บทที่ 523 ไม่ได้พูดอะไรผิด + บทที่ 524 หยางซู่อวิ๋นโดนตี

ภรรยาแม่ทัพเป็นสาวชาวบ้าน

บทที่ 523 ไม่ได้พูดอะไรผิด

นางเฉิงมองหยางซู่อวิ๋นด้วยสีหน้าถมึงทึง ไม่แปลกใจเลยที่หยางซู่อวิ๋นบอกว่าอยากมาที่นี่กับนางด้วย เป็นเพราะนางมีเหตุผลเช่นนี้นี่เอง

“หยางซู่อวิ๋น เจ้าทำให้ข้าผิดหวังยิ่งนัก” นางเฉิงเงื้อมือขึ้นตบหยางซู่อวิ๋น

หนิงเมิ่งเหยามองภาพที่เกิดขึ้นอย่างเย็นชา โชคยังดีที่หยางเล่อเล่อไม่เป็นอะไร มิฉะนั้นหยางซู่อวิ๋นจะต้องชดใช้ด้วยราคาอันแสนเจ็บปวดแน่

หนิงเมิ่งเหยานั่งอยู่ข้างกายหยางเล่อเล่อ จากนั้นจึงยิ้มแล้วเอ่ยว่า “ไม่ต้องเป็นห่วงเหลยอันหรอก เขาต้องไม่เป็นอะไรแน่ ไปเขียนจดหมายบอกข่าวดีเรื่องนี้ให้เหลยอันรู้เถอะ ข้าจะให้คนนำมันไปส่งให้ ที่นี่มีเจ้า มีลูก มีท่านป้าหยางและคนอื่นๆ อยู่ เหลยอันจะต้องกลับมาอย่างปลอดภัยแน่ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเจ้าก็ต้องดูแลตัวเองและลูกให้ดีๆ”

หยางเล่อเล่อเชื่อคำพูดของหนิงเมิ่งเหยา หลังจากได้ยินหนิงเมิ่งเหยากล่าวเช่นนั้น นางจึงพยักหน้า “เอาล่ะ ข้าจะเชื่อเจ้า”

เหยาเหยาพูดถูก ในเมื่อพวกเขาอยู่ที่นี่ แล้วเหลยอันจะทิ้งพวกเขาไว้ข้างหลังได้อย่างไร

หลังจากปลอบหยางเล่อเล่อเสร็จ หนิงเมิ่งเหยาจึงหันไปมองนางเฉิง “ท่านป้าเฉิง ไม่ใช่ว่าข้าเป็นคนไม่มีเหตุผล แต่ข้ารู้สึกว่าคงเป็นการดีที่สุดหากหยางซู่อวิ๋นไม่มาอยู่ใกล้ ๆ เล่อเล่อตอนนางตั้งครรภ์เช่นนี้ หากมีอะไรเกิดขึ้นกับเล่อเล่อและลูก เมื่อถึงเวลานั้น ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองตระกูลคงจะต้องจบลง หากเหลยอันกลับมาแล้วรู้เข้า เขาคงจะคลั่งแน่”

แม้นางเฉิงจะมีสีหน้าไม่น่ามอง แต่นางก็เข้าใจว่าหนิงเมิ่งเหยาต้องการบอกอะไร นางพูดถูก คงเป็นการดีที่สุดหากนางกักตัวหยางซู่อวิ๋นให้เข้มงวดขึ้น ป้องกันไม่ให้นางทำอะไรอีก

“อย่ากังวลไปเลย ข้าเข้าใจแล้ว”

ตอนที่หยางจู้ได้ยินว่าเขากำลังจะได้เป็นท่านตา ใบหน้าของเขานั้นเปี่ยมล้นไปด้วยความสุข ทว่าหลังจากได้ยินสิ่งที่บุตรสาวเล่า สีหน้าของเขาก็พลันบิดเบี้ยวขึ้นมาทันที

“พี่สะใภ้ ไม่ใช่ตัวข้าไม่มีเหตุผล แต่หยางซู่อวิ๋นนั้นทำเกินไปจริงๆ” แม้แต่คนที่ไม่ได้มีความสัมพันธ์อันดีกับตระกูลของพวกเขาก็ไม่กล้าพูดถึงเหลยอันเช่นนั้นต่อหน้าพวกเขา แต่ญาติของพวกเขากลับบอกว่าเด็กคนนั้นจะไม่กลับมา จะไม่ให้พวกเขาโกรธได้อย่างไร

ไม่ต้องพูดถึงเรื่องว่าลูกของหยางเล่อเล่อก็ได้รับผลกระทบจากมันด้วย พวกเขาจึงยิ่งโมโหขึ้นไปอีก

