“อ้าวชวาง!” เหลิ่งหลิงยวิ๋นมองชีอ้าวชวางอย่างประหลาดใจและเรียกออกมา
ชีอ้าวชวางมองที่มือของนางและรอยยิ้มก็ค่อยๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของนาง พลัง พลังที่คุ้นเคยกำลังฟื้นตัวอย่างช้าๆ เมล็ดในร่างกายงอก ออกใบ และผลิบาน…
รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของจินเหยียน ”พลังของนางฟื้นกลับมาแล้ว”
“น่าทึ่งมาก!” ไรลี่ย์พูดออกมา
การแสดงออกของเฟิงอี้เซวียนค่อนข้างซับซ้อน เพราะว่าความแข็งแกร่งของเขาไม่มีทีท่าจะฟื้นตัวเลย หากเป็นเช่นนี้ต่อไป เขาจะไม่ใช่ผู้ที่ปกป้องชีอ้าวชวาง แต่ชีอ้าวชวางจะปกป้องเขาแทน จะให้เขายอมรับสิ่งนี้ได้อย่างไรกัน!
“เป็นไปได้อย่างไร!” ชิงฮวาตะโกนอย่างควบคุมไม่ได้ “นี่มันเป็นไปไม่ได้! เจ้าของปลอมใช้พลังของนายท่านได้อย่างไร เจ้าขโมยพลังไปตอนไหน!”
“ชิงฮวา! หยุดนะ!” ใบหน้าของเหลิ่งหลิงยวิ๋นกลายเป็นเย็นชาทันที และเขาก็ตำหนิอย่างดุดัน “ระวังคำพูดของเจ้าด้วย หากข้าไม่เกรงใจตอนนี้ข้าคงทำให้เจ้าหายไปแล้ว”
สายตาของชิงฮวาเหม่อไปเล็กน้อยและก็พึมพำด้วยเสียงต่ำ ”เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้…มันจะเป็นไปได้อย่างไร…”
“หึ!” เหลิ่งหลิงยวิ๋นเลิกสนใจชิงฮวา แล้วหันไปมองชีอ้าวชวางด้วยความกังวล “ไม่ต้องไปสนใจนางหรอก”
ชีอ้าวชวางยิ้มและส่ายหัวเล็กน้อย ”หลิงยวิ๋น ไม่ต้องกังวล ข้าไม่หายไปไหนหรอก ไม่หายไปไหนแน่นอน เราต้องกลับไปที่แผ่นดินลังกาด้วยกัน” ชีอ้าวชวางยิ้มและหันไปมองเฟิงอี้เซวียนกับจินเหยียนแล้วเลิกคิ้วขึ้น ”พวกเจ้าว่าจริงหรือไม่? เราต้องกลับไปหาคนพวกนั้น บางทีเรากลับไปอาจจะเจอฉู่ซินตัวน้อยกับซัมเมอร์ตัวน้อยๆ ก็ได้นะ”
เมื่อคำพูดของชีอ้าวชวางจบลง ทั้งเฟิงอี้เซวียนและจินเหยียนก็ยิ้มทันที เหลิ่งหลิงยวิ๋นโล่งใจไปเล็กน้อย ดูเหมือนว่าชีอ้าวชวางจะแข็งแกร่งกว่าที่เขาคิด
กลับแผ่นดินลังกาหรือ…
เหลิ่งหลิงยวิ๋นเงยหน้ามองไปไกลๆ แล้วดวงตาของเขาก็พร่ามัว ตัวเขายังกลับไปได้ใช่หรือไม่?
