มู่อีกล่าวตอบ “รายงานท่านผู้นำ มู่หรูเหยียนหนีไปแล้วขอรับ”
มู่หรูเหยียนเป็นสตรีฉลาด เมื่อเห็นว่าสถานการณ์ไม่สู้ดี นางก็รีบหนีเอาตัวรอดทันที
มู่เฉียนซีกล่าวอย่างเดือดดาล “พาตัวกลับมาให้ข้า!”
สถานที่เดียวที่มู่หรูเหยียนจะไปพึ่งพิงได้คือตำหนักองค์รัชทายาท สำหรับองค์รัชทายาทซวนหยวนหลี่ซางนั้น เขารักและทะนุถนอมนางยิ่งนัก
ซวนหยวนหลี่ซางโกรธมากเมื่อองครักษ์เงาตระกูลมู่บุกเข้าไปในตำหนักของเขา “มู่เฉียนซี เจ้ากล้าแตะต้องเหยียนเอ๋อร์ก็ลองดู!”
มู่เฉียนซีกล่าว น้ำเสียงนางเด็ดขาด “ปู่ของมู่หรูเหยียนทําเรื่องทรยศในตระกูลของข้า มู่หรูเหยียนก็เข้าร่วมด้วย วันนี้ข้าจะไม่ปล่อยนางไปแน่”
ซวนหยวนหลี่ซาง “เหยียนเอ๋อร์ถูกขับไล่ออกจากตระกูลมู่แล้ว ตอนนี้นางเป็นชายาของข้า หากเจ้ากล้าที่จะแตะต้องนางแม้แต่ปลายเล็บ เช่นนั้นเจ้าก็จะเป็นศัตรูกับราชวงศ์ซวนหยวน”
“ฮือ ๆ ๆ ท่านพี่หลี่ซาง ความจริงแล้วท่านไม่จําเป็นต้องปกป้องข้าเช่นนี้เลย หรูเหยียนสมควรตาย…” มู่หรูเหยียนได้ที กล่าวอย่างน่าสงสาร นางกล่าวออกมาทั้งน้ำตา ทําให้ซวนหยวนหลี่ซางรู้สึกเจ็บปวดหัวใจ
มู่เฉียนซีไม่มีทางที่จะสงสารสตรีผู้นี้ นางกล่าวขึ้น “องค์รัชทายาท มู่หรูเหยียนนางทรยศ วันนี้ข้าจะต้องฆ่านางให้ได้”
เมื่อกระบี่มังกรเพลิงฟาดฟันเข้าใส่มู่หรูเหยียน ซวนหยวนหลี่ซางก็รีบให้องครักษ์ของเขาช่วยป้องกัน
— ฉึก! —
เสียงหนึ่งดังขึ้น ทั้งสองฝ่ายเริ่มสู้กัน
— ปัง! —
องครักษ์ขององค์รัชทายาท ไม่มีทางสู้องครักษ์เงาตระกูลมู่ที่ผ่านการเลื่อนขั้นเป็นระดับจักรพรรดิได้
ซวนหยวนหลี่ซางกล่าวขอร้องขึ้นมาว่า… “มู่เฉียนซี ต้องทำอย่างไรเจ้าถึงจะยอมปล่อยเหยียนเอ๋อร์ไป แม้ว่านางจะมีส่วนร่วมในการกบฏของผู้เฒ่าตระกูลมู่ แต่นั่นก็เพราะถูกปู่ของนางล่อลวง เจ้าปล่อยเหยียนเอ๋อร์ไปไม่ได้หรือ ?”
มู่หรูเหยียนร้องไห้ไปด้วยกล่าวไปด้วย “ฮือ ๆ ๆ… ท่านพี่หลี่ซางให้ซีเอ๋อร์ฆ่าข้าเถอะ มันเป็นความผิดของข้า เป็นความผิดของข้าเอง…”
ซวนหยวนหลี่ซางโกรธเกรี้ยว เขาเลือกที่จะต่อว่า “มู่เฉียนซี เจ้ามันเป็นปีศาจที่ฆ่าคนคนหนึ่งได้โดยไม่กะพริบตา เจ้าปีศาจ!”
ในเวลานั้นเอง กระบี่ของมู่เฉียนซีจ่อลำคอขาวเรียวของมู่หรูเหยียนอย่างว่องไว สายตาเย็นชาของนางจับจ้องไปที่ดวงตาน่าสงสารของมู่หรูเหยียนไม่วางตา
มู่หรูเหยียนแสร้งทําเป็นเข้มแข็ง “ซีเอ๋อร์… เจ้าฆ่าข้าเถอะ! ข้าจะไม่ตอบโต้เจ้าเลย”
ทว่าหลังจากกล่าวไปเช่นนั้น มู่หรูเหยียนล้มตัวลงสลบไป
ซวนหยวนหลี่ซางรุดเข้าไปโอบกอดมู่หรูเหยียนไว้ก่อนจะกล่าวกับมู่เฉียนซี “ผู้นำตระกูลมู่ ข้ารู้ว่าเจ้าชอบทรัพย์สินเงินทองมาก หากเจ้าไม่ฆ่าเหยียนเอ๋อร์ สิ่งของที่เจ้าชอบในตำหนักข้านี้ เจ้าเอาไปให้หมด เช่นนี้เจ้าจะพอใจหรือไม่ ?”
