเหลียงฉีที่ใช้โอกาสนี้ในการเข้าโจมตีเป็นแน่ !

ชายเลือดร้อนพยักหน้าอย่างเข้าใจ “เจ้าจริง ๆ ด้วยสินะเหลียงฉี เจ้าหลอกให้ข้ามาที่นี่เพื่อเจ้าจะได้ยึดครองประตูตงแล้วผลงานไปสินะ ช่างเป็นคนที่ชั่วช้าสามานย์เลวทรามยิ่งพับผ่าสิ !”

หยวนยู่ไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไงเพื่อที่จะออกไปจากวงล้อมนี้ได้

และยิ่งเขาพึมพำกับตัวเองมากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งโมโหมากขึ้นเท่านั้น “รอข้าก่อนเถอะ ถ้ากลับไปได้เมื่อไหร่ข้าจะรายงานเรื่องนี้ให้นายท่านฟังแล้วจะได้ลงทัณฑ์เจ้า !”

เขาเหวี่ยงดาบออกไปพร้อมกับตะโกน “มีใครจะมาสู้อีกไหม ? ถ้าไม่มี ข้าจะไปแล้วนะ !”

หยวนยู่กระโดดลงมากลางวงทหารหนิงแล้วใช้ดาบปล่อยคลื่น ปราณออกไป ก่อนจะมุ่งหน้าไปยังทิศที่ควันลอยขึ้นมาทันที !!!

….ทิ้งให้พวกหนิงที่ไม่ทันได้เตรียมตัวรับการโจมตีจนนอนตายอยู่บนพื้นทั้งอย่างงั้น