Ep.572 – จิตวิญญาณของทุกสิ่ง

 

ภายในโรงแรมอัลเบอัส

 

ตรงส่วนของโซนที่นั่งพิเศษ

 

จิตวิญญาณพฤษาศักดิ์สิทธิ์ เลดี้เทสส์ กำลังใช้สมองตริตรองอยู่

 

เมื่อครู่นี้บนระเบียงสูง เธอได้ล่วงรู้ถึงความจริงอันน่าตกใจ

 

แต่น่าเสียดาย ที่เวลามันกระชั้นชิดเกินไป ทำให้เธอมีเวลาคุยกับลอร่าเพียงไม่กี่สิบวินาทีเท่านั้น

 

จริงอยู่ที่ลอร่าได้บอกเล่าเรื่องราวตื้นลึกหนาบางจนกระจ่างชัดให้แก่ตนเอง แต่-

 

เด็กสาวตัวน้อยกลับไม่ได้บอกเธอ ว่าซ่อนโลกเอาไว้ที่ไหน

 

เลดี้เทสส์ขมวดคิ้วมุ่น

 

ในฐานะที่เป็นตัวตนทรงอำนาจ เธอจึงย่อมตระหนักถึงกุญแจสำคัญในครั้งนี้ได้อย่างรวดเร็ว

 

‘จะต้องไม่ปล่อยให้ทริสเต้ค้นพบโลกสมบัติก่อนตัวเอง!’

 

มิฉะนั้น หากทริสเต้ได้มันกลับคืน และเปิดโลกในมือออกมาโดยตรง เกมหมื่นสวรรค์สิ้นโลกาออนไลน์ก็มาแพร่กระจายขึ้นในอัลเบอัส

 

แต่ .. ลอร่าไปซ่อนโลกใบที่ว่าไว้ที่ไหนกันแน่นะ?

 

ปัญหานี้มันน่าปวดหัวเสียจริงๆ

 

หากไม่อาศัยเทคนิคมนตราที่ใช้ตอบโต้เทคนิคแทนที่โชคชะตา ตัวเธอเองก็ไม่สามารถกลับไปยังโลกสมบัติได้อีกครั้ง หรือก็คือไม่สามารถเข้าไปถามไถ่ลอร่าได้นั่นเอง

 

แบบนี้ชักจะไม่ดีแล้ว เราจะต้องค้นหาโลกใบนั้นให้เจอให้จงได้!

 

เลดี้เทสส์เหลือบมองไปยังไก่ใหญ่ ในใจคิดจะขอความช่วยเหลือ

 

เห็นแค่เพียงไอ้ขี้เมาที่กำลังกอดขวดไวน์ด้วยสีหน้าเศร้าๆ จะมีบ้างที่ยกไวน์มาจิบขึ้นเป็นครั้งคราว

 

-ลืมมันเถอะ นอกจากสภาพจะดูไม่ได้แล้ว เขายังเป็นพวกปากสว่าง คิดอะไรก็แสดงออกทางสีหน้า แบบนี้ถ้าทริสเต้มาเห็นแล้วจับสังเกตได้ คงโป๊ะแตกกันพอดี

 

เรื่องนี้ เธอคงต้องพึ่งตัวเอง

 

เทสส์ลุกขึ้น และเดินวนไปมารอบๆห้องที่นั่งโซนพิเศษ

 

มาทบทวนกันซักหน่อย ก่อนอื่นเลย

 

ลอร่าอยู่กับกู่ฉิงซาน

 

แต่กู่ฉิงซานมาที่นี่ ก็เพื่อตามหาแฟนสาวของเขา

 

เรื่องราวทุกอย่างมันเริ่มต้นขึ้น จากการที่กู่ฉิงซานปรากฏมาขอความช่วยเหลือ

 

ในเมื่อเขามาทำธุระสำคัญที่นี่ เขาก็ไม่สมควรที่จะเอ้อระเหยไปมา

 

ถ้าอย่างนั้น …

 

สรุปได้ว่า กู่ฉิงซานสมควรที่จะนั่งอยู่ภายในโซนพิเศษของพวกเชื้อพระวงศ์นี่แหละ

 

แต่เดี๋ยวก่อนนะ

 

ถ้ากู่ฉิงซานอยู่ที่นี่ตั้งแต่แรก แล้วเขาจะเข้าไปในโลกของทริสเต้ด้วยกันกับลอร่าได้ยังไง?

