บทที่ 521 มีชีวิตกลับมา
เหลยอันมองนางหยางที่กำลังอธิบายให้เขาฟังอย่างละเอียดว่าในห่อผ้ามีอะไรอยู่บ้าง พลันเขาก็สัมผัสได้ถึงความรู้สึกขมปร่าภายในใจ
หยางอี้ยื่นมือมาตบไหล่เหลยอัน แล้วจึงพูดขึ้นด้วยสีหน้าจริงจังว่า “อย่าห่วงไปเลย ข้าจะช่วยดูแลเล่อเล่อแทนเจ้าเอง”
“ขอบคุณขอรับพี่ใหญ่” นอกจากการกล่าวขอบคุณพวกเขาแล้ว เหลยอันไม่รู้ว่าจะบรรยายความรู้สึกของเขาออกมาอย่างไรจริงๆ
“เราเป็นพี่น้องกัน” ถึงแม้เขาจะรู้สึกไม่พอใจที่เหลยอันแย่งน้องสาวของเขาไป แต่ทุกวันนี้เหลยอันก็ปฏิบัติต่อน้องสาวของเขาเป็นอย่างดี เขากล้าพูดได้เต็มปากว่าหากมีน้องชายเช่นนี้ก็คงไม่เลวเท่าใดนัก
หลังจากพูดคุยกับตระกูลหยางอยู่ครู่หนึ่ง หลินจือโยวก็เข้ามา “เหลยอัน ได้เวลาแล้ว”
เหลยอันตัวแข็งทื่อ เขาพยักหน้า “เข้าใจแล้ว”
หลังจากถอนหายใจออกมาเบาๆ หลินจือโยวจึงหมุนตัวเดินออกไป
หยางเล่อเล่อเดินออกจากบ้าน ในมือของนางมีห่อผ้าอยู่หนึ่งใบ “ข้าจะรอเจ้ากลับมาที่นี่”
เหลยอันดึงหยางเล่อเล่อเข้ามากอดโดยไม่สนใจว่าตรงนี้จะมีสมาชิกตระกูลหยางคนอื่นๆ อยู่ด้วย “ข้าจะรีบกลับมาแน่นอน หากมีอะไร ให้ตระกูลพี่สะใภ้ส่งจดหมายมาหาข้า”
“ได้เลย”
สุดท้ายเหลยอันจึงเดินออกไป เขาถือของที่หยางเล่อเล่อและนางหยางเตรียมไว้ให้ติดตัวไปด้วยขณะมุ่งหน้าจากไปพร้อมกับหลินจือโยว
หยางเล่อเล่อยืนอยู่ตรงทางเข้าขณะมองร่างของเหลยอันที่หายลับตาไปก่อนหมุนตัวกลับเข้าบ้าน
นางหยางรู้สึกเจ็บปวดเมื่อเห็นบุตรสาวของตนไม่มีชีวิตชีวา “อย่าห่วงไปเลย เขาจะต้องกลับมาในเร็วๆ นี้แน่”
“ท่านแม่ ข้ารู้”
หยางซู่อวิ๋นไม่มาที่หมู่บ้านไป๋ซานอีกเลยนับตั้งแต่วันที่นางรู้ว่าโรงงานไม่ได้เป็นของเฉียวเทียนช่าง นางอยู่บ้านอย่างสงบเสงี่ยม ด้วยเหตุนั้นความสัมพันธ์ระหว่างนางกับตระกูลจึงดีขึ้นกว่าเดิมมาก แต่เมื่อรู้ว่าแท้จริงแล้วเหลยอันนั้นเป็นขุนนางฝ่ายทหาร นางก็ไม่สามารถทำตัวสุขุมได้อีก
“ท่านแม่ ท่านว่าอะไรนะ” หยางซู่อวิ๋นหยุดเย็บผ้าทันที สายตาของนางดูไม่เชื่อ
ตอนนี้หยางเล่อเล่อเป็นภรรยาของขุนนางหรือ นางไม่เชื่อแน่ เหตุใดจึงเป็นหยางเล่อเล่อเล่า
“ข้าก็ไม่เคยคิดเลยว่าเหลยอันจะเป็นถึงแม่ทัพ ตอนนี้เขาออกจากหมู่บ้านไป๋ซานแล้ว และกำลังมุ่งหน้าไปที่ชายแดน” นางเฉิงไม่สนใจน้ำเสียงของหยางซู่อวิ๋น นางเอ่ยขึ้นพลางทำท่าทางประหลาดใจ จากนั้นนางจึงถอนหายใจแล้วบ่นว่า “ตอนแรกข้าคิดว่าเจ้าเด็กเหลยอันนั่นเป็นแค่เด็กกำพร้า แต่คาดไม่ถึงเลยว่าเขาจะมีสถานะเช่นนั้นได้ ไม่ธรรมดาจริงๆ”
