ตอนที่ 17 ไอ้เด็กเดรัจฉานหลอกพวกเรา

Mars เจ้าสงครามครองโลก

ความเจ็บปวดจากขาที่หักทั้งสองข้าง ทำให้หมิงฮุยตระหนักรู้อย่างถ่องแท้ว่า ตัวเองต้องตายแน่นอน

เย่เซิ่งเทียนต้องแก้แค้นแทนแม่เขา

ตอนนั้นแย่งบริษัทของหมิงยู่ ฆ่าสองแม่ลูก ล้วนเป็นความคิดของตัวเอง

“พ่อ ผมไม่ยอม ผมไม่ยอม ทำไมเย่เซิ่งเทียนถึงเป็นเจ้าเทพ มันเป็นแค่ไอ้สารเลว มันมีสิทธิ์อะไรถึงเป็นเจ้าเทพได้”

ในแววตาหมิงฮุยเต็มไปด้วยความแค้น ไฟริษยาแผดเผาจนอวัยวะภายในของเขา แทบจะแตกออก

“แกหุบปาก”

หมิงชุนชิวตบหน้าหมิงฮุย พูดอย่างน่ากลัวว่า “ถ้าไม่ใช่เพราะตอนนั้นแกคิดไม่เข้าท่า ตระกูลหมิงจะมีจุดจบที่ตกต่ำขนาดนี้ไหม ถึงขนาดนี้แล้ว แกยังคิดจะทำอะไรอีก”

“คุกเข่าลง ขอโทษเซิ่งเทียน สำนึกผิดต่อหมิงยู่ น้องสาวแก ถ้าการที่แกโดนแล่เนื้อเป็นหมื่นชิ้น แล้วทำให้เซิ่งเทียนหายแค้น ปล่อยตระกูลหมิงไป ฉันจะลงมือด้วยตัวเอง”

หมิงฮุยกัดฟันพูดว่า “ผมไม่เชื่อว่ามันเป็นเจ้าเทพ ลองคิดดูสิ สี่ปีก่อน มันยังหนีเหมือนสุนัข เจ้าเทพเป็นคนระดับไหน ใครจะสูงส่งได้ขนาดนี้ ในระยะเวลาสั้นๆ เพียงสี่ปี อย่าว่าแต่ยุคที่สงบในปัจจุบันเลย ถึงเป็นช่วงสงคราม เวลาสี่ปี ก็ไม่มีทางเป็นตำนานของฝ่ายทหารได้”

คำพูดนี้ทำให้หมิงชุนชิวอึ้งไป จ้องหมิงฮุยแล้วพูดว่า “พูดต่อไป”

หมิงฮุยยิ้มอย่างร้ายกาจ แล้วพูดว่า “ถึงเป็นจอมพลสร้างชาติ ก็ต้องใช้เวลาหลายสิบปี ผมสงสัยว่าต้องมีเบื้องลึกที่เราไม่รู้ เย่เซิ่งเทียนไม่มีเบื้องหลัง ไม่มีที่พึ่ง ไม่มีทางเป็นเจ้าเทพ ทัดเทียมกับขุนหลวง ได้ในระยะเวลาเพียงสี่ปี ผมจะใช้เส้นสายสืบหา”

หมิงชุนชิวเงียบไม่พูดอะไร

จู่ๆ หมิงเจ๋อหัวลุกขึ้นยืน แล้วพูดว่า “เจ้าเทพมีฐานะสูงกว่าจอมพล ไอ้สารเลวเย่เซิ่งเทียน ใช้เวลาสี่ปี ไปถึงจุดนั้นได้ยังไง ปู่ ผมเห็นด้วยกับที่พ่อพูด ต้องมีอะไรปิดบังอยู่ในนี้แน่นอน”

แววตาหมิงเจ๋อหัวร้ายกาจ เขาพูดต่อ “เจ้าสาวคนนั้นชื่อหวางซี เป็นลูกสาวของครอบครัวเล็กๆ คนที่อุ้มท้องเดินประจานกลางถนน ก็คือเธอ!”

