ตอนที่ 334

เสน่ห์คมดาบ

ไดทันส์เงียบ สีหน้าของเขาดูไม่แน่ใจ และก็ไม่มีการเคลื่อนไหวอะไรอีกต่อไป เขาทำเพียงแค่หันหลังกลับและเดินจากไปเงียบๆ

พาริน่าก้มหน้าลงกลัวที่จะมองเข้าไปในกระจกนั้น นางกลัวว่าทุกอย่างจะเปลี่ยนไปหากมองกระจก

“พาริน่า รีบดูสิ! ดูเสร็จก็ไม่เป็นไรแล้ว!” โจนาธานเร่งพาริน่าอย่างหมดความอดทน เพราะพาริน่าจะรบกวนชีอ้าวชวางไปตลอดแบบนี้ไม่ได้

พาริน่าค่อยๆ เงยหน้าขึ้นช้าๆ และโจนาธานก็ถือกระจกรออย่างอดทน แต่พาริน่าก็เงยหน้าขึ้นและก้มลงโดยทันที

“พาริน่า ข้าไม่อยากหลอกความรู้สึกเจ้าหรือทำร้ายเจ้านะ แต่เจ้าพยายามต่อไปก็ไม่ได้ผลหรอก ทำแบบนี้ต่อไปเจ้าก็จะได้รับแต่ความเจ็บปวดมากขึ้นเท่านั้น วันนี้ข้าจะบอกความจริงกับเจ้า ข้าเป็นผู้หญิง แม้ว่าตอนนี้ข้าจะดูเหมือนผู้ชาย แต่ข้าเป็นผู้หญิงจริงๆ และสักวันหนึ่งข้าก็จะคืนร่างของข้า เจ้าเข้าใจหรือไม่…” ชีอ้าวชวางพูดช้าๆ

แต่ก่อนจะพูดจบ พาริน่าก็ปิดหูอย่างควบคุมไม่อยู่และตะโกนออกมาเสียงดัง “หุบปาก! หุบปาก! ข้าไม่ได้ยิน ข้าไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น! ไม่ใช่ เจ้าไม่ใช่!”

“พาริน่า!” ชีอ้าวชวางต้องการจะพูดอะไรบางอย่างอีก

แต่พาริน่าที่เกือบจะล้มลงไปก็ปิดหูแล้ววิ่งหนีไปพร้อมกับร้องไห้ นางไม่ได้มองกระจกนั้นเลยตั้งแต่ต้นจนจบ เพราะมันผไม่จำเป็นอีกต่อไปแล้ว คำตอบและคำพูดของทุกคนได้อธิบายทุกอย่างแล้ว

ชีอ้าวชวางเป็นผู้หญิง! เป็นผู้หญิงจริงๆ!

ชีอ้าวชวางมองแผ่นหลังของพาริน่าและถอนหายใจ มันยังคงเป็นการทำร้ายพาริน่าอย่างสาหัส แต่ถ้าไม่ทำแบบนี้นางจะเชื่อได้อย่างไรล่ะ? หากเป็นเช่นนี้ต่อไปก็จะยิ่งเจ็บปวดมากขึ้นเท่านั้น

เมื่อละสายตากลับมาก็เห็นว่าโจนาธานยังคงถือกระจกอยู่และมองคนที่อยู่ในกระจกอย่างตื่นเต้น ชีอ้าวชวางจึงพูดอย่างโกรธเคือง “มองอะไร? ทุกคนไปกันหมดแล้ว เรื่องจบแล้ว”

“อ้อๆ” โจนาธานเก็บกระจกอย่างไม่เต็มใจ ในใจก็ยังคงมีความคิดที่ขึ้นๆ ลงๆ อยู่ ชีอ้าวชวางเป็นผู้หญิงจริงๆ! และนางก็เป็นผู้หญิงที่สวยมากด้วย! พระเจ้า โลกนี้ช่างบ้าจริงๆ! พอคิดแล้วโจนาธานก็ว้าวุ่นใจที่เมื่อก่อนเกาะแกะนางแบบนั้น

ชีอ้าวชวางเดินไปข้างหน้าด้วยใบหน้าสงบ คืนนี้เกิดเรื่องแบบนี้จะอารมณ์ดีได้อย่างไรล่ะ?

