ตอนที่ 525 ตัดสินใจ
เฉินฝานซิงดึงสวี่ชิงจือไว้ พลันเก็บสีหน้าสงสารนั้นกลับไป “ไปโรงพยาบาลกับฉัน”
“…”
สวี่ชิงจือไม่ยอมไป สายตาเต็มไปด้วยความเว้าวอน
เฉินฝานซิงมองเธอแล้วพูดขึ้น
“ฉันไม่ได้บอกว่าจะไม่ให้เก็บเขาเอาไว้ นี่เป็นครั้งแรกของเธอ แต่ฉันยิ่งไม่รู้เรื่องอะไรเลยมากกว่าเธอเสียอีก สถานการณ์เธอตอนนี้ ไม่ยอมกินให้อิ่มพักผ่อนให้เพียงพอ มันไม่ดีกับเด็กนะ ในเมื่อตัดใจทิ้งเขาไปไม่ได้ ก็ปฏิบัติต่อเขาให้ดีหน่อย”
สวี่ชิงจือกะพริบตาปริบๆ คราวนี้ถึงยอมปล่อยให้เฉินฝานซิงจูงไปแต่โดยดี
แน่นอนว่าอาหารค่ำก็ไม่ได้กินต่อ เฉินฝานซิงพาสวี่ชิงจือไปโรงพยาบาลทันที
หลังจากที่ตรวจทางนรีเวชอย่างละเอียดแล้ว ยืนยันแล้วว่าตั้งครรภ์จริง น้ำตาลในเลือดค่อนข้างต่ำ จึงได้รับการวางแผนมื้ออาหารเพื่อดูแลสารอาหารและกรดโฟลิกสำหรับหญิงตั้งครรภ์
หลังจากที่หยิบยาออกมา ในใจเฉินฝานซิงก็รู้สึกผ่อนคลายลงไปไม่น้อย
“จะเอายังไงต่อ จะบอกกับที่บ้านยังไง”
สวี่ชิงจือส่ายหน้า
เฉินฝานซิงเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองเธอด้วยสายตาจริงจังพร้อมเอ่ยถาม
“ไม่คิดจะบอกหลีม่อเหรอ”
สวี่ชิงจือหัวเราะด้วยความขมขื่น “เธอคิดว่าท่าทางตอบสนองแรกหลังจากที่เขารู้จะเป็นยังไงเหรอ”
เฉินฝานซิงขมวดคิ้ว
สวี่ชิงจือพูดต่อ “ไม่บอกเขาหรอก รอจนท้องโตจนสังเกตเห็นได้แล้ว ฉันจะไปคลอดลูกที่ต่างประเทศ”
“แต่ว่าชิงจือ เธอรู้ใช่ไหมว่าต่อไปเธอต้องพบเจอกับอะไร แล้วเด็กต้องพบเจอกับอะไรบ้าง”
สวี่ชิงจือยกมือขึ้นมากุมท้องที่ยังราบเรียบอยู่ของเธอ ดวงตาแดงก่ำ เธอส่ายหน้า ภายในแววตาเต็มไปด้วยความสับสน
“ฉันไม่รู้…ฝานซิง ตอนแรกฉันตกใจมาก แต่ก็กลับรู้สึกดีใจอย่างประหลาด มันย้อนแย้งมาก ฉันก็เคยคิดว่าจะไม่เก็บเขาไว้นะ แต่พอแค่มีความคิดนั้นแวบเข้ามา ฉันก็รู้สึกหายใจไม่ออกไปทั้งตัว…ฉันทำใจไม่ได้…ทำใจไม่ได้…ฉันตัวคนเดียว เลี้ยงเขาให้เติบโตมาเป็นเด็กที่แข็งแรงสมบูรณ์ได้…”
คำพูดของสวี่ชิงจือตะกุกตะกักไม่ต่อเนื่อง แต่สิ่งที่ควรจะเข้าใจ เฉินฝานซิงก็เข้าใจหมดทุกอย่าง
หันไปจ้องมองสวี่ชิงจืออยู่หลายวินาที สุดท้ายก็ได้แต่ถอนหายใจออกมา