“ท่านแม่ ท่านแน่ใจหรือว่าท่านไม่ได้หูฝาด” หยางซู่อวิ๋นถาม นางยังคงไม่เชื่อ
นางเฉิงมองหยางซู่อวิ๋น รู้สึกไม่พอใจ “ซู่อวิ๋น เจ้าหมายความว่าอย่างไร”
“ไม่มีอะไร ข้าแค่สงสัยว่าหยางเล่อเล่อเจอกับคนเช่นนั้นได้อย่างไร” หยางซู่อวิ๋นข่มความอิจฉาภายในใจขณะพูดขึ้นพร้อมรอยยิ้มแห้งๆ
นางเฉิงมองหยางซู่อวิ๋นราวกับกำลังพยายามตรวจสอบว่านางพูดความจริงอยู่หรือเปล่า
“ข้าคิดว่าเพราะเหลยอันเคยช่วยชีวิตเล่อเล่อมาก่อน จากนั้นทั้งสองจึงได้รู้จักกัน”
ดวงตาของหยางซู่อวิ๋นเต็มไปด้วยความอิจฉา นางบ่นเบาๆ ว่า “โชคดีชะมัด”
“เจ้าว่าอะไรนะ”
“ไม่มีอะไร” หยางซู่อวิ๋นรีบส่ายหน้า แต่นางมีความคิดอันชั่วร้ายอยู่ภายในใจ
ในสนามรบนั้น หอกดาบล้วนไม่มีตา ไม่รู้ว่าเขาจะมีชีวิตกลับมาได้หรือไม่
ความคิดเช่นนั้นเริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ จนถึงช่วงสองสามวันต่อมา หยางซู่อวิ๋นติดตามนางเฉิงไปเยี่ยมเยียนตระกูลหยาง
ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยความริษยาเมื่อเห็นหยางเล่อเล่อกำลังปักผ้าอยู่ในสวนด้วยสีหน้านิ่งสงบ
ในอดีตนั้นหยางเล่อเล่อจะสวมชุดที่นางไม่เคยนึกอยากจะสวม แต่เมื่อเห็นเนื้อผ้าของชุดที่หยางเล่อเล่อกำลังสวมอยู่ตอนนี้ มันล้วนเป็นชุดที่มีคุณภาพดีกว่าของนาง
“เจ้าทำอะไรอยู่หรือ” หยางซู่อวิ๋นนั่งลงแล้วถามด้วยรอยยิ้ม
หยางเล่อเล่อมองหยางซู่อวิ๋น “เย็บชุดให้สามี”
หยางซู่อวิ๋นกะพริบตา “เขาเดินทางออกไปแล้วไม่ใช่หรือ”
หยางเล่อเล่อไม่อยากจะพูดคุยกับหยางซู่อวิ๋นมากนัก นางมองตะกร้าผ้าปักของตนก่อนลุกขึ้น “ท่านแม่ ท่านป้า ข้าจะกลับเข้าห้อง”
“ไปเถอะ” นางหยางขมวดคิ้วมองหยางซู่อวิ๋น ในที่สุดหยางเล่อเล่อก็หาอะไรทำในวันนี้ หยางซู่อวิ๋นคิดจะทำอะไรกันแน่
หยางซู่อวิ๋นยิ้มอย่างขลาดๆ บนใบหน้ามีสีหน้าอับอายปรากฏขึ้น “ท่านอา ข้าไม่ได้ตั้งใจ”
“ถ้าไม่รู้ว่าจะคุยอะไร ก็อย่าพูดเลยดีกว่า” นางเฉิงรู้สึกเสียใจที่พาหยางซู่อวิ๋นมาด้วย
หยางซู่อวิ๋นมองมารดาของตนด้วยท่าทางก้าวร้าว แต่นางกลับรู้สึกมีความสุขในใจ ถ้าตอนนี้หยางเล่อเล่อเป็นภรรยาของขุนนางแล้วมันจะทำไมเล่า ชายผู้นั้นอาจไม่ได้กลับมาแล้วก็ได้
ในช่วงบ่ายนางหยางและนางเฉิงเข้าไปในบ้าน มีเพียงสองคนที่ยังอยู่ในสวน
