ตอนที่ 599 แยกหน้าที่ Ink Stone_Fantasy
ในโลกสมบัติของทริสเต้
ชั้นเปลือกน้ำแข็ง
ภายในค่ายของสัตว์ประหลาดผีช่างแสนสงบ
พวกมันกำลังพักผ่อนกันอย่างเงียบๆ
เนื่องจากพวกมันเป็นทหาร เป็นเครื่องมือที่ถูกสร้างขึ้นโดยระบบ
ดังนั้นสำหรับสัตว์ประหลาดผีแล้ว การที่ระบบสามารถยกระดับขึ้นได้จึงไม่นับว่ามีความหมายใดๆ
ผลประโยชน์เพียงอย่างเดียวที่พวกสัตว์ประหลาดผีจะได้รับก็คือ สามารถมีชีวิตอยู่ได้นานขึ้น
เวลานี้ สัตว์ประหลาดผีกำลังเฝ้ารอคอยให้ระบบตื่นขึ้นมาอย่างเงียบๆ
และพวกมันจะยังคงเชื่อฟัง คอยทำตามคำสั่งของระบบต่อไป
แต่ตรงกันข้ามกับค่ายของสัตว์ประหลาดผี ห่างออกไปกว่าหนึ่งกิโลเมตร กลับครึกครื้นไปด้วยเสียงโห่ร้องสนั่นหวั่นไหว
ต้นตอของเสียง คือค่ายใหญ่ของเหล่าผู้เข้าสู่วิถีมาร
สองร้อยล้านผู้เข้าสู่วิถีมารตั้งรกรากอยู่บนพื้นน้ำแข็งขนาดมโหฬาร
พวกเขารวมตัวกันเพื่อฉลองชัยชนะในสงครามครั้งนี้ และเฝ้ารอให้ต้นกำเนิดอัปเกรดจนลุล่วง
หลายชั่วโมงก่อนหน้า ต้นกำเนิดได้เข้าสู่สภาวะจำศีล
สำหรับตอนนี้ มันกำลังอยู่ระหว่างการอัปเกรดในขั้นสุดท้าย
ระบบของราชามารได้รับสิ่งที่ตัวมันเองปรารถนามาไว้ในครอบครองแล้ว ดังนั้นสงครามจึงยุติลง
เมื่อต้นกำเนิดกลายเป็นปฏิวัติ ความแข็งแกร่งของผู้เข้าสู่วิถีมารแต่ละคนก็จะถูกยกระดับครั้งใหญ่!
พวกเขาจะได้รับฟังก์ชันเสริม
อุปกรณ์ที่ดียิ่งกว่าเดิม
ความสามารถและสกิลที่ดียิ่งขึ้น
และแน่นอน ว่านั่นคือผลตอบแทนแสนคุ้มค่าที่จะได้รับจากภารกิจ
ทั้งหมดกำลังจะปรากฏขึ้นในเร็วๆ นี้!
พวกเขาจึงเริ่มต้นฉลองชัยชนะอย่างบ้าคลั่ง
อย่างไรก็ตาม มืออาชีพบางคนก็ยังคงหวาดระแวง และไม่ลดความผ่อนคลายของตนเองลง
ดังนั้นผู้เข้าสู่วิถีมารบางคนจึงต้องพบเจอกับความโชคร้าย ถูกเลือกให้ไปคอยเฝ้าระวังอยู่นอกค่าย อดเข้าร่วมงานเลี้ยงฉลอง
งานเฝ้าระวังความปลอดภัย เป็นงานที่แสนจะน่าเบื่อหน่ายอย่างแท้จริง
จุดที่เหล่าผู้เฝ้าระวังกำลังยืนอยู่นี้ คือท่ามกลางพายุน้ำแข็ง วิสัยทัศน์ช่างย่ำแย่ จำต้องใช้หูเพ่งตรวจสอบเสียงที่อยู่รอบๆ เท่านั้น
ให้มาเฝ้ายามแบบนี้มันบ้าชัดๆ
บริเวณนี้มันเป็นพื้นน้ำแข็งโล่งๆ แล้วจะไปมีการเคลื่อนไหวเกิดขึ้นได้อย่างไร?