หางตาของเหลิ่งหลิงยวิ๋นมองเฟิงอี้เซวียนที่กำลังคุยกับชีอ้าวชวางแล้วถอนหายใจเบาๆ เฟิงอี้เซวียน ถ้าความทรงจำทั้งหมดของเจ้าฟื้นคืนมาแล้ว เจ้าจะยังคงทำแบบนี้กับชีอ้าวชวางได้หรือไม่ ถ้าทำไม่ได้…ข้าจะฆ่าเจ้าด้วยมือของข้าอย่างแน่นอน! แววตาของเหลิ่งหลิงยวิ๋นส่องประกายลึกล้ำแล้วก็หายวับไป
ชิงฮวานั่งเงียบๆ อยู่อีกด้านอย่างเหม่อลอย มือของนางยังคงกำแน่นจนเล็บจิกลึกลงไปในเนื้อ และเลือดไหลลงมาตามร่องนิ้วโดยที่นางไม่แม้แต่จะสังเกตเลย เวลานี้มีเพียงความคิดเดียวที่อยู่ในใจของนาง นั่นก็คือชีอ้าวชวางเหมือนจะเป็นภัยคุกคามต่อนายท่านจริงๆ ดังนั้น เจ้าจะอยู่ต่อไปไม่ได้ ผู้หญิงอันตรายคนนี้จะอยู่ต่อไปไม่ได้ นายท่านยังจะให้โอกาสนางทดสอบอะไรอีก? ไม่จำเป็นต้องลำบากใจขนาดนั้นเลย ฆ่านางและลบล้างเจตจำนงของนางไปก็จบแล้ว เท่านี้ท่านซื่อหั่วกับท่านหรูปิงก็จะกลับไปอยู่ข้างกายของนายท่านทันที และทุกๆ อย่างก็จะได้รับการแก้ไขอย่างน่าพอใจ
ชิงฮวาก้มหน้าลงมองฝ่ามือของตนช้าๆ กระแสอากาศสีฟ้าค่อยๆ พุ่งออกมาจากฝ่ามือของนางอย่างเงียบงัน ไม่มีใครสังเกตเห็นความผิดปกติของชิงฮวาเลย ทุกคนกำลังผ่อนคลายและหัวเราะกัน ราชาเยว่และมิเชลกำลังถามเกี่ยวกับแผ่นดินลังกาด้วยความใคร่รู้ ชีอ้าวชวาง เฟิงอี้เซวียน เหลิ่งหลิงยวิ๋น และจินเหยียน ต่างก็หมกมุ่นอยู่กับความทรงจำในอดีตและพวกเขาก็กำลังยิ้มแย้มพูดคุยเรื่องในอดีตกัน
ตอนจินเหยียนและเหลิ่งหลิงยวิ๋นเล่าถึงตอนที่เฟิงอี้เซวียนและชีอ้าวชวางได้พบกันเป็นครั้งแรกและเขาก็ได้รับการเหยียบอย่างงดงามไปตั้งแต่ตอนนั้น พวกเขาทั้งหมดต่างก็มีความสุข ราชาเยว่และมิเชลหัวเราะกันจนตัวโยน ไรลี่ย์เองก็หัวเราะอย่างหนักเช่นกัน
“นายน้อยเฟิง ที่แท้เจ้าก็ชอบถูกทำร้ายนี่เอง เจ้าแตกต่างจากคนทั่วไปจริงๆ” ไรลี่ย์หัวเราะ
ใบหน้าของเฟิงอี้เซวียนแดงก่ำ เขาโบกมือและตะโกนอย่างตื่นเต้น ”ไร้สาระน่า พวกเจ้าจะไปรู้อะไร? พวกเจ้าจะเข้าใจอารมณ์ของข้าในขณะนั้นได้อย่างไร?”
จากนั้นทุกคนได้ยินเฟิงอี้เซวียนเล่าว่าเขาถูกสุ่ยเหวินโม่จับมัดไว้ทั้งคืน และวิธีที่เขาตอบโต้กับสุ่ยเหวินโม่ ทุกคนก็หัวเราะกันอีก ไรลี่ย์หัวเราะจนเกือบน้ำตาไหลออกมาเลย
ไม่มีใครเห็นท่าทีของชิงฮวาเลย แผ่นหลังของนางเย็นเยียบมากขึ้นเรื่อยๆ และกระแสลมในฝ่ามือของนางก็หมุนไปมาอย่างนุ่มนวลราวกับงูพิษอย่างน่าพิศดาร
ตอนที่ชิงฮวากำลังจะลอบโจมตี ราชาเยว่ก็อุทานขึ้นมาก่อน ”ดูนั่นสิ ข้างหน้านั่นมีคนมา!”
