ตอนที่ 527 จะแต่งกับข้าหรือไม่?
ในดวงตาดำลึกล้ำของหลิงโม่หานฉายแววบอกว่า ‘ข้ารู้อยู่แล้ว’ วาบผ่านไป ชัดเจนว่าทำหน้าแข็งกระด้างเย็นชา แต่ริมฝีปากบางที่ปกปิดด้วยเคราหนาเผยรอยยิ้มออกมาอย่างไม่อาจกลั้น รอยยิ้มนั้นค่อยๆ ขยายกว้าง ยกขึ้นอย่างห้ามไม่ไหว เพียงแต่หนวดเครามากเกินไปจึงไม่มีใครมองเห็น
ฮุยหลางกับอิ่งอีตาค้าง คิดว่าตนเองฟังผิดไป
นางพูดว่าอะไรนะ? บอกว่าปฏิเสธไปทันทีหรือ
ทั้งสองเบิกตา ชั่วขณะหนึ่งถึงขนาดพูดอะไรไม่ออก รู้สึกเพียงว่าเหลือเชื่อ น่าเหลือเชื่อเกินไปแล้ว… บนโลกใบนี้ยังมีคนโง่ระดับที่ผลประโยชน์มาถึงมือแต่ไม่ต้องการอีกหรือ? หนำซ้ำนึกไม่ถึงว่าคนโง่คนนี้จะเป็นภูตหมอที่หลักแหลมเจ้าเล่ห์ปานจิ้งจอก?
เฟิ่งจิ่วเอ่ยออกไป เห็นสีหน้าท่าทางแต่ละคนไม่ถูกต้อง จึงพลันเอ่ยถามอย่างอึ้งๆ “ทำไมรึ มีอะไรไม่ถูกต้อง?”
ยามนี้ควรบอกเธอว่า ‘สมกับเป็นภูตหมอจริงๆ ถึงมีความหาญกล้าเช่นนี้’ ไม่ใช่หรือ?
ยามนี้ควรบอกเธอว่า ‘ภูตหมอ ข้านับถือเจ้ายิ่งนัก! มีเพียงเจ้าที่กล้าบอกปัดตำแหน่งผู้อาวุโสกิตติมศักดิ์ของสมาคมนักปรุงยา’ ไม่ใช่หรือไร?
ท่าทางพวกเขาเหมือนว่า… มีตรงไหนไม่ถูกต้อง?
“ภูตหมอ เจ้าบอกปัดไม่ให้เขาซื้อยา หรือบอกปัดตำแหน่งผู้อาวุโสกิตติมศักดิ์กันแน่” ฮุยหลางถามอย่างระแวดระวัง
เฟิ่งจิ่วที่เคร่งเครียดขึ้นมาเพราะพวกเขากะพริบตาปริบๆ สีหน้าไม่เข้าใจเหตุผล กล่าวว่า “ข้าบอกปัดไปทั้งสองอย่างเลย!” กล่าวจบก็เห็นฮุยหลางกลายเป็นหิน แข็งทื่อมองเธออยู่ตรงนั้น จึงมองทางหลิงโม่หานที่ดื่มชาอย่างอดไม่ได้
“ท่านอา? ข้าทำผิดไปหรือ?”
หลิงโม่หานจิบน้ำชา เหลือบมองนางที่ทำหน้าไม่รู้เรื่องรู้ราว ก่อนจะบอก “ผู้อาวุโสกิตติมศักดิ์ของสมาคมนักปรุงยามีที่ให้แค่สี่คน พลังแทนตัวพวกเขาไม่ธรรมดา อีกอย่างผู้อาวุโสกิตติมศักดิ์แค่แขวนชื่อไว้เท่านั้น แต่สามารถสุขสมกับผลประโยชน์ต่างๆ จากสมาคมนักปรุงยารวมถึงที่พักพิงของสมาคมด้วย”
น้ำเสียงเขาชะงัก มองสาวน้อยที่ตาค้างไปบ้างแล้ว ตรงริมฝีปากเผยรอยยิ้มและกล่าวต่อไปว่า “หนำซ้ำทุกปียังมีของบรรณาการมากมายและยาทิพย์ล้ำค่าอีกหลายร้อย นอกจากนี้ยังเข้าร่วมกิจกรรมใหญ่ๆ ที่สมาคมจัดขึ้นได้โดยอิสระ ยามเข้าออกสาขาต่างๆ ของสมาคมก็จะได้รับการปฏิบัติอย่างมีมารยาทในทุกๆ ด้าน หากเป็นสถานที่ที่มีสาขาของสมาคมผู้อาวุโสกิตติมศักดิ์ยิ่งมีความสะดวกสบายมากมาย”
เขาเล่นถ้วยชาในมือ พูดอีกว่า “สมาคมนักปรุงยาที่เจ้าไปสอบประเมินนี้เป็นสมาคมทั่วไป ผู้อาวุโสกิตติมศักดิ์มีเพียงหนึ่งตำแหน่ง หมายความว่ายิ่งไม่ธรรมดา” พูดถึงตรงนี้นัยน์ตาเขาฉายแววหยอกล้อ “แต่นึกไม่ถึงว่าเจ้าจะไม่สนใจลาภยศเช่นนี้ ถึงปฏิเสธไปทันที”
“ตาเฒ่าอวี๋คนนี้! ตาเฒ่าอวี๋คนนี้นี่!”
