ตอนที่ 16 เย่เซิ่งเทียนคือเจ้าเทพ

Mars เจ้าสงครามครองโลก

บนใบหน้าชราของหมิงชุนชิว มีอารมณ์ทั้งหมด ที่คนคนหนึ่งจะแสดงออกมาได้ แทบจะปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าของเขาทั้งหมด

หวาดกลัว ตกใจ โมโห เคียดแค้น ความรู้สึกต่างๆ อัดแน่นอยู่บนใบหน้าเขา

เจ้าบ่าวคือเย่เซิ่งเทียน!

เจ้าบ่าวคือเย่เซิ่งเทียนจริงๆ!!

คนตระกูลหมิงไม่มีทางเชื่อความจริงนี้ หวาดผวาไม่เป็นสุข

พวกเขาจ้องคนคู่นั้นเขม็ง แววตาโมโหเหมือนจะหลุดออกมา!!

งานแต่งเจ้าเทพ ทำไมเจ้าบ่าว ถึงกลายเป็นเด็กสารเลวเย่เซิ่งเทียนไปได้

นี่มันหมายความว่ายังไงกันแน่

ทำไมเจ้าบ่าวถึงกลายเป็นเย่เซิ่งเทียน

อย่าบอกนะว่าเย่เซิ่งเทียนคือเจ้าเทพ

เย่เซิ่งเทียนคือเจ้าเทพ

ความจริงอันโหดเหี้ยมนี้ ทำให้คนตระกูลหมิงบ้าคลั่ง

เจ้าบ่าวจะเป็นใครก็ได้ แต่ต้องไม่ใช่เย่เซิ่งเทียน

ไอ้เด็กสารเลวนี่ เป็นความอับอายของตระกูลหมิง เป็นคนที่ตระกูลหมิงจะฆ่าให้ตาย!

เขาจะเป็นเจ้าเทพได้ยังไงกัน

ถ้าเขาเป็นเจ้าเทพ เป็นการโจมตียิ่งใหญ่ต่อตระกูลหมิง

ตระกูลหมิง กลายเป็นตัวตลกอย่างสมบูรณ์

คนที่พวกเขาพยายามประจบสอพลอสุดชีวิต เป็นไอ้สารเลวที่โดนพวกเขามองอย่างดูถูก!

ตระกูลหมิงของพวกเขา ยังเหลือทางรอดไหม

สวรรค์ กำลังล้อเล่นอะไรกับตระกูลหมิงของเรา!

ทำไมเย่เซิ่งเทียนถึงกลายเป็นเจ้าเทพไปได้

ทำไมถึงเป็นแบบนี้!

นี่มันเรื่องล้อเล่นบ้าอะไรกัน!

ความจริงอันโหดเหี้ยม แทงลงไปในใจของคนตระกูลหมิง

หมิงชุนชิวอยากจะพูดอะไร แต่เขาพบว่าตัวเองพูดอะไรไม่ออก ความหวาดผวาครอบงำวิญญาณเขา

ตระกูลหมิงจบแล้ว จบแล้วจริงๆ

เย่เซิ่งเทียนไม่ปล่อยให้ตระกูลหมิงรอดแน่นอน

มือทั้งสองข้างของเขากำลังสั่น ปากกำลังสั่น สั่นไปทั้งตัว ชี้เย่เซิ่งเทียน พูดอะไรไม่ออกสักคำ

หวาดผวา เขารู้สึกแค่ความหวาดผวา

เขาไม่อยากเชื่อ นี่เป็นเรื่องตลกที่สวรรค์ทำกับตระกูลหมิง

ความเสียใจมหาศาล เหมือนปีศาจ กัดกร่อนใจเขาไม่หยุด

ถ้าตอนนั้นไม่บีบบังคับลูกสาวอย่างหมิงยู่จนตาย ถ้าตอนนั้นไม่ทำเรื่องบาปพวกนั้น……ตอนนี้เจ้าเทพก็คือหลานชายของฉัน