“อ้าวชวาง รอเดี๋ยว รอด้วย” โจนาธานรีบตามมาเดินเคียงข้างกับชีอ้าวชวาง

โจนาธานเต็มไปด้วยความสงสัย เขาอยากรู้จริงๆ ว่าสถานการณ์ของชีอ้าวชวางในตอนนี้มันเกิดอะไรขึ้น เป็นเพราะการใช้สมบัติบางอย่างเพื่อเปลี่ยนรูปร่างหรือเพราะใช้สิ่งประดิษฐ์บางอย่าง แต่เห็นชีอ้าวชวางนิ่งเงียบมากก็รู้ว่าวันนี้คงไม่ใช่โอกาสดีในการถามคำถามอย่างแน่นอน ทำได้แค่อดทนเอาไว้ก่อน

แม้ว่าชีอ้าวชวางจะเป็นห่วงพาริน่า แต่ก็รู้ว่าสุดท้ายแล้วพาริน่าจะเข้าใจ แต่กระบวนการจะถึงตอนนั้นอาจใช้เวลานานและเจ็บปวดสักหน่อย สิ่งที่นางคิดตอนนี้คือข่าวจากพาริน่าเรื่องเบื้องหลังของสถาบันดวงดาว เช่นนั้นคนที่อยู่เบื้องหลังนั้นมีจุดประสงค์อะไรกันล่ะ?

ขณะที่ชีอ้าวชวางกำลังคิดอยู่ก็มีลมพัดมาและลมปราณที่ผิดปกติก็เข้ามา ชีอ้าวชวางเงยหน้าขึ้นและก็เห็นชายลึกลับชุดขาวยืนอยู่เงียบๆ ตรงหน้า

“นั่นเจ้า ในที่สุดเจ้าก็ปรากฏตัวแล้ว” ชีอ้าวชวางมองชายตรงหน้าและความสงบก็ผุดขึ้นมาในหัวใจ

“อืม เพราะถึงเวลาแล้ว” ชายชุดขาวพูดเบาๆ “ความแข็งแกร่งในตอนนี้ของเจ้าน่าจะช่วยให้เจ้าเข้าใจสิ่งเหล่านั้นได้”

“เฮ้ เข้าใจอะไร?” โจนาธานขมวดคิ้วอย่างสงสัย ทำไมผู้ชายคนนี้ดูเหมือนว่าจะมีความสัมพันธ์ที่ดีกับชีอ้าวชวางเลย

“คืนนี้ดูเหมือนว่าเจ้าจะรู้อะไรบางอย่างนะ” ชายลึกลับชุดขาวยิ้มจางๆ “นั่งลงสิ ข้าจะเล่าทุกอย่างที่ข้ารู้ให้เจ้าฟังเอง”

หลังจากพูดเสร็จ ชายชุดขาวก็นั่งลงบนม้านั่งหินใกล้ๆ แล้วตบที่ตำแหน่งข้างๆ เขา ชีอ้าวชวางก็เดินไปนั่งลงข้างๆ ชายชุดขาวโดยไม่ลังเล

โจนาธานเบ้ปากและนั่งเก้าอี้ข้างๆ

“เจ้าเป็นใคร?” ชีอ้าวชวางมองชายชุดขาวที่อยู่ตรงหน้า ไม่รู้ว่าทำไมนางมักจะรู้สึกว่ามีความคุ้นเคยในตัวของเขา แต่ก็บอกเจาะจงไม่ได้

“ข้าหรือ…” เมื่อชายชุดขาวพูดเช่นนี้ ใบหน้าของเขาก็มืดมนลงเล็กน้อย เขาถอนหายใจเบาๆ “จริงๆ แล้ว ข้าก็ไม่รู้ว่าข้าเป็นใคร”

“หมายความว่าอย่างไร? พูดเหลวไหลอะไรกัน ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นใครหรือ เจ้าไม่ได้ความจำเสื่อมนะ!” โจนาธานได้ยินก็โต้กลับอย่างดูถูกเหยียดหยาม

“ฮ่าๆ” ชายชุดขาวหัวเราะและพูดเบาๆ “เจ้าพูดถูก ข้าไม่มีความทรงจำในอดีต ข้าจำไม่ได้จริงๆ ว่าตัวเองเป็นใคร?”