แม้ว่าทุกคนจะบ่นอุบอิบ แต่พวกเขาก็ยังเชื่อฟังคำสั่ง และคอยปกป้องอยู่รอบๆ ค่าย
ทันใดนั้นเอง จู่ๆ บนพื้นน้ำแข็งก็เริ่มเกิดการสั่นสะเทือน
ผู้เข้าสู่วิถีมารสะดุ้งตกใจ และเริ่มตื่นตัวทันที
โครม!
จู่ๆ พื้นน้ำแข็งก็แตกออก ปรากฏหลุมน้ำแข็งกว้างหลายเมตรขึ้นอย่างกะทันหัน
พร้อมกันกับใบหน้าดุร้ายที่ค่อยๆ ผุดขึ้นมา ตามด้วยร่างขนาดมหึมาของมัน
เป็นสัตว์ประหลาดผี
สัตว์ประหลาดผีได้ปรากฏตัวขึ้นหน้าค่ายของผู้เข้าสู่วิถีมาร!
สองผู้เข้าสู่วิถีมารเคลื่อนกายออกมาขวางมันไว้ทันที
“จงหยุด! ที่นี่คืออาณาเขตของเรา”
“แกมาทำอะไรที่นี่?”
ทั้งสองเอ่ยปากตามลำดับ
ทว่าสัตว์ประหลาดผียักษ์ไม่ตอบกลับ มันเพียงเงยหน้าขึ้นฟ้า แล้วคำรามก้องด้วยความโกรธ
เสียงคำรามของมันได้ดึงดูดความสนใจของผู้เข้าสู่วิถีมารจำนวนมากทันที
คนที่ดูเหมือนว่าจะเป็นผู้นำของผู้เข้าสู่วิถีมารได้ปรากฏตัวขึ้น
“นี่มันเรื่องอะไรกัน?” เขาเอ่ยถาม
“ไม่รู้สิ พวกเราพูดด้วยแต่มันก็ไม่สนใจเลย” คนเฝ้ายามกล่าวรายงาน
ชายที่ดูเหมือนว่าจะเป็นผู้นำก้าวแยกออกมาข้างหน้า และกล่าวด้วยรอยยิ้ม “งั้นข้าจะเป็นคนถามเอง”
“สัตว์ประหลาดผี เจ้ามาทำอะไรที่นี่?”
สัตว์ประหลาดผียักษ์คำรามลั่น “ก็กลุ่มทาสเช่นพวกเจ้าทำเสียงเอะอะมากเกินไป จนมันกระทบต่อการพักผ่อนของพวกเรา”
รอยยิ้มบนใบหน้าของคนที่เหมือนจะเป็นผู้นำค่อยๆ จางหายไป
ทาสงั้นหรือ?
นี่คือคำที่อ่อนไหวที่สุดสำหรับผู้เข้าสู่วิถีมาร
“สัตว์ประหลาดผี เจ้าต้องการอะไร?” ผู้นำพยายามถามต่อด้วยสีหน้าสงบ
สัตว์ประหลาดผียักษ์ อ้าปากกว้าง ตะโกนลั่น “นับตั้งแต่นี้ไป กลุ่มทาสอย่างพวกเจ้า จะต้องหุบปากลงเสีย ให้พวกข้าได้พักผ่อนอย่างสงบ!”
จะให้พวกเราอยู่แบบเงียบๆ งั้นหรือ?
‘เรื่องที่เสียงดังมันส่งผลกระทบต่อเจ้าข้าจะไม่พูดถึง แต่ไอ้วิธีการพูดจาเหมือนสั่งหมูสั่งหมาแบบนั้น กล้ามาทำต่อหน้าข้าได้อย่างไร?’
ผู้นำเริ่มโกรธ ปากเอ่ยหยัน “ต้องขออภัยจริงๆ พอดีว่าทางฝั่งเรามีคนที่ยังไม่ตายอยู่มากเกินไปน่ะ แตกต่างจากฝั่งของเจ้า เสียงมันก็เลยดังเป็นธรรมดา แต่ถ้าเจ้ารู้สึกว่าเสียงมันดังมากเกินไป ก็จงเป็นฝ่ายม้วนหางแล้วออกไปไกลๆ เสียเองสิ!”
