บทที่ 551 เรื่องน่าเศร้าของเจ้า
ชายชราทำตัวไม่ถูก “ตอนนี้ พวกเขาคงรู้ว่าท่านอยู่ที่นี่แล้วอย่างแน่นอน อีกทั้ง สิ่งที่พวกเราทำก่อหน้านี้ ทำให้จวนผู้สำเร็จราชการตอนนี้มีการป้องกันอย่างแน่นหนาพ่ะย่ะค่ะ” มันยากมากที่จะบุกเข้าไปที่นั่น
หากฮ่องเต้ไม่มีปัญหาขัดแย้งกับจวนของผู้สำเร็จราชการมาก่อน ฮ่องเต้อาจจะยังเข้าไปในจวนแห่งนั้นได้ แต่ตอนนี้ จวนของผู้สำเร็จราชการนั้นไม่สนใจฮ่องเต้โดยสิ้นเชิง นอกจากนี้ ยังเพิกเฉยต่อคำสั่งของเขาอีกด้วย
ซ่งลี่หรี่ตาลง ทันใดนั้น นางก็มองชายชราก่อนจะพูดขึ้น “คนๆ นั้นอยู่ในจวนของผู้สำเร็จราชการด้วยหรือ” ชายผู้นั้นหายตัวไปเป็นเวลานานแล้ว จนถึงตอนนี้ พวกเขาก็ยังตามหาไม่เจอ ดูเหมือนว่าเขาอาจจะอยู่ในจวนแห่งนั้นก็เป็นได้
ชายชราผงกศีรษะ “อาจเป็นไปได้พ่ะย่ะค่ะ แต่ตอนนี้ก็ยังไม่มีข่าวใดๆ ยืนยันเลยว่าเขาอยู่ที่นั่นจริงหรือไม่”
ซ่งลี่หงุดหงิดที่อีกฝ่ายไม่มั่นใจ ‘เขาไม่เคยรู้เรื่องอะไรเลย แล้วมีเรื่องไหนที่เขารู้บ้างเล่า’
“พระสนม…”
“ไม่ต้องพูด ข้ารู้ว่าต้องทำอย่างไร” ซ่งลี่พูดขัด ในเมื่อคนอื่นๆ ไม่อาจลักลอบเข้าไปได้ นางก็จะเป็นคนที่จะเข้าไปในนั้นเอง
ซ่งลี่ต้องการเห็นว่าคนพวกนั้นจะซ่อนตัวได้อีกนานเพียงใดกัน
ชายชราไม่เอ่ยคำใดต่อ เขาเพียงแค่โค้งคำนับและยืนอยู่ข้างๆ
ในจวนของผู้สำเร็จราชการ ชิงซวงกำลังรักษาบาดแผลให้ผู้ใต้บังคับบัญชาของอู๋โยวอย่างตั้งอกตั้งใจ นางรักษาเอ็นร้อยหวายของเขาให้เชื่อมติดกันแล้ว และอาจจะต้องใช้เวลาฟื้นตัวอีกสักพัก แต่ทว่าทักษะการต่อสู้นั้นไม่อาจจะกลับมาเหมือนเดิมได้อีก นอกจานี้ บาดแผลตรงหัวไหล่ของเขายังรักษายากอีกด้วย เพราะหากตะขอเหล็กตรงนั้นถูกดึงออก ร่างกายของเขาก็จะได้รับอันตรายอย่างง่ายดาย
ชิงซวงมองตะขอเหล็กสองชิ้นนั้น ก่อนจะหันมองอู๋โยว “ความยากอยู่ตรงตะขอเหล็กที่ปักไหล่ของเขาอยู่ตอนนี้ หากดึงมันออก หัวไหล่ของเขาก็จะได้รับผลกระทบรุนแรง ท่านตัดสินใจมาเลยก็แล้วกันว่าจะให้ทำเช่นไร”
อู๋โยวครุ่นคิด และมองชายที่เนื้อตัวนั้นเต็มไปด้วยบาดแผลบนเตียงผู้นี้ จากนั้นเขาจึงสูดลมหายใจเข้าลึก “ช่วยชีวิตเขา” ขอเพียงให้เขายังมีชีวิตอยู่ก็พอ ส่วนเรื่องอื่นนั้นไม่ใช่ประเด็นสำคัญ
ชิงซวงเดินไปข้างโต๊ะ ก่อนจะเขียนรายการบางอย่างให้กับอู๋โยว “หากเจ้าสามารถหาสมุนไพรเหล่านี้ได้ บางทีข้าอาจจะทำให้เขาฟื้นตัวอย่างเต็มที่ได้”