“เอาละ จะปล่อยให้เธอเลี้ยงลูกคนเดียวได้ยังไง ในฐานะแม่บุญธรรม ยังไงฉันก็ต้องมีส่วนรับผิดชอบด้วย”
สวี่ชิงจือชะงักไป รู้สึกอิ่มเอมไปด้วยความโชคดีอย่างบอกไม่ถูก เธอยื่นมือออกไปจับมือของเฉินฝานซิงไว้แล้วแกว่งเบาๆ
“ขอบใจนะ สุดที่รัก”
“เอาละ ไปกันเถอะ ช่วงนี้ ถ้าบริษัทไม่ได้มีเรื่องใหญ่อะไร เธอก็พักผ่อนอยู่บ้านเถอะ”
“อื้ม”
มีเฉินฝานซิงอยู่ด้วย จิตใจของสวี่ชิงจือก็รู้สึกสว่างไสวขึ้นกว่าเดิมมาก
ทว่าความรู้สึกแบบนี้กลับอยู่ได้ไม่นานนัก ขณะที่ทั้งสองคนเพิ่งจะเดินออมาจากโถงรับรองในโรงพยาบาลก็มีคนพุ่งเข้ามา
เฉินฝานซิงเข้ามาคุ้มกันสวี่ชิงจือด้านหน้าตามสัญชาตญาณทันที
เมื่อพินิจดูให้ดีอีกครั้ง ก็พบว่ารอบตัวเต็มไปด้วยนักข่าวเรียบร้อยแล้ว
“คุณสวี่ชิงจือ คุณท้องใช่ไหม”
“เป็นที่รู้กันดีว่าตอนนี้คุณไม่มีแฟน ไม่ทราบว่าเด็กคนนี้เป็นลูกของใครเหรอ”
“คุณสวี่ชิงจือ กรุณาตอบคำถามของพวกเราหน่อยได้ไหม หรือว่าไม่รู้ว่าพ่อของเด็กคนนี้คือใคร”
สวีชิงจือหน้าเปลี่ยนสีในทันที
สายตาแหลมคมของเฉินฝานซิงจ้องไปยังนักข่าวคนนั้นพลางพูดด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็นเข้ากระดูก
“คุณระวังคำพูดคำจาหน่อย ไม่อย่างนั้น ถึงเวลาตัวเองตายเพราะอะไรจะยังไม่ทันรู้สาเหตด้วยซ้ำ”
นักข่าวคนนั้นตกใจกลัวกับแววตาและน้ำเสียงของเฉินฝานซิงจนไม่กล้าพูดอะไรอีก
นักข่าวคนอื่นยังคงไม่ยอมเลิกรา “คุณสวี่ชิงจือ รบกวนคุณช่วยไขข้อสงสัยคำถามของเราได้ไหม”
“คุณสวี่ชิงจือ…”
เฉินฝานซิงมองดูนักข่าวที่ถามปาวๆ อยู่ตรงหน้าด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ภายใจในรู้ดีแล้วว่าเรื่องนี้จะต้องมีอะไรบางอย่างไม่ปกติแน่
“พวกคุณไปได้ข่าวมาจากไหน”
“คลับปี้หวงอวี๋เล่อ มีคนเห็นกับตาว่าสวี่ชิงจือวิ่งเข้าไปในห้องน้ำ…”
เฉินฝานซิงหลับตาลง รู้สึกปวดตุบๆ ขึ้นมาในหัว
สุดท้าย เฉินฝานซิงพาสวี่ชิงจือกลับเข้าไปยังห้องรับรองวีไอพีในโรงพยาบาลเพื่อโทรหาบอดี้การ์ด กว่าจะสะสางเรื่องราวได้ก็เช้ามืดแล้ว จากนั้นจึงพาสวี่ชิงจือกลับไป
หลังจากนั้นก็เอ่ยทักทายป๋อจิ่งชวนเล็กน้อย ก่อนจะออกไปอยู่เป็นเพื่อนสวี่ชิงจือในยามดึก
สีหน้าของสวี่ชิงจือซีดขาว เฉินฝานซิงรินน้ำอุ่นมาให้เธอแก้วหนึ่งแล้ววางลงในมือเธอ
