ตอนที่ 191 จื่อโยวมอบของขวัญให้

ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ

หัวหน้าสํานักอัสนีลึกลับและหัวหน้าสํานักตานจี้จนปัญญาแล้ว พันธมิตรเอียนหลัวจะโง่งมขนาดนั้นเชียวหรือ ?

เขาพานักฆ่าระดับจักรพรรดิมาสิบกว่าคน และนักฆ่าระดับราชาหลายสิบคน คิดจะสังหารผู้นำตระกูลมู่ เล่นตลกอะไรกัน ?

ตระกูลมู่ของพวกเขามีนักรบระดับจักรพรรดิเกือบหนึ่งร้อยคนที่พร้อมจะสังหารพวกเขาได้ในทันที ทว่านี่ก็ถึงเวลาที่พวกเขาจะแสดงออกมาแล้ว

หัวหน้าสํานักอัสนีลึกลับและหัวหน้าสํานักตานจี้กล่าว “ลงมือ ปกป้องผู้นำตระกูลมู่เร็ว!”

คนอื่น ๆ พากันรู้สึกว่าหัวหน้าสํานักทั้งสองนี้ สมองมีปัญหาแล้วหรืออย่างไร ได้ยินมาว่าผู้นำตระกูลมู่ทำลายพวกเขาอย่างน่าสังเวช เวลานี้สถานการณ์ในตระกูลมู่เป็นเช่นนี้ พวกเขาไม่ซ้ำเติมก็ดีเพียงเท่าไหร่แล้ว ยังถึงกับชักดาบออกมาช่วย

ผิดปกติเกินไปแล้ว!

หลัวกุ่ยกล่าวอย่างโกรธเกรี้ยว “เจ้าสองเฒ่า หมายความว่าอย่างไรกันแน่ ?”

แน่นอนว่าการที่มีคนเหล่านี้ช่วยก็ยังไม่พอ อย่างไรเสียตระกูลมู่ก็ยังมีคนที่ไม่แข็งแกร่งอยู่บ้าง ต้องฆ่าพวกมันภายในระยะเวลาอันสั้นนี้ให้ได้ มู่เฉียนซีวางแผนที่จะให้องครักษ์เงาเคลื่อนไหว แม้ว่าสถานการณ์ในตอนนี้จะเผยว่าความแข็งแกร่งทั้งหมดของตระกูลมู่นั้นไม่เหมาะสม แต่ก็เป็นการบังคับอย่างไม่มีทางเลือก

ขณะที่มู่เฉียนซีกําลังจะสั่งให้องครักษ์เงาตระกูลมู่ที่ซ่อนตัวอยู่ในเงามืดเคลื่อนไหว เสียงที่มีเสน่ห์ดังขึ้น “สาวน้อยคนงาม ข้ามาสายแล้ว เจ้าจะไม่โทษข้าใช่หรือไม่ ?”

— ปัง! —

เวลานี้พันธมิตรเอียนหลัวถูกมู่อวู่ซวงตบออกไป อวัยวะภายในของเขาได้รับบาดเจ็บสาหัส

ระดับของมู่อวู่ซวงเทียบเท่ากับเขาแท้ ๆ แต่กลับสามารถทําลายระดับเดียวกันได้อย่างง่ายดาย  ทันใดนั้นเสียงที่มีเสน่ห์ดังขึ้นมาพร้อมกับแรงกดดันอันน่าสะพรึงกลัว นักฆ่าเหล่านั้นที่กําลังจะลงมือดูราวกับรูปปั้นที่ไม่สามารถขยับได้

“งานเลี้ยงวันเกิดของสาวงาม ย่อมไม่ควรให้เห็นเลือด พวกคนหยาบคายอย่างพวกเจ้าอย่ามาขวางหูขวางตาอยู่ที่นี่เลย”

ฉับพลันทันใดพลังอันน่าสะพรึงกลัวเข้าห่อหุ้มร่างพวกเขาไว้ ภายในชั่วพริบตาพวกเขาหายไปจากโลกนี้อย่างสมบูรณ์

ถูกจัดการเช่นนี้ ไม่มีพลังตอบโต้แม้แต่น้อย เลือดสักหยดก็ยังไม่มีเหลือ

นักฆ่าชั้นยอดหลายร้อยคน! อีกฝั่งเหมือนจะไม่ได้ขยับนิ้วแม้แต่นิดเดียว แต่กลับหายไปทั้งหมดแล้ว

ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่แคว้นจื่อเยี่ยมีผู้ชายที่น่ากลัวกว่าองค์ชายเยี่ย

ผู้นําพันธมิตรเอียนหลัว หลัวกุ่ยตัวสั่นพลางกล่าวว่า “เจ้า… เจ้าเป็นใครกันแน่ ? เจ้า…”

เสียงยังไม่ทันสิ้นสุด คนก็ถูกทําลายไปเสียแล้ว ในที่สุดร่างสีเขียวปรากฏขึ้นต่อหน้าทุกคน  เมื่อทุกคนเห็นท่าทางของเขา พวกเขาต่างเบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจ ชายผู้นี้มีเสน่ห์และความงามอันน่าหลงใหลอย่างแท้จริง

นี่คือลักษณะของชายปีศาจที่ไม่สามารถอธิบายเป็นคําพูดได้ เขาถือกำเกิดมาเพื่อล่อลวงคนบนโลก  เขาเป็นชายคนหนึ่งที่น่าอิจฉาริษยาระคนอันตราย

มู่อวู่ซวงยืนขวางหน้ามู่เฉียนซี กล่าวอย่างเย็นชา “เจ้าเป็นใคร ?”

