Ep.576 – นกแตกรัง

 

ม้าทมิฬควบวิ่งสุดฝีเท้า

 

กู่ฉิงซานที่อยู่บนหลังม้า มองไปยังกองทัพสัตว์ประหลาดผีที่อยู่อีกฟากด้านหนึ่งของพื้นที่ราบ

 

ผียักษ์สองตัวที่มีความสูงกว่า 7-8 เมตร กำลังวิ่งไปมา ปากอ้าตะโกนลั่น พยายามจะรวบรวมกองทัพที่แตกพ่ายให้กลับมามั่นคงอีกครั้ง

 

พวกมันกวัดแกว่งดาบใหญ่ของตน หากมีภูติผีตัวใดไม่เชื่อฟัง ผีตวนั้นก็จะถูกสะบั้นศีรษะทันที

 

ด้วยวิธีการควบคุมอันเฉียบขาดและทรงประสิทธิภาพเช่นนี้ ส่งผลให้ภูติผีที่วิ่งแตกกระเจิงไปคนละทิศทาง เริ่มหยุดฝีเท้าลง และกลับมาก้มหน้ารับฟังคำสั่งของผู้บัญชาการผีดังเดิม

 

หากยังเป็นแบบนี้ต่อไป ตราบใดที่ให้เวลาพวกมันมากพอ กองทัพผีก็จะกลับมารวมตัวกันเป็นกลุ่มได้อีกครั้ง

 

แม้ว่าหากเทียบกับก่อนหน้านี้ กำลังรบจะลดลงเป็นอย่างมาก แต่จำนวนที่รวบรวมมาได้ก็ยังมีมากถึง 100000 ตน!

 

ด้วยปริมาณดังกล่าวนี้ ตัวกู่ฉิงซานย่อมไม่มีทางที่จะต่อกรกับพวกมันได้อย่างแน่นอน

 

หากเขากล้าที่จะวิ่งฝ่าเข้าไปกลางดงกองทัพผีนับแสนโดยลำพัง ก็คงมิแคล้วพานพบกับความตายในที่สุด

 

—เว้นเสียแต่ว่าเจ้าตัวจะใช้ค่ายกลดาบไท่หยีที่เสริมแกร่งขึ้นกว่า 36 เท่า อีกครั้ง

 

อย่างไรก็ตาม นั่นมันเป็นไปไม่ได้

 

ขณะขบคิด กู่ฉิงซานก็พึมพำเสียงต่ำ “ไม่ได้การล่ะ ถ้าปล่อยให้พวกมันรวมกลุ่มกันได้โดยสมบูรณ์ ปัญหาใหญ่ก็จะตามมา … ”

 

เขาสั่งการนึกคิดในจิตใจ

 

ฟุบบบ!

 

ดาบพิภพปรากฏออกมาจากในความว่างเปล่า

 

“จงไปจัดการมันซะ” กู่ฉิงซานกล่าว

 

ได้ยินเพียงเสียง ‘ฟิ้ว’ ดาบพิภพทะยานตัวสูงขึ้นไปเบื้องบนท้องฟ้า และหายไป

 

หลังจากนั้นไม่กี่ลมหายใจ

 

เห็นแค่เพียงกระแสแสงและเงา ตัดผ่านผืนฟ้า พุ่งฉีกอากาศลงไปยังตำแหน่งของกองทัพผีอีกด้านหนึ่งที่อยู่บนทุ่งราบ

 

และต้องไม่ลืมนะว่า นี่คือดาบพิภพที่หนักกว่า 86.37 ล้านจิน ผสานไปกับการร่วงตกลงจากที่สูงนับหมื่นไมล์!

 

ด้วยความสูง , ความเร็ว , แรงกระแทก สามสิ่งนี้ ก็เพียงพอแล้วที่จะสังหารอีกฝ่ายโดยที่ตัวกู่ฉิงซานไม่จำเป็นต้องใช้เทคนิคดาบใดๆ!

 

เขาเพียงควบคุมดาบพิภพ เล็งเข้าใส่ผู้บัญชาการผีด้วยจิตสัมผัสเทวะก็เท่านั้น

 

ตูม!!!

 

แรงกระแทกได้ก่อให้เกิดฝุ่นควันขโมง

 

ตลอดทั้งที่ราบลุ่มสั่นสะเทือนไปครู่หนึ่ง

 

ขณะที่ตำแหน่งของกองทัพผีเริ่มตกอยู่ในความวุ่นวาย

 

บังเกิดรูลึกขนาดใหญ่ปรากฏขึ้น

 

ผู้บัญชาการผีถูกสังหารตกตายลงโดยดาบพิภพทันที

 

กู่ฉิงซานเบนความสนใจไปยังผู้บังคับบัญชาผีอีกตนหนึ่ง

 

วูบบบ!