ถ้าตอนนั้นฉันปกป้องเย่เซิ่งเทียนสักนิด ตอนนี้ฉันก็คือคุณตาของเจ้าเทพ……

ถ้าฉันยอมรับความผิดและจะชดเชยให้เขา ในวันที่เย่เซิ่งเทียนมาตระกูลหมิง ตระกูลหมิงของเรา ก็คือสายเลือดของเจ้าเทพ……

แต่ทว่าสายไปเสียแล้ว ทั้งหมดมันสายไปแล้ว

ทำไมเพิ่งให้ฉันรู้เรื่องทั้งหมดตอนนี้

สวรรค์ ทำไมต้องเล่นตลกกับตระกูลหมิงขนาดนี้!!

พรวด

ทันใดนั้น หมิงชุนชิวอ้าปากกระอักเลือดออกมา เอามือกุมหัวใจนั่งลงบนเก้าอี้

ความสะเทือนใจนี้ ทำให้เขารับไม่ได้

เหมือนโดนคนเอารองเท้าเหยียบอึสุนัขมาเตะหน้า

ทั้งเจ็บทั้งเหม็นทั้งสะอิดสะเอียน

หมิงฮุยมองเย่เซิ่งเทียนอย่างตกตะลึง ขนาดหมิงชุนชิวกระอักเลือด เขาก็ไม่ทันสังเกต

“ทำไม……ทำไม……ทำไมถึงเป็นเย่เซิ่งเทียน……”

หมิงฮุยหน้าซีดเผือด ไร้เลือดฝาด

เย่เซิ่งเทียนเป็นเจ้าเทพ

เย่เซิ่งเทียนเป็นเจ้าเทพ!!!

ให้ตายเถอะ นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่!

“เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้ ไอ้เด็กสารเลวเป็นเจ้าเทพได้ไง”

หมิงฮุยตกใจจนอกสั่นขวัญแขวน เซถอยหลังไปหลายก้าว

เขากลัวเย่เซิ่งเทียนจะเห็นตัวเอง เขากลัวเย่เซิ่งเทียนจะหันมากะทันหัน

เย่เซิ่งเทียนเป็นเจ้าเทพ ไอ้เด็กสารเลวนั่นเป็นเจ้าเทพ ฉันฆ่าแม่มัน มันกลายเป็นเจ้าเทพ……

ความคิดต่างๆ นานา ทรมานหมิงฮุยเป็นอย่างมาก มือทั้งสองข้างจับหัวแน่น คุกเข่าบนพื้น จู่ๆ ก็ทรมานจนตะโกนออกมาเสียงดัง

“เป็นไปไม่ได้ เย่เซิ่งเทียน แกไม่มีทางเป็นเจ้าเทพ เย่เซิ่งเทียน ไอ้เด็กสารเลว แกจะเป็นเจ้าเทพได้ยังไง!!”

หมิงฮุยถูกบีบจนเป็นบ้า เขาตะโกนออกมาสุดชีวิต ความหวาดกลัวอย่างรุนแรง ทำให้เขาสติแตก

หมิงเจ๋อหัวตกใจจนทรุดลงกับพื้น เป้ากางเกงเปียกชื้น มีกลิ่นเหม็นฉุนลอยออกมา

“ทำบาปเอาไว้เอง อย่ามีชีวิตอยู่เลย”

จ้าวปิงพูดอย่างเย็นชา

“พวกคุณเก่งมากไม่ใช่เหรอ ทำไม่ถึงเป็นใบ้กันไปหมดล่ะ”

จ้าวห้าวจงใจแซะพวกหนานกงหยู่กับอู๋เจิงหยง โดยเฉพาะเฉินเผิง ตกใจจนพูดอะไรไม่ออก

คนตระกูลหมิงสติแตก หมิงฮุยชี้หน้าเย่เซิ่งเทียน ก่นด่าเหมือนคนบ้า

เวินเฉินตบหน้าหมิงฮุย แล้วพูดอย่างโหดเหี้ยมว่า “หมิงฮุย คุณอยากตายเหรอ ถึงกล้าก่อกวนงานแต่งของเจ้าเทพ”

