บทที่ 294
บทที่ 294

มันไม่ง่ายเลยที่หยวนยู่จะฝ่าออกมาจากค่ายจูเฟิงได้ ถึงจะไม่มีแม่ทัพหนิงที่มีพลังปราณ แต่พวกทหารก็มีจำนวนมากเกินไปอยู่ดี

ชายเลือดร้อนพุ่งออกมาแล้วเห็นแม่ทัพใหญ่ของพวกหนิงขี่ม้าอยู่ เขาจึงได้รีบชักดาบปราณออกมาอีกครา

เมื่อไปถึง หยวนยู่ก็หลบการโจมตีจากพวกทหารองครักษ์ที่อยู่รอบกาย ทว่าก็เป็นหนึ่งในทหารที่แทงหอกออกไปพร้อมร้องตะโกนบอกทุกคน “หมอบลงไป !”

คำสั่งของเขาถูกพูดออกมา ก่อนที่จะถูกหยวนยู่ลากตัวอีกฝ่ายออกไป และใช้ม้าของคนผู้นั้นควบทะยานออกไปข้างหน้า

หยวนยู่มุ่งหน้าออกไปอย่างรวดเร็วด้วยกำลังของม้า เช่นเดียวกับดาบในมือของเขาที่ฟาดฟันเหล่าทหารที่ขวางทาง ทำให้พวกทหารที่หวาดกลัวพากันเปิดทางให้กับเขาอย่างไม่รู้ตัว

เมื่อเห็นแบบนี้ เสี้ยวติงก็โกรธมาก เขารีบออกคำสั่งให้ตามหยวนยู่ไป แต่ในเมื่อเขาไม่กล้าเผชิญหน้าเองแบบนี้ แล้วมีหรือที่พวกลูกน้องจะกล้า ? ทำให้แม้ว่าแม่ทัพของพวกเขาจะตะโกนขนาดไหนก็แทบไม่มีคนทำตามเลยสักคน

หยวนยู่ควบม้าพุ่งทะยานไปยังประตูตง

เทียนฟานที่นำกองทหารล่วงหน้ามาแล้วได้พบว่าประตูตงถูกกองทัพชานชุยยึดครองไปแล้ว และทั้งเมืองก็กำลังถูกสังหารหมู่อย่างไร้มนุษยธรรม ซึ่งเมื่อพวกทหารเฟิงเกราะดำพากันจุดไฟเผาเมืองแบบนี้ มันก็ทำให้พวกเขามองไม่เห็นสถานการณ์ด้านในเลย

แต่แล้วเทียนฟานก็ได้เห็นเข้ากับรอยธนูและคราบเลือดกับอุปกรณ์อื่น ๆ ทางการทหารที่ถูกทิ้งไว้ใต้กำแพงมากมาย ทำให้หัวใจของเขาสั่นกลัวจนต้องรีบควบม้าวิ่งไปยังหน้าประตูแล้วตะโกนถาม “พวกเจ้าที่อยู่ข้างในเป็นยังไงบ้าง ?!”

เทียนฟานไม่คิดว่าพวกชานชุยจะยึดเขตหน้าด่านประตูตงได้ภายในเวลาอันสั้นแบบนี้ ดังนั้นพวกเขาจึงกล้าที่จะร้องถามออกไป

พวกนายทหารที่อยู่บนกำแพงได้ตะโกนถามลงมา “เจ้าเป็นใคร ?”

“เทียนฟาน !”

“ไม่เคยได้ยินโว้ย !”

“อะไรนะ ? เปิดประตูเดี๋ยวนี้ !” เทียนฟานโกรธจัดกับคำที่ได้ฟัง ด้วยถึงแม้เขาจะไม่ใช่คนดูแลประตูตง แต่ก็เป็นลูกน้องคนสำคัญของเสี้ยวติง ทำไมพวกทหารจะไม่รู้จักเขากัน ?