 

ดาบพิภพบินขึ้นมาจากหลุมลึก เหวี่ยงคมกล้าของตนตัดผ่านอากาศที่ว่างเปล่า ฟาดเข้าใส่ผียักษ์โดยตรง

 

“อา .. อา อ๊าาา ไปลงนรกซะ!”

 

ผู้บัญชาการผีเหวี่ยงดาบใหญ่ในมือเข้าต่อต้าน

 

เคร้ง!

 

ภายใต้เสียงสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง ดาบพิภพสุดท้ายก็ถูกหยุดไว้โดยผู้บัญชาการผีได้ในที่สุด

 

อย่างไรก็ตาม ผู้บัญชาการผีกลับค่อยๆชักฝีเท้ากลับ สองเข่ากลายเป็นอ่อนเปลี้ย ทิ้งลงกระแทกกับพื้น

 

หัวของมันถูกตัดแยกออกจากลำตัว กระเด็นขึ้นไปบนท้องฟ้า สาดหยดเลือดโปรยปรายลงมา

 

ในขณะที่มันกำลังรับมือกับคมดาบตรงหน้า .. จู่ๆก็ปรากฏดาบอีกเล่มสับสังหารมันจากเบื้องหลังอย่างกระทันหัน!

 

เทคนิคลับแห่งดาบ กลืนกินหวนกลับ!

 

สองผู้บัญชาการกองทัพผีได้สิ้นชีพลงแล้ว

 

ฝูงภูติผีที่ใกล้จะกลับมาเป็นระบบระเบียบ เริ่มแตกแถว สัญญาณแห่งความวุ่นวายกำลังจะปะทุขึ้นอีกครั้ง

 

อย่างไรก็ตาม ผีแห่งความอลหม่านบางตนก็ได้ร่อนลงมาจากท้องฟ้า และคำรามเข้าใส่กองทัพผีทั้งหมด

 

เนื่องจากมันเป็นอสูรกายประเภทปฐมบทแห่งความโกลาหลอันทรงภูมิปัญญา  ผีแห่งความอลหม่านจึงตระหนักถึงจุดระส่ำนี้ แล้วก้าวเข้ามาควบคุมกองทัพภูติผีอย่างรวดเร็ว

 

ภายใต้การสั่งการของมัน ความวุ่นวายจึงค่อยๆสงบลง

 

“อ๋า? ดูเหมือนว่าจะมีปัญหาใหม่มาอีกแล้วสิ คราวนี้ตาเจ้าแล้วนะ”

 

กู่ฉิงซานหันไปพูดกับความว่างเปล่าเบื้องหลังเขา

 

ทันใดนั้น ดาบขุนเขาเทวะหกโลกาก็ผุดออกมา มันส่งเสียงฮึมฮัม พุ่งข้ามผ่านม้าทมิฬตรงไปยังกองทัพสัตว์ประหลาดผี

 

ดาบบินกระพริบไหวเพียงไม่กี่ครั้ง ในไม่กี่วินาทีต่อมามันก็มาถึงตำแหน่งของศัตรู

 

ดาบยาวที่คล้ายดั่งหยาดน้ำค้างในฤดูใบไม้ร่วงเริ่มระเบิดชั้นแสงสายฟ้าออกมา และฟาดสับผีแห่งความอลหม่านโดยตรง

 

ผีแห่งความอลหม่านก็ว่องไวไม่แพ้กัน มันปลีกตัวออก หลบเลี่ยงทันที!

 

และเร่งบินหนีกลับขึ้นไปบนฟากฟ้า

 

ดาบบินเปลี่ยนร่างกลายเป็นฉานนู่

 

หญิงสาวในชุดคลุมฟ้ากุมดาบยาวในมือของเธอ และหายวับไป

 

สกิลเทวะ ย่นระยะเหลือเพียงหนึ่งนิ้ว!

 

ฉานนู่เคลื่อนกายมาปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งบนท้องฟ้า ดักอยู่เบื้องหน้าผีแห่งความอลหม่านพอดิบพอดี

 

เทคนิคลับแห่งดาบ ตัดจันทรา!

 

รังสีดาบสีนวลผ่องดั่งจันทร์เสี้ยว ที่ตลอดทั้งตัวของมันปกคลุมไปด้วยชั้นแสงสายฟ้าฟาดสับลงมาแสกหน้าศัตรูจากเบื้องบน

 

ผีแห่งความอลหม่านไม่มีเวลามากพอกระทั่งจะเปล่งเสียงร้อง มันสลายเป็นขี้เถ้า ฟุ้งหายไปกับสายลมในจุดนั้นทันที

 

เมื่อเห็นถึงฉากนี้ ผีแห่งความอลหม่านที่อยู่ไกลออกไปก็เร่งหันหลัง และถอยออกไป

 

‘อย่ามาล้อเล่นนะ! พวกข้าสัมผัสได้ถึงพลังอำนาจที่สามารถฉีกกฏเกณฑ์จากดาบเล่มนั้น’

 

‘ไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องที่มันสามารถปลดปล่อยสายฟ้าออกมาได้อีก!’