นางเฉิงมีสีหน้าไม่สู้ดีนัก ตอนแรกนั้นมันควรจะเป็นเรื่องน่ายินดี แต่สุดท้ายกลับกลายเป็นเช่นนี้

“น้องสาว น้องเขย วางใจเถิด ข้าจะจับตาดูนางให้ดี” สีหน้านางเฉิงเต็มไปด้วยความเกลียดชัง นางเสียหน้าต่อหน้าญาติผู้นี้มานักต่อนักแล้ว

หยางซู่อวิ๋นไม่คิดเช่นนั้น นางมองพวกเขา “ข้าพูดอะไรผิดหรือ หอกดาบในสนามรบไม่มีตา ใครจะรู้ว่าเหลยอันจะกลับมาอย่างปลอดภัยได้หรือไม่” นางทนเห็นตระกูลของหยางเล่อเล่อรักนางมากขนาดนี้ไม่ได้ นางทนเห็นหยางเล่อเล่อมีชีวิตอย่างมีความสุขไม่ได้

เมื่อหนิงเมิ่งเหยาเห็นใบหน้าซีดๆ ของหยางเล่อเล่อ สายตาของนางก็แปรเปลี่ยนเป็นเย็นชา นางทำท่าจะพูดอะไรขึ้นมา แต่มีเสียงจากประตูดังขึ้นเสียก่อน

“ท่านพ่อ เหตุใดท่านจึงยังปล่อยให้คนเช่นนั้นอยู่ที่นี่อีก” หยางเล่อเล่อไม่มีความอยากอาหารมาตลอดช่วงสองวันที่ผ่านมา หนำซ้ำ นางยังไม่มีชีวิตชีวา นางบอกว่าอยากกินกระเพาะหมูเมื่อเช้านี้ เขาจึงเดินทางเข้าไปในเมือง ใครจะรู้เล่าว่าพอกลับมาแล้วเขาจะได้ยินเรื่องนี้เข้า

หยางอี้ถือกระเพาะหมูเข้ามา เขามองหยางซู่อวิ๋นอย่างเย็นชา

“พี่สะใภ้ เช่นนั้นข้าจะไม่ขอให้ท่านอยู่ต่อ” นางหยางกล่าวขึ้นอย่างไม่พอใจ

นางเฉิงมีสีหน้าอับอาย นางจ้องหยางซู่อวิ๋นเขม็งและลากหยางซู่อวิ๋นที่ยังทำท่าเหมือนอยากพูดอะไรอยู่ออกไป

หยางอี้มองใบหน้าอันซีดเผือดของน้องสาวตัวเอง “ท่านแม่ เล่อเล่อเป็นอะไร เหตุใดสีหน้านางจึงดูไม่ได้เช่นนี้”

“นางถูกหยางซู่อวิ๋นยั่วโมโหเข้า ลูกในท้องก็พลอยได้รับผลกระทบไปด้วย” นางหยางรู้สึกไม่สบายใจ หากไม่ใช่เพราะพี่ชายและพี่สะใภ้ของนาง นางคงตบหน้าหยางซู่อวิ๋นแรงๆ ไปสักสองหน

หยางอี้ตัวแข็ง จากนั้นจึงเบิกตากว้าง “ท่านแม่ ท่านหมายความว่าเล่อเล่อท้องหรือ”

“ใช่ ตอนนี้ยังไม่ถึงเดือนดี นางเป็นลมหลังจากหยางซู่อวิ๋นทำให้นางอารมณ์ไม่ดีเข้า เราก็เพิ่งมารู้หลังจากที่ชิงซวงมานี่ล่ะ” นางหยางมีสีหน้าบิดเบี้ยวขณะเล่า แต่ยังดีที่ไม่เป็นอะไรมาก

หยางเล่อเล่อฝืนยิ้ม “ท่านแม่ ข้าไม่เป็นไร”

“เล่อเล่อ อย่าแสร้งทำเป็นเข้มแข็งเลย ตอนนี้เจ้าต้องพักผ่อนให้เพียงพอไปสักระยะหนึ่งก่อน อย่าคิดอะไรให้มากนักเลย หากเจ้าไม่นึกถึงตัวเอง ก็นึกถึงลูกของเจ้าเสีย เข้าใจหรือไม่ ข้าจะให้เฉียวเทียนช่างส่งจดหมายไปให้เหลยอัน” หากไม่ใช่เพราะมีเรื่องเกิดขึ้นที่นี่ก่อน ตอนนี้พวกเขาคงมุ่งหน้าไปยังเมืองหลิงแล้วเป็นแน่