“ไอ้คนหลอกลวง เย่เซิ่งเทียน แกมันคนหลอกลวง”

เลือดออกตรงมุมปากหมิงฮุย ตะโกนเหมือนคนบ้า “แกหลอกพวกเรา เย่เซิ่งเทียน ไอ้เด็กสารเลว แกหลอกพวกเรา ทำไมแกไม่บอกพวกเรา ว่าแกเป็นเจ้าเทพ ทำไม ถ้าแกบอกพวกเราว่าแกเป็นเจ้าเทพ พวกเราคงขอโทษแกไปแล้ว…….”

หมิงฮุยเอาความผิดทั้งหมด โยนให้เย่เซิ่งเทียน

โทษเย่เซิ่งเทียนทั้งหมด!

ถ้าไอ้เด็กสารเลวนี่ บอกเร็วกว่านี้ พวกตระกูลหมิงต้องขอโทษและยอมรับผิดแน่นอน! ตระกูลหมิงคงไม่ตกต่ำถึงขั้นนี้

“หักขามัน แล้วโยนออกไป”

เย่เซิ่งเทียนกวาดตามองตั้งแต่หมิงฮุย สุดท้ายไปหยุดอยู่ที่หมิงชุนชิว

เวินเฉินเดินเข้าไป เตะลงบนเข่าหมิงฮุย

“อ๊าก!!!”

หมิงฮุยเจ็บปวดเป็นอย่างมาก ตะโกนออกมาว่า “เย่เซิ่งเทียน ฉันเป็นลุงแก แกจะทำแบบนี้กับฉันไม่ได้ ฉันเป็นลุงแกนะ……”

กรอบ

เวินเฉินเหยียบขาอีกข้างของเขาจนหัก โยนเขาออกไปข้างนอกเหมือนลูกไก่

คนตระกูลหมิงตกใจเป็นอย่างมาก พากันคุกเข่าตัวสั่นงันงก

สมองขาวโพลนไปหมด

“หมิงชุนชิว แกเสียใจไหม”

เย่เซิ่งเทียนจ้องหมิงชุนชิว

เสียงร้องและอ้อนวอนของหมิงฮุย ไม่ทำให้เขาสะทกสะท้านสักนิด

ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว

ถ้าไม่เชื่อก็มองขึ้นไปบนฟ้า พระเจ้าเคยให้อภัยใครบ้าง

ใบหน้าหมิงชุนชิว เต็มไปด้วยความเสียใจ เขามองเย่เซิ่งเทียนอย่างหวาดกลัว แววตาสับสน “เย่ หลาน เจ้า……”

เขาไม่รู้ว่าตัวเองควรเรียกว่าอะไร

น้ำตาไหลนองใบหน้าชรา ทำไมตอนนั้นถึงเชื่อคำพูดของลูกชาย

ถ้าตอนนั้นปกป้องลูกสาวเอาไว้ เย่เซิ่งเทียนกลายเป็นเจ้าเทพในตอนนี้ ตระกูลเย่ต้องเป็นตระกูลที่มีอำนาจอันดับต้นๆ ในประเทศ

แต่ว่าตอนนี้……กลายเป็นตัวตลกขั้นสุด

เย่เซิ่งเทียนพูดอย่างเฉยเมย “แกไม่คู่ควร!”

หมิงชุนชิวคุกเข่าลงทันที ไม่มีท่าทีแข็งกร้าวและจองหองเหมือนเมื่อครู่ พูดอย่างกล้าๆ กลัวๆ ว่า “คุณปล่อยตระกูลเราไปเถอะ พวกเราสำนึกผิดแล้ว พวกเราสำนึกผิดแล้วจริงๆ”

“แกสมควรคุกเข่าให้แม่ฉัน ไม่ใช่ฉัน”

เย่เซิ่งเทียนหันไปมอง แล้วพูดเนิบๆ ว่า “หมิงชุนชิว วันนี้เป็นวันที่สาม ตระกูลหมิงของแก ยังเหลือเวลาอีก 27 วัน”