หมิงชุนชิวจ้องหมิงฮุย แล้วพูดว่า “คุณรู้ไหมคำพูดนี้หมายถึงอะไร ถ้าเย่เซิ่งเทียนเป็นเจ้าเทพจริง ตระกูลหมิงของเราไม่มีทางลุกขึ้นมาได้อีก”

“พ่อ ตาสว่างเถอะ เย่เซิ่งเทียนจะปล่อยเราไปเหรอ”

หมิงฮุยพูดอย่างโหดเหี้ยม “เราเป็นผู้อาวุโส เย่เซิ่งเทียนเป็นผู้น้อย แต่พวกมันดูหมิ่นเราเหมือนหมา อย่าบอกนะว่าเราจะต้องไปคุกเข่าหน้าหลุมศพหมิงยู่จริงๆ ถึงเราคุกเข่าสำนึกผิดแล้ว เย่เซิ่งเทียนก็ไม่มีทางปล่อยเรา……”

สีหน้าหมิงชุนชิวสับสน เงียบอยู่ครู่หนึ่ง แล้วพูดว่า “ได้ แกไปสืบมา ต้องสืบให้ชัดเจน ถ้าเป็นเรื่องจริง จะเสียเท่าไร ก็ต้องฆ่าเย่เซิ่งเทียนให้ได้ คนที่เกี่ยวข้องกับเย่เซิ่งเทียนทั้งหมด ก็ต้องตายเหมือนกัน”

ขณะนั้น มีคนพูดเสียงดังขึ้นมา “เจ้าชาย เจ้าหญิง ชาวตะวันตกทุกท่าน มามอบของขวัญให้เจ้าเทพ”

“เจ้าชายแห่งประเทศอัง มอบ Angel’s tears พร้อมด้วยเงินหมื่นล้านยูโร”

“เจ้าชายแห่งประเทศอารัน มอบบ่อน้ำมันห้าแห่ง อวยพรให้เจ้าเทพกับคุณนาย รักกันจนแก่เฒ่า”

“เจ้าชายแห่งเยอรา มอบเหมืองทองคำให้เจ้าเทพสองแห่ง อวยพรให้เจ้าเทพกับคุณนาย ครองรักกันตลอดไป”

“……”

เจ้าชาย เจ้าหญิงของประเทศตะวันตก ต่างพากันมาที่นี่

เมื่อได้ยินสิ่งเหล่านี้ หมิงชุนชิวตาแดงก่ำ นี่เป็นสมบัติที่ร่ำรวยเทียบเท่าประเทศ!

เดิมที ต้องมีส่วนที่เป็นของตระกูลหมิง……

สมควรตาย เพราะไอ้สารเลวเย่เซิ่งเทียน ทำลายโอกาสของตระกูลหมิง

การที่ให้คนสารเลวอย่างมันมีชีวิตอยู่ ถือว่าเมตตามากพอแล้ว ตอนนี้ยังกล้าทำคุณบูชาโทษ มีอย่างที่ไหนกัน

ไม่นาน หมิงฮุยวางโทรศัพท์ พูดอย่างโมโหจนทนไม่ไหว “เราโดนไอ้สารเลวเย่เซิ่งเทียนหลอกแล้ว มันไม่ใช่เจ้าเทพ!”

“อะไรนะ”

ในดวงตาหมิงชุนชิว มีความโหดเหี้ยมฉายขึ้นมา

เย่เซิ่งเทียนไม่ใช่เจ้าเทพ!!

ตัวเองคุกเข่าอยู่ตรงนี้ตั้งนาน

ไอ้เด็กสารเลว มันจงใจให้คนอื่นมองตระกูลหมิงเป็นตัวตลก

ไฟโกรธในตาหมิงฮุย แทบจะพุ่งออกมา เขาพูดอย่างน่ากลัวว่า “เย่เซิ่งเทียนบังกระสุนให้เจ้าเทพ ในสงคราม เจ้าเทพรับปากว่าจะทำความปรารถนาของเขาให้เป็นจริง ดังนั้นเลยมอบงานแต่งนี้ให้เย่เซิ่งเทียน”

ตู้ม

หมิงชุนชิวเหมือนโดนฟ้าผ่า รอยตีนกาบนใบหน้าชรา สั่นขึ้นมา “ไอ้ชั่ว ไอ้ชั่วนี่ กล้าใช้อำนาจมาข่มขู่พวกเรา ฉันจะฆ่ามัน!”

