บทที่ 258 ฉันจะไปเดี๋ยวนี้
“ธอร์ ภารกิจดันเจี้ยนเลเวล 25 ถูกเปิดใช้งานแล้ว คุณจะเข้าร่วมการยึดครองดันเจี้ยนไหม?”
ณ เขตอเมริกาเหนือ
ธอร์มองดูกลุ่มมอนสเตอร์จากหน้าผาอย่างเงียบ ๆ จากนั้นผู้เล่นชาวตะวันตกที่มีผมสีน้ำตาลซึ่งเดินตามหลังธอร์ก็ได้พูดอย่างระมัดระวังขึ้นมา
“นายหมายถึงการเป็นกิลด์แรกที่ทำภารกิจดันเจี้ยนสำเร็จใช่ไหม? กิลด์ในเขตฮัวเซียก็อาจทำภารกิจเดียวกันในเวลาเดียวกันก็ได้”
ธอร์หรี่ตาสีทองของตัวเองเล็กน้อย และเขาก็โบกคทาอเมทิสในมือของตัวเอง ทันใดนั้นก็มีทะเลสายฟ้าก็ปรากฏขึ้นและอยู่ระหว่างกลุ่มมอนสเตอร์
จากนั้นตัวเลขความเสียหายสีแดงสามหลักก็พุ่งขึ้นมา กลุ่มมอนสเตอร์ทนได้ไม่ถึงสิบวินาที จากนั้นแถบพลังชีวิตทั้งหมดก็ถูกล้างหมด กลายเป็นของสวมใส่และค่าประสบการณ์
“ทุกเขตในเซิร์ฟเวอร์จะทำภารกิจเคลียร์ดันเจี้ยนพร้อมกัน ครั้งล่าสุด เขตฮัวเซียโชคดีพอที่จะทำภารกิจดันเจี้ยนสำเร็จเป็นกิลด์แรก แต่ครั้งนี้ มันจะไม่โชคดีแบบนั้นอีกแล้ว”
ผู้เล่นชาวตะวันตกมองด้วยความเกรงใจและกล่าวด้วยความเคารพต่อธอร์
“โชคดี?” ธอร์พูดซ้ำ
“ใช่แล้ว คุณมีพลังที่แข็งแกร่งขนาดนี้ เขตฮัวเซียไม่มีวันเอาชนะคุณได้หรอก” ผู้เล่นชาวตะวันตกยกยอธอร์
“เขตฮัวเซียไม่เพียงแต่มีโชคเท่านั้น แต่ยังมีผู้เล่นชั้นยอดที่ทรงพลังขนาดที่เรียกได้ว่าเป็นปีศาจอยู่”
ทว่าธอร์ก็ส่ายหัวแล้วพูดแบบนั้นด้วยความหวาดกลัวในดวงตาของตัวเอง ชายผมทองคนนี้จะไม่มีวันลืมการต่อสู้ครั้งสุดท้ายในอีเวนต์ล่าสมบัติของเซิร์ฟเวอร์ เขาและผู้เล่นชั้นยอดหลายสิบคนได้ล้อมนักบวชของเขตฮัวเซียคนเดียว แต่สุดท้ายก็ถูกฆ่าตายแทน
การเคลื่อนไหวของนักบวชคนนั้นราวกับผี และเขายังมีความสามารถในการหลบหลีกสูง ราวกับสามารถคาดการณ์ว่าจะเกิดอะไรขึ้นได้
นอกจากนี้ ผู้เล่นลึกลับจากเขตฮัวเซียยังสามารถสร้างตัวเลขความเสียหายที่น่ากลัวใส่ผู้อื่นได้ ทั้งหมดนี้ทำให้ผู้เล่นชั้นยอดจากเขตต่าง ๆ ในเซิร์ฟเวอร์ต่างพากันพูดไม่ออก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเสียงคำรามราวกับมังกรในตอนสุดท้ายซึ่งทำให้ทุกคนต่างตื่นตระหนก
แล้วจู่ ๆ ค้อนทองก็ทุบลงมา คร่าชีวิตผู้คนไปมากกว่าสิบคนในไม่กี่วินาที! การกระทำนี้ทำให้ผู้เล่นทุกคนที่อยู่ตรงนั้นต่างพากันตกตะลึง!