 

เลดี้เทสส์หยุดฝีเท้า สายตาสาดส่องไปรอบๆโซนที่นั่งอย่างเงียบๆ

 

ปากร่ายมนต์เสียงกระซิบ “ด้วยอำนาจแห่งทวยเทพ ขอจงประทานจิตวิญญาณให้แก่ทุกสรรพสิ่งด้วยเถิด”

 

บังเกิดลวดลายน้ำที่มองไม่เห็นผุดออกมาจากร่างกายของเธอ แพร่กระจายไปตลอดทั้งโซนที่นั่ง

 

แต่ทุกสิ่งยังคงเงียบในวินาทีแรก

 

วินาทีที่สอง

 

วินาทีที่สาม

 

“เอาล่ะ มีใครสามารถบอกเราได้บ้างว่าทั้งสองคนนี้เคยอยู่ที่นี่หรือไม่?” 

 

เลดี้เทสส์ผายมือออกไป

 

รังสีมรกตควบรวมกันเป็นภาพของลอร่าและกู่ฉิงซาน ยืนนิ่งอยู่บนฝ่ามือของเธอ

 

“อ่า ถ้าสองคนนี้ล่ะก็ฉันเห็นพวกเขานะ”

 

เสียงที่ฟังดูทื่อๆดังขึ้น

 

มันเป็นเสียงที่ดังออกมาจากขวดไวน์ในมือของไก่ใหญ่

 

เจ้าไก่สะดุ้ง เร่งโยนขวดลงบนโต๊ะด้วยความตกใจ

 

ขวดไวน์หมุนไปบนโต๊ะอยู่หลายตลบ ก่อนที่สุดท้ายมันจะผุดลุกขึ้นยืนอย่างไม่มั่นคง

 

ขวดไวน์เปล่งเสียงออกมา “ฉันเคยเห็นเด็กผู้ชายในภาพ และต้องบอกว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญในการดื่มอย่างแท้จริง เพียงกวาดสายตามองมาที่ฉันกับไวน์ขวดอื่นๆ เขาก็สามารถระบุถึงรสชาติของพวกเราได้อย่างง่ายดาย”

 

“ใช่ เป็นอย่างที่พูด”

 

“ถูกเผงเลย”

 

“ฉันเห็นด้วยกับมันนะ”

 

ภายในถังน้ำแข็ง จิตวิญญาณขวดไวน์เปล่งเสียงตอบโต้กันไปมา

 

“แล้วเด็กผู้หญิงคนนี้ล่ะ มีใครเห็นเธอบ้าง?” เลดี้เทสส์เอ่ยถาม

 

ขวดไวน์ตอบ “สำหรับเรื่องของเธอฉันไม่ค่อยแน่ใจ เพราะเธอมักจะปรากฏตัวขึ้นและหายไปเป็นพักๆ จนฉันคิดว่าตาฝาดไป”

 

“หมายความว่าเธอไม่ได้อยู่ที่นี่งั้นหรือ?” เลดี้เทสส์ถามต่อ

 

“เปล่า เธออยู่ที่นี่แน่ๆ นั่งอยู่บนร่างของฉันนี่แหละ” โซฟาเดี่ยวขัดจังหวะ

 

เทสส์หันไปมองโซฟา

 

ภายในโซนที่นั่งพิเศษ เต็มไปด้วยโซฟาขนาดใหญ่ไว้คอยอำนวยความสะดวกสบายอยู่ทุกที่ แต่โซฟาเดี่ยวที่เปล่งเสียงออกมา มันตั้งอยู่ในตำแหน่งมุมซึ่งไม่เป็นที่สนใจมากที่สุดภายในห้องนี้

 

ถ้าอย่างงั้นลอร่าก็อยู่ในโซนพิเศษมาโดยตลอดเลยสิ?

 

เลดี้เทสส์ “แล้วเธอออกไปจากห้องรึเปล่า? ไปกับเด็กผู้ชายอีกคนใช่ไหม?”

 

“ทั้งหมดที่ฉันรู้มีแค่ว่าเธออยู่ที่นี่ และสุดท้ายเธอจะออกไปหรือไม่ คุณคงต้องไปถามบานประตูเอง” โซฟาเดี่ยวพูด

 

ประตูห้องเข้าร่วมวงสนทนาทันที “ไม่ พวกเขาไม่ได้ออกจากห้องนี้ เพราะถ้าพวกเขาออกไป ฉันจะต้องรู้”

 

เลดี้เทสส์ยิ้ม “ดีล่ะ พวกเราใกล้คำตอบเข้าไปอีกก้าวแล้ว – ตอนนี้มีใครสามารถบอกเราได้ไหมว่าพวกเขาไปที่ไหน?”

