บทที่ 519 เตรียมตัวไปชายแดน
พวกเขาจะทำหรือไม่ แน่นอนว่าคงมีแต่คนโง่เท่านั้นที่จะไม่ช่วยเรื่องดีๆ เช่นนี้
“ข้าจะกลับไปคุยเรื่องนี้กับท่านพี่ทันที แล้วข้าจะกลับมาให้คำตอบเจ้าในสามวัน” เซียวฉีเทียนกล่าวอย่างจริงจัง
“ตกลง”
เซียวฉีเทียนขี่ม้าแล้วรีบออกไป
หลังจากเขาไป อวี้เฟิงและคนอื่นๆ ต่างมองหนิงเมิ่งเหยา ดวงตาฉายแววจนใจ “เจ้าจะลงมือจริงๆ รึ”
นางคอยจับตามองสิ่งต่างๆ ในเมืองหลิงมาตลอด หนิงเมิ่งเหยารู้เกี่ยวกับสิ่งที่ฮ่องเต้แห่งเมืองหลิงกับทำกับจวนผู้สำเร็จราชการ ในตอนนั้นเขาก็ไม่ได้อยู่ที่นั่น ทว่าหนนี้มันต่างออกไป
หากจวนผู้สำเร็จราชการไม่ได้รับการคุ้มครองจากผู้ใต้บัญชาที่จงรักภักดีของหนานกงเยี่ยน เกรงว่าคงจะไม่มีจวนแห่งนั้นในเมืองหลิงอีกต่อไป
“ใช่” หนิงเมิ่งเหยาผงกศีรษะ แววตาเย็นยะเยือก “ครั้งนี้ถือว่าล้ำเส้น”
“ในเมื่อเจ้าคิดจะทำเช่นนั้น เราก็จะสนับสนุนเจ้า” อวี้เฟิงมองหนิงเมิ่งเหยาด้วยความรัก เขายิ้มไปถึงดวงตา
หนิงเมิ่งเหยาชะงัก จากนั้นก็แย้มรอยยิ้มอบอุ่นขึ้น “พี่เขย ขอบคุณท่านมาก”
“ไม่ต้องพูดจาเกรงใจกับข้าหรอก”
“เสี่ยวเหยาเอ๋อร์ เราเองก็ควรไปแล้ว ไม่อย่างนั้นถ้าเกิดอะไรขึ้นกับจวนผู้สำเร็จราชการ จะเป็นความผิดของพวกเราเอาได้” อวี้เฟิงหัวเราะขึ้นมา
หนิงเมิ่งเหยามองอวี้เฟิงด้วยรอยยิ้มซาบซึ้งใจ ระหว่างพวกเขาไม่จำเป็นต้องกล่าวขอบคุณกันจริงๆ
เฉียวเทียนช่างมองความผูกพันระหว่างพวกนาง หากจะบอกว่าเขาไม่นึกอิจฉาก็คงจะโกหก
หลังจากส่งอวี้เฟิงและภรรยาออกไป เฉียวเทียนช่างก็มุ่งหน้าไปยังบ้านของเหลยอันที่อยู่ข้างกัน
“นายท่าน มีอะไรหรือ” หลายวันมานี้ของเขาผ่านไปอย่างสุขอุรา เขาอยู่กับภรรยาทุกวัน เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว
“เตรียมตัวให้พร้อม เราจะไปชายแดนกันในอีกไม่ช้า” เฉียวเทียนช่างเหลือบมองหยางเล่อเล่อที่กำลังนำของว่างและผลไม้มาให้
หยางเล่อเล่อชะงัก นางมองเฉียวเทียนช่างด้วยความประหลาดใจ
“พี่ใหญ่เฉียว เกิดอะไรขึ้นหรือ”
“ใช่ มีบางอย่างเกิดขึ้น ในฐานะที่เหลยอันเป็นแม่ทัพ เขาต้องมุ่งหน้าไปชายแดน” เฉียวเทียนช่างผงกศีรษะ เขาเองก็แต่งงานแล้ว เข้าใจว่าการแยกจากกันหลังจากเพิ่งแต่งงานเป็นเรื่องโหดร้ายยิ่งนัก
