ตอนที่ 533 พาผู้หญิงกลับมา + ตอนที่ 534 ข้ามองผิดไปกระมัง?

เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า

ตอนที่ 533 พาผู้หญิงกลับมา

ได้ยินเช่นนี้ ฮุยหลางตอบกลับด้วยสีหน้าจริงจัง “อืม นายท่านพวกเราฐานะสูงส่งยิ่งนัก คุณชายจิ่ว ท่านจะพลาดโอกาสไม่ได้เชียว”

เฟิ่งจิ่วมุมปากกระตุก มองเขาอย่างหมดคำจะพูด ว่าแล้วว่ามีนายเช่นไรย่อมมีข้ารับใช้เช่นนั้น

“คุณชายจิ่ว ของขวัญข้าเล่า?” ดวงตาเขาเป็นประกาย แม้ของขวัญต้องส่งมอบให้นาย แต่คิดๆ ดูแล้วภูตหมอมอบอะไรให้เขาก็คุ้มค่าที่จะดีใจทั้งนั้น

“ยาที่ข้าปรุงออกมาตอนสอบประเมิน” เธอนำยานั้นจากในห้วงมิติยื่นให้เขา พลางบอก “แม้นายท่านเจ้ามียาอายุวัฒนะ แต่นี่ก็เป็นน้ำใจจากข้า ถือว่าขอบคุณเจ้าที่ช่วงนั้นช่วยข้าวิ่งทำธุระ” เธอหมายถึงเรื่องที่สั่งเขาไปวางยามู่หรงป๋อยามวิกาล

“ขอบคุณคุณชายจิ่วมาก”

ฮุยหลางตาเป็นประกาย รับมาด้วยความยินดีพลางบอก “ยาของคุณชายจิ่วถึงมีเงินก็ซื้อไม่ได้ ไม่เหมือนยาพวกนั้นที่นายท่านให้ แต่ว่า คุณชายจิ่วบอกผลลัพธ์กับฤทธิ์ของยานี้ให้ข้าหน่อยได้หรือไม่?”

“มันช่วยเจ้าเสริมกำลังได้ เหมาะจะให้ผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังใช้” เธอพูดพลางเดินกลับห้อง

วันนี้ไปสอบประเมินที่สมาคมนักปรุงยาแต่เช้าตรู่ เวลานี้ความจริงง่วงนอนนิดหน่อยแล้ว กลับไปนอนสักพักค่อยตื่นขึ้นมาคุยดีกว่า ขณะที่เดินเข้าห้องไปก็เอ่ยกับเหลิ่งซวงด้านหลังว่า “ข้าจะนอนสักพัก อย่าให้ใครมารบกวนข้า”

“เจ้าค่ะ” เหลิ่งซวงขานรับ ช่วยปิดประตูเรียบร้อย จากนั้นจึงยืนเฝ้าตรงหน้าประตูต่อ

อิ่งอีเห็นเฟิ่งจิ่วกลับห้องไปแล้ว จึงมองทางฮุยหลาง “เจ้านี่โชคดีไม่เบา ยาที่คุณชายจิ่วปรุงออกมาฤทธิ์ยาไม่ด้อยไปกว่าของคนพวกนั้นแน่นอน ไม่แน่ว่าหากเจ้าดื่มยาขวดนี้ลงไป คงบรรลุถึงระดับกำเนิดวิญญาณได้ทันที”

ยามนี้ฮุยหลางลิงโลดอย่างยิ่ง ทว่ายังไม่ลืมตัว เก็บยานั้นไปอย่างระมัดระวัง “นายท่านบอกว่าช่วงนี้อย่าเพิ่งบรรลุระดับกำเนิดวิญญาณ ให้ข้าวางรากฐานจนมั่นคงเสียหน่อย รอเขาบอกว่าได้ค่อยบรรลุขั้น ถึงเวลานั้นรากฐานจะมั่นคงมาก หนทางการฝึกบำเพ็ญจะยิ่งยืนยาว”

“นี่ เจ้าว่านายท่านไปไหนแล้ว ทำไมออกไปนานเพียงนี้ยังไม่กลับมาอีก?” ฮุยหลางมองไปรอบๆ ไม่เห็นร่างนายท่านเขาจริงๆ จึงอดไม่ได้ที่จะแปลกใจอยู่บ้าง

นิสัยนายท่านเป็นคนชอบอยู่ในห้องมากกว่า และไม่อยากออกไปเดินเหิน เดิมคิดว่าไปเดินเล่นละแวกนี้สักพักจะกลับมา ใครจะรู้ว่าตอนนี้ยังไม่เห็นตัวคน

แต่สิ่งที่ทำให้ทั้งสองต่างนึกไม่ถึงคือ หลังจากเวลาผ่านไปประมาณหนึ่งก้านธูป นายท่านของพวกเขาก็กลับมา แต่ด้านหลังกลับมีผู้หญิงคนหนึ่งตามมาด้วย!