ได้ยินวาจานี้ขององค์รัชทายาท มู่เฉียนซียังลอบอึ้ง ต้องบอกเลยว่าสำหรับซวนหยวนหลี่ซาง เขาเป็นคนรักสตรีงามเสียยิ่งกว่าสิ่งใด ถึงได้กล้าพูดเช่นนี้ออกมา
ดวงตาของมู่เฉียนซีส่องประกายแสงสลัว หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง นางก็ยิ้ม กล่าวว่า “ในเมื่อองค์รัชทายาทของเราใจกว้างเช่นนี้ อืม… ข้าเคารพการตัดสินใจและไว้ชีวิตนางก็ได้ เห็นแก่ที่องค์รัชทายาทรักพระชายาของพระองค์มากถึงเพียงนั้น วันนี้ข้าจะไม่ฆ่ามู่หรูเหยียนแล้วก็ได้”
ด้านหลังมู่หรูเหยียนยังมีปลาตัวใหญ่อยู่ วันนี้นางมาที่นี่เพื่อทดสอบมู่หรูเหยียนเท่านั้น นางคิดไม่ถึงเลยว่าองค์รัชทายาทจะออกหน้าเพื่อสตรีงาม ตั้งตนเป็นโล่ป้องกันให้มู่หรูเหยียน
มู่เฉียนซีโบกมือ กล่าวว่า “มู่อี ทุกคนคงได้ยินคําพูดขององค์รัชทายาทแล้ว ลงมือ!”
“ขอรับ”
ไม่รอช้า มู่อีและพวกกล่าวตอบรับทันที
ขณะนี้ ทั่วทั้งตําหนักตะวันออกราวกับถูกยกเค้า สิ่งของมีค่าใด ๆ ล้วนถูกนำเอาไป เหลือเพียงตําหนักตะวันออกที่ดูว่างเปล่า หากไม่ใช่เพราะตําหนักตะวันออกรื้อถอนได้ยาก เกรงว่าพวกเขาคงจะรื้อถอนตําหนักตะวันออกไปแล้ว
เมื่อเห็นตำหนักองค์รัชทายาทว่างเปล่า ซวนหยวนหลี่ซางโกรธจนควันออกหู “มู่เฉียนซี! เจ้าช่างร้ายกาจจริง ๆ”
“เจ้ามันสตรีชั่ว รังแกผู้คนมากไปแล้ว”
“อื้อ…” เสียงมู่หรูเหยียนดังขึ้น
เวลานี้มู่หรูเหยียนฟื้นคืนสติ เมื่อนางทราบสถานการณ์ของตําหนักองค์รัชทายาท นางรีบลุกขึ้นยืนอย่างเด็ดเดี่ยวก่อนจะกล่าวว่า “ท่านพี่หลี่ซาง ข้าจะไปหาซีเอ๋อร์ให้นางเอาสิ่งของกลับมาคืน ชีวิตของหรูเหยียนนี้ไร้ค่า”
ซวนหยวนหลี่ซาง “เหยียนเอ๋อร์ อย่าว่าแต่หนึ่งตําหนักตะวันออกเลย แม้แต่สิบตำหนักก็ไม่สามารถมาเทียบเจ้าได้ เจ้าอย่าไปรนหาที่ตายกับมู่เฉียนซีสตรีจิตใจดำผู้นั้นเลย”
มู่หรูเหยียนกล่าวเสียงเบา “แต่ว่าตําหนักตะวันออกเป็นเช่นนี้ องค์รัชทายาท ท่านพี่… ถ้าหากฝ่าบาททรงตําหนิ… ฮือ ๆ ๆ”
เป็นถึงองค์รัชทายาท กลับต้องมาลงเอยเช่นนี้ เสด็จพ่อจะคิดอย่างไรกับเขา ?
เพื่อปกป้องสตรีงาม เขาไม่ได้สนใจอะไรมาก เวลานี้สงบลงแล้ว ซวนหยวนหลี่ซางเริ่มรู้สึกกลัว
เสด็จพ่อจะต้องรู้สึกว่าเขาไร้ความสามารถ ไม่อาจจัดการเรื่องใหญ่ได้ บางทีอาจจะทําให้ถูกปลดจากตำแหน่งองค์รัชทายาทก็เป็นได้ น่าเสียดาย เขาไม่มีบุตรแม้แต่คนเดียว แล้วจะต่อรองกับองค์ชายคนอื่นได้อย่างไร ?