เหลยอันนิ่งเงียบไปชั่วขณะ แต่แล้วก็พยักหน้า “นายท่าน ข้าเข้าใจแล้วขอรับ”
“ข้าจะช่วยเจ้าเก็บของ” หยางเล่อเล่อเตรียมใจไว้แล้วหลังได้รู้เกี่ยวกับตัวตนของเหลยอัน ไม่ช้าก็เร็วเขาจะต้องกลับไปชายแดน ที่นั่นคือโลกของเขา นางไม่อาจให้เขาอยู่ที่นี่เพียงเพราะความเห็นแก่ตัวได้ เพราะจะไม่ยุติธรรมต่อเหลยอันด้วย นางจะรอให้เขากลับมาที่นี่แทน
เหลยอันผงกศีรษะ “เล่อเล่อ ขอบใจเจ้ามาก”
“ไม่ต้องขอบใจข้าหรอก ข้าจะรออยู่ที่นี่จนกว่าเจ้ากลับมา” หยางเล่อเล่อยิ้ม
เหลยอันรู้ว่าหยางเล่อเล่อไม่สบายใจกับเรื่องนี้ แต่เขาก็ยังพยักหน้าให้นาง “เอาล่ะ ข้าจะไปที่บ้านของท่านพ่อตากับเจ้าแล้วบอกท่านเรื่องนี้ทีหลัง เจ้าจะไปอยู่ที่บ้านท่านพ่อตาระหว่างที่ข้าไม่อยู่ก็ได้”
เขาไม่อยากปล่อยให้นางอยู่ที่นี่คนเดียว
“ข้าเข้าใจ” หยางเล่อเล่อพยักหน้า แต่ในใจของนาง ที่นี่คือบ้าน นางย่อมรอให้เขากลับมาอยู่ที่นี่
เฉียวเทียนช่างมองคนทั้งสอง เขาลุกขึ้นแล้วเดินออกไป ก่อนจะไป เขาเอื้อมมือไปตบบ่าเหลยอัน เหลยอันเข้าใจความหมายที่เขาต้องการสื่อ
หลังจากเขาออกไปแล้ว เหลยอันยื่นมือไปกอดหยางเล่อเล่อ “เล่อเล่อ ข้าขอโทษด้วย แต่นี่คือภารกิจของข้า”
ในฐานะทหาร เขามีหน้าที่ต้องปกป้องชายแดน ไม่ให้ใครรุกล้ำเข้ามาได้
“ข้ารู้ ข้าเข้าใจ อย่าห่วงเลย แล้วข้าจะบอกท่านพ่อท่านแม่” หยางเล่อเล่อลูบบ่าเหลยอันแล้วปลอบเขาแทน
เหลยอันยิ่งอึดอัดใจพอเห็นหยางเล่อเล่อเป็นเช่นนี้ เขาคงจะรู้สึกดีกว่าถ้าหยางเล่อเล่อจะทะเลาะกับเขา แต่นางกลับมีเหตุมีผล ในใจนางคงยิ่งเสียใจ
บ่ายวันนั้น เหลยอันและหยางเล่อเล่อกลับไปบ้านของหยางจู้ เมื่อหยางจู้ได้ฟัง เขามองหยางเล่อเล่อแล้วพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ “เล่อเล่อ เจ้าทะเลาะกับเหลยอันหรือ นี่เป็นเรื่องใหญ่ เจ้าจะไปขวางเหลยอันไม่ได้”
แม้ที่จริงแล้ว พวกเขาเองก็ไม่อยากให้เหลยอันไปรบในสนามรบ ถ้าเกิดอะไรขึ้น บุตรสาวพวกเขาจะเป็นอย่างไร
แต่นี่คือสิ่งที่เหลยอันต้องทำ พวกเขาต้องไม่ไปขวาง
“ท่านพ่อ ท่านแม่ พวกท่านเข้าใจผิดแล้ว เล่อเล่อไม่ได้ทำเช่นนั้น”