ผู้ที่มีกลิ่นอายเช่นนี้ แคว้นจื่อเยี่ยมีเยี่ยอ๋องแล้วผู้หนึ่ง มันแปลกมาก เวลานี้มีชายผู้แผ่กลิ่นอายชั่วร้ายปรากฏกายขึ้นมาอีกหนึ่งคน เขาผู้นี้ไม่ได้เป็นชายชั่วร้ายระดับต่ำ ๆ เลย

จื่อโยวยิ้ม กล่าวว่า “คุณชายสามไม่ต้องกังวล ข้าเพียงแค่มามอบของขวัญให้แม่นางคนงามเท่านั้น”

แม่นางผู้นี้ สักวันจะต้องกลายเป็นนายหญิงของเขา ตอนนี้ต้องประจบสอพลอให้ดีเสียก่อน ใช้โอกาสนําหน้า ต่อไปย่อมมีประโยชน์ไม่น้อย

จื่อโยวโบกมือ ทันใดนั้นมีกล่องหลายใบที่ทําจากน้ำแข็งวางอยู่ตรงหน้า เขายกมือขึ้นเบา ๆ พลันกล่องทั้งหมดถูกเปิดออก

“เพื่อเตรียมของขวัญให้แม่นางคนงาม ขาทั้งสองข้างของข้าเดินจนกล้ามเนื้อแทบขาดแล้ว ในที่สุดข้าก็พบสมุนไพรวิญญาณเหล่านี้ ข้าหวังว่าแม่นางจะชอบมัน”

— ฟึ่บ! —

เมื่อทุกคนมองไปที่สมุนไพรวิญญาณนั่น พลันตื่นตะลึงไปพร้อม ๆ กัน

“สวรรค์! สมุนไพรวิญยาณเหล่านี้ ปราณวิญญาณช่างแข็งแกร่งนัก อย่างน้อยมันจะต้องเป็นสมุนไพรวิญญาณระดับเจ็ดเป็นแน่แท้”

“ระดับต่ำสุดก็เป็นระดับเจ็ด ทั้งยังเป็นระดับเก้าอีกก็ตั้งมากมาย วิเศษนัก!”

เมื่อเห็นท่าทางประหลาดใจของคนเหล่านี้ จื่อโยวเบ้ปากเล็กน้อย

หากไม่ใช่ว่าความแข็งแกร่งของพระชายาในอนาคตของตระกูลพวกเขาอ่อนแอเกินไป และไหนจะสมุนไพรวิญญาณระดับสวรรค์ที่ใช้ไม่ได้ เขาก็คงจะไม่เพียงแค่นําสมุนไพรวิญญาณระดับต่ำเช่นนี้ออกมามอบให้นาง

ถ้าหากคนอื่น ๆ รู้ว่าเขาส่งสินค้าระดับล่างเช่นนี้ไปให้นายหญิงในอนาคต จะต้องถูกดูหมิ่นดูแคลนอย่างแน่นอน

มู่เฉียนซี “จื่อโยว ของขวัญชิ้นนี้ของเจ้ามีค่าเกินไป”

จื่อโยวกล่าว “สาวน้อย เจ้ามีภารกิจสําคัญที่ต้องทํา ของขวัญเหล่านี้ไม่เท่าไหร่ เจ้ารับไว้เถอะ”

มู่เฉียนซีคิดในใจ ‘ใช่ ข้าต้องหาวิธีควบคุมคําสาปให้จิ่วเยี่ย หลังจากได้รับหม้อเทพปาฮวางชิงมู่แล้ว ข้ารู้สึกตื่นตาเล็กน้อย  ขาดเพียงสมุนไพรวิญญาณที่ล้ำค่าเท่านั้น  ดีนัก! สมุนไพรวิญญาณหลายสิบกล่องของจื่อโยวสามารถตอบสนองความต้องการที่ร้อนรนของข้าในตอนนี้ได้’

จากนั้นนางกล่าวขึ้น “อืม เช่นนั้นข้าก็ไม่เกรงใจแล้ว”

จื่อโยวกล่าว  “ใช่! ไม่ต้องเกรงใจข้าเลย”

มู่เฉียนซีคิดว่าภารกิจสําคัญของนางคือการรักษาร่างกายจิ่วเยี่ยให้หาย แต่จื่อโยว เขาไม่ได้คิดเรื่องนี้เลย