ซวนหยวนหลี่ซางยิ่งคิดก็ยิ่งตื่นตระหนก เขากล่าว “เหยียนเอ๋อร์ จะทําอย่างไรดี? หากเสด็จพ่อทรงปลดข้า เช่นนั้นข้าคงไม่สามารถปกป้องเจ้าจากมู่เฉียนซีได้อีก”
“จะทําอย่างไรดี… จะทําอย่างไรดี ? หรือว่า…” เกิดประกายเย็นเยือกในดวงตาของซวนหยวนหลี่ซาง
ใช่! เขาถูกมู่เฉียนซีทำให้ตำหนักตะวันออกของเขาส่งเสียงดังโครมครามและถูกนำเอาทรัพย์สินไปก็จริง แต่หากเขาขึ้นครองตําแหน่งฮ่องเต้ ยังจะต้องหวงแหนขยะอย่างตําหนักตะวันออกนี้อีกหรือ ?
เรื่องนี้ต้องรีบลงมือ แต่เรื่องการแย่งชิงอํานาจนั้นมิใช่เรื่องง่ายเลย
มู่หรูเหยียนกล่าวเสียงเบา “องค์รัชทายาท ท่านคงไม่…”
ซวนหยวนหลี่ซางคว้าร่างมู่หรูเหยียนอย่างตื่นเต้น กล่าวว่า “เหยียนเอ๋อร์ ตราบใดที่ข้ากลายเป็นฮ่องเต้แห่งแคว้นจื่อเยี่ย เจ้าจะกลายเป็นฮองเฮาของข้า เช่นนั้นไม่ว่าองครักษ์เงาข้างกายนางมู่เฉียนซีจะแข็งแกร่งเพียงใด ก็ไม่กล้ายั่วยุราชวงศ์ซวนหยวนแน่นอน”
เมื่อแคว้นจื่อเยี่ยล่มสลาย แคว้นชิงที่คิดจะกลืนกินแคว้นจื่อเยี่ยมาตลอด ก็จะเริ่มกระทําการ ตระกูลมู่จะไม่สามารถอยู่ได้อย่างสงบภายใต้การปกครองของแคว้นจื่อเยี่ย
ทว่าแม้มู่เฉียนซีจะเป็นที่รังเกียจของราชวงศ์ซวนหยวน นางก็ไม่ได้วางยาพิษพวกเขา
“เหยียนเอ๋อร์ เจ้าจะต้องช่วยข้า เจ้ามีอาจารย์ที่ทรงพลังมากไม่ใช่หรือ ?” ซวนหยวนหลี่ซางคว้าร่างมู่หรูเหยียนก่อนจะกล่าวอย่างหนักแน่น
คนของเขามีความแข็งแกร่งไม่เพียงพอ สิ่งเดียวที่เขาคิดได้ก็คืออาจารย์ลึกลับที่มู่หรูเหยียนพูดถึงเป็นครั้งคราว
มู่หรูเหยียน “ท่านพี่หลี่ซางทําเพื่อข้ามากมาย หรูเหยียนต่อให้ตายก็จะขอความช่วยเหลือจากอาจารย์ให้ท่านพี่”
เงาสีขาวของมู่หรูเหยียนลอยออกจากตำหนักองค์รัชทายาท
……
“ผู้นำตระกูล ผู้น้อยทําไม่สำเร็จ จับมู่หรูเหยียนไว้ไม่ได้” มู่ซานมารายงาน
มุมปากของมู่เฉียนซีโค้งขึ้นเล็กน้อย “มู่หรูเหยียนหลุดพ้นจากการติดตามของเจ้า ดูเหมือนว่าจะมีจักรพรรดิเป็นโล่กำบังอยู่ องค์รัชทายาทจะทําอะไรต่อไปกันแน่ ?”
กระต่ายเมื่อถึงตาจนก็กัดคนได้! บัดนี้องค์รัชทายาทมาถึงทางตันแล้ว จะทําอะไรร้ายแรงก็มิใช่เรื่องแปลก
มู่เฉียนซีกล่าว “จับตาดูตำหนักองค์รัชทายาทและเฝ้าดูการเปลี่ยนแปลงให้ดี ๆ”
“ขอรับ”
“ท่านพี่หลี่ซาง” เพียงไม่นาน มู่หรูเหยียนก็กลับมา
“เป็นอย่างไร ? อาจารย์เจ้าตอบตกลงหรือไม่ ?” ซวนหยวนหลี่ซางกอดร่างสีขาวอย่างตื่นเต้น
มู่หรูเหยียนพยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะกล่าวว่า “ท่านอาจารย์รับปากแล้ว”
“เช่นนั้นแล้วอาจารย์ของเจ้าล่ะ ?”
องค์รัชทายาทมองไปรอบ ๆ เขารู้สึกผิดหวังเล็กน้อย มีเพียงมู่หรูเหยียนเท่านั้นที่อยู่ ณ ที่นี้ มู่หรูเหยียนหยิบกล่องหยกดําออกมา กล่าวว่า “อาจารย์บอกว่าขอเพียงเรามีสิ่งนี้ก็ทําได้แล้ว”
.