บทที่ 259 สุสานนายพล

ผู้เล่นของกิลด์มิดซัมเมอร์กว่าสิบคนหันมามองเซียวเฟิงชั่วขณะหนึ่ง สีหน้าของพวกเขาดูยกย่อง เกรงขาม สงสัย และไม่เป็นมิตร

พวกเขาทั้งหมดเป็นพนักงานอย่างเป็นทางการที่เซ็นสัญญากับมิดซัมเมอร์กรุ๊ป และเป็นผู้เล่นหลักของกิลด์มิดซัมเมอร์ พวกเขาเคยได้ยินเรื่องความขัดแย้งระหว่างกิลด์กับเจ้าแห่งฮีลเลอร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความล้มเหลวของสงครามป้องกันฐานที่ตั้งครั้งแรก แม้ว่าจะมีเพียงผู้เล่นระดับสูงของกิลด์เท่านั้นที่รู้รายละเอียด แต่พวกเขาก็พอจะรู้เรื่องราวภายในคร่าว ๆ ความล้มเหลวของสงครามป้องกันฐานที่ตั้งครั้งแรกเกี่ยวข้องกับเจ้าแห่งฮีลเลอร์โดยตรง!

“เจ้าแห่งฮีลเลอร์?”

“มันคือเขา เจ้าแห่งฮีลเลอร์! ชื่อตัวละครนี้ไม่ผิดแน่! มีเพียงเจ้าแห่งฮีลเลอร์เท่านั้นที่จะมีไอดีแปลก ๆ นี้!”

“ทำไมเจ้าแห่งฮีลเลอร์ถึงอยู่ที่นี่? เขาจะลงดันเจี้ยนกับพวกเรางั้นเหรอ?”

ผู้เล่นกิลด์มิดซัมเมอร์กว่าสิบคนกระซิบกัน มีเพียงซือเยี่ยจิ๋งเท่านั้นที่ยังคงเงียบ แต่มองไปที่เซียวเฟิงอย่างไม่เป็นมิตรพลางขบฟันของเธอ

“ท่านหัวหน้า เจ้าแห่งฮีลเลอร์จะร่วมปาร์ตี้กับเราเพื่อเปิดภารกิจดันเจี้ยนเหรอครับ?”

ทันใดนั้น ชายหนุ่มที่มองโลกในแง่ดีและหล่อเหลาก็ก้าวออกจากกลุ่มผู้เล่นมิดซัมเมอร์ ชื่อตัวละครของเขาคือ ซันนี่ เขาไม่ได้ซ่อนท่าทีที่เป็นศัตรูของตัวเอง แต่ทำเพียงแค่ขมวดคิ้ว และมองไปที่เซียวเฟิงที่ยืนอยู่ข้างหลิวเฉียงเหว่ย ซึ่งชายหนุ่มที่มาใหม่นี้ก็ถามกับหลิวเฉียงเหว่ยโดยตรง

“ถูกต้อง” หลิวเฉียงเหว่ยตอบกลับไปเบา ๆ เธอดูไม่พอใจกับท่าทีของซันนี่ จากนั้นก็หันไปหาเซียวเฟิงและกล่าวว่า “พวกเขาทั้งหมดเป็นผู้เล่นระดับสูงของกิลด์มิดซัมเมอร์ ทุกคนตรงนี้อยู่ในระดับผู้บัญชาการ เพื่อให้แน่ใจในอัตราความสำเร็จของการเปิดภารกิจดันเจี้ยน ฉันได้แจ้งกลุ่มผู้บังคับบัญชาให้จัดตั้งปาร์ตี้โดยตรง”

หลิวเฉียงเหว่ยหยุดไปชั่วขณะ และเห็นว่าเซียวเฟิงไม่ตอบสนอง จากนั้นก็กวักมือเรียกซันนี่มาตรงหน้าตัวเองและพูดกับเซียวเฟิงว่า “เขาเป็นผู้บัญชาการของหน่วยนักรบที่เจ็ดและเป็นผู้บัญชาการของปาร์ตี้วันนี้ เขาเป็นผู้มีพรสวรรค์ที่หาได้ยาก”

พอได้ยินคำชมของหลิวเฉียงเหว่ย ซันนี่ก็โกรธน้อยลงกว่าเมื่อครู่ เขาเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย แต่ก็ยังมีความเกลียดชังอยู่ในดวงตา เขามองไปที่เซียวเฟิงอย่างไม่เป็นมิตรและกล่าวว่า “หัวหน้า เจ้าแห่งฮีลเลอร์นั้นทรงพลัง แต่ความสัมพันธ์ระหว่างกิลด์มิดซัมเมอร์ของเรากับเจ้าแห่งฮีลเลอร์ มีความกลมกลืนกันมากพอที่จะทำงานร่วมกันและเปิดภารกิจดันเจี้ยนด้วยกันเหรอครับ?”

