“หืม? เรื่องอะไร?” ชีอ้าวชวางเห็นท่าทางเคร่งขรึมของพาริน่าก็หุบยิ้ม
“ตามข้ามา ที่นี่ไม่เหมาะจะคุย” พาริน่าหันแล้วกวักมือให้ชีอ้าวชวางตามไป
ชีอ้าวชวางสงสัยอยู่ในใจ แต่ก็ยังคงตามไป
พาริน่าเดินนำชีอ้าวชวางพาเลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวาหลายรอบ จนสุดท้ายก็เข้าไปในซอยเล็กๆ ชีอ้าวชวางเดินตามไปถึงท้ายซอยแล้วเข้าไปในประตูไม้ที่ไม่สะดุดตาเท่าไร พอเข้าไปแล้วพาริน่าก็รีบปิดประตูทันที ทั้งคู่เดินเข้าไปด้านในด้วยท่าทางเคร่งขรึม
แม้ว่าบ้านหลังนี้จะเล็ก แต่ก็ดูเป็นระเบียบเรียบร้อยมาก เฟอร์นิเจอร์ไม้มีการเช็ดทำความสะอาดอย่างดี จากนั้นชีอ้าวชวางก็เดินตามพาริน่าขึ้นบันไดไม้ไปที่ชั้นสอง
หลังจากเข้าไปในห้องนอนเล็กแล้ว พาริน่าก็ล็อกประตู ดูท่าทางลึกลับ ชีอ้าวชวางเองก็ไม่ได้ร้อนใจอะไรแล้วนั่งบนโซฟา มองไปที่พาริน่า
“เฮ้ ทำไมเจ้าถึงดูไม่เครียดเลย เจ้าไม่กลัวว่าข้าจะทำอะไรเจ้าหรือ?” พาริน่ามองท่าทางสงบและผ่อนคลายของชีอ้าวชวางแล้วพูดขึ้น
“ว่ามาสิ เรื่องอะไรกันแน่ถึงต้องมาคุยกันในที่แบบนี้?” ชีอ้าวชวางมองไปรอบๆ ที่นี่เป็นบ้านที่ดูธรรมดามาก เรื่องอะไรกันถึงต้องใช้ที่แบบนี้ น่าจะเป็นเรื่องที่ไม่ต้องการให้ดึงดูดความสนใจนะ
“หึ! รอก่อนสิ!” พาริน่าพูดอย่างหงุดหงิด จากนั้นก็ร่ายคาถาตั้งเขตกั้นในห้องนี้เพื่อให้แน่ใจว่าบทสนทนาของพวกเขาจะไม่ถูกดักฟัง จากนั้นนางก็นั่งลงและจ้องชีอ้าวชวาง
ชีอ้าวชวางเลิกคิ้วมองพาริน่าด้วยรอยยิ้ม
“ข้าอยากให้เจ้าช่วยตรวจสอบสิ่งหนึ่งให้ข้า มีเพียงเจ้าเท่านั้นที่จะทำได้” สีหน้าของพาริน่าเปลี่ยนไปจากก่อนหน้านี้ จากนั้นนางก็พูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “ไดทันส์และโจนาธานไม่มีทางตอบตกลงแน่ๆ”
“เรื่องนี้ต้องทำโดยคนที่อยู่ในสามอันดับแรกหรือ?” ชีอ้าวชวางเดา แต่ก็เดาไม่ออกว่าพาริน่า ต้องการให้ทำอะไร
“อืม” พาริน่าพยักหน้าแล้วพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “แม้ว่าข้าจะรู้ว่าการให้เจ้าทำเช่นนี้เพราะหนี้บุญคุณของข้าจะทำให้เจ้าลำบากมาก และอาจจะมีอันตรายเล็กน้อย แต่ข้าคิดวิธีอื่นไม่ออกแล้ว”
“โอ้ เจ้าก็รู้นี่นา เช่นนั้นก็ช่างมันไปเสียเถอะ” ชีอ้าวชวางมองพาริน่าอย่างเย้ยหยันแล้วลุกขึ้นยืน
“อย่านะๆ รอก่อนสิ” พาริน่ารีบลุกขึ้นยืนด้วยสีหน้าอ้อนวอน “ข้าขอร้อง เจ้าต้องช่วยข้านะ ต้องช่วยข้าเรื่องนี้นะ ข้าเป็นหนี้บุญคุณเจ้านี่ ได้โปรดเถอะ!” พาริน่าพูด ในขณะที่พูดน้ำตาของนางก็ไหลออกมาและกำลังจะคุกเข่าลงเพื่อขอร้องชีอ้าวชวางด้วย
ชีอ้าวชวางตกใจและรีบก้าวไปพยุงพาริน่าทันที จากนั้นก็ขมวดคิ้วและถามอย่างสงสัย “มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เจ้าพูดมาให้ชัดเจนก่อน ถ้าข้าช่วยเจ้าได้ ข้าก็จะช่วยเจ้าอย่างแน่นอน”