 

แต่เสียงในห้องกลับหายไป

 

เลดี้เทสส์เฝ้ารออยู่สักพักหนึ่ง แต่ก็ไม่มีใครตอบเธอ

 

เธออดไม่ได้ที่จะลอบถอนหายใจอย่างลับๆ

 

เฟอร์นิเจอร์เหล่านี้เป็นวัตถุทั่วๆไป ดังนั้นพวกมันจึงมิได้มีพลังอะไรมากมาย ไม่ต้องกล่าวถึงจิตวิญญาณของการดำรงอยู่ แม้ว่าตัวเทสส์จะสำแดงเทคนิคมนตราด้วยตนเอง แต่การตอบสนองของพวกเขาก็ยังเฉื่อยชามาก หากไม่ใช่เรื่องเกี่ยวกับตนเอง ก็ยากนักที่จะนึกคิดได้

 

นี่ไม่มีใครรู้เรื่องของทั้งสองมากไปกว่านี้แล้วเลยหรอ?

 

ขณะกำลังขบคิด จู่ๆเทสส์ก็ได้ยินเสียงสะอื้นเบาๆ

 

เธอหันขวับไปอย่างแรง แล้วดวงตาของเธอก็ตกลงบนเค้ก 20 ชั้นขนาดใหญ่ที่อยู่บนโต๊ะ

 

“เกิดอะไรขึ้น? เจ้าเป็นอะไรไป?”

 

เทสส์เอ่ยถามอย่างอ่อนโยน

 

เค้กชิ้นนี้ เดิมทีมันเป็นไปไม่ได้ที่จะมีจิตวิญญาณ แต่ตอนนี้มันกลับส่งเสียงสะอื้นไห้

 

“ฉัน .. ฉันรู้สึกเสียใจ” เค้กกล่าว

 

“ทำไมเจ้าถึงเสียใจ?”

 

“เพราะทั้งสองคนนั้นดูเหมือนจะสนใจฉัน และฉันอุส่าห์ปลดปล่อยกลิ่นอันหอมหวานของครีมและผลไม้ แต่สุดท้ายพวกเขากลับไม่ได้ลิ้มรสฉัน”

 

“แล้วทำไมพวกเขาถึงทำเช่นนั้น?”

 

“เพราะพวกเขาซ่อน-”

 

ขณะกำลังรับฟัง สีหน้าของเทสส์ก็แปรเปลี่ยนไป

 

ทริสเต้กำลังมา!

 

เทสส์วาดมือออก ยกเลิกมนตรานี้ ปากเร่งเอ่ยคาถาอย่างรวดเร็ว “กระแสวิญญาณของทุกสรรพสิ่งจงหายไป กลับคืนสู่ดินแดนแห่งความเงียบดังเดิม!”

 

นี่คือเทคนิคป้องกันที่ใช้ซ่อนลมหายใจ มันจะช่วยปิดซ่อนกลิ่นอายและความผันผวนทั้งหมดเอาไว้ชั่วคราว

 

แม้กระทั่งเทสส์เองก็ไม่สามารถทะลวงเทคนิคมนตรานี้ เพื่อตรวจสอบถึงความลับที่ซ่อนอยู่ภายในของมันได้

 

นั่นหมายความว่า หากทริสเต้มา เธอเองก็ไม่มีทางตรวจสอบมันได้เช่นกัน

 

ท่ามกลางช่วงเวลาฉุกละหุก ทริสเต้ก็ปรากฏตัวขึ้นในห้อง

 

สีหน้าของเธอเปี่ยมไปด้วยความปิติยินดี ปากเอ่ยเสียงกระซิบ “แท้จริงแล้วมันก็ถูกซ่อนเอาไว้ที่นี่ … ”

 

เธอเดินมาที่โต๊ะ และหยิบขวดไวน์ ผลไม้ แจกัน ฯลฯ ขึ้นมาจับดู

 

-ไม่ใช่งั้นหรือ?

 

น่าแปลก เมื่อครู่ข้าสัมผัสได้อย่างชัดเจนถึง ‘การเรียกขานของวิหคหนาม : อัญเชิญทหารพิทักษ์’ ขององค์กษัตริย์ ปรากฏขึ้นในโลกของตนเอง และยังมาจากภายในห้องนี้

 

อย่างไรก็ตาม จู่ๆความผันผวนของเทคนิคมนตราที่ว่ากลับหายไปอย่างกระทันหัน?

 

ทริสเต้ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง

 

เธอตรวจสอบสิ่งต่างๆบนโต๊ะอีกครั้ง แต่ก็ยังไม่เจอมัน

 

ขณะที่เทสส์แม้จะนั่งอยู่อย่างเงียบๆ แต่สายตาของเธอก็เลื่อนตามอีกฝ่ายไปตลอด พร้อมกับภายในหัวใจที่กำลังขบคิดอย่างรวดเร็ว

 

พวกเขาไปซ่อนตัวอยู่ที่ไหนกัน?