 

‘นั่นมันคือสิ่งที่พวกตนแพ้ทางโดยกำเนิด ไม่มีทางที่จะต่อกรได้ หนีก่อนจึงสมควรกว่า!’

 

กู่ฉิงซานที่เห็นถึงฉากนี้ ก็พยักหน้าด้วยความพึงพอใจเล็กน้อย

 

ในช่วงเวลาไม่กี่ลมหายใจ สองผู้บัญชาการผีตกตาย ไม่เว้นกระทั่งผีแห่งความอลหม่านที่คิดเสนอหน้า ส่งผลให้ผีแห่งความอลหม่านตนอื่นๆหวาดกลัว และเลือกที่จะหลบหนีไป

 

เวลานี้ กองทัพสัตว์ประหลาดผีนับแสนตนก็ไม่มีผู้ใดสั่งการอีกต่อไป

 

“ครานี้ถึงตาของเจ้าแล้ว”

 

เขาหันหลังไปกล่าวเสียงกระซิบ

 

“ฉวัดเฉวียน!” เช่าหยินโห่ร้องออกมาอย่างร่าเริง โฉบกายตนออกไปอย่างกระตือรือร้น

 

มันบินไปยังตำแหน่งของกองทัพผี

 

ไม่นาน ทั้งสามดาบก็มารวมตัวกันในที่สุด

 

กู่ฉิงซานกระตุ้นเทคนิคดาบ

 

เปิดใช้งานค่ายกลดาบไท่หยี!

 

สามดาบบินเข้าโอบล้อมกองทัพสัตว์ประหลาดผีนับหมื่นแสน และเริ่มที่จะจัดวางร่างเงาดาบ

 

ร่างเงาดาบชั้นแล้ว ชั้นเล่าถูกจัดวางลงท่ามกลางอากาศที่ว่างเปล่า

 

เหล่าภูติผีพยายามที่จะโจมตีเงาดาบเหล่านี้ แต่ทว่าการจู่โจมของพวกมันกลับทะลุเงาดาบไปเลยโดยตรง มิอาจทำลายลงได้

 

ร่างเงาดาบเริ่มครอบคลุมหนาแน่น

 

กระแสลมเริ่มพัดหวน

 

ขณะเดียวกันก็เริ่มปรากฏร่องรอยจางๆของดาบสายลม

 

กองทัพผีตระหนักได้ถึงการปรากฏตัวของดาบสายลมนี้

 

บนพื้นดิน สัตว์ประหลาดผีนับแสนเริ่มระเบิดเสียงกรีดร้องคร่ำครวญออกมา

 

–ไม่นะ เจ้ากระบวนท่านี้อีกแล้ว!

 

สายลมที่เกิดจากปราณดาบ ได้ฝังความหวาดกลัวประทับลึกลงไปในจิตใจของพวกมันเป็นที่เรียบร้อย

 

สหายของพวกมันเกือบทั้งหมดถูกสังหารลงภายใต้ค่ายกลดาบไท่หยี ที่เสริมแกร่ง 36 เท่า!

 

แล้วในช่วงเวลานี้ ฝ่ายตรงข้ามก็ดูเหมือนว่าจะใช้ออกด้วยสกิลดาบที่ว่านั่นอีกครั้ง

 

พวกภูติผีตัดสินใจพร้อมกันทันที

 

—จะไม่มีทางรอให้ดาบสายลมก่อร่างขึ้นโดยสมบูรณ์หรอก!

 

เพราะความรู้สึกเดียวที่ฝังลึกในใจของพวกมันที่ได้รับจากดาบสายลมก็คือ

 

‘หากตอบสนองอย่างเชื่องช้า โชคชะตาเดียวที่รออยู่ก็จะมีเพียงความตาย!’

 

กองทัพผีโยนอาวุธในมือตนทิ้งอย่างไม่ลังเล และหลบหนีไป

 

พวกมันไม่สนใจอะไรอีกแล้ว

 

ชีวิตน้อยๆของตน ย่อมเป็นสิ่งสำคัญที่สุด!