“ชีอ้าวชวาง เจ้าช่วยข้านะ ถ้าเจ้าไม่ช่วย พี่ชายของข้าก็อาจจะ…” น้ำตาของพาริน่าไหลพรากและมองชีอ้าวชวางอย่างอ้อนวอน
“บอกมาให้ชัดเจนว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?” ชีอ้าวชวางมองพาริน่าและเข้าใจทันทีว่าต้องเป็นเรื่องที่จริงจังมาก
“ครอบครัวของข้าเป็นขุนนางในเมืองจวี้เฟิง พ่อของข้าไม่ได้ส่งพี่ชายข้าไปเรียนที่สถาบันดวงดาวเพราะพ่อรู้สึกว่าพรสวรรค์ของพี่ชายข้าหากไปอยู่ที่สถาบันก็จะเป็นการขัดขวางไม่ให้เขาก้าวหน้า ดังนั้นพี่ชายของข้าจึงฝึกฝนด้วยตัวเองมาตลอด เขาเป็นอัจฉริยะ เป็นลูกชายที่ดีและพี่ชายที่ดีด้วย” พาริน่าเริ่มพูดด้วยน้ำตาคลอเบ้า “ไม่ใช่แค่ต้องผ่านการทดสอบระดับเก้าของหอคอยดวงดาวเท่านั้นถึงจะเข้าสู่มิติสูญสลายได้ หลายคนเข้าใจผิดคิดว่าต้องเข้าสถาบันดวงดาวเท่านั้นจึงจะทำได้ อันที่จริงหอคอยของสถาบันดวงดาวก็แค่ทำให้ผู้คนก้าวเข้าสู่มิติสูญสลายนั้นได้ง่ายขึ้นเท่านั้นเอง”
ชีอ้าวชวางไม่ได้ขัดจังหวะพาริน่า จากนั้นก็กลับไปที่โซฟาแล้วฟังคำพูดของพาริน่า อย่างเงียบๆ สัญชาตญาณบอกกับนางว่าดูเหมือนพาริน่าจะรู้อะไรมากมายเลยทีเดียว
“พี่ชายของข้าเป็นอัจฉริยะที่ได้หายากในพันปีจริงๆ เขากำลังจะก้าวเข้าสู่มิติสูญสลายได้แล้ว” พาริน่าพูดด้วยแววตาที่ดูภาคภูมิใจ
มันเป็นการดีที่จะได้ก้าวเข้าสู่มิติสูญสลายไม่ใช่หรือ? แต่ทำไมสีหน้าของพาริน่าถึงดูแย่ลงเรื่อยๆ เลยล่ะ?
“แต่ว่าคนจากสถาบันดวงดาวกลับมาถึงบ้านและให้พี่ชายข้าไปที่สถาบัน” ดวงตาของพาริน่ามีทั้งความโกรธและความตระหนก นางมองไปที่ชีอ้าวชวางอย่างกังวลและพูดอย่างร้อนร้น “ชีอ้าวชวาง ที่พี่ชายข้าได้ก้าวเข้าสู่มิติสูญสลายมันไม่ได้เกี่ยวข้องกับสถาบันดวงดาวเลยสักนิด แต่สถาบันดวงดาวเข้าหาพี่ชายของข้าอย่างเข้มงวดมาก พวกเขาต้องการให้พี่ชายข้าไปที่สถาบันดวงดาว เขาจะต้องไปในวันพรุ่งนี้เลย”
“สถาบันดวงดาวต้องการกุมความแข็งแกร่งไว้ในมือของพวกเขางั้นหรือ? เพื่อจะควบคุมโลกนี้ต่อไปงั้นหรือ?” ชีอ้าวชวางขมวดคิ้วคาดเดา
“ไม่ใช่! คนที่ก้าวเข้าสู่มิติสูญสลายนั้นกล่าวกันว่าไปที่มิติอื่นได้แล้ว ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับโลกนี้เลย มันค่อนข้างยากที่จะออกจากที่แห่งนั้น แต่ว่ากันว่ามันก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ สถาบันดวงดาวขอให้พี่ชายข้าไปที่สถาบันในตอนนี้เพื่ออะไรกัน?” พาริน่าตระหนกเล็กน้อย
“ใช่ ฟังจากที่เจ้าพูดมันดูไม่สมเหตุสมผลเลย” ชีอ้าวชวางสงสัย
“ทำไมสถาบันดวงดาวถึงกระตือรือร้นที่จะให้มีคนก้าวเข้าสู่มิติสูญสลายขนาดนี้? เจ้าไม่คิดว่ามันแปลกหรือ?” พาริน่ากัดฟัน “เจ้าไม่คิดหรือว่าการมีอยู่ของสถาบันดวงดาวมีไว้เพื่อปลูกฝังให้มิติสูญสลายแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น?”