เธอจิบเข้าไปหนึ่งอึก พลางมองไปยังเฉินฝานซิงด้วยแววตาประหม่า แต่น้ำเสียงกลับหนักแน่นชัดเจน
“ฝานซิง ฉันจะไปอเมริกา”
ตอนที่ 526 เธอจะไปไหน
“ฝานซิง ฉันจะไปอเมริกา”
เฉินฝานซิงขมวดคิ้วมุ่นพลางเงยหน้าขึ้นมามองเธอ
“เมื่อไหร่”
“เร็วที่สุด หลีม่อจะต้องมาตามหาฉันแน่ ฝานซิง เขาไม่มีทางเห็นด้วยถ้าฉันจะเก็บเด็กคนนี้ไว้ ฉันจำเป็นจะต้องไปจากที่นี่ก่อนที่เขาจะมา”
เฉินฝานซิงหยิบโทรศัพท์ออกมาเปิดแอปจองตั๋วเครื่องบินลองเสิร์ชหาเที่ยวบิน
“ตั๋ววันพรุ่งนี้เช้าไม่มีแล้ว เร็วที่สุดก็ต้องพรุ่งนี้เที่ยง”
สวี่ชิงจือพยักหน้า “ฉันจะไปเก็บเสื้อผ้า”
“จะไปแบบนี้เลยเหรอ ไม่สนใจบริษัทแล้วหรือไง”
“ยกให้เป็นหน้าที่เธอก่อนนะ ส่งมอบงานไม่ทันแล้ว ไม่นานฉันจะติดต่อมาหาเธอทางออนไลน์”
–
หลังจากที่ยุ่งวุ่นวายมาทั้งคืน เช้าวันรุ่งขึ้น เฉินฝานซิงก็พาสวี่ชิงจือไปส่งที่สนามบิน
ระหว่างที่กำลังรอผ่านการตรวจสอบความปลอดภัยในสนามบินอยู่นั้น เพราะว่าต้องเข้าแถวรอ เฉินฝานซิงจึงคอยกำชับกับสวี่ชิงจือไม่หยุดว่าหลังจากเรื่องที่อยู่ลงตัวเรียบร้อยแล้วต้องรายงานเธอด้วย ทั้งยังต้องไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลตามกำหนด และต้องกินอาหารที่มีกรดโฟลิก อาหารสามมื้อก็ต้องกินให้ตรงเวลา ยิ่งไปกว่านั้นต้องหาแม่บ้านที่น่าเชื่อถือและปลอดภัยสักคนหนึ่ง อีกทั้งเรื่องต่างๆ อีกมากมาย
สวี่ชิงจือจดจำมันทีละอย่าง ระหว่างนั้นเองก็จับมือเฉินฝานซิงเอาไว้ไม่ยอมปล่อย
“บริษัทจะต้องได้รับผลกระทบแน่ ฝานซิง รบกวนเธอแล้วนะ ฉันรู้ว่าช่วงนี้เธอยุ่งมาก ยุ่งมากจริงๆ…ฉัน…ขอโทษ…”
เฉินฝานซิงส่ายหน้า “เรื่องบริษัทฉันคอยช่วยเธอดูได้ แต่เรื่องหลีม่อล่ะ ถ้าหากไปสร้างความลำบากให้กับเขาขึ้นมาจริงๆ เขาจะทำเรื่องอะไรหรือเปล่า ยังไงก็ต้องมีสักวันที่เธอต้องเผชิญหน้ากับเขา”
สวี่ชิงจือหลับตาปี๋พลางส่ายหน้าอย่างอับจนหนทาง
“ไม่รู้ ฝานซิง ตอนนี้สิ่งแรกที่ฉันต้องการก็แค่เก็บเด็กเอาไว้ให้ได้ รอให้สถานการณ์ของฉันเข้าที่เข้าทางแล้ว ฉันค่อยคิดเรื่องอื่นทีหลัง…”
เห็นท่าทางที่ร้อนรนจนทำอะไรไม่ถูกของสวี่ชิงจือ เฉินฝานซิงจึงไม่พูดอะไรต่อ เพียงแต่ปลอบโยนเธอไม่กี่คำ