“ไม่ใช่กระมัง? ผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร” ฮุยหลางตาค้าง นายท่านออกไปรอบเดียวก็ยั่วยวนใครจากที่ไหนมาแล้ว?

“ดูแล้วเหมือนจะคุ้นตานิดหน่อย” อิ่งอีพูดพลางจ้องมองผู้หญิงคนนั้นที่ตามอยู่ด้านหลังนาย

“คุ้นตา? นึกไม่ออกเลย ข้ารู้แค่ว่าหากคุณชายจิ่วรู้ เดาว่าคงเป็นเรื่องใหญ่แน่” ฮุยหลางกล่าวไปเช่นนี้ แม้แต่อิ่งอียังนิ่งเงียบไปเช่นกัน

สีหน้าหลิงโม่หานถมึงทึงเล็กน้อย ไอเย็นกระจายทั่วร่าง แต่คนที่ตามอยู่ข้างกายกลับคล้ายไม่รู้ตัว เดินตามข้างกายตลอดพลางพยายามพูดคุยกับเขา

เมื่อเข้ามาในโรงเตี๊ยมตรงขึ้นไปชั้นสอง หลิงโม่หานกวาดมองห้องปีกที่ปิดสนิท มองฮุยหลางก่อนถาม “นางล่ะ?”

“คุณชายจิ่วกำลังนอนกลางวันขอรับ”

ฮุยหลางรีบร้อนกล่าว มองผู้หญิงด้านล่างที่กำลังมองไปรอบๆ พร้อมเรียกเถ้าแก่เข้าไปคุยด้วย จากนั้นถามเสียงเบาว่า “นายท่าน ผู้หญิงคนนั้นเป็นใครรึขอรับ?”

………………………………………………….

ตอนที่ 534 ข้ามองผิดไปกระมัง?

หลิงโม่หานกวาดมองเขาแวบหนึ่ง เข้าห้องไปทันทีโดยไม่ตอบกลับ แค่ทิ้งคำพูดประโยคหนึ่งไว้ว่า “อย่าให้ใครรบกวนข้าพักผ่อน”

ประตูห้องปิดลงดังปัง ฮุยหลางเช็ดๆ จมูกพลางมองทางอิ่งอี เห็นสหายมีสีหน้าครุ่นคิดจึงถามขึ้น “คิดอะไรอยู่?”

“ผู้หญิงคนนั้น ข้านึกออกแล้ว” อิ่งอีพูดจบ สายตาก็เคลื่อนจากร่างของผู้หญิงด้านล่างมาหยุดลงที่ฮุยหลาง

“ใคร?” เขาเองก็ตามรับใช้อยู่ข้างกายนายท่านบ่อยครั้ง ทำไมถึงนึกไม่ออกว่าผู้หญิงคนนี้เป็นใคร

“อาจารย์สำนักศึกษาหกดาราจากแคว้นระดับสาม และก็เป็นคนที่ชอบพอนายท่าน” อิ่งอีพูดพลางมองผู้หญิงที่ชั้นล่าง “นึกไม่ถึงว่าจะได้เจอหน้ากันที่นี่”

พูดถึงตรงนี้ สีหน้าเขาฉายแววประหลาดบางส่วน กำลังคิดว่าหากภูตหมอเห็นหญิงคนนี้จะเป็นเช่นไร? นี่ถึงเป็นคนที่ชอบพอนายท่านเลยเชียว

“อ้อ? นางนั่นเอง! มิน่าถึงบอกว่ารู้สึกคุ้นตา” ทันใดนั้น ในที่สุดฮุยหลางก็นึกออกว่าผู้หญิงตรงชั้นล่างนั้นเป็นใคร

ตอนที่นายท่านปะปนอยู่ในสำนักศึกษาหกดาราแห่งแคว้นเหินเวหาด้วยตัวตนหลิงโม่หาน ว่ากันว่าผู้หญิงคนนี้ตามตื๊อนายท่านตลอด พวกเขายังเคยเห็นเลย แต่ไม่นึกว่าอาจารย์หญิงคนนั้นจากสำนักศึกษาหกดาราจะมาที่นี่ และยังพบกับนายท่านอีก

“นี่ เจ้าว่าหากภูตหมอเห็นผู้หญิงด้านล่างคนนั้นจะเป็นอย่างไร?” ฮุยหลางถามอย่างอยากรู้อยู่บ้าง ดวงตาคู่นั้นฉายประกายตื่นเต้นดีใจ

อิ่งอีชำเลืองมองเขา “ถึงเวลาก็รู้เองไม่ใช่หรือ?”