“คุณปล่อยพวกเราไปเถอะ พวกเรายอมไปคำนับสำนึกผิด ต่อหน้าหลุมศพหมิงยู่ ฉันยอมชดใช้ให้ทุกอย่าง แค่คุณไว้ชีวิตพวกเรา เซิ่งเทียน หลานชาย ฉันผิดไปแล้ว ตระกูลหมิงผิดไปแล้ว ฉันยินดีชดเชยให้ คุณให้โอกาสเราสักครั้งเถอะนะ”

น้ำตาไหลนองใบหน้าชราของหมิงชุนชิว เขาเสียใจจนแทบจะกระอักเลือดออกมา

นี่เป็นโอกาสที่หาได้ยากแสนยากของตระกูลหมิง!

“คุณจะฆ่าพวกเราหมดเลยใช่ไหม ให้โอกาสเราสักครั้งเถอะ เราจะชดเชยให้คุณอย่างแน่นอน”

หมิงชุนชิวถามอย่างอกสั่นขวัญแขวน

เย่เซิ่งเทียนพูดโดยไม่หันมาแล “ไล่ออกไป พวกมันไม่สมควรร่วมงานแต่งฉัน”

หมิงชุนชิวเสียใจเป็นอย่างมาก

คนตระกูลหมิงเหมือนสุนัขไร้บ้าน หนีหัวซุกหัวซุนออกไปอย่างหดหู่

ความน่ากลัวอันยิ่งใหญ่ ครอบงำพวกเขา

ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ตระกูลหมิงของพวกเขา จากตระกูลอันดับหนึ่งของเฉียนถัง กลายเป็นตระกูลตลกอันดับหนึ่ง

ตลกอย่างมาก

“เมื่อกี้พวกคุณด่าว่าดูหมิ่นคุณเย่ใช่ไหม”

เวินเฉินกวาดตามองพวกคุณชายใหญ่ ด้วยสายตาเฉยเมย

“เจ้าเทพไว้ชีวิตผมเถอะครับ ผมยอมชดใช้ความผิดทุกอย่าง”

อู๋เจิงหยง เฉินเผิง หนานกงหยู่และซุนหมิน คุณชายใหญ่สี่ห้าคนนั้น เมื่อกี้ยังพูดอย่างมั่นใจว่าจะเล่นกับความตายของเย่เซิ่งเทียน ตอนนี้ตกใจจนเข่าอ่อน รีบคุกเข่าลงบนพื้น คำนับอ้อนวอนขอชีวิต

“คุกเข่าไปสิ”

เย่เซิ่งเทียนไม่เหลียวแล และไม่สนใจอีก

ถึงเขาไม่สนใจคนพวกนี้ แต่คนพวกนี้กล้าดูหมิ่นซีเอ๋อร์ งั้นก็ให้พวกมันคุกเข่าขอโทษ!

“กลับไม่ได้ พวกเรากลับไม่ได้”

ข้างนอกงานแต่ง จู่ๆ หมิงชุนชิวตั้งสติได้ เขากัดฟันพูดว่า “เย่เซิ่งเทียนคือเจ้าเทพ เราต้องรับผิด อ้อนวอนให้เขาอภัย ไม่งั้นตระกูลหมิงจบเห่แน่”

หมิงเจ๋อหัวพูดเหมือนคนตาย “ปู่ พวกเราจบเห่ไปแล้ว เย่เซิ่งเทียนไม่ปล่อยพวกเราแน่”

หมิงชุนชิวตบหน้าตัวเองหลายที แล้วพูดอย่างเสียใจ

“คุกเข่า เราคุกเข่าตรงนี้ อ้อนวอนให้เขาอภัย วันนี้มีคนมาร่วมงานเยอะ เราคุกเข่าไปเรื่อยๆ นี่เป็นการแสดงออกของเรา แค่ความแค้นในใจเขาหายไป ก็จะไม่เล่นงานตระกูลหมิงอีก”