บทที่ 520 เป็นตระกูลที่ดี
เหลยอันรู้สึกอบอุ่นใจที่เห็นหยางจู้และคนอื่นปกป้องเขา แต่เมื่อได้ยินทุกคนเข้าใจภรรยาเขาผิด เขาก็รีบอธิบาย
“ตอนแรกเล่อเล่อกังวลว่าพวกท่านอาจจะเข้าใจข้าผิด แล้วอยากอธิบายแทนข้า” เหลยอันกล่าวด้วยรอยยิ้ม แต่ในใจของเขาตื่นเต้นมาก
เขารู้สึกเหมือนแต่งงานกับหยางเล่อเล่อแล้วได้คนมาทั้งตระกูล
หลังแต่งงาน หยางจู้ปฏิบัติกับเขาดั่งเป็นบุตรร่วมสายเลือด คอยบอกให้เล่อเล่อดูแลเขาให้ดี เขามารู้เข้าเพราะเล่อเล่อหลุดปากเล่าให้ฟัง
หยางจู้วางใจในทันทีที่ได้ยิน เขามองเหยนอันแล้วพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ไปเถอะ เราอยู่ที่บ้าน จะช่วยดูแลเล่อเล่อให้เจ้าเอง เจ้าต้องดูแลตัวเองให้ดี”
เหลยอันยิ้มแล้วผงกศีรษะ “ท่านพ่อ ขอให้ท่านวางใจ ข้าจะดูแลตัวเองให้ดี” ในอดีต เมื่ออยู่บนสนามรบ เขามักพุ่งไปข้างหน้าไม่สนสิ่งใด แต่บัดนี้เขาทำเช่นนั้นไม่ได้แล้ว เขามีครอบครัว เขาจะทำให้คนในตระกูลเสียใจไม่ได้
วันนั้น เหลยอันกับภรรยาอยู่ที่บ้านของหยางจู้ นางหยางรู้ว่าเขาจะต้องไปในไม่ช้า จึงนำเข็มและด้ายออกมาเย็บรองเท้าให้เขาคู่หนึ่ง
ดวงตาเหลยอันรื้นน้ำตาเมื่อเห็นนางหยางหยิบเข็มกับด้ายมาเย็บรองเท้าให้ตน หยดน้ำตาเหมือนจะรินไหลออกมา
“ท่านแม่ ขอบคุณยิ่งนัก” เสียงเหลยอันติดก้อนสะอื้น
เขากำพร้ามาแต่เยาว์วัย ไม่รู้ว่าบุพการีเป็นใคร เขาเป็นเด็กขอทานตอนเจอเฉียวเทียนช่าง แล้วกลายมาเป็นพี่น้องกันในภายหลัง
เขาคิดว่าตนจะเป็นเช่นนั้นไปชั่วชีวิต แต่บัดนี้เขามีบิดามารดาแล้ว เขามีกระทั่งภรรยา พี่ชายและพี่สะใภ้
ราวกับว่าเขาได้เป็นเจ้าของทุกสิ่งที่หายไปในชั่วข้ามคืน
“เด็กโง่เอ๊ย เจ้ามาขอบคุณแม่ทำไม” นางหยางยิ้มแล้วส่ายหน้า
นางรู้เกี่ยวกับชีวิตของเหลยอัน ดังนั้น หลังจากที่เขาแต่งงานกับหยางเล่อเล่อนางจึงเอาใจใส่เขาเป็นพิเศษ เพราะรู้ว่าเขาปฏิบัติต่อบุตรสาวนางเป็นอย่างดี นางถึงอยากทำดีกับลูกเขยคนนี้ให้มากยิ่งกว่า เมื่อเป็นแบบนี้ พวกนางก็จะยิ่งมีชีวิตที่เป็นสุข
บ่ายวันนั้น เหลยอันและหยางเล่อเล่อนอนพักในห้องของหยางเล่อเล่อสมัยก่อนที่ทั้งสองจะแต่งงานกัน