“นายหมายถึงผู้เล่นลึกลับของเขตฮัวเซียคนนั้นใช่ไหม?”
ผู้เล่นชาวตะวันตกถามอย่างระมัดระวัง แม้ว่าเขาจะเข้าร่วมในการล่าสมบัติทั่วทั้งเซิร์ฟเวอร์ แต่ก็ไม่มีคุณสมบัติที่จะได้เห็นการต่อสู้กันตัวต่อตัวครั้งสุดท้าย
นอกจากนี้ ผู้เล่นระดับสูงทั้งหมดในแต่ละเขตที่เข้าร่วมในการดวลครั้งสุดท้ายก็ไม่เต็มใจที่จะพูดถึงเรื่องนี้
หลังจากฟื้นคืนชีพ มีเพียงไม่กี่คนที่พูดถึงรายละเอียดของการดวลครั้งสุดท้าย หรือควรจะพูดถึงรายละเอียดของการสังหารหมู่ฝ่ายเดียว
ผู้เล่นชาวตะวันตกคนนี้รู้เรื่องราวภายในแค่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น นั่นคือกลุ่มผู้เล่นชั้นยอดจากที่ต่าง ๆ ล้วนถูกส่งกลับเขตของตนโดยไม่มีข้อยกเว้น
“เขตฮัวเซีย…ห้าปีแล้วสินะ ตอนที่เขตฮัวเซียชนะครั้งล่าสุด มันก็เป็นการแข่งขันระดับโลกรอบชิงชนะเลิศซึ่งจัดขึ้นเมื่อห้าปีที่แล้ว ในการแข่งขันระดับโลกรอบชิงชนะเลิศนั้นก็ใช้พลังของคนเพียงคนเดียวที่ทำให้ทุกเขตในเซิร์ฟเวอร์ตกตะลึง มันคล้ายกับตอนนี้มาก มี ‘พระเจ้า’ อีกคนปรากฏขึ้นในเขตฮัวเซียหลังจากผ่านไปห้าปีงั้นเหรอ?” ธอร์กล่าวด้วยดวงตาสีทองของตัวเองขณะมองไกลออกไป
…
สุสานเป็นแผนที่หลุมศพขนาดใหญ่ และดูเหมือนว่าจะเป็นสนามรบที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน ซึ่งสามารถเห็นหลุมศพนิรนามได้ทุกที่
หลังจากกำจัดซอมบี้และโครงกระดูกที่เกิดขึ้นใหม่ในบริเวณรอบนอกแล้ว ก็จะมาถึงทางเข้าของพื้นที่แกนกลางของดันเจี้ยน นั่นก็คือสุสาน
ที่ทางเข้ามีอนุสาวรีย์ตั้งอยู่ ซึ่งใช้บันทึกเกียรติยศของทีมที่สำเร็จภารกิจดันเจี้ยน ยกเว้นทีมบุกเบิกซึ่งจะรักษาเกียรติไว้โดยให้เป็นอันดับ 1 ไว้เสมอ
ส่วนอันดับของทีมอื่น ๆ จะขึ้นอยู่กับเวลาที่พวกเขาทำภารกิจเสร็จสิ้น
ตอนนี้ชื่อ 10 ทีมบนอนุสาวรีย์นั้นว่างเปล่า ซึ่งหมายความว่าไม่มีทีมใดทำภารกิจดันเจี้ยนนี้สำเร็จ
มีอนุสาวรีย์แบบนี้อยู่ที่ทางเข้าของทุกดันเจี้ยน ซึ่งเป็นโอกาสที่จะได้แสดงความแข็งแกร่งเช่นกัน