“เจ้าแห่งฮีลเลอร์เป็นคนที่เปิดดันเจี้ยนนี้ และมันคือกิลด์มิดซัมเมอร์ของพวกเราที่เอาเปรียบเขา เข้าใจชัดเจนไหม?”

เสียงของหลิวเฉียงเหว่ยนั้นแผ่วเบาและสง่างาม ไม่สามารถตรวจสอบความผันผวนทางอารมณ์ได้เลย หญิงสาวหันไปหาผู้เล่นของกิลด์มิดซัมเมอร์ในปาร์ตี้และอธิบาย นี่ไม่ใช่แค่การอธิบายให้ซันนี่เพียงคนเดียว เพราะคนอื่น ๆ ก็เป็นศัตรูกับเซียวเฟิงเช่นกัน

“เข้าใจแล้วครับ”

ซันนี่ดูไม่เต็มใจอย่างเห็นได้ชัด แต่ในฐานะผู้เล่นระดับสูง เขาก็เข้าใจด้วยว่าการเปิดภารกิจดันเจี้ยนเป็นเรื่องสำคัญมากจริง ๆ มันครอบงำกิลด์มิดซัมเมอร์ซึ่งจะใช้ประโยชน์จากมัน ดังนั้นจึงไม่พูดอะไรอีก

“ดีมาก ถ้าพวกนายไม่มีคำถามแล้ว เราก็พร้อมที่จะไปกันได้แล้ว” เซียวเฟิงสนใจหลิวเฉียงเหว่ยและมองเธอขึ้นลง เขาคิดว่าจะได้เห็นเสน่ห์อันยิ่งใหญ่ของหลิวเฉียงเหว่ย เห็นได้ชัดว่าซันนี่ที่หล่อเหลาคนนี้คือผู้สนับสนุนที่ภักดีของเธอ

“เจ้าแห่งฮีลเลอร์ เราเคารพคุณว่าเป็นผู้เล่นชั้นยอด แต่เราก็หวังว่าคุณจะสามารถรักษาสถานะของตนเองและให้ความเคารพต่อหัวหน้าของเรามากขึ้นด้วย!”

บางทีภาพลักษณ์ของเซียวเฟิงอาจดูทำตัวเกินควรเกินไป ทำให้ซันนี่เกิดความไม่พอใจอีกครั้ง เขาเตือนเซียวเฟิงเล็กน้อยและหันกลับไปที่ปาร์ตี้ “ไปกันเถอะ”

เซียวเฟิงยิ้มและไม่พูดอะไร เขารอจนกว่าทุกคนรวมถึงหลิวเฉียงเหว่ยรับภารกิจดันเจี้ยนและออกเดินทาง

เนื่องจากมอนสเตอร์ระหว่างทางโดนเซียวเฟิงกวาดล้างไปแล้ว ทั้งปาร์ตี้จึงมาที่ทางเข้าดันเจี้ยนอย่างง่ายดายด้วยการนำทางของเซียวเฟิง

สถานที่แห่งนี้เป็นสุสานขนาดใหญ่ ดันเจี้ยนนี้มีชื่อเรียกว่าสุสานนายพล ที่มาของดันเจี้ยนคือ กองทัพวีรบุรุษโบราณถูกฝังอยู่ที่นี่ ทว่าสุสานได้รับผลกระทบจากกองทัพมืดที่เกิดจากการรุกรานครั้งล่าสุดของกองทัพมืด และกองทัพที่ฝังอยู่ก็ฟื้นขึ้นมากลายเป็นอันเดดโซล

แต่เนื่องจากกองทัพนี้เป็นของกองทัพวีรบุรุษที่ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ อันเดดโซลของพวกเขาจึงไม่สามารถเทียบกับเผ่าความมืดธรรมดาได้ นอกจากนี้ อันเดดโซลของพวกเขายังอยู่ในสุสานและจะไม่ออกไปสู่ดินแดนแห่งพระเจ้า ดังนั้นจึงไม่ได้รับการชำระล้าง และหลุมศพกับสุสานก็ยังเหลืออยู่