“ฮะ?” โจนาธานตะลึง เขาไม่คิดว่าคำพูดสบายๆ ของเขามันจะถูกชายชุดขาวคนนั้นทำเขาอึ้งไป

“เจ้าจำไม่ได้หรือว่าเจ้าเป็นใครมาจากไหน?” ชีอ้าวชวางถามอย่างสงสัย

“ใช่ ตอนข้าฟื้นขึ้นมา ข้าก็อยู่ในโลกนี้แล้ว แต่ข้ามักจะรู้สึกว่ามีบางอย่างเรียกข้าจากที่แห่งนั้น ข้าจึงไปที่สถาบันดวงดาวเพื่อจะผ่านหอคอยชั้นที่เก้าไปสู่มิติสูญสลาย แต่ว่า…”

“แต่เจ้ากลับได้ค้นพบใบหน้าที่แท้จริงของสถาบันดวงดาว ดังนั้นเจ้าจึงต้องต่อสู้กับผู้คนจากสถาบันดวงดาว และในท้ายที่สุดเจ้าก็เกือบจะทำลายหอคอยดวงดาวใช่หรือไม่?” ชีอ้าวชวางพูดการคาดเดาของตัวเองออกมา

“ใช่ สิ่งที่ข้าค้นพบก็คือการก้าวเข้าสู่มิติสูญสลายไม่จำเป็นต้องไปที่ชั้นเก้าของหอคอยดวงดาวก็ได้ อยู่ภายนอกก็ไปได้เช่นกัน แต่สถาบันดวงดาวได้รวบรวมพลังทั้งหมดไว้ในนี้และให้พวกเขาผ่านชั้นที่เก้าของหอคอยดวงดาว หลังจากเข้าสู่หอคอยดวงดาวชั้นที่เก้าแล้วก็น่าจะไม่ได้ไปที่แห่งนั้นแ ต่จะตายและจะถูกกลืนโดยพลังที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังของสถาบันดวงดาว” ชายชุดขาวพูดช้าๆ

“ดังนั้นเจ้าจึงได้ป้องกันไม่ให้ข้าไปที่ชั้นเก้าสินะ” ชีอ้าวชวางรับคำ

“ทำไมไม่เห็นจะปรากฏตัวขวางข้าบ้างล่ะ?” โจนาธานพึมพำ

“นั่นเป็นเพราะเจ้าให้ความรู้สึกที่คุ้นเคยแก่ข้าเสมอ ดูเหมือนข้าจะรู้จักเจ้านะ แต่ข้าจำไม่ได้ว่าเจอเจ้าจากที่ไหน ความรู้สึกคุ้นเคยมาก และทำให้ข้าคิดถึง” ชายชุดขาวมองตาของชีอ้าวชวาง

“เอ่อ เจ้ารู้ใช่หรือไม่ว่าร่างกายที่แท้จริงของชีอ้าวชวางเป็นผู้หญิงสวยถึงได้พูดสิ่งเหล่านี้” โจนาธานขัดจังหวะชายชุดขาวอย่างดูถูก เขาแน่ใจว่าชายชุดขาวคนนี้เห็นทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในป่าแล้ว และเขาน่าจะรู้ด้วยว่าชีอ้าวชวางเป็นผู้หญิงที่สวยจริงๆ

“ฮ่าๆ” ชายชุดขาวหัวเราะอย่างไม่ใส่ใจ

ชีอ้าวชวางกลับไม่ได้เข้าใจในแบบที่โจนาธานพูด เพราะไม่เพียงแต่ชายชุดขาวเท่านั้นที่มีความรู้สึกนี้ นางเองก็มีความรู้สึกนี้ด้วย! นางรู้สึกอยู่เสมอว่าคนตรงหน้าดูคุ้นเคย แต่นางก็ไม่เคยเห็นเขา ความรู้สึกนี้แปลกและละเอียดอ่อนมากๆ

“ในตอนนั้น ข้าต่อสู้กับคนจากสถาบันดวงดาว ข้ารู้ว่าคนเหล่านี้กำลังจะบางอย่างเพื่อกองกำลังที่อยู่เบื้องหลังพวกเขาและรวบรวมคนที่ทรงพลังเหล่านี้ไว้ จุดประสงค์ในการเปิดสถาบันดวงดาวคือการทำเช่นนั้น แต่ตลอดมามีคนที่มีคุณสมบัติดีน้อยเกินไป พอคราวนี้เจ้าปรากฏตัวขึ้น และยังมีไดทันส์กับโจนาธานอีก ตอนนี้ผู้อำนวยการกำลังรอคอยพวกเขาอยู่ ดูเหมือนว่าพวกเขาจะต้องหาคนให้ได้เพียงพอนะ” ชายชุดขาวพูดด้วยน้ำเสียงที่ลึกล้ำ

“ดูเหมือนพวกเขาจะมาจากที่แห่งนั้นนะ ไม่ใช่ว่าหลังจากเข้าไปแล้วจะกลับมาไม่ได้หรือ? แต่คนเหล่านี้ลงมาได้” ชีอ้าวชวางคิด

“น่าจะเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังพวกเขามากกว่าที่ทำได้และลดความแข็งแกร่งของพวกเขา ดังนั้นพวกเขาจึงมาได้” ชายชุดขาววิเคราะห์

