ตอนที่ 557 ดูแล ร่วมเรียงเคียงหมอน / ตอนที่ 558 หัวใจสับสน ความรู้สึกสับสน

ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ

ตอนที่ 557 ดูแล ร่วมเรียงเคียงหมอน

 

 

ปัญหานี้ทำเอาลู่เสวี่ยเฉินสับสนอยู่นานสองนานจนกระทั่งเขารู้สึกเวียนหัวถึงได้เข้าสู่ห้วงนิทรา

 

 

ในขณะที่หลินจยาอวี่กำลังงัวเงียก็รู้สึกถึงความร้อน

 

 

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นมา ปรากฏแสงสีขาวซึ่งฟ้าใกล้สว่างแล้ว

 

 

ลู่เสวี่ยเฉินซบหน้าพ่นลมหายใจแถวลำคอของเธอ ไอร้อนทั้งหมดกระทบคอและใบหน้าของเธอ ร้อนลวกราวกับน้ำที่กำลังเดือด

 

 

ถึงว่าทำไมเธอรู้สึกร้อน

 

 

ข้างนอกยังคงมีฝนตกอยู่และฝนก็ยิ่งตกหนักขึ้นเรื่อยๆ และมันกำลังสาดกระทบหน้าต่างเสียงดัง

 

 

หลินจยาอวี่อยากจะผลักลู่เสวี่ยเฉินออกไปแต่กลับพบว่าตัวเขาร้อนจี๋

 

 

หรือว่าตากฝนเลยเป็นไข้ หลินจยาอวี่ยื่นมือลูบหน้าผากของลู่เสวี่ยเฉิน เป็นไข้ตัวร้อนจี๋จริงๆ ด้วย

 

 

หลินจยาอวี่ผุดลุกนั่งประคองเอวลงจากเตียงไปหยิบยาลอดไข้หวัดมาเพื่อต้องการปลุกให้ลู่เสวี่ยเฉินตื่นมากินยา

 

 

ลู่เสวี่ยเฉินสะลืมสะลือลืมตามองหลินจยาอวี่ด้วยความงุนงง จากนั้นเอ่ยถาม “ทำไมเหรอ”

 

 

น้ำเสียงมีความแหบเล็กน้อย

 

 

หลินจยาอวี่ตอบเสียงเบา “คุณไข้ขึ้นค่ะ รีบกินยาสิ”

 

 

ลู่เสวี่ยเฉินนวดขมับแล้วนั่งพยุงเตียงลุกนั่งรับยาลดไข้ที่หลินจยาอวี่ส่งให้มากินแล้วดื่มน้ำตาม “ผมปลุกคุณตื่นหรือเปล่า”

 

 

หลินจยาอวี่ส่ายหน้า “ฟ้าใกล้แจ้งแล้วฉันต้องตื่นอยู่ดี ก็เลยไม่ถือว่าคุณปลุกฉันตื่นหรอก คุณนอนต่อเถอะ นอนสักตื่นเดี๋ยวพรุ่งนี้ก็ดีขึ้นแล้ว”

 

 

ลู่เสวี่ยเฉินวางแก้วในมือลงที่ตู้ข้างเตียงจากนั้นล้มตัวลงนอนอีกครั้ง เมื่อเห็นหลินจยาอวี่กำลังจะหันหลังออกไปเขาก็ดึงมือเธอเอาไว้ “คุณจะไปไหน”

 

 

“ฉันจะไปปิดไฟหัวเตียงให้น่ะ คุณรีบนอนเถอะ”

 

 

หลินจยาอวี่พูดพลางช่วยคลุมผ้าห่มให้เขา

 

 

พวกเขาต่างห่มผ้ากันคนละผืนแต่ผ้าห่มก็ไม่ได้หนามาก ตอนนี้ลู่เสวี่ยเฉินไข้ขึ้นก็ไม่รู้ว่าหนาวหรือเปล่า

 

 

หลินจยาอวี่คลี่ผ้าห่มตัวเองคลุมทับผ้าห่มลู่เสวี่ยเฉินครึ่งหนึ่ง “ห่มผ้าห่มฉันด้วย”

 

 

หลังจากที่เธอนอนลง ลู่เสวี่ยเฉินก็เลิกผ้าห่มออกและคลุมครึ่งหนึ่งไว้บนตัวหลินจยาอวี่ “ห่มด้วยกันสิ”

 

 

หากเป็นเมื่อก่อนหลินจยาอวี่คงไม่ยอมตกลงแน่ๆ

 

 

แต่ตอนนี้เธอมองว่าลู่เสวี่ยเฉินเป็นเพื่อนคนหนึ่งแล้ว เพื่อนสนิทที่คล้ายหลินจยาอวี่ปกติก็ไม่ค่อยดูแลสักเท่าไหร่