แต่ตอนนี้มันไม่เหมือนเดิมแล้ว เนื่องจากแน่ใจแล้วว่าอันเดดโซลในสุสานนายพลได้เข้าร่วมกับกองทัพมืดแล้ว จึงมีเหตุผลเพียงพอที่จะชำระล้างพวกเขา

อันที่จริง เซียวเฟิงสงสัยอยู่แล้วตอนที่เขาได้รับภารกิจนี้ และได้ดูเนื้อเรื่องเบื้องหลัง มีแนวโน้มว่าวิหารแห่งแสงอยากชำระล้างสุสานนี้มาโดยตลอด แต่เนื่องจากกองทัพอันเดดโซลนี้เคยเป็นกองทัพวีรบุรุษที่เป็นของจักรวรรดิมาก่อน ไม่มีทางที่พวกเขาจะดำเนินการโดยตรงได้ ดังนั้น พวกเขาจึงหาเหตุผลที่จะผลักดันนักผจญภัยเหล่านี้แทน…

เนื่องจากเซียวเฟิงได้รับภารกิจจากกัปตันโบลตัน เขาไม่ได้พบกับบิชอปไคเซอร์ในระหว่างกระบวนการทั้งหมด แต่นี่เป็นกุญแจสำคัญของปัญหา กัปตันโบลตันเป็น NPC ที่มีความคิดเป็นเส้นตรง ไม่น่าจะเป็นไปได้ที่เขาจะออกภารกิจดังกล่าวมา มีเพียงบิชอบไคเซอร์ จิ้งจอกเฒ่าคนนั้นเท่านั้นที่จะทำเรื่องแบบนี้ได้

แต่เซียวเฟิงก็ขี้เกียจเกินกว่าจะสนใจเรื่องต่าง ๆ ระหว่าง NPC เหล่านี้ ตราบใดที่มันเป็นประโยชน์กับตัวเอง ดังนั้นเขาจึงยังคงรับภารกิจดันเจี้ยนนี้มา

“พวกเราสิบหกคนยังไม่เพียงพอ หรือจะให้เราเรียกสมาชิกระดับสูงจากกิลด์มาเพิ่มอีกสักสองสามคนดี?”

แม้ว่าสุสานนายพลจะทรุดโทรม แต่มันก็ส่งความรู้สึกเยือกเย็นออกมา อากาศที่นี่หนาวมากราวกับมีอันตรายร้ายแรงอยู่ หลิวเฉียงเหว่ยยืนอยู่หน้าทางเข้าดันเจี้ยน ท่าทีลังเล

จำนวนคนในปาร์ตี้ของดันเจี้ยนระดับสูงคือสูงสุดยี่สิบคน และปาร์ตี้ของกิลด์มิดซัมเมอร์ยังมีที่ว่างสี่ที่ หลิวเฉียงเหว่ยกล่าวขึ้นมาเพื่อความปลอดภัย

“ไม่ มันเสียเวลาถ้าต้องรอคนตอนนี้ ดันเจี้ยนนี้มันง่ายมาก” เซียวเฟิงส่ายหัว ชายหนุ่มกำลังพูดความจริง ดันเจี้ยนของอันเดดโซลนั้นแทบจะไม่มีความยากเมื่อเจอพลังศักดิ์สิทธิ์ของเขาเลย

“ภารกิจดันเจี้ยนมันคงไม่ง่ายหรอก จริงไหม?” เสียงที่ไม่เห็นด้วยดังขึ้นในปาร์ตี้ของกิลด์มิดซัมเมอร์ทันทีเนื่องจากคำพูดของเซียวเฟิง

“เขาเป็นถึงเจ้าแห่งฮีลเลอร์ ผู้เล่นอันดับ 1 ของเขตฮัวเซีย มาตรฐานความยากของเขาแตกต่างกับผู้เล่นทั่วไปอย่างเรา ๆ อย่างเห็นได้ชัด” ในขณะเดียวกันก็มีเสียงแปลก ๆ มาจากผู้เล่นกิลด์มิดซัมเมอร์หลายคนที่ไม่เป็นมิตรกับเซียวเฟิง