ขณะเดียวกัน ผู้เข้าสู่วิถีมารโดยรอบพอได้ยินก็อดไม่ได้ที่จะสบถออกมา ช่วยกันก่นด่าสัตว์ประหลาดผี
“เป็นแค่เครื่องมือของระบบแท้ๆ แต่ยังกล้าที่จะมาเสนอหน้ากับพวกเรา”
“พวกแกมันไม่สามารถได้รับแต้มพลังวิญญาณ ไม่สามารถแลกเปลี่ยนอาวุธใดๆ จากระบบได้ด้วยซ้ำ ทำได้แค่เพียงเชื่อฟังคำสั่งแท้ๆ”
“ฉันว่าพวกแกต่างหาก ที่เหมาะสมจะถูกเรียกว่าทาส!”
“ไปให้พ้น! อย่ามาเสนอหน้ากับพวกเราอีก ยิ่งไกลยิ่งดี!”
สัตว์ประหลาดผีกวาดสายตามองผู้คนโดยรอบ และกล่าว “พวกเราจะไปก็ได้ แต่ถ้าเกิดอะไรขึ้นมา พวกเจ้าอย่ามาขอให้พวกเราปกป้องก็แล้วกัน!”
เมื่อประโยคนี้หลุดออกมา ผู้เข้าสู่วิถีมารทั้งหมดก็พลันระเบิดเสียงหัวเราะ
“สัตว์ประหลาดผีสมองใช่พิการไปแล้วหรือไร พวกเรามีกันกว่าสองร้อยล้านคนนะ”
“ใครมันจะไปต้องการให้แกมาคอยปกป้อง!”
“ไสหัวออกไปจากที่นี่เสีย!”
สัตว์ประหลาดผีไม่สนใจพวกเขาอีกต่อไป มันหันหลังและเดินกลับสู่ค่ายของตนเอง
เมื่อการเจรจาระหว่างสัตว์ประหลาดผีกับผู้เข้าสู่วิถีมารจบลง
ณ บริเวณพื้นที่ด้านหลังค่ายของสัตว์ประหลาดผี
ดาบยาวที่ดูมีรูปลักษณ์ธรรมดาๆ ได้ผุดออกมาจากใต้น้ำแข็งอย่างเงียบๆ
มันเจาะเข้าไปในชั้นน้ำแข็ง ค่อยๆ ม้วนเบาๆ และเหวี่ยงตนออกไป
เมื่ออยู่ต่อหน้าน้ำหนักว่าราวแปดสิบหกล้านจินและรังสีดาบที่แข็งกร้าว ชั้นน้ำแข็งหนาก็เปราะ ถูกเฉือนหั่นอย่างง่ายดายราวกับเป็นเพียงแผ่นกระดาษบางๆ
ดาบยาวเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว มันลากคมกล้าของตนมุ่งไปยังทิศทางฝั่งตรงข้ามกับค่ายของผู้เข้าสู่วิถีมาร ลากทำลายพื้นน้ำแข็งไปตลอดทาง เปิดเส้นทางให้แก่เช่าหยิน
หลังจากที่มันตัดชั้นน้ำลงไปในน้ำแล้ว อาณาเขตมหาสมุทรก็เริ่มก่อตัวขึ้น
แน่นอนว่าการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ที่ผิดปกตินี้ ย่อมดึงดูดความสนใจจากสัตว์ประหลาดผี
แต่พวกมันไม่มีเวลามากพอที่จะทันได้ทำอะไรเลย ก็บังเกิดการเปลี่ยนแปลงฉับพลันขึ้นเสียก่อนเสียแล้ว
เบื้องล่างพื้นน้ำแข็ง มวลน้ำมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ ค่อยๆ ยกตัวสูงขึ้น
พร้อมกันกับกระแสน้ำที่พรั่งพรูออกมาอย่างไม่รู้จบ ทั้งค่ายทั้งพื้นน้ำแข็ง ก็เริ่มถูกยกลอยขึ้นสู่ท้องฟ้า
ค่ายสัตว์ประหลาดผีถูกรายล้อมไปด้วยกระแสน้ำตลอดทุกทิศทาง!