ได้ยินคำพูดนี้ แม้รู้ว่าเป็นความจริง แต่ยามนี้หัวใจกลับตื่นเต้น พวกเขาไม่กังวลว่าภูตหมอจะลำบากใจใต้เงื้อมมือผู้หญิงคนนั้น พวกเขาแค่อยากรู้ว่าหากเห็นว่ามีผู้หญิงกล้ามาตามติดนายท่าน ภูตหมอจะเป็นเช่นไร?

หึงหวง? พวกเขาเหมือนจะไม่เคยได้ยินว่าภูตหมอหึงหวงมีท่าทางเช่นไร ไม่อาจจินตนาการภาพนั้นได้โดยสิ้นเชิง

โกรธเคือง? ข้อนี้กลับเป็นไปได้ยิ่งนัก

ทว่า สิ่งที่ทำให้พวกเขาต้องรอนานคือเฟิ่งจิ่วกลับหลับจนท้องฟ้าค่อยๆ มืดเสียได้ ถนนใหญ่เริ่มจุดโคมไฟสีแดง แม้แต่นายท่านพวกเขายังตื่นนอนเดินออกจากห้อง มานั่งยังบริเวณชั้นหนึ่งแล้ว

ส่วนผู้หญิงคนนั้น หลังจากตามหลังเจ้าตำหนักกลับมาก็ยังไม่ออกไป ด้วยเหตุนี้เมื่อหลิงโม่หานลงมาดื่มชาที่ชั้นหนึ่ง นางจึงนั่งลงที่โต๊ะเขาโดนไม่เกรงกลัวไอเย็นบนร่าง พร้อมหาเรื่องพูดคุยสร้างความคุ้นเคย

แน่นอนว่าหลิงโม่หานเพียงดื่มชาเงียบๆ ไม่ตอบกลับสักประโยค ถึงกับไม่แม้แต่จะมองหญิงผู้มีรูปโฉมโดดเด่นคนนั้น

จนกระทั่งได้ยินเสียงเปิดประตูห้องปีกตรงชั้นสองดังมา แววตาถึงจะสั่นไหวเล็กน้อย คล้ายกำลังนั่งคอยอะไรบางอย่างเงียบๆ

เฟิ่งจิ่วที่เพิ่งตื่นนอนใบหน้างดงามยังดูง่วงงุนงง ดวงตาที่หรี่ลงครึ่งหนึ่งมีความเกียจคร้านอยู่บางส่วน ชุดสีแดงแสบตาสวมอยู่บนร่าง อาจเพราะเพิ่งตื่นนอน ตรงปกสาบเสื้อด้านหน้าจึงยังจัดการไม่เรียบร้อย ซ้ำยังเปิดออกเล็กน้อย เผยให้เห็นผิวพรรณขาวราวหิมะ ระหว่างเคลื่อนไหวทั่วร่างมีกลิ่นอายเฉื่อยชา เธอยกมือขึ้นพลางหาวหวอด ถามเหลิ่งซวงที่เฝ้าอยู่ตรงประตูไปเรื่อยเปื่อย

“ท่านอากลับมาหรือยัง?”

“กลับมาแล้วเจ้าค่ะ นั่งอยู่ชั้นล่าง” เหลิ่งซวงตอบกลับ สายตามองไปชั้นล่าง

เฟิ่งจิ่วได้ยินก็เดินมาก้มลงมองบริเวณระเบียง เห็นแล้วเธอเบิกตาโตทันที ความง่วงงุนทั่วทั้งร่างพลันตื่นตัวขึ้นมาเกินครึ่ง สีหน้าทั้งเหลือเชื่อและสงสัย

“ข้ามองผิดไปกระมัง? นึกไม่ถึงว่าท่านอาจะพาผู้หญิงกลับมาด้วย?”

………………………………………………….