 

 

“โอเค คุณรีบนอนเถอะ” มือสะบัดผ้าห่มตรงกลางพยายามแยกออกเป็นสองส่วน

 

 

ผลก็คือแขนของเธอถูกลู่เสวี่ยเฉินกอดเอาไว้ ชายหนุ่มถูไถซุกเข้าหาเธอ “ตัวคุณเย็นมาก สบายดีจัง”

 

 

หลินจยาอวี่ “…”

 

 

ด้วยความที่กำลังตั้งครรภ์อุณหภูมิร่างกายเธอสูงมากพออยู่แล้ว

 

 

สาเหตุที่ลู่เสวี่ยเฉินรู้สึกหนาวเพราะอุณหภูมิในร่างกายของเขาสูงเกินไป

 

 

หวังว่าหลังจากเขากินยาแล้วนอนหลับสักตื่นอาการจะดีขึ้น

 

 

หลินจยาอวี่ถูกเขากอดแขนจนอึดอัดจึงอดคิดดึงมือออกมาไม่ได้ แต่พอเธอกำลังขยับลู่เสวี่ยเฉินกลับ

 

 

กอดแน่นกว่าเดิม

 

 

ข้างหลังยังคว้ามือเธอไปแนบใบหน้าเหมือนแผ่นเจลลดไข้

 

 

เมื่อรู้สึกถึงความเย็น เขาจึงถอนหายใจในลำคอออกมาโดยไม่รู้ตัว

 

 

ความอบอุ่นในมือแผ่จากแขนของเธอไปจนถึงหัวใจแล้วแพร่กระจายไปทั่วทั้งร่าง ทันใดนั้นหลินจยาอวี่รู้สึกไม่สงบ

 

 

หัวใจเต้นเร็วขึ้นปรับไม่ได้แถมมีไข้ขึ้นหน้า ควบคุมตัวเองไม่ได้!

 

 

ฮอร์โมนที่พลุ่งพล่านในร่างกายของชายหนุ่มทำให้หัวใจของเธอเต้นเร็วโดยไม่รู้ตัว อีกทั้งมีอาการคันยุบยิบราวกับโดนอะไรบางอย่าง…

 

 

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 558 หัวใจสับสน ความรู้สึกสับสน

 

 

หลินจยาอวี่ตัวแข็งทื่อไม่ขยับ พยายามหายใจเบาๆ เพราะกลัวลู่เสวี่ยเฉินรู้เข้าว่าตัวเองกำลังประหม่า

 

 

ผ่านไปหลายนาที ลู่เสวี่ยเฉินก็นอนกอดแขนเธอหลับไปทั้งอย่างนั้น หลินจยาอวี่อยากดึงแขนตัวเองกลับมา

 

 

แต่ลู่เสวี่ยเฉินใช้แรงเยอะจนเธอไม่กล้าออกแรงกลัวว่าจะทำให้ลู่เสวี่ยเฉินตื่น จึงทำได้เพียงปล่อยเอาไว้แบบนั้น จากนั้นหลับตานอนบังคับให้ตัวเองผ่อนคลายแล้วหลับไปในที่สุด

 

 

ในขณะที่กำลังสะลึมสะลือกึ่งหลับกึ่งฝัน เธอรู้สึกได้ว่าคันแถวคอยุบยิบ

 

 

เธอค่อยๆ ลืมตาแล้วเห็นใบหน้าหล่อเหลาของชายหนุ่ม

 

 

หลินจยาอวี่สะดุ้งตกใจ

 

 

ไม่รู้ว่าลู่เสวี่ยเฉินขยับเข้าใกล้ตั้งแต่เมื่อไหร่ เขาหลับไม่สนิทขมวดคิ้วมุ่น เหงื่อกาฬผุดเต็มหน้าผาก ใบหน้าเข้ามาใกล้ลำคอของเธอจนริมฝีปากสัมผัสผิวของเธออย่างจัง

 

 

แขนแข็งแกร่งของเขาซุกใต้หน้าอกของเธอ ผิวที่สัมผัสกันพาลอ่อนนุ่ม

 

 

“ลู่เสวี่ยเฉิน…”

 

 

เธอเรียกเขาแต่ชายหนุ่มยังคงไข้ขึ้นตัวร้อนจี๋หลับอยู่ไม่มีการตอบสนองใดๆ

 

 

แม้เธอจะเคยมีแฟนมาก่อนแถมตอนนี้ยังท้องแล้วแต่เอก็ไม่เคยแนบชิดกับหลี่หนานเซิงขนาดนี้ อีกทั้งกับผู้ชายที่ทำเธอท้อง ตอนนั้นเธอเมามากในภาพความทรงจำอันพร่าเบลอก็ไม่ได้สนิทแนบแน่นเช่นนี้