ขณะนอนอยู่บนเตียง เหลยอันกอดหยางเล่อเล่อแน่น “เล่อเอ๋อร์ ขอบคุณ”
หยางเล่อเล่อพลิกตัวอยู่ในอ้อมแขนของเหลยอัน มุมปากนางยกยิ้มเล็กๆ “เราเป็นครอบครัวเดียวกัน”
เหลยอันกอดหยางเล่อเล่อเอาไว้ไม่ยอมปล่อย เขาเกยศีรษะกับไหล่นาง “ใช่ เราเป็นครอบครัวเดียวกัน”
เขาทำอะไรมาหรือถึงได้ครอบครัวที่แสนดีเช่นนี้มา
สามวันให้หลัง เซียวฉีเทียนกลับมาจากเมืองหลวงพร้อมนำข่าวจากเซียวชวี่เฟิงมาบอก พวกเขาจะให้ความร่วมมือกับแผนของหนิงเมิ่งเหยาอย่างเต็มที่ ส่วนเรื่องอื่นๆ ขอให้นางไม่ต้องคิดมาก
หนิงเมิ่งเหยาวางใจเมื่อได้ฟังคำตอบจากเซียวฉีเทียน หลังจากที่เซียวฉีเทียนนำข่าวกลับมา เหลยอันก็ได้รับราชโองการให้มุ่งหน้าไปชายแดนโดยเร็ว
หลังจากได้รับราชโองการ เหลยอันพาหยางเล่อเล่อกลับไปที่ห้อง เขานำกล่องออกมาจากตรงมุมห้อง แล้ววางลงบนมือนาง “เก็บไว้เผื่อมีเหตุจำเป็นและเอาไว้ช่วยเหลือเจ้า ถ้าเจ้าอยู่บ้านคนเดียวแล้วรู้สึกกลัว ก็มาอยู่ที่บ้านของท่านพ่อท่านแม่เสีย ไม่ต้องห่วงข้า หนนี้ไม่มีอันตรายอะไร แต่คงใช้เวลาสักพัก ข้าจะกลับมาเมื่อทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว”
“ตกลง เจ้าต้องดูแลตัวเองดีๆ อย่าปล่อยให้ตัวเองบาดเจ็บล่ะ” หยางเล่อเล่อแบกความรู้สึกลังเลไว้ในใจแล้วค่อยๆ เอ่ยเตือนเขา
ขณะเดียวกัน นางก็หยิบเอาเสื้อผ้าที่เย็บให้เหลยอันออกมาวางไว้บนสัมภาระของเขา “เอาเสื้อผ้าพวกนี้ไปด้วย มีเสื้อผ้าไว้เปลี่ยนจะดีกว่า”
เหลยอันนั่งลงข้างนางพลางฟังนางบ่น เขารวบนางเข้าไปกอดแล้วกดนางลงกับเตียง
“เล่อเอ๋อร์ เมื่อข้ากลับมาแล้วเรามามีลูกกันเถอะ ลูกที่น่ารักแบบซางเอ๋อร์” เหลยอันมองหยางเล่อเล่อแล้วกล่าวอย่างจริงจัง แววตาเขามีไฟลุกโชน
หยางเล่อเล่อพยักหน้า “ตกลง”
เหลยอันอยากจะพูดบางอย่างอีก แต่เขาได้ยินเสียงนางหยางอยู่ข้างนอก
เขารีบลุกออกจากตัวหยางเล่อเล่อ แล้วช่วยนางจัดแจงเสื้อผ้าก่อนจะเปิดประตู
นางหยางถือรองเท้าไว้ในมือสองถึงสามคู่ และห่อผ้าอีกใบ
“อันเอ๋อร์ นี่เป็นเสื้อผ้าที่แม่เตรียมให้เจ้าตลอดสองวันที่ผ่านมา แล้วก็เนื้อตากแห้งให้เจ้าเอาติดตัวไปด้วย” นางบอกเหลยอันว่ามีอะไรในห่อผ้า