“เจ้าแห่งฮีลเลอร์ ผมคิดว่าเราควรเติมคนให้เต็มปาร์ตี้ การเปิดภารกิจดันเจี้ยนไม่ใช่เรื่องตลก บางทีมันอาจจะง่ายสำหรับคุณ แต่เราเป็นผู้เล่นธรรมดา ความแข็งแกร่งของคุณอาจไม่สามารถแบกพวกเราทั้งหมดได้”

ซันนี่ก้าวออกมา ในฐานะผู้บัญชาการของปาร์ตี้ เขาขมวดคิ้วและอธิบาย

“ฉันบอกว่าไม่ อย่าทำฉันเสียเวลา ถ้านายไม่อยากลงดันเจี้ยนก็ออกไปได้เลย”

เซียวเฟิงพูดอย่างใจร้อนเล็กน้อย ตัวชายหนุ่มเองสามารถทำภารกิจให้สำเร็จได้ในเวลาที่สูญเปล่านี้

“เข้าสู่ดันเจี้ยน!”

หลิวเฉียงเหว่ยก้าวไปข้างหน้า เธอรู้สึกถึงความเหลืออดของชายหนุ่มและขอโทษเขาด้วยสายตาของเธอ จากนั้นก็พูดโดยใช้น้ำเสียงเชิงออกคำสั่งและนำคนเข้าสู่ดันเจี้ยนพร้อมกัน

ทันใดนั้น ผู้เล่นกิลด์มิดซัมเมอร์ก็ไม่กล้าคัดค้าน พวกเขาเข้าสู่ดันเจี้ยนทีละคน แต่เซียวเฟิงยังคงได้ยินใครบางคนกระซิบ

“เข้าไปกันเถอะ ฉันจะดูว่าเขาจะเป็นยังไงถ้าหากล้มเหลว”

“เจ้าแห่งฮีลเลอร์หยิ่งเกินไปแล้ว เขากล้าที่จะเปิดภารกิจดันเจี้ยนโดยมีคนไม่เต็มปาร์ตี้เนี่ยนะ”

[ติ้ง! คุณได้เข้าสู่ดันเจี้ยน สุสานนายพลแล้ว!]

วิสัยทัศน์ก็มืดลงทันใด ปาร์ตี้ของเซียวเฟิงกับกิลด์มิดซัมเมอร์ได้ปรากฏตัวในสุสานนายพล นี่ไม่ใช่สุสานใต้ดิน แต่เป็นหลุมศพขนาดใหญ่ที่มีป้ายหลุมศพจำนวนมากในนั้น โดยที่มีพลังวิญญาณอันหนาแน่นของอันเดดโซลห้อมล้อมอยู่บนท้องฟ้า และปกคลุมทุกสิ่งเหมือนฝาปิด ดังนั้นมันจึงดูเหมือนอยู่ใต้ดิน

“หึ ๆๆ! ผู้บุกรุกที่รบกวนการพักผ่อนของเรา! ออกไปซะ!”

ที่ทางเข้าของสุสานนายพล ผู้เล่นกิลด์มิดซัมเมอร์ยังคงมองสภาพแวดล้อมรอบ ๆ เซียวเฟิงไม่รอพวกเขาและเดินเปิดทางนำ แต่เมื่อเซียวเฟิงเริ่มก้าวแรก หลุมศพที่อยู่ข้างหน้าเขาก็ล้มลงพร้อม ๆ กัน มีหลุมมากกว่าหนึ่งโหลปรากฏให้เห็น จากนั้นทหารอันเดดที่มีชุดเกราะมากกว่าสิบตัวก็โผล่ออกมาจากข้างใน ไฟมรณะสีเขียวในเบ้าตากลวงเปล่าเล็งไปที่ทุกคน

“ระวัง! มอนสเตอร์ในดันเจี้ยนนี้ปรากฏตัวขึ้นจากใต้ดิน! ที่ไหนมีหลุมศพ ที่นั่นต้องมีมอนสเตอร์! อย่าเดินไปลากมอนสเตอร์มา! นักรบโล่ ไปแนวหน้าและดึงความสนใจไว้! แถวหลังพร้อมโจมตี! นักบวชบัฟแนวหน้าแล้วตามด้วยแนวหลัง!”