ทุกคนยืนขึ้นและเห็นกลุ่มคนกำลังใกล้เข้ามาอย่างรวดเร็วจากที่ไกลๆ
“คนของราชาสววรค์หรือไม่?” มิเชลขมวดคิ้วมองไปข้างหน้า
“ไดทันส์ โจนาธาน…” ชีอ้าวชวางมองกลุ่มคนที่เข้าใกล้และพูดชื่อทั้งสองนี้ออกมา
“พวกเขา…” เหลิ่งหลิงยวิ๋นขมวดคิ้วพร้อมกับความสงสัยในแววตาของเขา
“กองทัพของราชาสวรรค์” มิเชลพูดอย่างมั่นใจ
ผู้คนด้านหน้านำโดยไดทันส์และโจนาธาน ตามด้วยทหารในเครื่องแบบ ทุกคนกำลังขี่นกบินอยู่และที่บังเหียนของนกบินก็เป็นสีเดียวกันด้วย กลุ่มคนบินมาหยุดห่างจากพวกชีอ้าวชวางไม่กี่เมตร
“ไดทันส์ โจนาธาน…” ชีอ้าวชวางพูดด้วยท่าทางสับสน
“เรามาที่นี่เพื่อรับเจ้า” สายตาของโจนาธานซับซ้อนมาก เขามองไปที่ชีอ้าวชวางและพูดด้วยน้ำเสียงลึกล้ำ
“มารับข้า?” ชีอ้าวชวางยิ่งงงมากขึ้นอีก
“ราชาสวรรค์กำลังรอเจ้าอยู่ มาสิ” ไดทันส์พูดประโยคนี้อย่างเย็นชาและหันไป
“ไม่ต้องกังวล ราชาสวรรค์จะไม่ทำอะไรเจ้า เขากำลังรอการมาของเจ้าอยู่” ท่าทางของโจนาธานดูแปลกไปเล็กน้อยเมื่อมองไปที่ชีอ้าวชวาง ดูเหมือนว่าเขาจะพูดอะไรแล้วก็หยุดไป
“ไปเถอะ” สายตาของราชาเยว่เรียบนิ่งและพูดอย่างเด็ดขาด ในที่สุดก็ถึงเวลาต้องเผชิญหน้ากันแล้ว
มิเชลพยักหน้าและให้สัตว์พาหนะตามหลังไดทันส์และโจนาธานไป จากนั้นทหารกลุ่มใหญ่ก็ขี่นกบินตามไปข้างหลัง พวกเขามุ่งหน้าไปที่ปราสาทของราชาสวรรค์
“โจนาธาน ทำไมพวกเจ้าถึงมาปรากฏตัวที่นี่ได้ล่ะ?” ชีอ้าวชวางถาม เพราะนางสังเกตเห็นว่าไดทันส์และโจนาธานมีเสื้อผ้าต่างกัน ทั้งสองแต่งกายด้วยเสื้อผ้าหรูหรา มีเกราะที่ข้อมือและไหล่ และมีดาบที่งดงามอยู่ที่เอว
“ข้าคือราชาหย่ง ส่วนไดทันส์กลายเป็นราชาไป๋แล้ว” ประโยคนี้ของโจนาธานทำให้ชีอ้าวชวางเข้าใจในทันใด
“พวกเจ้ากำลังช่วยราชาสวรรค์อยู่หรือ?” ราชาเยว่ขมวดคิ้วเมื่อได้ยินเรื่องนี้ และถามด้วยน้ำเสียงที่ลึกล้ำ
“ช่วยหรือไม่ช่วยอะไรกัน พวกเราเป็นเพียงแขกของราชาสวรรค์เท่านั้น” โจนาธานมองราชาเยว่อย่างว่างเปล่าและพูดอย่างโกรธเคือง “ตอนนี้มีหน้าที่ส่งต่อข้อความ ราชาสวรรค์กำลังรอพวกเจ้า”
“โจนาธาน เกิดอะไรขึ้นกันแน่?” ชีอ้าวชวางเข้าใจดีว่าเรื่องต่างๆ คงไม่ง่ายอย่างนั้นแน่ๆ
“เจ้าจะรู้เองเมื่อเจ้าไปถึง” โจนาธานมองไปทางอื่นและไม่พูดอะไรอีก
ไดทันส์ยังคงบินอยู่แถวหน้าเงียบๆ โจนาธานบินขึ้นไปอยู่เคียงข้างกับไดทันส์
“ไดทันส์ เจ้ากำลังคิดอะไรอยู่?” โจนาธานเข้าไปหาไดทันส์และถามด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบาซึ่งมีเพียงสองคนเท่านั้นที่ได้ยิน
ไดทันส์ไม่ได้มองโจนาธานหรือพูดอะไร แต่เขาดึงบังเหียนในมือ นกที่อยู่ใต้ร่างก็เร่งความเร็วบินไปข้างหน้า
ไดทันส์และโจนาธานพาพวกของชีอ้าวชวางบินไปที่หน้าปราสาทของราชาสวรรค์ ชีอ้าวชวางมองเห็นปราสาทอันงดงามที่ลอยอยู่บนทะเลสาบขนาดใหญ่จากระยะไกล น้ำในทะเลสาบเป็นสีเขียว และปราสาททั้งหมดก็ทำด้วยหินสีขาวราวกับหิมะ ปราสาทสีขาวและทะเลสาบสีเขียวสะท้อนกันอย่างงดงาม ชีอ้าวชวางมองมันอย่างตั้งใจ ปราสาทนั้นลอยอยู่บนน้ำ และเงาสะท้อนของปราสาทในน้ำนั้นก็ชัดเจนอย่างผิดปกติ นั่นคือที่ที่คามิลล์อาศัยอยู่หรือ?