หยางซู่อวิ๋นมองหยางเล่อเล่อด้วยสีหน้าบิดเบี้ยว “หยางเล่อเล่อ ทำไมเจ้าจึงมีชีวิตที่ดีขนาดนี้ แต่น่าเสียดายที่ไม่รู้ว่าเหลยอันจะมีชีวิตรอดกลับมาหรือไม่”
บทที่ 522 หญิงหม้าย
หยางเล่อเล่อในตอนนี้ไม่อาจทนฟังคำกล่าวเช่นนั้นได้ เมื่อหยางซู่อวิ๋นพูดเรื่องนี้ขึ้นมา นางก็โกรธขทันที “หยางซู่อวิ๋น เจ้าหมายความว่าอย่างไร”
“หมายความว่าอย่างไรน่ะรึ ข้าพูดอะไรผิดไปหรือ หอกดาบในสนามรบล้วนไม่มีตา ไม่มีใครรู้หรอกว่าเขาจะกลับมาแบบเป็นๆ ได้หรือไม่” มุมปากของหยางซู่อวิ๋นโค้งขึ้น เมื่อเห็นว่าหยางเล่อเล่อหัวเสีย บนใบหน้าของนางก็มีรอยยิ้มแห่งความสุขผุดออกมา
‘เพี๊ยะ!’ หยางเล่อเล่อเงื้อมือขึ้นตบหน้าหยางซู่อวิ๋น “หุบปากเสีย สามีข้าจะต้องไม่เป็นอะไร เขาบอกว่าเขาจะกลับมา”
“ฮ่าฮ่า เจ้าก็แค่กำลังหลอกตัวเองอยู่ คิดว่าเขาเป็นใครกัน เพียงแค่บอกว่าจะรอดก็จะรอดหรือ หยางเล่อเล่อ เจ้าจะต้องเป็นเหมือนข้าแน่ เป็นหญิงหม้าย” หยางซู่อวิ๋นเอ่ยสามคำสุดท้ายทีละคำอย่างช้าๆ
ราวกับมีเสียงฟ้าผ่าดังลั่นอยู่ในหูของหยางเล่อเล่อ
“เจ้า… เจ้า…” หยางเล่อเล่อตัวสั่นขณะชี้นิ้วใส่หยางซู่อวิ๋นก่อนจะเป็นลมไปเพราะความโกรธ
ตอนแรกนางหยางและนางเฉิงเดินออกมาด้วยรอยยิ้ม ก่อนพวกนางจะเห็นหยางซู่อวิ๋นยืนยิ้มและมองหยางเล่อเล่อที่เป็นลมอยู่ตรงนั้น
“เล่อเล่อ” นางหยางรีบรุดเข้าไปกอดบุตรสาวไว้ด้วยสองมือ
หยางจู้ที่เพิ่งกลับจากสวนพลันมีสีหน้ากังวลขึ้นมาทันทีเมื่อเห็นบุตรสาวของตนเป็นลมหมดสติ “เกิดอะไรขึ้นกับเล่อเล่อ”
“ท่านพี่ รีบไปหาเหยาเอ๋อร์เร็ว บอกให้นางพาชิงซวงมาดูอาการเล่อเล่อ” นางหยางรีบพูด
หยางจู้ขานรับ ก่อนจะทิ้งจอบในมือลงพื้นแล้ววิ่งออกไป
หยางซู่อวิ๋นยิ้มเยาะในใจ นางปรารถนาให้หยางเล่อเล่อทนสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ไหวและตายไปเสีย
เมื่อหนิงเมิ่งเหยาได้ยินว่าหยางเล่อเล่อเป็นลม นางจึงรีบส่งลูกให้เฉียวเทียนช่างอุ้ม แล้วพาชิงซวงมุ่งหน้าไปยังบ้านของหยางจู้
ชิงซวงขมวดคิ้วหลังจากตรวจชีพจรของหยางเล่อเล่อ “นางท้องได้เกือบหนึ่งเดือนแล้วเจ้าค่ะ ครั้งนี้นางเป็นลมไปเพราะอารมณ์แปรปรวน บางทีเด็กในท้องอาจได้รับผลกระทบด้วย ข้าจะสั่งยาให้นะเจ้าคะ หลังจากทานยาเข้าไปสักหน่อยนางน่าจะดีขึ้น แต่อย่าทำให้อารมณ์นางแปรปรวนอีกจะดีกว่า”
นางเฉิงมองหยางซู่อวิ๋น “เจ้าทำอะไรลงไป” ตอนนั้นนางอยู่กับหยางเล่อเลอ หยางซู่อวิ๋นต้องพูดอะไรที่ทำให้หยางเล่อเล่อรู้สึกไม่พอใจแน่