“หือ?” ชีอ้าวชวางขมวดคิ้วครุ่นคิด ดูเหมือนว่าสิ่งที่พาริน่าพูดจะเป็นความจริงนะ การทดสอบของหอคอยที่สถาบันดวงดาว ดูเหมือนจะได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อปลูกฝังความแข็งแกร่งของมิติสูญสลาย ถ้าเช่นนั้นสถาบันได้รับประโยชน์อะไรกันแน่?
“ในอดีตเคยมีคนที่กำลังจะเข้าสู่มิติสูญสลายแล้วก็มีคนจากสถาบันดวงดาวมาพาไป จากนั้นก็ไม่มีข่าวอะไรอีกเลย คนของสถาบันบอกว่าคนเหล่านั้นได้เข้าสู่มิติสูญสลายแล้วไปที่อื่นแล้วจึงสื่อสารกับเราไม่ได้” ท่าทางของพาริน่าดูเคร่งขรึมและวิตกกังวลมากขึ้นเรื่อยๆ “แต่ชีอ้าวชวาง เจ้าลองคิดดูดีๆ นะ ในเมื่อเข้าสู่มิติสูญสลายแล้วไปที่อื่นได้โดยอัตโนมัติแล้วก็ไม่เกี่ยวกับคนของสถาบันแล้ว ทำไมสถาบันดวงดาวต้องเข้ามาแทรกแซงล่ะ? จะมารับตัวไปทำไม? มีปัญหาอะไรกับการที่คนอื่นจะอยู่กับครอบครัวก่อนที่จะเข้าสู่โลกนั้นที่บ้านของตัวเองล่ะ?”
พอชีอ้าวชวางได้ฟังที่พาริน่าพูดก็มีท่าทีจริงจังขึ้นเรื่อยๆ ดูเหมือนจะได้กลิ่นแปลกๆ ในเรื่องนี้แล้ว
“วิธีการของสถาบันดวงดาวทำให้ข้าสงสัยมาก ดังนั้นข้าจึงไปที่สถาบันและคิดตลอดว่าจะต้องเจอสาเหตุอะไรบ้าง แต่ข้าไม่พบอะไรเลย แม้ว่าจะเข้าไปในหอคอยก็ไม่พบอะไรเลย อีกทั้งจำนวนการเข้าหอคอยก็มีจำกัดด้วย มีเพียงระหว่างการทดสอบเท่านั้นจึงจะเข้าไปได้ ความแข็งแกร่งของข้าไปถึงชั้นสูงสุดไม่ได้ ดังนั้นข้าจึงอยากขอให้เจ้าช่วยข้า” พาริน่าพูดอย่างร้อนใจ ดวงตาของนางเต็มไปด้วยการขอร้อง
“แต่ตอนนี้ข้าก็ไปถึงชั้นเก้าไม่ได้นะ” ชีอ้าวชวางขมวดคิ้ว ไม่แปลกใจเลยที่พาริน่ามีความแข็งแกร่งถึงขั้นหกดาวแต่ปลอมตัวเป็นสองดาวมาตลอด ที่แท้ก็มีจุดประสงค์นี่เอง
“แต่เจ้าเข้าออกหอคอยได้ตามต้องการและเจ้าก็ไปถึงชั้นแปดซึ่งมันอยู่ห่างจากชั้นสุดท้ายเพียงหนึ่งชั้นเท่านั้นเอง เจ้าต้องหาเบาะแสบางอย่างได้แน่นอน” พาริน่ากลัวว่าชีอ้าวชวางจะไม่ตกลงจึงพูดอ้อนวอน “ชีอ้าวชวาง ข้าขอร้องนะ ช่วยข้าที ข้าว่าเรื่องนี้มันต้องไม่ธรรมดาแน่นอน ข้าคิดว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นกับพี่ชายของข้า ข้ามักจะรู้ว่าพี่ชายจะเข้ามิติสูญสลายไม่สำเร็จ ข้ารู้สึกว่าจะต้องมีปัญหาบางอย่าง”
ชีอ้าวชวางขมวดคิ้วและครุ่นคิดในใจ
“ชีอ้าวชวาง ข้าขอร้องเจ้านะ พี่ชายของข้า ข้าเสียพี่ชายไปไม่ได้ ข้าไม่มีแม่ พ่อของข้าก็เอาแต่ยุ่งอยู่กับธุรกิจไม่มีเวลามาสนใจข้าเลย พี่ชายของข้าขยันฝึกมาตลอด แต่เขาก็ยังคงทุ่มเทเวลามาดูแลข้า ข้าเสียพี่ชายไปไม่ได้” พาริน่าทำหน้าเศร้า