โดยทั่วไป กิลด์ต่าง ๆ จะมีกลุ่มผู้เล่นระดับสูงซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบในการเคลียร์ดันเจี้ยนและชิงอันดับ เพราะดันเจี้ยนเป็นที่ที่ผู้เล่นทุกคนต้องมาบุก อนุสาวรีย์ที่ทางเข้าดันเจี้ยนก็สามารถใช้เป็นโอกาสให้กิลด์ที่อันดับสูงสุดได้เสริมสร้างความแข็งแกร่งของกิลด์ตนเอง ทำให้ผู้เล่นมาเข้าร่วมกิลด์ได้มากขึ้น
แน่นอนว่าสุสานเป็นดันเจี้ยนของอันเดด เดิมทีเซียวเฟิงก็สามารถจัดการได้ด้วยตัวเอง แต่หลังจากคิดดูแล้วเขาก็มองว่ามันเป็นโอกาสในการประชาสัมพันธ์เช่นกัน
เนื่องจากกิลด์มิดซัมเมอร์เพิ่งเลื่อนขั้นมา และจำนวนสมาชิกสูงสุดก็เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า ดังนั้นตอนนี้มันก็ถึงเวลารับสมัครผู้เล่นจำนวนมาก และหากกิลด์มิดซัมเมอร์ได้กลายเป็นกิลด์แรกที่ทำภารกิจดันเจี้ยนสำเร็จก็จะมีประโยชน์มากในการรับสมัครผู้เล่น
อย่างไรก็ตาม เมื่อเซียวเฟิงจะเรียกหลิวเฉียงเหว่ย เขาก็พบว่าหญิงสาวไม่ได้ออนไลน์ และซือเยี่ยจิ๋งก็ไม่ได้ออนไลน์ด้วย ซึ่งทำให้เซียวเฟิงสงสัยอยู่ครู่หนึ่ง ทำไมพวกเขายังไม่ออนไลน์ ดูเหมือนว่าอาการป่วยของพวกเขาจะแย่ลงกว่าเดิมซะแล้ว
“เธอกำลังทำอะไรอยู่? ทำไมเธอถึงยังไม่ออนไลน์อีก?”
ดังนั้นเซียวเฟิงจึงต้องใช้ฟังก์ชั่นการโทรในตัวของระบบเพื่อโทรหาหลิวเฉียงเหว่ย เขาถามหลิวเฉียงเหว่ยขณะที่กำลังกวาดล้างพวกมอนสเตอร์
“เกิดอะไรขึ้น?” หลิวเฉียงเหว่ยรับโทรศัพท์อย่างรวดเร็ว ดูเหมือนว่าเธอจะกระสับกระส่ายเล็กน้อย เซียวเฟิงก็ได้ยินเสียงของซือเยี่ยจิ๋งจากโทรศัพท์
“เธออยากเป็นกิลด์แรกที่ทำภารกิจดันเจี้ยนสำเร็จหรือเปล่า? เราสามารถใส่ชื่อกิลด์มิดซัมเมอร์ได้นะ” เซียวเฟิงไม่สนใจมากนัก จากนั้นเขาก็ถามอย่างใจร้อน แต่เขาเดาว่าหลิวเฉียงเหว่ยจะไม่ยอมเสียโอกาสนี้ไป
“อะไรนะ? เป็นกิลด์แรกที่ทำภารกิจดันเจี้ยนสำเร็จ… เดี๋ยวก่อน! หมายถึงดันเจี้ยนเลเวล 25 หรือเปล่า?”
ในตอนแรกหลิวเฉียงเหว่ยไม่ได้ตอบสนอง แต่ในไม่ช้าหญิงสาวก็รู้สึกตัวทันที
“ใช่แล้ว ถ้าเธอไม่มา ฉันจะทำภารกิจดันเจี้ยนให้เสร็จด้วยตัวเอง” เซียวเฟิงกล่าว
“ฉันกำลังไป! ฉันจะไปเดี๋ยวนี้! ช่วยส่งพิกัดมาเลย!” หลิวเฉียงเหว่ยตอบด้วยความตื่นเต้นทันที
เธอรู้ดีถึงผลของการเป็นกิลด์แรกที่ทำภารกิจดันเจี้ยนสำเร็จ ไม่ใช่แค่เกียรติยศของเขตเท่านั้น แต่ยังเป็นเกียรติยศให้กับบุคคลและกิลด์ด้วย!