“โทษทีนะ แต่เจ้าห้ามเข้ามาที่นี่ !” นายกองที่อยู่ข้างบนตะโกนกลับแล้วชูแขนขึ้น

“อะไรนะ ?” เทียนฟานหรี่ตาเพื่ออยากเห็นว่าใครที่คุยกับเขา

ชายคนนั้นคือแม่ทัพในชุดเกราะสีดำเช่นเดียวกับหมวก พู่สีแดงด้านบนหัว และผ้าคลุมสีดำเหมือนกับชุดของพวกเฟิง

“เจ้าคือ…” สีหน้าของเทียนฟานซีดเผือดแล้วชี้ไปยังนายกองที่อยู่ข้างบน

“ข้าคือจางเฟิง ! แม่ทัพของกองพันที่แปด และพวกเจ้าก็ห้ามเข้ามาในนี้เด็ดขาด !” เขาสะบัดมือของตัวเองลง “เกาทัณฑ์ยิงได้ !”

พวกทหารที่อยู่ด้วยกันต่างก็ยิงลูกธนูลงมาอย่างรวดเร็วตามคำสั่งนั่น

เทียนฟานหน้าซีดแล้วสบถด่าในใจ ทว่าเขาไม่มีเวลามานึกถึงเรื่องอื่นในตอนนี้แล้ว ได้แต่เรียกเกราะปราณออกมาพร้อมวิ่งกลับไป “ถอยก่อน ! ถอยทัพ !”

เขาเรียกเกราะออกมาช่วยปกป้องม้าของตัวเองด้วยแล้วรีบหนีไป แต่พวกทหารที่มากับเขาไม่มีเกราะอะไรแบบนี้ ดังนั้นจึงได้โดนลูกธนูสังหารไปมากมาย

เพียงพริบตาทหารหนิง 5 พันนายก็ล้มตายกันเกือบหมด ส่วนพวกที่ยังรอดอยู่ก็วิ่งหนีกันจ้าละหวั่นไปตามถนน

เทียนฟานหนีกลับมาพร้อมกับทหารเพียงไม่กี่พันนายเท่านั้น แถมเมื่อมองกลับไป ก็เห็นแต่ศพทหารตัวเองเกลื่อนกลาดไปหมด

เทียนฟานสบถด่าในใจอีกครั้งพร้อมด้วยสีหน้าเสียใจที่ไม่อาจปกป้องประตูตงไว้จากพวกเฟิงได้ เช่นเดียวกับที่ในหัวของเขาวุ่นวายไปหมดไม่รู้จะต้องทำอย่างไรดี แต่ไม่ว่ายังไง เขาก็ต้องรีบกลับไปรายงานเรื่องนี้ให้กับเสี้ยวติงทราบโดยเร็วที่สุด !

เขาโบกมือให้เหล่าทหารแล้วกล่าว “ทุกคนตามข้ากลับไปยังจูเฟิง เพื่อไปรายงานเรื่องให้กับท่านแม่ทัพใหญ่ !”

การเสียที่นี่ไปมันก็เหมือนกับบ้านของพวกเขาถูกทำลาย ด้วยแหล่งส่งเสบียงสำคัญสำหรับพวกหนิงได้ตกอยู่ในมือของพวกเฟิงแล้ว ! ทำให้พวกทหารหนิงต่างก็หน้าซีดเพราะไม่คิดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นความจริง

เมื่อไปได้ครึ่งทาง พวกเขาก็เห็นเข้ากับแม่ทัพคนหนึ่งที่กำลังควบม้าวิ่งมา ทำให้เทียนฟานรู้สึกประหลาดใจ ก่อนจะพบว่าอีกฝ่ายคือหยวนยู่ ชายผู้ที่ฆ่าจางเฟิงไป !

เทียนฟานไม่มีเวลาให้คิดมากกว่านี้ เขาชักดาบออกมาแล้วเรียกปราณออกมาปกคลุมมันก่อนร้องตะโกน “เจ้าคนที่กำลังมุ่งเข้ามา ! จงหยุดเสีย !”

ทว่าชายคนที่ว่ากลับยังคงพุ่งเข้ามาอย่างไม่หวั่นเกรง พร้อมทั้งใช้ดาบของเขาเหวี่ยงฟันมาด้วยเสียอย่างงั้น !