ด้วยฉากอันยิ่งใหญ่เช่นนี้ ประจวบกับการที่พวกมันถูกยกตัวให้ลอยสูงขึ้น จึงย่อมเป็นธรรมดาที่สัตว์ประหลาดผีสามารถมองเห็นไปถึงฝั่งของผู้เข้าสู่วิถีมาร
แต่ในระยะหนึ่งกิโลเมตรที่ห่างออกไป ตนแล้วตนเล่ากลับได้ยินเพียงเสียงเย้ยหยันก่นด่า และไม่คิดจะมาตรวจสอบสถานการณ์ผิดปกติที่เกิดขึ้นแต่อย่างใด
สัตว์ประหลาดผีต่างงงงวย และไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น
มีเพียงสัตว์ประหลาดผีที่พอจะมีสมองบ้างเท่านั้น ที่เมื่อได้เห็นกระแสน้ำที่ยกตัวสูงขึ้น และเหล่าผู้เข้าสู่วิถีมารที่กำลังก่นด่าจากระยะไกล ก็สามารถสรุปสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว
กลับกลายเป็นว่านี่มันเป็นการเล่นตลกของพวกผู้เข้าสู่วิถีมาร
ไอ้เจ้าพวกระยำเอ๊ย!
อีกด้านหนึ่ง
ลึกลงไปในท้องสมุทรเบื้องล่าง
เวลาค่อยๆ ผ่านไปอย่างช้าๆ
หนึ่งลมหายใจ
สองลมหายใจ
ห้าลมหายใจ
สิบลมหายใจ
‘ถึงขีดจำกัดแล้ว!’
แม้จะได้รับการปกป้องโดยเกราะรบเทพบรรพกาล แต่เมื่อต้องอยู่ท่ามกลางทัณฑ์สายฟ้าที่อัดกันแน่น กู่ฉิงซานก็เริ่มที่จะได้รับบาดเจ็บบ้างแล้วเหมือนกัน
ทัณฑ์สายฟ้าเหลือคณาได้มาถึงเขา มันมากมายเกินกว่าที่ตนจะหลบเลี่ยงได้
รออีกต่อไปไม่ไหวแล้ว!
ร่างของกู่ฉิงซานวูบไหว เขาพุ่งออกจากทะเลลึก ตรงไปยังทิศทางค่ายสัตว์ประหลาดผี
เพียงไม่นาน เขาก็มาถึงค่ายสัตว์ประหลาดผีได้ในที่สุด
ในเวลานี้
ดาบพิภพยังคงอยู่เบื้องหน้าค่ายสัตว์ประหลาดผี สับพื้นน้ำแข็งให้แตกออก เปิดทางให้น้ำทะเลไหลขึ้นมาอย่างไม่หยุดยั้ง
ขณะที่ดาบเช่าหยินยังคงใช้ข้ามผ่านมหาสมุทรอย่างต่อเนื่อง ยกพื้นน้ำแข็งตลอดทั้งค่ายให้ลอยสูงขึ้น
มีเพียงดาบขุนเขาเทวะหกโลกาเท่านั้นที่กลับมา
“เป็นอย่างไรบ้าง?” กู่ฉิงซานเอ่ยถาม
“ข้าได้แปลงกายเป็นสัตว์ประหลาดผี และยั่วยุผู้นำของพวกมันแล้ว ทว่าหากทัณฑ์สายฟ้าปรากฏขึ้น ข้าเกรงว่าบางทีทางฝั่งผู้เข้าสู่วิถีมารอาจจะตระหนักถึงสิ่งผิดปกติ และตอบโต้กลับมาอย่างรวดเร็วก็เป็นได้”
เสียงที่ฟังดูกังวลของฉานนู่ ดังออกมาจากดาบยาว
“เจ้าหวาดกลัวอะไรหรือ?” กู่ฉิงซานถาม
“นายน้อย อีกฝ่ายมีถึงสองร้อยล้านคนนะ”