“อย่าร้องไห้เลย ข้าจะช่วยเจ้า” ชีอ้าวชวางมองพาริน่าที่กำลังร้องไห้ พอได้ฟังสิ่งที่พาริน่าพูด หัวใจก็รู้สึกหน่วงขึ้นมา เพราะนางคิดถึงใครคนหนึ่ง คนที่มีชื่ออยู่ในใจนางมาแสนนาน…แคทเธอรีน ผู้หญิงที่อ่อนโยนคนนั้น ผู้หญิงที่ปกป้องนางด้วยชีวิต แม้จะรู้ว่าวิญญาณของนางไม่ใช่คนเดิมอีกต่อไปแล้วแต่ก็พยายามอย่างยิ่งที่จะปกป้องนาง
“แต่ว่าพรุ่งนี้พี่ชายข้าจะต้องไปสถาบันดวงดาวแล้ว ถ้าหากข้าไม่ได้เจอพี่ชายอีกล่ะจะทำอย่างไร?” ดวงตาของพาริน่าเต็มไปด้วยความหวาดหวั่น
“เจ้าไม่ต้องกังวล เจ้าบอกพี่ชายของเจ้าไว้ก่อนว่าอย่าเพิ่งเข้ามิติสูญสลาย ข้าเชื่อว่าถ้าสถาบันดวงดาวมีปัญหาจริง พวกเขาจะไม่โจมตีพี่ชายเจ้าก่อนจะถึงตอนนั้น ให้เวลาข้าหน่อย ข้าจะลองพยายามช่วยเจ้าหาเอง” ลางร้ายปรากฎขึ้นในหัวใจของชีอ้าวชวาง สถาบันดวงดาวมีปัญหาอย่างที่พาริน่าพูดจริงหรือ? ถ้ามันเป็นเรื่องจริง ตนเองก็คือเป้าหมายของพวกเขาหรือไม่? เพราะชีอ้าวชวางจำสิ่งที่ผู้อำนวยการพูดได้ หากการคาดเดาของพาริน่าเป็นจริง มันจะไม่ใช่แค่ตัวนางเอง แต่ไดทันส์ก็เป็นเป้าหมายของพวกเขาด้วยใช่หรือไม่?
“ข้า ข้ากลัวจริงๆ นะ ข้าคิดว่าสถาบันดวงดาวมีปัญหามากมายจริงๆ ในตอนแรกนักเรียนที่ไปถึงแปดดาวในการทดสอบครั้งแรกนั้น แต่สุดท้ายกลับต่อต้านสถาบันและเกือบทำลายหอคอยอีก ตามข่าวลือ ว่ากันว่าจริงๆ แล้วนักเรียนคนนั้นผ่านขั้นที่เก้าได้เลย กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือเขาเข้าถึงมิติสูญสลายได้! แต่ทำไมเขาถึงทำสิ่งผิดปกติเช่นนั้นล่ะ? ยิ่งไปกว่านั้นคือสถาบันดวงดาวจะคอยรวบรวมผู้ที่เข้าสู่มิติสูญสลายได้มาอยู่ที่สถาบันอยู่ตลอด เพราะอะไรกัน? ข้าไม่ได้คาดเดานะ ข้ามั่นใจเลยว่าจะต้องไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ!” พาริน่าตัวสั่นและหน้าของนางก็เริ่มซีด
“พาริน่า อย่าเป็นอย่างนี้สิ ตอนนี้พี่ชายของเจ้ายังไม่ได้เป็นอะไรนะ ข้าจะพยายามค้นหาให้เร็วที่สุด” ชีอ้าวชวางขมวดคิ้วและพูดอย่างเคร่งขรึม “ถ้ามันเป็นเรื่องจริง เรื่องนี้ก็ไม่ใช่แค่พี่ชายกับเจ้าเท่านั้น แต่เกี่ยวข้องกับคนจำนวนมากเลย หนึ่งในนั้นก็คือข้าด้วย”
“อะไรนะ? เจ้า?” พาริน่าเบิกตากว้างและมองชีอ้าวชวางอย่างตกใจ “หรือว่าเจ้าก็ต้องการเข้าสู่มิติสูญสลายเช่นกัน? ไม่นะ ชีอ้าวชวาง ไม่!” พาริน่าพูดและก้าวไปข้างหน้ากอดชีอ้าวชวางพร้อมน้ำตาที่ไหลไม่หยุด