หมิงเจ๋อหัวถามอย่างอดไม่ได้ “พ่อ ข่าวเชื่อได้ไหม”

หมิงฮุยแสยะยิ้ม แล้วพูดว่า “ข่าวออกมาจากสำนักงานจ่งตู เชื่อได้แน่นอน บางทีเจ้าเทพอาจไม่พอใจกับความไม่มีขื่อมีแปของเย่เซิ่งเทียน จึงให้คนแพร่ข่าวออกมา ใช้กองทัพทหารในงานแต่งตัวเอง นี่เป็นข้อห้าม แต่เจ้าเทพติดหนี้บุญคุณ ที่เย่เซิ่งเทียนช่วยชีวิตเอาไว้ ดังนั้นจึงปฏิเสธได้ยาก……”

“ผมก็สืบได้แล้ว”

หมิงเจ๋อหัวยกมือถือขึ้นมา แล้วพูดว่า “ตระกูลหวางไม่พอใจเย่เซิ่งเทียนมาตลอด ตอนนั้นหวางซีท้องก่อนแต่ง โดนคนตระกูลหวางประจานกลางถนน ลูกสาวเย่เซิ่งเทียนก็โดนทารุณ คนตระกูลหวางบังคับหวางซีจนเกือบตาย เย่เซิ่งเทียนไม่กล้าทำอะไรสักอย่าง ถ้าเขาเป็นเจ้าเทพ จะไม่แก้แค้นให้เมียและลูกตัวเองเหรอ”

หมิงเจ๋อหัวโกรธจนตัวสั่น “ไอ้ชั่วนี่หลอกพวกเรา เจ๋อหัว แกรีบไปติดต่อคนตระกูลหวาง ให้คนตระกูลหวางลงมือ ทำให้ลูกสาวเย่เซิ่งเทียนตาย ฉันจะทำให้เย่เซิ่งเทียนรู้สึกเหมือนตายดีกว่ามีชีวิตอยู่!”

หมิงฮุยพูดด้วยสีหน้าโหดเหี้ยม “ไอ้สารเลวจัดงานแต่งนี้ขึ้นมา ใช้น้ำใจของเจ้าเทพจนหมด ถ้าเราจัดการได้เหมาะสม เจ้าเทพไม่มีทางถือโทษ แต่จะทำเรื่องนี้แบบโจ่งแจ้งไม่ได้ ให้คนตระกูลหวางลงมือ ตระกูลหมิงของเราจะได้คว้าเอาไว้”

ความโหดร้ายแวบขึ้นมาบนใบหน้าหมิงเจ๋อหัว “อีกอย่าง หนานกงหยู่ ซุนหมิน อู๋เจิงหยง เฉินเผิง คนพวกนี้เพิ่งคุกเข่าอ้อนวอน ถ้าพวกเขารู้ข่าวนี้ จะทนความอับอายนี้ได้เหรอ ต้องหั่นเย่เซิ่งเทียนเป็นหมื่นๆชิ้นแน่นอน”

หมิงชุนชิวพูดอย่างเห็นด้วย “คนพวกนี้ ให้เจ๋อหัวติดต่อ”

หมิงเจ๋อหัวยิ้มอย่างน่ากลัว แล้วพูดว่า “ผมเกือบลืมไปแล้ว ผมจะสาดเลือดสุนัขบนหลุมศพหมิงยู่ ผมจะให้คนไปทำตอนนี้เลย”

ขณะเดียวกันในงานแต่ง พวกอู๋เจิงหยง คุกเข่าบนพื้น ไม่กล้าแม้แต่จะหายใจแรง

“ไอ้พวกโง่”

จ้าวห้าวประชดอย่างเย็นชา

จ้าวปิงมองผ่านหน้าต่างไปที่ข้างนอก หลังหมิงฮุยโทรศัพท์ติดต่อกันหลายครั้ง ก็พูดอะไรบางอย่างด้วยความตื่นเต้น จากนั้นพาคนตระกูลหมิงออกไป มองในงานแต่งด้วยสายตาเคียดแค้น

พวกโง่ตระกูลหมิง อย่าบอกนะว่าจะรนหาที่ตายอีก

มาถึงขนาดนี้แล้ว พวกเขายังอยากแก้แค้นอีกเหรอ

ไอ้พวกโง่ ผมจะรอดูว่าพวกแกจะตายยังไง

ขณะนั้น จ้าวปิงได้ข้อความจากตระกูล ถึงกับตกใจทันที จากนั้นมองไปรอบๆ ด้วยสีหน้าราบเรียบ