 

ในเวลาสั้นๆ กลุ่มกองทัพผีที่พึ่งจะรวมตัวกัน ก็แตกกระเจิงอย่างรวดเร็ว

 

คราวนี้ ไม่มีใครสามารถหยุดยั้งการแตกพ่ายของกองทัพได้อีกต่อไปแล้ว

 

สัตว์ประหลาดผีนับหมื่นแสนสับฝีเท้าหนีอย่างบ้าคลั่ง กระจัดกระจายวิ่งหายเข้าไปในป่านอกพื้นที่ราบลุ่ม

 

กู่ฉิงซานดึงบังเหียนม้า และหยุดมองชั่วขณะหนึ่ง

 

เฝ้ารอจนกระทั่งกองทัพผีหนีหายไป จนไม่หลงเหลือตนใดอยู่บนพื้นที่ราบลุ่ม เขาจึงค่อยสลายค่ายกลดาบไท่หยีลง

 

เพราะการใช้ค่ายกลดาบไท่หยีแบบธรรมดา มิได้เสริมแกร่งใดๆ มันก็จำเป็นที่จะต้องใช้พลังวิญญาณเช่นกัน

 

ในเมื่อเป้าหมายของตนได้บรรลุแล้ว กู่ฉิงซานก็ไม่เต็มใจที่จะจ่ายพลังวิญญาณใดๆออกไปอีก

 

ท้ายที่สุดนี้ ด้วยความแข็งแกร่งของเขา แม้ว่าจะทุ่มออกด้วยพละกำลังทั้งหมดที่มี มันก็ไม่สามารถสังหารกองทัพผีที่เหลือรอดทั้งหมดลงได้อยู่ดี

 

“ดั่งสำนวนที่ว่าแค่ทำให้หวาดกลัว จนนกแตกรังก็พอแล้ว …”

 

กู่ฉิงซานถอนหายใจ

 

เขาหันหัวม้าไปอีกทาง และควบมันตรงกลับไปยังเมืองไห่เช่า

 

หลังจากที่ถูกตนข่มขู่ไปซะขนาดนั้น คาดว่าหากสัตว์ประหลาดผีจะรวมตัวกันได้อีกครั้ง มันคงไม่ใช่เรื่องง่าย

 

และแน่นอน ว่าต่อให้พวกมันรวมตัวกันเป็นกองทัพขนาดใหญ่ได้อีก แต่การโจมตีเมืองไห่เช่าอีกคราย่อมยากเย็นยิ่งกว่าเดิมมากนัก

 

กู่ฉิงซานสะบัดบังเหียน และไม่นานก็กลับมาถึงที่ๆลอร่ากำลังรออยู่

 

“อ่าว? เหตุใดฝ่าบาทถึงไม่เข้าไปรอในเมืองกันล่ะ?” กู่ฉิงซานเอ่ยถามด้วยวความประหลาดใจ

 

“เจ้ามันคนขี้หลอกลวง เห็นได้ชัดว่าเจ้ามิได้คิดจะใช้ค่ายกลดาบจริงๆ แค่ขู่ให้พวกมันตื่นกลัวก็เท่านั้น” ลอร่ากล่าว

 

แต่ก็ต้องยอมรับว่ามนุษย์ผู้นี้ชาญฉลาดอย่างแท้จริง ที่สามารถใช้วิธีการดังกล่าวขับไล่ศัตรูไปได้

 

“หากบางสิ่งสามารถแก้ไขได้อย่างง่ายดาย โดยไม่จำเป็นต้องต่อสู้ ก็นับว่าเป็นเรื่องที่ดี” กู่ฉิงซานตอบ

 

“หากสัตว์ประหลาดผีเหล่านั้นไม่เลือกที่จะหลบหนี แต่กลับพุ่งเข้ามาปะทะแทนเล่า ตัวเจ้าจะทำอย่างไร?” ลอร่าอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถาม

 

“หากพวกมันไม่หนี กระหม่อมนี่แหละจะเป็นคนหนีเอง แล้วหลังจากนั้นก็ค่อยมาคิดหาวิธีอื่นรับมือกับพวกมันอีกที” กู่ฉิงซานรวบรวด

 

“คนอย่างเจ้านี่มันบ้าบิ่นสิ้นดี … ”

 

“ฝ่าบาท การต่อสู้น่ะ ขึ้นอยู่กับว่าใครจะสามารถทำให้อีกฝ่ายหวาดกลัวได้ก่อนกัน เพราะต่อให้ศัตรูมีจำนวนมากกว่าก็ตาม แต่ถ้าใจไม่สู้แล้ว พวกมันก็ไม่นับว่าเป็นสิ่งใด” กู่ฉิงซานลูบหัวเด็กสาว ก่อนจะอุ้มเธอมาวางพาดบนไหล่เข่า

 

ลอร่าอนุญาตให้เขาอุ้มโดยไม่รู้ตัว และปรับท่านั่งตนเองให้สะดวกสบาย