สิ่งที่จื่อโยวกําลังคิดอยู่คือ ภารกิจสําคัญของพระชายาในอนาคตคือการทําให้ร่างกายขององค์ชายของพวกเขาเสียหาย!  องค์ชายของเขาเปรียบเป็นเด็กน้อยผู้ขาดประสบการณ์ในเรื่องเช่นนี้มาหลายปี เขารู้สึกขายหน้าอย่างมาก

ขณะที่ทุกคนเบี่ยงเบนความสนใจ  หัวหน้าพันธมิตรเอียนหลัว—หลัวกุ่ย ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส คิดจะใช้โอกาสนี้หลบหนีอย่างลับ ๆ

ทว่าก่อนที่จื่อโยวจะลงมือ เข็มยาของมู่เฉียนซีก็พุ่งออกไปทําให้ร่างกายของเขาแข็งทื่อโดยพลัน

“อ๊าก! ผู้นำตระกูลมู่อย่าฆ่าข้า” หลัวกุ่ยร้องโหยหวน

มู่เฉียนซีเดินมาตรงหน้าเขา กล่าวอย่างเย็นชาว่า “ผู้นําพันธมิตรเอียนหลัว ในเมื่อเจ้ากล้าก่อเรื่องในงานเลี้ยงพิธีฉลองการเป็นผู้ใหญ่ของข้า เช่นนั้นก็ต้องเตรียมตัวให้ดีที่จะถูกฆ่า”

“วางใจเถอะ เจ้าจะต้องตายแล้ว อีกไม่นานพันธมิตรเอียนหลัวของเจ้าก็จะลงนรกไปพร้อม ๆ กันกับเจ้า”

เข็มยาอีกเข็มหนึ่งพุ่งออกมา ปราณชีวิตของหลัวกุ่ยหายไปในพริบตา

มู่เฉียนซีโบกมือ “พาลงไป”

ทุกผู้คน ณ ที่ตรงนั้นตระหนกตกใจ  ผู้นําของพันธมิตรเอียนหลัวนํานักฆ่าชั้นยอดหลายร้อยคนมาสังหารตระกูลมู่ พวกเขากล้าหาญนัก!

ทว่าช่างโชคร้าย ใครเลยจะคิดว่าเลือดของตระกูลมู่จะไม่มีไหลสักหยด กลับเป็นพวกเขา พวกนักฆ่าชั้นยอดหลายร้อยคนของพันธมิตรเอียนหลัวที่ต้องมาถูกสังหารอย่างไร้ความปราณี แม้แต่ตัวเขาเองก็ยังถูกผู้นําตระกูลมู่สังหาร

มู่เฉียนซีกวาดตามองทุกคนก่อนจะกล่าวเสียงเยียบเย็น “วันนี้เกิดเรื่องไม่คาดคิด ข้าต้องขอโทษด้วย ตอนนี้พวกคนที่สร้างปัญหาก็ถูกจัดการแล้ว งานเลี้ยงเริ่มได้แล้ว”

ทุก ๆ คนกล่าวซ้ำ ๆ “ผู้นำตระกูลมู่ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว…”

งานเลี้ยงกําลังจะเริ่มขึ้น จื่อโยวกล่าว “ซีคนงาม ข้าไม่กินอาหารของพวกมนุษย์นี้ ข้าขอตัวก่อน”

จื่อโยวเหาะไปด้านหลังมู่เฉียนซี ทว่ายังมิวายยื่นใบหน้ามากระซิบข้างหูนาง “แต่ข้าบอกเจ้าไว้ เจ้าไม่ควรพลาดอาหารเย็นเลิศรสมื้อใหญ่วันนี้” หลังจากกล่าวจบ ร่างที่มีเสน่ห์น่าหลงใหลนั่นก็หายไปต่อหน้ามู่เฉียนซี

มู่เฉียนซีพึมพําเสียงเบา “อาหารเลิศรสมื้อใหญ่ในตอนเย็นรึ ? เจ้าปีศาจจื่อโยวตัวยุ่งกําลังคิดทำการใดอีก ?”

มู่เฉียนซีทอดถอนใจ นางหันไปมองท่านอาเล็ก เห็นท่านอามู่อวู่ซวงยังมีสีหน้าเป็นกังวล นางยิ้ม เดินเข้าไปกล่าวกับท่านอา “ท่านอา ไม่ต้องห่วงหรอกนะเจ้าคะ  เขาเป็นเพื่อนข้าเอง มิใช่คนเลวร้ายแต่อย่างใด”

มู่อวู่ซวงยังมีสีหน้าไม่วางใจ เขากล่าวด้วยเสียงต่ำ “ซีเอ๋อร์ อย่างไรเจ้าก็ต้องต้องระวังตัว คนผู้นี้ไม่มีกลิ่นอายของมนุษย์เลย เกรงว่าเขาคงไม่ใช่มนุษย์ธรรมดา”

.