ลองคิดดูว่า หากพวกเขาเป็นกิลด์แรกที่ชิงผ่านดันเจี้ยนได้ก่อนเขตอื่น ๆ ชื่อเสียงของทีมที่ผ่านกลุ่มแรกในเขตนี้ก็จะพุ่งขึ้นสู่จุดสูงสุด!
นั่นเป็นเหตุผลที่เมื่อดันเจี้ยนเลเวล 15 รังซาลาแมนเดอร์ปรากฏขึ้น กิลด์ต่าง ๆ จึงต้องแข่งขันกันเพื่อให้ได้สมาชิกปาร์ตี้ ทั้งหมดนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อเผยแพร่กิลด์ของตนเองในกลุ่มผู้บุกเบิกที่มีค่าที่สุด
เนื่องจากภารกิจดันเจี้ยนถูกเปิดโดยเซียวเฟิง ตำแหน่งของดันเจี้ยนในเขตฮัวเซียจึงยังไม่ถูกเปิดเผย ดังนั้นผู้เล่นคนอื่นจึงยังไม่รู้ ดังนั้นจะไม่มีใครส่งข้อความเชิญถึงเซียวเฟิงเหมือนกับที่กิลด์วอร์สปิริตฮอลล์ทำมาก่อน
แต่เรื่องนี้ไม่สามารถปกปิดได้นาน เนื่องจากเมื่อเลเวลของผู้เล่นมือฉมังส่วนใหญ่เกินเลเวล 20 ดันเจี้ยนเลเวล 25 ก็มักจะเป็นจุดสนใจของผู้เล่นทุกคนเสมอ
ยิ่งไปกว่านั้น ขณะนี้การเข้าชิงดันเจี้ยนก็ได้ดำเนินการพร้อมกันทุกเขตในเซิร์ฟเวอร์ ไม่นานนักที่ผู้เล่นคนอื่น ๆ ในเขตฮัวเซียก็จะได้รับภารกิจและมาที่สุสาน
แม้ว่าเซียวเฟิงไม่ได้กังวลว่าคนอื่นจะทำภารกิจของสุสานสำเร็จ แต่ชายหนุ่มก็กังวลว่า การยึดครองดันเจี้ยนจะถูกชิงไปโดยเขตอื่น หลังจากอีเวนต์ล่าสมบัติเซิร์ฟเวอร์ เซียวเฟิงก็ได้รู้ว่ามีผู้เล่นชั้นยอดในเขตอื่นด้วย
ทว่าโชคดีที่หลิวเฉียงเหว่ยกังวลมากกว่าที่เซียวเฟิงคาดไว้ และเธอก็เข้าสู่ระบบอย่างรวดเร็วภายในเวลาไม่ถึงสามนาที
“พิกัดอยู่ที่ไหน? ฉันจะพาคนไปเดี๋ยวนี้” หลิวเฉียงเหว่ยรีบถามเซียวเฟิงขณะที่เธอเพิ่งเข้าสู่ระบบ
“เธอเลือกพื้นที่เทเลพอร์ต แล้วเทเลพอร์ตมาที่ค่ายเร่ร่อน” เซียวเฟิงตอบกลับ การเทเลพอร์ตนั้นมีการจำแนก เช่น การเทเลพอร์ตไปยังเมืองหลักและเทเลพอร์ตไปยังพื้นที่ เป็นต้น จุดเทเลพอร์ตของดันเจี้ยนโดยทั่วไปเป็นเทเลพอร์ตพื้นที่