กู่ฉิงซานยิ้มและกล่าว “นั่นไม่สำคัญหรอก เมื่อครู่เจ้าถ่วงเวลาได้มากพอแล้ว นับตั้งแต่ที่กระแสน้ำได้ก่อตัวขึ้น ต่อให้ผู้เข้าสู่วิถีมารค้นพบถึงความจริง พวกมันก็ไม่อาจไล่ตามมาแทรกแซงพวกเราได้อีกต่อไป”
เขาคว้าจับดาบขุนเขาเทวะ
ไม่ใกล้ไม่ไกลจากเบื้องล่าง ทัณฑ์สายฟ้าเหลืออนันต์กำลังไล่ติดตามเขา
กู่ฉิงซานสะบัดดาบยาวออกไป ทำลายพื้นน้ำแข็ง และโบยบินขึ้นสู่ท้องฟ้า
บอลสายฟ้านับไม่ถ้วนปรากฏขึ้นจากหลุมพื้นน้ำแข็งที่เปิดออก
กู่ฉิงซานระบุเป้าหมายต่อไปในกลางอากาศ และใช้ออกด้วยย่นระยะเหลือเพียงหนึ่งนิ้วทันที
เขาหายตัวไป และปรากฏกายขึ้นอีกครั้งใจกลางค่ายสัตว์ประหลาดผีโดยตรง
“นี่มันมนุษย์ แต่ไม่ใช่ผู้เข้าสู่วิถีมาร!”
สัตว์ประหลาดผีอุทานลั่น
พวกมันเตรียมที่จะจู่โจมทันที เพื่อสังหารมนุษย์ตรงหน้าผู้นี้
แต่กู่ฉิงซานกลับไม่คิดปัดป้อง เขาเพียงยิ้มแหยๆ แสดงท่ารู้สึกผิดน้อยๆ
“ขอโทษด้วยนะ แต่ตอนนี้น่ากลัวว่าพวกแกจะมีสิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าที่จะต้องทำ คงไม่มีเวลามาฆ่าฉันหรอก”
ว่าจบ เขาก็ชี้ไปรอบๆ
แต่สัตว์ประหลาดผีไม่คิดฟังคำพล่ามไร้สาระของเขา
อย่างไรก็ตาม พวกมันก็ยังไม่ทันจะได้ลงมือ
จู่ๆ กลิ่นอายอันน่าหวาดกลัวบางอย่างก็ปรากฏขึ้นอย่างกะทันหัน กลิ่นอายนี้โชยเข้ามาปะทะกับร่างกายของพวกมันจนสั่นสะท้าน
นี่คือความหวาดกลัวโดยธรรมชาติของพวกมัน คือสิ่งที่พวกมันมิอาจต่อต้าน เป็นอำนาจฟ้าดินที่ยิ่งใหญ่มิอาจยับยั้งโดยสมบูรณ์
สัตว์ประหลาดผีกวาดสายตามองดูรอบๆ
สายฟ้าสวรรค์งั้นหรือ?
ไม่! สังหรณ์ของกลิ่นอายนี้มันร้ายแรงยิ่งกว่าสายฟ้าสวรรค์ มันทรงอำนาจยิ่งกว่าหลายเท่า!
สายฟ้าเริ่มครอบคลุมไปตลอดทั้งกระแสน้ำทะเลอย่างรวดเร็ว พริบตาเดียว ในวิสัยทัศน์ของพวกมันก็ท่วมไปด้วยประกายแสงเปรี๊ยะๆ เสียแล้ว
ไม่เพียงบอลสายฟ้าเท่านั้น แต่ยังมีแขนที่เกิดจากสายฟ้าสีแดงเข้มหลายสิบข้าง ที่ในมือถือแส้สายฟ้าปรากฏออกมาเช่นกัน
เมื่อเวลาผ่านไป สายฟ้าทั้งหมดก็เปลี่ยนรูปแบบ และผุดออกมาจากเมฆแหล่งกำเนิดโทษทัณฑ์
ตลอดทั้งค่ายถูกรายล้อมไปด้วยทัณฑ์สายฟ้า!
วินาทีต่อมา
สายฟ้าทั้งหมดที่ผุดออกมาก็ผ่าลง ฟาดเข้าใส่ตรงใจกลางค่ายสัตว์ประหลาดผี!
………………………………………………………