สีหน้าเฟิ่งจิ่วเสียใจและเจ็บใจ “ตาเฒ่าอวี๋แค่บอกข้าว่ามีผลประโยชน์ ข้านึกว่าเป็นประโยชน์ทั่วไป…ใครจะรู้ว่ามีผลดีมากมายเพียงนี้! จะรั้งคนไว้ยังบอกผลประโยชน์คลุมเครือ นี่ นี่จะโทษข้าไม่ได้นะ!”
แต่ไหนแต่ไรเธอไม่รู้ว่ามีผลดีมากเช่นนี้! หากรู้คงตอบรับไปนานแล้ว
นึกถึงตรงนี้ เธอมาที่ข้างโต๊ะมองหลิงโม่หานด้วยความกระตือรือร้น ถามว่า “ท่านอา ท่านว่าข้ากลับไปรับตำแหน่งผู้อาวุโสกิตติมศักดิ์คืนมาตอนนี้จะเป็นอย่างไร?”
ทว่าไม่รอเขาเอ่ยปาก สองมือเธอก็ตบลงบนโต๊ะอย่างแรง ตะโกนด้วยใบหน้าสับสน “แบบนี้ไม่ได้! ความหยิ่งยโสล่ะ ความจองหองของข้าล่ะ? ข้าจะไปตามเอากลับมาถึงที่ได้อย่างไร? อ๊าๆๆ! ต้องโทษตาเฒ่าอวี๋นั่นเลย!”
เห็นเช่นนี้ หลิงโม่หานชำเลืองมองนางอย่างขบขัน แววตาสั่นไหวเล็กน้อย แนะนำว่า “หากเจ้าตกลงแต่งงานกับข้า ผลประโยชน์ยิ่งมากมายกว่านี้อีก เจ้าจะพิจารณาสักหน่อยหรือไม่?”
………………………………………………….
ตอนที่ 528 ผู้หญิงขี้ขลาด
ได้ยินเช่นนี้ เฟิ่งจิ่วเก็บอารมณ์บนใบหน้า มองซ้ายแลขวาสักพัก จากนั้นหันมองเหลิ่งซวงกับเหลิ่งหวาโดยแสร้งทำว่าไม่ได้ยิน “อืม พวกเราออกมากันสักพักแล้ว กลับโรงเตี๊ยมไปพักผ่อนก่อนเถอะ แล้วค่อยสั่งอาหารดีๆ สองสามอย่างมาฉลองที่ข้าได้รับเหรียญตรายาทิพย์ศักดิ์สิทธิ์”
เหลิ่งหวายิ้มกว้าง บอกว่า “นายท่าน ก่อนหน้านี้ข้าได้ยินคนบอกว่าในเมืองมีร้านขายขาหมูน้ำแดงอร่อยมาก ประเดี๋ยวข้าจะไปซื้อกลับมาเพิ่มที่โรงเตี๊ยมนะขอรับ”
เธอเดินมาข้างกายเหลิ่งหวาแล้วตบๆ บ่าเขา เอ่ยยิ้มๆ ด้วยว่า “เจ้าไม่ต้องไปหรอก ให้ฮุยหลางไปสิ ฮุยหลางวิ่งเร็วกว่า” พูดจบก็หันไปเหลือบมองฮุยหลาง
เห็นเช่นนี้ฮุยหลางจึงยิ้มเจื่อนๆ “คุณชายจิ่วโปรดวางใจ เรื่องนี้ให้เป็นหน้าที่ข้าเอง เรื่องวิ่งๆ อะไรพวกนี้ข้าช่ำชองที่สุด” ให้ผู้แข็งแกร่งระดับหลอมแก่นพลังวิ่งไปซื้อขาหมู เรื่องเช่นนี้มีเพียงภูตหมอที่ทำได้
“อืม ข้ารู้ว่าเรื่องนี้ยกให้เจ้าดีที่สุด วันหลังข้าจะส่งของให้เจ้าบ้าง” เธอพูดพลางยิ้มตาหยี กล่าวจบก็ลงไปข้างล่างอย่างรวดเร็ว และมุ่งไปยังโรงเตี๊ยม
“หึ! ผู้หญิงขี้ขลาดนี่!” เห็นนางจากไปเหมือนหลบหนี หลิงโม่หานแค่นเสียงเย็นอย่างอดไม่ได้ รู้ว่าผู้หญิงคนนี้เบี่ยงประเด็น เขาเอ่ยคำพูดออกมาหมดแล้วก็ยังไม่กล้าตอบรับ