หลังจากหลอมของสวมใส่ระดับเริ่มต้นสองสามชิ้นที่เพิ่งดร็อปมาจนทุกอย่างแตกเป็นวัสดุแล้ว จากนั้นเซียวเฟิงก็หันหลังกลับไปที่ค่ายเร่ร่อน ซึ่งเป็นค่ายร้างที่ถูกจัดการอย่างง่าย ๆ โดย NPC ของวิหารแห่งแสงหลายคน และมีทีมลาดตระเวนอยู่ในบริเวณใกล้เคียง ซึ่งดูเหมือนว่าพวกเขาเพิ่งมาถึง
เซียวเฟิงรอไม่นานนัก จากนั้นชายหนุ่มก็เห็นจุดเทเลพอร์ตในค่ายเรืองแสง จากนั้นทีมผู้เล่นที่มีของสวมใส่ครบครันก็ปรากฏตัวขึ้นจากตรงนั้น
พวกเขาทั้งหมดมีชื่อตัวละครที่มีคำนำหน้าว่ามิดซัมเมอร์ ดูเหมือนว่าจะเป็นสมาชิกหลักของกิลด์มิดซัมเมอร์ พวกเขามีจำนวนไม่ต่ำกว่าสิบห้าคน และคนทั้งหมดนำโดยหลิวเฉียงเหว่ยและซือเยี่ยจิ๋ง
“ที่นี่มีนายคนเดียวเหรอ?” เซียวเฟิงสวมเสื้อผ้าที่สามารถปกปิดตัวตนของตัวเองได้ แต่หลิวเฉียงเหว่ยก็จำเขาได้อย่างรวดเร็ว แล้วเธอก็ถามเซียวเฟิงทันที
เธอไม่รู้ว่ามีคนอยู่กับเซียวเฟิงกี่คน ดังนั้นจึงพาคนมาสิบห้าคน ผู้เล่นทั้งหมดนั้นมาจากทุกสายอาชีพ และทุกคนก็พร้อมที่จะเติมเต็มช่องว่างสำหรับตำแหน่งที่ขาด แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าเธอควรนำผู้เล่นมาที่นี่เพิ่ม
“ฉันจะขอให้ผู้เล่นมาที่นี่เพิ่มและเติมปาร์ตี้ให้เต็มได้ไหม?” หลิวเฉียงเหว่ยถาม แม้หญิงสาวจะรู้ซึ้งถึงพลังการต่อสู้ของเซียวเฟิงดี แต่เธอก็รู้ว่ามันจะยากมากหากจะรีบเข้าครอบครองดันเจี้ยนเลเวล 25
“ไม่ต้อง เราควรไปรับภารกิจจากเจ้าหน้าที่คนนั้น เราควรรีบจัดปาร์ตี้แล้วเริ่มลงดันเจี้ยนกันเลย” เซียวเฟิงส่ายหัว เมื่อเขามองไปที่ผู้เล่นระดับสูงของกิลด์มิดซัมเมอร์ ชายหนุ่มก็พบว่าผู้เล่นเหล่านี้กำลังมองมาที่ตัวเองด้วยความสงสัย เพราะเซียวเฟิงไม่เพียงแต่ไม่แสดงชื่อตัวละครและชื่อกิลด์เท่านั้น แต่ยังปิดบังรูปลักษณ์ของตัวเองด้วยหน้ากากอีก ทั้งหมดนี้ทำให้เซียวเฟิงดูลึกลับ
ในหมู่พวกเขา สายตาของซือเยี่ยจิ๋งนั้นแปลกประหลาดที่สุด เซียวเฟิงรู้สึกไม่สบายใจกับสายตาที่มาจากชุดพรางตัวเวลากลางคืนนี้
“ทำภารกิจก่อนเถอะ!”