ซันนี่ตอบสนองทันที เขาขมวดคิ้วที่เซียวเฟิงซึ่งลากมอนสเตอร์มากกว่าสิบตัวในคราวเดียวแล้วตะโกนเสียงดัง

ในเวลาเดียวกัน ค่าสถานะของคลื่นทหารอันเดดนี้ก็ปรากฏในสายตาของทุกคน เลเวลของผู้เล่นกิลด์มิดซัมเมอร์ในปาร์ตี้นี้สูงกว่า 21 ทุกคน พวกเขาสามารถตรวจสอบค่าสถานะของมอนสเตอร์เลเวล 25 ได้อย่างง่ายดายโดยใช้การสอดแนมขั้นสูง

อันเดดโซลของทหารโบราณ

เลเวล: 25

ประเภท: ระดับสูง

คุณสมบัติ: อันเดด

พลังชีวิต : 2,250/2,250

พลังโจมตี : 116-122

พลังป้องกัน : 86-90

พลังป้องกันเวท : 99-93

สกิล: บ้าคลั่ง กระหายเลือด โจมตีหนัก กวาด เรจคอมโบ

ความเป็นมา: ทหารโบราณที่ถูกฝังในสุสานนายพล กลายเป็นอันเดดโซลหลังจากตื่นขึ้น มีพลังอันแข็งแกร่ง และจะขับไล่ผู้บุกรุกสุสานทั้งหมด

“อะไรกัน! พลังชีวิตของมอนสเตอร์กลุ่มก็แรกแทบจะเกิน 3,000 แล้ว!”

ผู้เล่นของกิลด์มิดซัมเมอร์ในปาร์ตี้เปลี่ยนสีหน้าทันทีที่เห็นค่าสถานะอันเดธโซลของทหารโบราณ สมแล้วที่พวกมันเป็นมอนสเตอร์ในภารกิจดันเจี้ยน ค่าสถานะของพวกมันช่างร้ายกาจ!

ผู้เล่นเลเวล 20 ที่มีของสวมใส่ครบครัน เช่น นักรบเถื่อนจะมีพลังชีวิตประมาณ 300 หน่วย พลังโจมตีของเขามีเพียงครึ่งหนึ่งของพลังชีวิต ซึ่งก็ประมาณ 150 หน่วย พลังป้องกันของเขาจะมีเพียงครึ่งหนึ่งของพลังโจมตีอีกที ก็อยู่ระหว่าง 70 ถึง 80 หน่วย

ดังนั้นจะเห็นได้ว่าค่าสถานะการโจมตีและป้องกันของอันเดดโซลของทหารโบราณนั้นเกือบจะเท่ากับผู้เล่นเลเวล 25 ที่มีของสวมใส่ครบครัน ในขณะที่พลังชีวิตของมันมีมากกว่าผู้เล่นดังกล่าวหลายเท่าด้วยซ้ำ

แม้ว่าผู้เล่นเลเวล 21 และ 22 เหล่านี้จะเพียบพร้อม แต่พวกเขาก็ยังไม่ได้เปรียบในด้านค่าสถานะ และนี่เป็นเพียงมอนสเตอร์กลุ่มแรกเท่านั้น!

มอนสเตอร์และบอสหลังจากนี้จะต้องทรงพลังอย่างคาดไม่ถึงแน่!

“ระวังด้วย! ดันเจี้ยนนี้ยากสุด ๆ!” ซันนี่ดูเคร่งเครียด งานนี้ต้องทำกันอย่างจริงจัง ไม่อนุญาตให้ใครทำพลาด มิฉะนั้นมันจะผ่านภารกิจดันเจี้ยนนี้ได้อย่างลากเลือด

แต่ก่อนที่เสียงของตัวเองจะหายไป ซันนี่ก็เห็นเซียวเฟิงเดินเข้าไปเพียงลำพัง และลากอันเดดโซลของทหารโบราณมากกว่าสิบตัวมารวมกันโดยตรง จากนั้นสกิลค้อนทองขนาดยักษ์ก็ควบแน่นอยู่ในมือของเซียวเฟิง เขาเหวี่ยงมันและโจมตีกลุ่มอันเดดโซลของทหารโบราณ

-2314!

-4622! คริติคอล!

-4700! คริติคอล!

-2341!

-4618! คริติคอล!

-2300!

-4620! คริติคอล!

พลังศักดิ์สิทธิ์เพิ่มเอฟเฟกต์ความเสียหายเมื่อโจมตีอันเดดโซลเป็นสองเท่า อันเดดโซลของทหารโบราณมากกว่าสิบตัวถูกสังหารในพริบตาหลังจากการโจมตีด้วยค้อนแห่งการพิพากษาของเซียวเฟิง