ฮุยหลางกับอิ่งอีก้มหน้าลง ยืนด้วยความเคารพนบนอบพลางแสร้งว่าไม่ได้ยิน
หลิงโม่หานลุกขึ้นเดินผ่านข้างกายทั้งสองไป ก่อนชะงักฝีเท้า แล้วเหลือบมองฮุยหลาง “ของที่นางให้เจ้าต้องส่งมาให้ข้าด้วย” กล้ารับของจากผู้หญิงของเขาหรือ? คงไม่อยากมีชีวิตอยู่จนแทบทนไม่ไหวแล้ว
ฮุยหลางยังไม่ทันได้สติจากความดีอกดีใจที่ภูตหมอจะมอบของให้เขา ได้ยินเช่นนี้ก็รีบร้อนขานรับ “ขอรับ ข้าน้อยจะส่งคืนแน่นอน”
“หึ!” หลิงโม่หานแค่นเสียงหยัน เอามือไพล่หลังเดินลงไป
ยามนี้ ฮุยหลางถึงจะถอนหายใจเบาๆ เช็ดปาดเหงื่อ แล้วมองอิ่งอีด้วยใบหน้าโศกา “เจ้าว่าทำไมภูตหมอถึงชอบสั่งข้าไปทำธุระขนาดนั้น ทำไมข้าไม่เคยเห็นนางสั่งเจ้าวิ่งไปทำอะไรบ้าง?”
ดีกับเขาเกินไปจนนายท่านจวนจะไม่พอใจแล้ว
อิ่งอีเหลือบมองเขา บอกว่า “เจ้าเพิ่งพูดไปไม่ใช่หรือ เรื่องวิ่งอะไรพวกนี้เจ้าช่ำชองที่สุด ไม่สั่งเจ้าแล้วจะสั่งใคร?” พูดจบก็ตามนายท่านข้างหน้าไปอย่างรวดเร็ว
มุมปากฮุยหลางกระตุก ตัวเองเป็นคนเสนอเอง จึงทำได้เพียงวิ่งไปซื้อขาหมูอย่างว่าง่าย
อีกด้านหนึ่ง เจ้าของโรงเตี๊ยมตรงโต๊ะรับแขกเช็ดเหงื่ออยู่ตลอดเวลา เห็นหัวหน้าตลาดมืดนั่งอยู่ชั้นหนึ่งมาชั่วยามกว่าแล้ว สองขาจึงอดสั่นเทาเล็กน้อยไม่ได้
หรือคนพวกนั้นที่พักชั้นสองจะยั่วยุคนตลาดมืดโดยไม่ดูตาม้าตาเรือ มิเช่นนั้นหัวหน้าตลาดมืดคนนี้จะนั่งอยู่ที่นี่มาชั่วยามกว่าไม่ไปไหนได้อย่างไร ขณะคิดอย่างอดสั่นขวัญแขวน ก็ได้ยินเสียงหัวหน้าตลาดมืดคนนั้นลอยมา
“เถ้าแก่”
“ทะ ท่านหัวหน้าเคอ ไม่ทราบว่าท่านมีอะไรจะสั่งหรือขอรับ?” เขารีบร้อนมาตรงหน้าลูกค้า ยืนอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย เพราะตกใจเสียงจึงสั่นเครืออยู่บ้าง
หัวหน้าเคอมองเขาแวบหนึ่ง ก่อนถามเสียงเข้ม “เจ้าลองคิดอีกที คุณชายชุดแดงท่านนั้นบอกหรือไม่ว่าไปไหน?”
“มะ ไม่ได้บอกขอรับ”
เจ้าของโรงเตี๊ยมเช็ดๆ เหงื่อที่ไหลตรงหน้าผากพลางเอ่ย “แต่พวกเขาคงไม่หนี ม้าพวกเขายังอยู่ด้านหลังเลยขอรับ! ตอนเสี่ยวเอ้อร์เข้าไปทำความสะอาดเห็นสัตว์เลี้ยงของพวกเขายังถูกขังอยู่ในห้อง คง คงจะออกไปทำธุระกันขอรับ”
ขณะกำลังพูด หางตาก็เหลือบเห็นร่างสีแดงแสบตานั้นเดินมาจากที่ไม่ไกล เถ้าแก่ดีใจจนรีบชี้พวกเขาพร้อมส่งเสียงตะโกน “มาแล้วๆ หัวหน้าเคอ ท่านรีบดูสิ คุณชายชุดแดงท่านนั้นกลับมาแล้วขอรับ”