หยางเล่อเล่อพยักหน้า “ข้าเข้าใจแล้ว ขอบคุณมากเหยาเหยา” 

บทที่ 524 หยางซู่อวิ๋นโดนตี

หนิงเมิ่งเหยาส่ายหน้า นางบอกให้ชิงซวงตรวจดูหยางเล่อเล่ออีกครั้งหนึ่ง หลังจากบอกข้อควรระวังและให้นางดูแลตัวเองให้มากขึ้นแล้ว ทั้งสองจึงกลับไป

หนิงเมิ่งเหยาถอนหายใจออกมาเบาๆ หลังจากกลับถึงบ้าน คิ้วของนางขมวดเข้าหากันเล็กน้อย “เหลยอันไม่อยู่ผิดเวลาเสียจริง”

“เกิดอะไรขึ้นหรือ” เฉียวเทียนช่างวางบุตรชายลงในรถเข็นเด็กที่อยู่ด้านข้าง เขายื่นมือออกไปดึงให้หนิงเมิ่งเหยานั่งลงข้างกาย ก่อนถามขึ้นด้วยความสงสัย

หนิงเมิ่งเหยามองเฉียวเทียนช่าง นางขมวดคิ้วขณะตอบว่า “เล่อเล่อท้องได้เกือบหนึ่งเดือนแล้ว”

เฉียวเทียนช่างตกใจ “จริงหรือ” เหลยอันก็กำลังจะได้เป็นพ่อคนหรือ

“จริงน่ะสิ ลุงหยางเรียกข้ากับชิงซวงไปหา นางเป็นลมเพราะหยางซู่อวิ๋นไปยั่วโมโหนางเข้า แล้วสิ่งที่เกิดขึ้นยังส่งผลกระทบกับลูกในท้องอีก” หนิงเมิ่งเหยารู้สึกไม่พอใจเมื่อนึกถึงหยางซู่อวิ๋น “หญิงผู้นั้นสมควรจะต้องถูกสั่งสอนให้หยุดออกมาก่อเรื่องสร้างความรังเกียจให้กับผู้อื่นเสียที”

สายตาของเฉียวเทียนช่างเปลี่ยนเป็นเย็นชาไปในชั่วพริบตา เป็นหญิงผู้นั้นอีกแล้ว

“นางทำอะไร”

“นางไปพูดต่อหน้าเล่อเล่อว่าเหลยอันจะไม่กลับมา มิหนำซ้ำยังบอกว่าเล่อเล่อจะเป็นหญิงหม้ายเหมือนนางอีก เล่อเล่อจะมีความสุขได้อย่างไรหลังจากได้ยินคำพูดเช่นนั้นเข้า” หนิงเมิ่งเหยาเล่าอย่างไม่พอใจ

“สมควรตาย” แม้เหลยอันจะนับว่าเป็นลูกน้องของเขา แต่เขากับเหลยอันก็เหมือนเป็นพี่น้องกัน ไม่เท่ากับว่าคำพูดของหยางซู่อวิ๋นนั้นเหมือนกับแช่งให้น้องชายของเขาตายหรอกหรือ

“ไปสั่งสอนนางสักหน่อยก็แล้วกัน”หนิงเมิ่งเหยาคิดอยู่ครู่หนึ่ง คงจะดีหากเฉียวเทียนช่างไม่ลงมือจนเกินเหตุไป

เฉียวเทียนช่างขมวดคิ้วด้วยความไม่พอใจ “ทำไมเล่า”

“นางเป็นญาติของเล่อเล่อ เราคงฆ่านางไม่ได้ ใช่ไหม” หากเป็นไปได้นางก็รู้สึกว่าคนเช่นนั้นสมควรตาย แต่หากนางตายขึ้นมาจริงๆ ทั้งสองตระกูลคงจะแตกคอกันแน่

หลังจากที่หยางซู่อวิ๋นกลับมาที่บ้าน นางเฉิงก็เอาไม้มาฟาดบุตรสาวของตนด้วยความโกรธ

“กรี๊ด ท่านแม่ ท่านทำอะไร” หยางซู่อวิ๋นที่ถูกตีไปสองครั้งกรีดร้องออกมา เหตุใดแม่ของนางจึงคลั่งขึ้นมาอีกแล้ว

เหล่าหยางและผู้เฒ่าหยางได้ยินเสียงเอะอะข้างนอกจึงรีบเดินออกมาดู และเห็นนางเฉิงกำลังใช้ไม้ตีหยางซู่อวิ๋นอยู่ พวกเขารู้สึกสับสน ไม่ใช่ว่าพวกนางไปบ้านญาติกันหรือ เกิดอะไรขึ้นกัน