การโจมตีของเขารวดเร็วมาก และเมื่อผนวกเข้ากับความเร็วของม้า มันก็ทำให้เทียนฟานต้องขนลุกเกรียวจนทำอะไรไม่ถูก นอกจากยกดาบขึ้นมาปัดป้องเอาไว้

เคร้ง !

ดาบทั้งสองปะทะกันจนเกิดเสียงดังสนั่น และแม้ว่าจะเป็นดาบปราณเหมือนกัน หากแต่ความต่างชั้นของพลังก็ช่างชัดเจนเสียเหลือเกิน ทำให้ดาบของเทียนฟานแตกละเอียด ปล่อยให้ดาบศัตรูที่ยังคงพุ่งเข้ามาแทงทะลุหน้าท้องของเขาไปอย่างง่ายดาย

ฉึก !

เทียนฟานกรีดร้องออกมา เกราะของเขาเป็นรูตรงกลางหน้าท้อง ก่อนที่ชายที่ขี่ม้าเข้ามาจะใช้ดาบฟันเข้าไปที่หัวของเทียนฟานต่ออย่างไม่ลังเล

ฉัวะ !

หัวของเทียนฟานกระเด็นลอยออกไปกลิ้งบนพื้น

พวกทหารหนิงที่เห็นแบบนี้ต่างก็หวาดกลัวยิ่งกว่าเดิม พวกเขาไม่กล้าแม้แต่จะขยับตัวแม้แต่นิดเดียว

เมื่อเรื่องตรงนี้จบลง หยวนยู่ก็ไม่สนใจคนที่เหลือ คิดรีบวิ่งตรงไปยังประตูตงด้วยความบ้าคลั่งต่อในทันที

ทว่าเขาก็พลันชะงัก พร้อมกับคิดว่าจะเอาหัวของเทียนฟานติดมือไว้เป็นหลักฐาน ก่อนจะใช้ดาบแทงหัวที่ขาดนั่นกลับมาด้วย !

เมื่อเขาไปถึงประตูตง ควันก็หายไปแล้ว ส่วนธงด้านบนก็ได้กลายเป็นธงของพวกเฟิงไปแล้ว ทำให้หยวนยู่หัวเราะในใจก่อนจะตะโกนออกไป “เปิดประตูเดี๋ยวนี้ !”

จางเฟิงที่อยู่ด้านบนหัวเราะออกมาเมื่อเห็นว่ามีคนอยากจะเอาชีวิตมาทิ้งที่นี่อีกครั้ง เขาเรียกพวกพลหน้าไม้ให้ตามมาด้วยกันก่อนร้องถาม “เจ้าเป็นใครกัน ?”

“ไอ้เวรตะไลเอ้ย ! ข้าคือหยวนยู่ไง !”

หยวนยู่ ? จางเฟิงอ้าปากค้างแล้วตัวสั่นทันที ก่อนที่จะมองดูดี ๆ แล้วพบว่าชายคนนี้คือหยวนยู่จริง ๆ เพียงแค่เกราะของเขาเป็นสีแดงจนดูไม่ออกก็เท่านั้น

จางเฟิงครุ่นคิดก่อนจะตอบ “ท่านแม่ทัพช่วยปลดเกราะให้ข้าดูก่อนได้หรือไม่ ?”

“ก็ได้วะ !” หยวนยู่กัดฟันแล้วปลดเกราะออกตามคำขอ

จางเฟิงมองดูสักพักก่อนจะรีบสั่ง “ไปเปิดประตูเร็วเข้า เดี๋ยวนี้เลย !”

หยวนยู่ที่บุกเดี่ยวเข้าไปในค่ายจูเฟิงกลับมาอย่างปลอดภัยทั้ง ๆ ที่ไม่มีใครคิดว่าเขาจะรอดกลับมาได้ นี่จึงทำให้ทุกคนตื่นเต้นมาก !! ก่อนที่จางเฟิงจะพากลุ่มทหารเดินออกมาคุกเข่าต้อนรับ “ข้าน้อยขอต้อนรับท่านแม่ทัพเข้าสู่เมือง !”