อู๋โยวมองดูรายชื่อสมุนไพรกว่าสิบชนิด โดยบางชนิดนั้นหายากยิ่ง “ข้าจะหาวิธี” โชคดีที่เขาพอมีสมุนไพรบางชนิดอยู่บ้าง
“ดี”
ชิงซวงเดินกลับเข้าไปอีกครั้ง พร้อมกับขอให้หนานอวี่คอยช่วยเหลืออยู่ข้างๆ
หนิงเมิ่งเหยามองสีหน้าเป็นกังวลของอู๋โยว “วางใจเถอะ หากมีชิงซวงคอยดูแลอยู่ใกล้ๆ เขาจะปลอดภัย”
“ข้าเชื่อ”
หากคนอื่นเป็นผู้รักษาบาดแผลที่รุนแรงขนาดนี้ อู๋โยวคงจะได้รับการวินิจฉัยว่าชายผู้นี้ต้องพิการอย่างแน่นอน แต่ตอนนี้ไม่ใช่ น้องชายของเขายังพอมีความหวังที่จะฟื้นตัวได้ เพียงแค่นี้ก็ทำให้เขามั่นใจในฝีมือการรักษาของชิงซวงแล้ว
คืนนั้น จู่ๆ หนานอวี่ก็เดินมาตรงลานบ้านของหนิงเมิ่งเหยา ก่อนจะมองตรงไปด้านหน้าอย่างเคร่งขรึม ราวกับว่ามีอะไรบางอย่างอยู่ตรงนั้น
อู๋โยวถอยหลัง ก่อนจะเดินออกไป และมองไปทิศทางเดียวกับหนานอวี่ จากนั้นจึงพูดขึ้นอย่างแผ่วเบา “ในเมื่อเจ้ามาที่นี่แล้ว ก็ออกมาเถอะ ไม่จำเป็นต้องหลบซ่อนอีกต่อไปแล้ว”
ซ่งลี่ได้ยินเสียงของอู๋โยว จึงยอมเดินออกมาจากความมืด
“เจ้าอยู่ที่นี่นี่เอง” ซ่งลี่ขบฟันกรอด ขณะพูดและมองเขาอย่างเยือกเย็น
แววตาอู๋โยวมีรอยยิ้มจางๆ ปรากฏอยู่ ราวกับว่าสีหน้าถมึงทึงของอีกฝ่ายไม่ได้อยู่ในสายตาของเขาแม้แต่น้อย
“กลับไปกับข้า” เมื่อเห็นว่าอู๋โยวไม่พูดจา ซ่งลี่จึงพูดขึ้นอีกครั้ง
“ฮ่าๆ ตามเจ้ากลับไปเพื่อให้เจ้าเอากู่พิษใส่ในร่างกายของข้าอีกครั้งเช่นนั้นหรือ และไม่ใช่แค่ตัวเดียว แต่เป็นถึงสองตัวอีกด้วย” อู๋โยวมองอีกฝ่ายพร้อมกับพูดเสียดสีตนเอง สีหน้าของเขาดูเศร้าใจเล็กน้อย
ซ่งลี่มีท่าทีแข็งกร้าว ก่อนจะขมวดคิ้ว “เจ้าพูดเรื่องอะไรกัน ข้าไม่เข้าใจ”
“ไม่เข้าใจเช่นนั้นหรือ เจ้ากลายเป็นคนที่ไม่กล้ายอมรับผิดตั้งแต่เมื่อไหร่กัน” ชายหนุ่มมองคนตรงหน้าด้วยสายตาเย็นชาและไร้ซึ่งความอ่อนโยน
ท่าทีของนางเปลี่ยนไปทันที “หากข้าทำแล้วจะทำไม เจ้าคิดว่าจะหลุดพ้นจากเงื้อมมือของข้าได้เช่นนั้นหรือ เฟยชิงเฉิง เจ้าจะต้องเป็นของข้าตลอดไป”
ร่างกายของอู๋โยวแข็งเกร็งเล็กน้อย ก่อนจะหัวเราะออกมา “เฟยชิงเฉิงตายไปนานแล้ว ตอนนี้มีเพียงแค่อู๋โยวเท่านั้น”
“ข้าไม่สนใจว่าเจ้าจะชื่ออู๋โยวหรือเฟยชิงเฉิง เจ้าต้องเป็นของข้าแต่เพียงคนเดียว” ซ่งลี่พูดอย่างเกรี้ยวกราด
เขาคิดว่าจะสามารถหลบหนีจากเงื้อมมือของนางได้พ้นเพียงเพราะเปลี่ยนชื่อเช่นนั้นหรือ ช่างเพ้อฝันยิ่งนัก