เมื่อหยางซู่อวิ๋นเห็นเหล่าหยางและคนอื่นๆ เดินออกมา นางจึงรีบวิ่งไปหลบหลังพวกเขา

นางเฉิงชี้นิ้วใส่เหล่าหยาง แล้วเอ่ยขึ้นอย่างเกรี้ยวกราดว่า “หลบไป เชื่อหรือไม่ว่าวันนี้ข้าจะตีนางให้ตาย”

เหล่าหยางยื่นมือไปดึงมือของนางเฉิง แล้วจึงกอดนางไว้ “เกิดอะไรขึ้น พวกเจ้าไปบ้านน้องสาวกันมาไม่ใช่หรือ”

“อย่าพูดเรื่องนี้กับข้า นางคิดว่าตระกูลของพวกเรายังขายหน้าต่อหน้าน้องสาวไม่พอใช่ไหม” นางเฉิงคำรามอย่างกราดเกรี้ยวขณะมองหยางซู่อวิ๋นที่หลบอยู่ในมุม

ผู้เฒ่าหยางยิ่งสับสนเมื่อได้ยินเช่นนั้น เขาจึงถามออกไปอย่างรวดเร็วว่า “ครั้งนี้นางทำอะไรอีก”

“เจ้าหนูเหลยอันเพิ่งออกไปรบ ไม่รู้ว่าเขาถึงชายแดนหรือยังด้วยซ้ำ แล้วเดาสิว่านางทำอะไรลงไป นางไปหาเล่อเล่อแล้วบอกว่าเหลยอันจะไม่ได้กลับมา บอกว่าเขาจะต้องตายในสนามรบ จะมีพี่สาวที่ไหนเหมือนนางอีก” นางเฉิงตัวสั่นไปทั้งร่าง นางไปทำบาปกรรมอะไรไว้ถึงต้องมีลูกสาวนิสัยน่ากลุ้มใจเช่นนี้

หลังจากได้ยินเช่นนั้น คนที่อยู่ตรงนั้นล้วนรู้สึกโกรธขึ้นมา รวมถึงผู้เฒ่าหยางด้วย

“หยางซู่อวิ๋น…”

“ข้าไม่ได้พูดอะไรผิด” หยางซู่อวิ๋นยืนกราน นางไม่รู้สึกว่าตัวเองกล่าวอะไรผิดเลยแม้แต่น้อย

“ท่านพ่อ ดูสิ นางยังทำตัวเช่นนี้อยู่อีก นางทำให้เล่อเล่อโกรธและสิ่งที่นางทำก็ส่งผลกระทบกับลูกในท้องของเล่อเล่อด้วย แต่นางยังไม่สำนึกผิดอีก พอเล่อเล่อตื่นขึ้นนางก็ยังพูดจาไร้สาระต่อหน้าคนอื่น พวกท่านต้องไปเห็นสีหน้าของเล่อเล่อในตอนนั้น” นางเฉิงรู้สึกกระวนกระวายใจเมื่อนึกถึงใบหน้าอันซีดเผือดของเล่อเล่อในเวลานั้น

“ลูกสะใภ้ เจ้าว่าอะไรนะ นางทำให้เล่อเล่อรู้สึกไม่ดีจนส่งผลถึงลูกในท้องเชียวหรือ เล่อเล่อท้องรึ” แม่เฒ่าหยางคว้าไหล่ของนางเฉิงและถามอย่างร้อนใจ

นางเฉิงพยักหน้า “ทำไมจะไม่ใช่ ตอนที่น้องสาวกับน้องเขยรู้ว่าลูกในท้องของเล่อเล่อได้รับผลกระทบไปด้วย สีหน้าของพวกเขาน่ากลัวยิ่งนัก” เมื่อนึกถึงสีหน้าของนางหยางนางเฉิงก็รู้สึกหดหู่

หากเป็นนาง นางก็คงทำแบบเดียวกัน ฉะนั้น จะไปว่าพวกเขาไม่ได้

แม่เฒ่าหยางชี้นิ้วใส่หยางซู่อวิ๋น ร่างของนางสั่นเทิ้ม “พี่ใหญ่ จัดการตามที่เจ้าเห็นสมควรเสีย ข้าว่าคงดีที่สุดหากหญิงผู้นี้ออกไปเสีย หากเกิดอะไรขึ้นพวกเราจะได้ไม่พลอยติดร่างแหไปด้วย”

เหล่าหยางเองก็รู้สึกโมโหเช่นกัน แล้วตอนนี้เขาจะมองหน้าน้องสาวของตนได้อย่างไร