ตามคำสั่งของหลิวเฉียงเหว่ย สมาชิกระดับสูงเหล่านั้นก็กระจายออกไปรับภารกิจจากเจ้าหน้าที่ทันที จากนั้นก็ส่งคำเชิญให้เซียวเฟิงเพื่อจัดตั้งปาร์ตี้ เนื่องจากนี่เป็นโอกาสในการโปรโมตกิลด์มิดซัมเมอร์ หัวหน้าทีมและสิทธิ์ในการตั้งชื่อจึงถูกส่งต่อให้กับหลิวเฉียงเหว่ยหรือสมาชิกของกิลด์มิดซัมเมอร์ เซียวเฟิงก็ยอมรับเรื่องนี้เช่นกัน
หลังจากที่เซียวเฟิงยอมรับคำเชิญเข้าปาร์ตี้แล้ว ผู้เล่นหลายคนของกิลด์มิดซัมเมอร์ที่รายล้อมผู้เจ้าหน้าที่ก็หันกลับมามองเซียวเฟิงด้วยความประหลาดใจ
เนื่องจากพวกเขาได้เข้าปาร์ตี้อยู่แล้ว คนทั้งหมดจึงได้ยินเสียงแจ้งเตือนของปาร์ตี้เมื่อเซียวเฟิงเข้าร่วม
[ติ้ง! ผู้เล่น ‘แด๊ด’ เข้าร่วมปาร์ตี้]
ในตอนแรก ผู้เล่นกลุ่มนี้สงสัยในตัวตนของเซียวเฟิง พวกเขาไม่รู้จักตัวตนของชายหนุ่ม นอกจากนั้น ชายลึกลับคนนี้ยังพูดคุยกับหัวหน้ากิลด์ของพวกเขาอย่างสนิทสนม
พวกเขาทั้งหมดได้รับแจ้งว่าพวกเขาต้องไปเข้ายึดครองดันเจี้ยนเลเวล 25 ในตอนแรกพวกเขาส่วนใหญ่คิดว่าเซียวเฟิงเป็นเพียงผู้เล่นขาจรที่ส่งข้อมูลดันเจี้ยนมาให้
ทว่า ทันทีที่เซียวเฟิงเข้าร่วมปาร์ตี้ พวกเขาทั้งหมดก็ตกใจเมื่อเห็นแจ้งเตือนของปาร์ตี้
แม้ว่าชื่อตัวละคร ‘แด๊ด’ จะปรากฏในสงครามกิลด์เมื่อวานนี้ และผู้เล่นมากกว่าสองแสนคนในกิลด์มิดซัมเมอร์ก็สามารถเห็นไอดีนี้จากแถบสถานะ แต่ท้ายที่สุดพวกเขาทั้งหมดก็กำลังยุ่งอยู่ในสนามรบ ดังนั้นจึงมีผู้เล่นไม่กี่คนที่จะมาสนใจกับชื่อของนักบวชที่แจกบัฟให้พวกเขา ดังนั้นชื่อตัวละคร ‘แด๊ด’ จึงยังเป็นที่ไม่รู้จักของผู้เล่นส่วนใหญ่
แต่ในตอนนี้ ผู้เล่นในปาร์ตี้นี้ต่างกันออกไป เนื่องจากหลิวเฉียงเหว่ยเลือกพวกเขาให้เข้าร่วมปาร์ตี้ลงดันเจี้ยนได้ พวกเขาจึงเป็นสมาชิกหลักของกิลด์อย่างแน่นอน อย่างน้อย ผู้เล่นเหล่านี้ก็คือพนักงานที่รับรองโดยมิดซัมเมอร์กรุ๊ปทั้งหมด
พวกเขาทั้งหมดอาจจะอาศัยอยู่ในอาคารสตูดิโอของพวกเขา และบางคนติดตามหลิวเฉียงเหว่ยไปเข้าร่วมอีเวนต์ล่าสมบัติของเซิร์ฟเวอร์ด้วย ดังนั้นสำหรับพวกเขาแล้ว ชื่อตัวละคร ‘แด๊ด’ จึงรู้สึกคุ้นเคยกว่าสมาชิกกิลด์ทั่วไป
ผู้เล่นลึกลับคนนี้คือเจ้าแห่งฮีลเลอร์!