หนานอวี่มองอู๋โยว ก่อนจะเดาะลิ้น “ช่างน่าเศร้าจริงๆ ที่เจ้าหลงรักผู้หญิงประเภทนี้ได้”
บทที่ 552 เจ้าทำกับข้าเช่นนี้ได้อย่างไร
อู๋โยวยิ้มพลางพยักหน้า “มันเป็นเรื่องน่าเศร้าจริงๆ” เขาพึมพำขณะมองซ่งลี่
แววตาของชายผู้นี้ทำให้นางโกรธเคือง “อู๋โยว หากเจ้าไม่กลับไปกับข้า ข้าก็จะทำให้ทุกคนในจวนผู้สำเร็จราชการแห่งนี้ต้องรู้สึกว่าการตายไปนั้นยังดีกว่าการมีชีวิตอยู่แบบทรมาน”
“เจ้าช่างปากดีเสียจริง ข้าอยากจะรู้นักว่าเจ้าวางแผนที่จะทำให้คนในจวนแห่งนี้ตกอยู่ในสภาพเช่นนั้นได้อย่างไรกัน” หนิงเมิ่งเหยาตื่นขึ้นตอนที่ซ่งลี่มาถึงพอดี แต่มิได้เผยตัวออกมา และเมื่อได้ยินว่าอีกฝ่ายพูดจาจองหองเช่นนั้น หญิงสาวจึงหัวเราะเยาะและพูดขึ้นในทันที
นางมีสิทธิ์อะไร จึงกล้าพูดจาหยิ่งผยองถึงเพียงนี้ในเขตจวนของหนิงเมิ่งเหยา
ซ่งลี่มีท่าทีเปลี่ยนไป เมื่อเห็นอีกฝ่ายเดินออกมาจากในบ้าน
หนิงเมิ่งเหยาสวมชุดสีอ่อน และผมของนางนั้นดูกระเซอะกระเซิง คนอื่นๆ ต่างมองว่าหญิงสาวที่มีภาพลักษณ์อันธรรมดาผู้นี้ เป็นคนที่น่าทึ่งอย่างยิ่ง
“เจ้าคือนายหญิงแห่งทงเป่าไจหรือ ข้าอยากพบเจ้าอยู่พอดี” ซ่งลี่ขบฟันแน่นขณะเอ่ยขึ้น
หนิงเมิ่งเหยาเดินเข้ามายืนตรงหน้าอู๋โยวและหนานอวี่ พร้อมกับยิ้มเล็กน้อย “เจ้าเยินยอข้าเกินไป แต่องค์หญิงอย่างข้าแปลกใจยิ่งนักที่พระสนมแห่งเหมียวเจียงชอบแอบเข้ามาในจวนส่วนตัวของคนอื่นเช่นนี้”
“พี่สะใภ้ ระวังหญิงสาวผู้นี้ด้วยขอรับ” หลังจากที่หนิงเมิ่งเหยาเดินออกมา หนานอวี่ก็ดูเป็นกังวล เพราะอีกฝ่ายนั้นไม่ใช่คนธรรมดา เขาจึงกลัวว่าพี่สะใภ้ของตนจะได้รับบาดเจ็บ
หญิงสาวยิ้มพร้อมพยักหน้ารับ ก่อนจะโบกมือและเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “ไม่เป็นไร”
“รนหาที่ตาย” ซ่งลี่หาโอกาสที่จะโจมตีอีกฝ่าย
ก่อนที่ฝ่ามือเปื้อนยาพิษของซ่งลี่จะฟาดใส่หนิงเมิ่งเหยา ร่างของหญิงสาวก็พร่าเบลอและหายไปจากสายตาของซ่งลี่ ก่อนจะปรากฏตัวขึ้นด้านหลังของนาง
“ดูเหมือนว่าคำสรรเสริญเกี่ยวกับเจ้าที่ข้าเคยได้ยินมานั้นจะเชื่อถือไม่ได้” น้ำเสียงอันเย็นชาและชัดเจนของหนิงเมิ่งเหยาดังขึ้นจากด้านหลังของอีกฝ่าย
ซ่งลี่ตกตะลึงอย่างยิ่งเมื่อเห็นว่าหญิงสาวผู้นี้หายตัวไปต่อหน้าต่อตา นางคิดว่าหนิงเมิ่งเหยาเป็นเพียงคนธรรมดาที่ไม่มีทักษะการต่อสู้ใดๆ และคงจะถนัดเพียงเรื่องการค้าเท่านั้น แต่ใครจะคิดว่านางจะมีวรยุทธ์ในระดับที่น่าทึ่งเช่นนี้