 

 

หลินจยาอวี่ใจเต้นโครมคราม ใบหน้าแดงเรื่อลามไปถึงหู เธอจึงผลักลู่เสวี่ยเฉินออกอีกครั้ง “ลู่เสวี่ยเฉิน คุณปล่อยได้แล้ว…”

 

 

ลู่เสวี่ยเฉินกระตุกคิ้วขยับแต่ก็ยังไม่ตื่น เขาเหมือนคนเป็นโรคขาดความอบอุ่นกระหายอ้อมกอดจึงขยับแขนกอดหลินจยาอวี่แน่นขึ้นกว่าเดิม

 

 

จากนั้นราวกับริมฝีปากของเขากำลังมองหาแหล่งน้ำจึงจูบลำคอระหงส์ของเธอ

 

 

หลินจยาอวี่ตกใจเบิกตาโตพยายามกระซิบเรียกเขาเบาๆ “ลู่เสวี่ยเฉิน คุณตื่นเดี๋ยวนี้…”

 

 

ในน้ำเสียงร้อนรนย้อมไปด้วยความตื่นกลัวแต่ต่อต้าน

 

 

แต่ชายหนุ่มที่หลับลึกกลับดูเหมือนไม่รู้สึกตัวพรมจูบอ้อยอิ่งจนในที่สุดก็กดจูบริมฝีปากของเธอ

 

 

หลินจยาอวี่สะดุ้งเล็กน้อยไม่กล้าขยับ ปล่อยให้ความร้อนแผดเผาของเขาห่อหุ้มร่างกายของเธอจนรู้สึกวูบวาบอ่อนระทวยแม้กระทั่งแขนยังยกไม่ขึ้น

 

 

 

 

อวี๋กานกานทำงานมาได้ระยะหนึ่งแล้ว หลังจากทำงานก็เริ่มยุ่งมากขึ้นเรื่อยๆ ช่วงนี้คนไข้ของเธอก็เพิ่มมากขึ้น

 

 

วันนี้ยังเหลือคนไข้อีกสองรายก็เลิกงานแล้ว

 

 

อวี๋กานกานขยับคอแล้วเอื้อมมือกดปุ่มเรียกบนโต๊ะ ทันใดนั้นประตูก็เปิดออก หญิงสาวร่างเพรียวระหงส์ที่มีหน้าท้องนูนขึ้นเล็กน้อยเดินเข้ามา

 

 

เมื่อเห็นเธอเข้ามาอวี๋กานกานก็อึ้งไปเล็กน้อยแล้วเอ่ยยิ้ม “จยาอวี่ เธอมาได้ยังไง”

 

 

หลินจยาอวี่นั่งลงฝั่งตรงข้ามของเธอ “วันนี้ไม่มีอะไร พอดีผ่านมาก็เลยแวะมาหาเธอ”

 

 

“เธอกำลังท้อกำลังไส้อย่าไปโรงพยาบาลบ่อยสิ ที่คลินิกก็เหมือนกัน” อวี๋กานกานรินน้ำอุ่นจากตู้กดน้ำข้างๆ หนึ่งแก้วแล้ววางตรงหน้าหลินจยาอวี่ “ยังไงเธอก็ลงทะเบียนมาแล้ว งั้นฉันถือโอกาสตรวจให้เธอก็แล้วกัน”

 

 

“โอเค” หลินจยาอวี่พูดพลางยื่นแขนมาวางบนโต๊ะ

 

 

อวี๋กานกานทาบนิ้วหรี่ตา หลังจากใช้สมาธิอยู่หลายวินาทีเธอก็เอ่ยถามหลินจยาอวี่ “เธอเป็นอะไรไป ทำไมใจถึงว้าวุ่นแบบนี้”

 

 

หลินจยาอวี่ชะงักพูดติดอ่าง “มี…มีด้วยเหรอ”

 

 

อวี๋กานกานพยักหน้ายืนยัน “มีสิ ตอนนี้จิตใจของเธอว้าวุ่นมาก ไหนบอกสิเธอมาหาฉันมีเรื่องอะไร”

 

 

“ไม่มีเรื่องอะไรหรอก ฉันอยากมากินข้าวกับเธอน่ะ” เธอเห็นสายตาไม่ค่อยอยากเชื่อของอวี๋กานกานจึงหยุดไปครู่หนึ่งแล้วพูดต่อ “คือช่วงนี้มักจะฝันไปเรื่อยเปื่อยเลยนอนค่อยหลับ”