 

แล้วเพราะอะไร ทำไมจิตวิญญาณของเค้กถึงได้ร้องไห้?

 

น่าเสียดายจริงๆ เกือบที่จะรู้ความจริงอยู่แล้วเชียว

 

ถัดมา ภายใต้การจ้องมองของเทสส์ ทริสเต้ราวกับคนบ้า เธอตรวจสอบของทุกอย่างในห้องอย่างอย่างคลุ้มคลั่ง

 

-แต่ก็ยังไม่ค้นพบโลกของตัวเอง

 

ไม่นะ ก็ชัดเจนแล้วว่ามันอยู่ที่นี่!

 

ตั้งแต่ที่เทคนิคมนตราการเรียกขานของวิหคหนามปรากฏขึ้นในโลกของตัวเอง เทคนิคปกปิดที่ผนึกมันไว้ก็สมควรที่จะพังทลายลงแล้วนี่นา

 

แล้วทำไมกัน? ทำไมข้าถึงรู้สึกถึงมันได้เพียงชั่วขณะ แต่สุดท้ายก็สูญเสียการรับรู้ตำแหน่งของโลกไป?

 

ทริสเต้พอคิดถึงจุดนี้ก็หันขวับอย่างดุร้าย จ้องมองไปยังจิตวิญญาณพฤษาศักดิ์สิทธิ์เลดี้เทสส์

 

หรือว่าจะเป็นเธอ …

 

“นั่นเจ้ากำลังมองหาอะไรอยู่?” เลดี้เทสส์เอ่ยถามเป็นคนแรก

 

ทริสเต้นเปิดปากกล่าว “บางทีเจ้าอาจจะรู้อยู่แล้วก็ได้นะ ว่าข้ากำลังหาสิ่งใด”

 

เทสส์เผยถึงรอยยิ้มแย้มบนใบหน้า “แน่นอน ข้ารู้ว่าเจ้ากำลังตามหาลอร่า และยังขอให้ข้าช่วยอีกด้วย”

 

“เมื่อครู่ ข้าสัมผัสได้ว่าเธออยู่ที่นี่”

 

“เช่นนั้นสัมผัสของเจ้าคงผิดแล้วล่ะ พวกเราอยู่ที่นี่ตลอดเวลา แต่ไม่พบอะไรเลย”

 

“อย่างนั้นหรือ? แต่ภายในห้องนี้มันให้ความรู้สึกแปลกๆนะ ไม่รู้ว่าเจ้ารู้สึกถึงมันได้หรือไม่?”

 

“ขออภัยจริงๆ เราไม่รู้สึกอะไรเลย”

 

ทั้งสองจ้องตากันครู่หนึ่ง ก่อนที่ต่างฝ่ายจะเบนมันออกไปมองรอบๆห้อง

 

‘ลอร่ากับกู่ฉิงซานไม่ได้ออกไปจากห้องนี้’ –นี่คือสิ่งที่เทสส์คิด

 

‘เห็นได้ชัดว่าเกิดความผันผวนทางเทคนิคมนตราของวิหคหนามจากในโลกของข้า และต้นตอมันมาจากโซนที่นั่งพิเศษในห้องนี้’ —นี่คือสิ่งที่ทริสเต้คิด

 

แล้วดวงตาของทั้งสองก็กลับมาสบกันอีกครั้ง

 

“เลดี้เทสส์ที่เคารพ ต้องการที่จะมองหาสถานที่พักผ่อนแห่งอื่นหรือไม่?”

 

“ก็ไม่นะ เราว่าที่นี่ก็สะดวกสบายดีอยู่แล้ว เจ้าเล่า? ไม่ใช่ว่ามีหลายสิ่งหลายอย่างต้องทำหรอกหรือ ไม่จำเป็นต้องมาใส่ใจกับทางนี้หรอก”

 

“อ้อ ข้าอยากจะพักอยู่ที่นี่สักครู่ และปล่อยพวกปัญหาน่ารำคาญทิ้งไว้ข้างหลังไปก่อนน่ะ”

 

ระหว่างสนทนา ทั้งสองก็หัวเราะออกมาพร้อมกัน และบังเกิดความคิดบางอย่างวาบผ่านเข้ามาในจิตใจของแต่ละฝ่าย

 

แท้จริงแล้ว .. โลกสมบัติถูกซ่อนอยู่ตรงไหนกันแน่นะ?