ทันใดนั้น ซ่งลี่รีบหันกลับไปมองหนิงเมิ่งเหยาที่ยังคงอยู่ในสภาพเดียวกันกับตอนที่นางเพิ่งออกมา และผมเผ้าของนางก็ยังคงยุ่งเหมือนเดิม
ซ่งลี่หรี่ตาลง และจู่โจมอีกครั้งท่ามกลางสายตาของคนอื่นๆ ส่วนหนิงเมิ่งเหยานั้นเพียงแค่หลบหลีกไปมา ราวกับว่าซ่งลี่เป็นฝ่ายไล่ต้อนหญิงสาวจนไม่อาจโจมตีกลับได้ แต่ซ่งลี่รู้ดีว่าจริงๆ แล้วอีกฝ่ายเลือกที่จะไม่ลงมือโต้กลับเอง
หลังจากที่หลบเลี่ยงอยู่หลายครั้ง ในที่สุดหนิงเมิ่งเหยาก็หรี่ตามองอีกฝ่ายที่เอาแต่โจมตีอยู่อย่างนั้น “หากนี่คือความสามารถทั้งหมดที่เจ้ามี เจ้าไม่ควรจะมาที่นี่เลย”
ขณะที่ซ่งลี่กำลังรู้สึกฉงนอยู่นั้นเอง หญิงสาวก็ง้างฝ่ามือและฟาดใส่นางอย่างจัง
ซ่งลี่หลบไม่ทัน นางจึงกระอักเลือดออกมา
หนิงเมิ่งเหยามองสภาพอันสะบักสะบอมของอีกฝ่าย ก่อนจะยิ้มมุมปาก ทันใดนั้นซ่งลี่ก็เงยหน้าขึ้นมองอู๋โยว “เจ้ากลายเป็นคนเช่นนี้ไปแล้วหรือ”
อู๋โยวตกตะลึง เขาไม่เข้าใจในคำพูดของนาง
หนานอวี่มองชายที่ดูงุนงง ก่อนจะอธิบาย “นางหมายความว่าเจ้าจะมองดูพี่สะใภ้ทำร้ายนาง โดยไม่ช่วยเหลืออะไรเลยเช่นนี้หรือ”
หนังตาของอู๋โยวกระตุกขณะมองซ่งลี่ เขากำลังยิ้มเยาะตนเอง “จะให้ข้าช่วยเจ้า แล้วยอมให้เจ้าเอากู่พิษใส่ร่างข้าอีกครั้ง เพื่อไม่ให้ไปสนิทสนมกับหญิงอื่นอีกเช่นนั้นหรือ เจ้าเคยคิดหรือไม่ว่าข้าต้องทุกข์ทรมานเพียงใด เจ้าไม่เคยคิดถึงจิตใจของข้าหรอกเพราะเจ้ามันเห็นแก่ตัว แล้วทำไมข้าจะต้องช่วยเจ้าด้วยเล่า เจ้ามองว่าความรู้สึกของข้าเป็นเรื่องล้อเล่นเช่นนั้นหรือ”
“เฟยชิงเฉิง เจ้า…”
“เพราะเจ้า เจ้ารู้บ้างหรือไม่ว่าข้าต้องทนกับความเจ็บปวดเพียงใด ไม่ว่าข้าจะชื่นชอบในตัวผู้หญิง หรือแม้กระทั่งใกล้ชิดกับผู้ชาย หรือเด็กน้อยคนใด เพียงแค่ข้ามอบความรักให้ข้าก็จะเจ็บปวดอย่างมากจนไม่อยากจะมีชีวิตต่อ แต่เจ้าก็ยังทำกับข้าเช่นนั้น ซ่งลี่ ข้าอยากจะถามนักว่าทำไมเจ้าจึงทำเช่นนั้นกับข้า” หากนางบอกชายหนุ่มตรงๆ หรือขอให้เขาช่วย เขาก็อาจจะเห็นด้วยโดยไม่ลังเลเลย แต่ซ่งลี่กลับบังคับให้เขาต้องยินยอมโดยใช้วิธีที่รุนแรงเช่นนี้
ความรู้สึกทั้งหมดที่เขามีให้นางมาตลอดสิบปีนั้นพังทลายลงจนหมดสิ้นแล้ว ตอนนี้ เขาเพียงอยากรู้ว่าทำไมซ่งลี่ถึงทำกับเขาเช่นนั้น