แถวที่ยาวเหยียดในที่สุดก็ใกล้ถึงคิวเธอแล้ว สีหน้าของสวี่ชิงจือค่อยๆ ผ่อนคลายลงมาเล็กน้อย
มีเรื่องมากมายที่เธอยังต้องค่อยๆ นั่งคิดตรึกตรองให้ดี
ต่อไปจะตัดความสัมพันธ์กับหลีม่อยังไง ชีวิตความเป็นอยู่ของเธอในวันข้างหน้า ชีวิตของลูก ล้วนแต่ต้องเริ่มวางแผนใหม่ทั้งหมด
ขอเพียงแค่ไปจากที่นี่ให้ได้ก่อน ให้เธอมีเวลาสงบจิตสงบใจที่เพียงพอก่อน
และขณะนั้นเอง หน้าประตูสนามบิน รถหรูคันหนึ่งค่อยๆ จอดนิ่งอย่างช้าๆ ก่อนจะมีชายหนุ่มรูปร่างสูงตระหง่านโน้มตัวลงแล้วก้าวลงมาจากรถ
นั่นเป็นใบหน้าอ่อนเยาว์ที่เย็นชาและเย่อหยิ่ง นัยน์ตาดำขลับราวกับหมึก คิ้วเรียวยาว ดูเป็นคนเฉยชาไม่แยแส
ชุดสูทสีดำเข้ารูปที่เป็นระเบียบเรียบร้อยไร้รอยยับสวมอยู่ร่างกายของเขา ถึงแม้จะเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทางยาวนานที่แสนลำบาก แต่กลับไม่มีความอ่อนล้าแม้แต่น้อย
ทั้งร่างของเขาเต็มไปด้วยรังสีแห่งความน่าเกรงขรามอย่างชัดเจน สายตาเยือกเย็นจดจ้องไปยังจุดทางเข้าอาคารสนามบินตรงหน้า ดวงตาเรียวยาวหรี่ตาลงเล็กน้อยก่อนจะเยื้องย่างขาเรียวยาวคู่นั้นออกไป ใบหน้าหล่อเหลาดูเคร่งขรึม ทุกย่างก้าวที่เหยียบย่ำราวกับมีรัศมีแห่งซาตานเปล่งแสงออกมา ค่อยๆ ใกล้เข้าไปในอาคารผู้โดยสารเรื่อยๆ
“ลงเครื่องแล้วรีบโทรหาฉันเลยนะ อย่าใจร้อน ต้องระวังตัวเองให้ดี...”
เมื่อเห็นสวี่ชิงจือกำลังจะถึงคิวตรวจเช็กความปลอดภัย เฉินฝานซิงก็กำชับขึ้นมาด้วยความเป็นห่วงอีกครั้ง เอาใจใส่ทุกเรื่อง คิดอะไรออกก็บอกออกไปหมด
อย่างไรเสีย นี่ก็เป็นการตั้งท้องครั้งแรกของสวี่ชิงจือ แต่เธอเองไม่มีประสบการณ์อะไรเลยเสียยิ่งกว่า เธอรู้เพียงแต่ว่า เด็กในท้องจะต้องเป็นสิ่งที่สวยงามและล้ำค่าที่สุดที่มีอยู่บนโลกใบนี้
ผู้โดยสารด้านหน้าผ่านการตรวจเรียบร้อยแล้ว สวี่ชิงจือโบกมือให้เฉินฝานซิง
“ฉันรู้แล้ว ฉันจะระวังตัว ฝานซิง ขอบคุณนะ เธอเองก็ต้องดูแลตัวเองให้ดี ฉันไปก่อนนะ…”
มือที่ยกขึ้นมาเพิ่งวางลงไปก็ถูกใครบางคนจับเอาไว้อย่างแรง
จากนั้น เสียงที่ราวกับมาจากนรก มืดดำและเยือกเย็นก็ดังขึ้นตรงหน้าเธอ
“ไปแล้วเหรอ สวี่ชิงจือ เธอจะไปไหน”