หนิงเมิ่งเหยามองหยางซู่อวิ๋นอย่างเย็นชา หญิงผู้นี้มาที่นี่อีกทำไม
“ท่านแม่ ข้าเป็นลูกสาวของท่านนะ เหตุใดท่านจึงไม่เชื่อข้า” หยางซู่อวิ๋นกล่าวอย่างโกรธเคือง นางมองมารดาของตนด้วยความไม่พอใจ
หลังจากผ่านไปราวสี่เค่อ หยางเล่อเล่อจึงค่อยๆ ลืมตาขึ้น นางเริ่มรู้สึกอารมณ์ไม่ดีขึ้นมาอีกครั้งหลังจากเห็นหยางซู่อวิ๋น “ท่านแม่ ไล่นางกลับไป เอานางออกไปจากบ้านของเราสักที ข้าไม่อยากเห็นหน้านาง”
นางหยางกอดหยางเล่อเล่อที่อารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ นั้นอย่างรวดเร็ว แล้วปลอบหยางเล่อเล่อว่า “อย่าวิตกไปเลยลูก อย่าหงุดหงิดด้วย ตอนนี้ในท้องของเจ้ามีเด็กอยู่”
เด็กหรือ หยางเล่อเล่อมองนางหยางด้วยความงุนงง สีหน้าดูไม่เชื่อเสียเต็มประดา “ท่านแม่ ท่านพูดเรื่องอะไรกัน”
“ชิงซวงเพิ่งตรวจชีพจรเจ้าเมื่อครู่ นางบอกว่าเจ้าท้องได้เกือบจะหนึ่งเดือนแล้ว ที่เจ้าเป็นลมเพราะอารมณ์แปรปรวน”
หยางเล่อเล่อยกมือขึ้นสัมผัสหน้าท้องของตนอย่างเผลอตัว นางจำคำที่เหลยอันบอกนางก่อนเดินทางไปได้ขึ้นใจ เขาบอกว่าให้รอจนกว่าเขาจะกลับมาแล้วค่อยมีลูกกัน แต่นางกลับท้องแล้วจริงๆ น่ะหรือ นางมีลูกกับเหลยอันแล้ว
“ท่านแม่… นี่… นี่เรื่องจริงหรือ”
“จริงสิ แต่ชิงซวงบอกว่าทารกอาจได้รับผลกระทบ เจ้าจะอารมณ์แปรปรวนไปกว่านี้ไม่ได้” นางหยางเตือนเบาๆ ในใจรู้สึกเกลียดชังหยางซู่อวิ๋นยิ่งนัก
หยางเล่อเล่อยกมือขึ้นจับท้องตัวเอง นางพยักหน้า แต่เมื่อเห็นหยางซู่อวิ๋น แม้สีหน้าของนางจะยังบิดเบี้ยวน่าเกลียด แต่นางก็พยายามอดกลั้นเอาไว้ “ท่านแม่ ไล่นางออกไป ข้าไม่อยากเห็นหน้านาง”
“เกิดอะไรขึ้น”
“ท่านแม่ หยางซู่อวิ๋นบอกว่าเหลยอันจะไม่กลับมา เขาจะต้องตายในสนามรบ นางยังบอกอีกว่าข้าจะเป็นหม้ายเหมือนนาง” หยางเล่อเล่อพูดไปก็สะอื้นไป
สามีของนางไปรบอยู่ข้างนอก ในฐานะภรรยาของเขา นางย่อมต้องเป็นห่วงและกระวนกระวายใจอยู่แล้ว แต่หยางซู่อวิ๋นกลับกล่าววาจาเช่นนั้นออกมา
นางหยางโกรธขึ้นมาทันที “หยางซู่อวิ๋น ลูกสาวข้าไปทำอะไรขัดใจเจ้าจนเจ้าต้องพูดเช่นนั้นหรือ” ลูกสาวและลูกเขยของนางมีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่หยางเล่อเล่อจะรู้สึกไม่พอใจขึ้นมา
ใครก็ตามที่ได้ยินเรื่องพรรค์นั้นเข้าย่อมโกรธเคืองกันทั้งนั้น ยิ่งไม่ต้องพูดถึงคนท้องอย่างหยางเล่อเล่อเลย