“ตอนนี้ สิ่งที่สำคัญที่สุดคืออะรไร?” โจนาธานขัดจังหวะการสนทนาระหว่างทั้งสองคนอย่างไม่พอใจ เขารู้สึกว่าบรรยากาศที่กลมกลืนกันระหว่างชีอ้าวชวางและชายชุดขาวทำให้เขาไม่พอใจมาก

“สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการทำลายแผนของสถาบันดวงดาวและเปิดเผยใบหน้าที่แท้จริงของหอคอยดวงดาว ข้าแอบเข้าไปในชั้นเก้าอยู่หลายครั้ง และพบรูปแบบมากมายที่ถูกทำลายไปแล้ว แต่ที่ใหญ่ที่สุดคือต้องการใครสักคนมาเชื่อมต่อกับข้า” ชายชุดขาวพูดถึงตรงนี้และสายตาของเขาก็มองไปทางชีอ้าวชวาง

ชีอ้าวชวางเข้าใจว่าชายในชุดขาวต้องการความร่วมมือจากนาง ชีอ้าวชวางจึงพยักหน้าตกลง

“กำจัดสิ่งนี้และกำจัดการแทรกแซงของสถาบันดวงดาว แบบนี้ก็จะเข้าสู่ที่แห่งนั้นได้อย่างราบรื่น” ชายชุดขาวพูด

“ใช่ ข้าจำเป็นต้องไปที่แห่งนั้น” ชีอ้าวชวางพยักหน้าแล้วพูดอย่างเคร่งขรึมและหนักแน่น

“เพราะมีคนรอเจ้าอยู่ใช่หรือไม่?” ชายชุดขาวถามพร้อมรอยยิ้ม

ชีอ้าวชวางยิ้มและพยักหน้าเบาๆ “ใช่”

ชายชุดขาวยิ้มจางๆ และไม่พูดอะไรอีก แต่หัวใจของเขากลับรู้สึกว่างเปล่า

“เอาละ เจ้าบอกมาสิว่าจะเริ่มเมื่อไหร่?” โจนาธานแทรกขึ้นมาอีกครั้ง ในใจขอเขารู้สึกไม่พอใจชายชุดขาวเป็นอย่างมาก ต้องสนิทสนมใกล้ชิดกับชีอ้าวชวางขนาดนี้หรือ? จริงๆ เลย!

“ใจเย็นๆ สิ อีกอย่างนะ เรื่องนี้ต้องจัดการอย่างลับๆ” ชายชุดขาวยิ้มและพูดกับชีอ้าวชวาง “แล้วก็เอาผู้ติดตามส่วนตัวของเจ้าไปด้วยสิ พลังของเขาไม่น้อยเลย เขาเข้าไปที่แห่งนั้นพร้อมกับพวกเราได้”

“อะไรนะ? เขาแข็งแกร่งมากขนาดนั้นเลยหรือ?” โจนาธานรู้สึกไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่

“เขาเก็บซ่อนความแข็งแกร่งของเขาไว้” ชายชุดขาวยืนขึ้นและมองเส้นทางในเวลากลางคืน “หนึ่งสัปดาห์หลังจากนี้ เราไปพบกันที่ทางเข้าชั้นเก้าของหอคอยดวงดาวนะ”

“ตกลง แล้วเจอกัน!” ชีอ้าวชวางก็ลุกขึ้นยืนและเอ่ยตกลง

โจนาธานไม่ได้พูดอะไร เขารู้สึกเหมือนทั้งสองเป็นคู่รักแล้วนัดเดทกันอยู่อย่างไรอย่างนั้น

สายลมพัดมาแล้วชายชุดขาวก็หายตัวไป ชีอ้าวชวางถอนหายใจยาวๆ แล้วหันหลังเดินไปที่หอพัก

“อ้าวชวาง อ้าวชวาง เจ้า…” โจนาธานพยายามคิดหาหัวข้อ ชีอ้าวชวางหันกลับมามองที่เขาอย่างสงสัย และเขาก็กลั้นใจอยู่นานกว่าจะพูดออกไป “เจ้า เจ้าหิวหรือไม่? เราไปกินมื้อดึกกันเถอะ” พอเขาพูดประโยคนี้เสร็จก็แทบกัดลิ้นตัวเอง นี่มันอะไรกัน! เดิมทีเขาต้องการจะคุยกับชีอ้าวชวางให้มากขึ้น แต่กลับพูดได้แค่เรื่องไร้สาระเช่นนี้