ทุกคนอยู่ที่ฝั่งหน้าปราสาท ทหารวิ่งออกมาทันที เมื่อเข้าแถวต้อนรับแล้วก็ขึ้นไปรับสายบังเหียนและนำสัตว์พาหนะทั้งหมดไปอีกด้านหนึ่ง โจนาธานและไดทันส์เดินตรงไปข้างหน้า ส่วนพวกของชีอ้าวชวางก็ตามพวกเขาไปอย่างใกล้ชิดเข้าไปในปราสาท
เมื่อเข้าไปในปราสาท เสียงร้องและดนตรีก็ล่องลอยมา ราชาเยว่และมิเชลมองหน้ากัน และทั้งคู่ก็เห็นความประหลาดใจในสายตาของกันและกัน
เมื่อเดินเข้าไปเรื่อยๆ เสียงร้องเพลงและดนตรีก็ดังขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกับเสียงหัวเราะ ชีอ้าวชวางมองไปที่ปราสาทนั้น แม้ว่าการตกแต่งของปราสาทจะหรูหรามาก มีกระจกหลายบานที่ผนัง หรือแม้แต่บนเพดานก็มีกระจกส่องพื้นขนาดใหญ่ เมื่อเลี้ยวเข้ามุม ผนังด้านตรงข้ามก็เต็มไปด้วยกระจก ส่งผลให้ทุกคนตะลึงกับภาพของตัวเองในนั้น
“ทำไมถึงมีกระจกเยอะจัง เขาเป็นคนหลงตัวเองหรือ? ไม่น่าจะเป็นนะ” ราชาเยว่ขมวดคิ้วเล็กน้อย ราวกับกำลังพูดกับตัวเองแต่ก็เหมือนพูดกับทุกคนด้วย
“เจ้าหมายถึงปราสาทนี้ไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนหรือ?” ไรลี่ย์มองไปรอบๆ อย่างสงสัยและถาม
“แน่นอน มันไม่ดูแปลกแบบนี้” มิเชลตอบอย่างเคร่งขรึม “ข้าไม่รู้ว่าเขาคิดอย่างไร!”
“เดี๋ยวเจอเขาก็ได้รู้เอง” ราชาเยว่พูดเบาๆ “ในเมื่อเขาส่งคนไปรับเรามา เขาอาจจะคิดวิธีรับมือมานานแล้ว หรือไม่เขาก็มีความคิดของตัวเองอยู่แล้ว”
มิเชลขมวดคิ้วและไม่พูดอะไรอีก
เมื่อทุกคนมาถึงห้องโถง เสียงร้องเพลง เต้นรำ และนักร้องทั้งสองข้างของห้องโถงกำลังเล่นดนตรี ร้องเพลงกันอยู่ ชายหนุ่มรูปงามผมขาวแต่งตัวเรียบง่ายเอนหลังอย่างเกียจคร้าน เขาแต่งกายด้วยชุดสีดำเรียบง่ายไม่มีการตกแต่งเลยแม้แต่น้อย และผมยาวสีขาวของเขาก็ไม่ได้มัดขึ้น ใต้คิ้วยาวของเขามีดวงตาสีน้ำตาลคู่หนึ่ง และมีรอยยิ้มเล็กน้อยที่มุมปาก ตอนที่ทุกคนเข้ามา ท่าทางของเขาก็ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง
ชีอ้าวชวางมองไปที่คนคนนั้น ชายคนนี้คืออดีตราชาไป๋ แต่เป็นราชาสวรรค์ในปัจจุบันใช่หรือไม่? เดิมทีคิดว่าเขาน่าจะเต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งการกดขี่ แต่ทำไมเขาถึงดูอ่อนแอและยังคงมีความเศร้าอยู่ตลอดนะ
ไรลี่ย์มองราชาสวรรค์ที่นั่งอยู่ด้วยใบหน้าเกลียดชัง และลึกลงไปในดวงตาของนาง นางอยากจะแผดเผาเขาให้ตายไปเลย คนคนนี้มีส่วนเกี่ยวข้องในการทำลายล้างเผ่าของนาง เกลียดชังมากๆ สมควรตาย! ไรลี่ย์กำหมัดแน่น ร่างกายของนางสั่นเล็กน้อย ทันใดนั้น มืออันอบอุ่นและใหญ่ก็วางลงบนไหล่ของนางอย่างเบามือ ไรลี่ย์หันไปสบตาจินเหยียน จินเหยียนส่ายหัวเล็กน้อยและบีบไหล่ของไรลี่ย์เบาๆ จากนั้นน้ำตาของไรลี่ย์เกือบจะไหลออกมา นางเข้าใจความหมายของจินเหยียน ตอนนี้นางไม่ใช่คู่ต่อสู้ของราชาสวรรค์ ให้รอดูการเปลี่ยนแปลงตรงหน้าไปก่อน