ข่าวที่สำนักงานจ่งตูเผยแพร่ออกมา ต้องเป็นเรื่องเท็จแน่ๆ ต้องเป็นสิ่งที่คุณเย่เตรียมไว้ จงใจให้คนตระกูลหมิงเห็น

ตัวเองเห็นกับตาว่าเกาเจี๋ยคุกเข่าต่อหน้าเย่เซิ่งเทียน

ตอนนั้นตระกูลหมิงฆ่าแม่เย่เซิ่งเทียน จะปล่อยตระกูลหมิงไปง่ายๆ ได้อย่างไร

ตอนนี้ตระกูลหมิงมีความหวังมากเท่าไร ต่อไปตระกูลหมิงก็จะยิ่งน่าเวทนามากขึ้นเท่านั้น

เมื่อคิดได้เช่นนี้ จ้าวปิงรู้สึกถึงความสยอง รีบเตือนคนในตระกูล อย่าเป็นศัตรูกับเย่เซิ่งเทียนเด็ดขาด ไม่งั้นตระกูลจ้าวจะตายอย่างไรก็ไม่รู้

ตอนนี้บนเวที ซือซือถือดอกไม้ช่อใหญ่ แต่งตัวเหมือนองค์หญิงน้อย เธอพูดเสียงออดอ้อนว่า “แม่ เย่เซิ่งเทียน ซือซือขอให้รักกันตลอดไปจนแก่เฒ่า”

“เรียกพ่อ”

หลี่หลานเช็ดน้ำตา ตีซือซือเบาๆ

ซือซือเบะปากไม่พูดอะไร ทำท่าเป็นผู้บริสุทธิ์น่าสงสาร ทำให้เย่เซิ่งเทียนเอ็นดูเป็นอย่างมาก

“ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร”

เย่เซิ่งเทียนอุ้มซือซือขึ้นมา

ตัวเองติดหนี้ลูกสาวเยอะมาก

จนถึงตอนนี้เธอยังไม่ยอมเรียกพ่อ

โดยเฉพาะ ตอนที่ลูกสาวโดนตระกูลหวางควบคุมเมื่อก่อน ไม่รู้ว่าได้รับโทษมากแค่ไหน

รอยแผลบนตัวเธอ จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่หาย

หวางเอี๋ยน ฉันจะอภัยให้เธอได้ยังไง!!

“ขอบใจนะซือซือ”

หวางซีหอมซือซือ สีหน้าเต็มไปด้วยความสุข

ทว่าตอนนี้ หมิงเจ๋อหัวให้คนเอาข่าวที่สำนักงานจ่งตูเผยแพร่ออกมา เปิดเผยให้คนตระกูลหวาง

หวางหงพูดด้วยความโกรธจนทนไม่ไหว “ที่แท้เป็นแบบนี้นี่เอง กล้ารังแกเหยียดหยามตระกูลหวางขนาดนี้ เย่เซิ่งเทียน ฉันจะทำให้แกตายดีกว่าอยู่”

หวางเอี๋ยนพูดว่า “เดี๋ยวฉันส่งคนไปที่โรงเรียนอนุบาล หาโอกาสจับตัวไอ้เด็กสารเลวนั่น ฉันจะทำให้เย่เซิ่งเทียนคุกเข่าอ้อนวอนต่อหน้าฉัน ฉันจะทรมานลูกสาวต่อหน้ามัน”

นายหญิงใหญ่หวางพูดอย่างเคร่งขรึมว่า “พวกแกจะรีบไปทำไม เย่เซิ่งเทียนบังกระสุนให้เจ้าเทพ พวกเราต้องใช้ประโยชน์จากมัน รอให้ไอ้สวะเย่เซิ่งเทียนไม่มีประโยชน์ ค่อยฆ่ามันก็ไม่สาย เรียกครอบครัวมันมาก่อน”

“โครงการเมืองใหม่ที่เจ้าเทพกำหนดไว้ เริ่มเสนอราคาพรุ่งนี้ใช่ไหม ก่อนหน้านี้พวกเราไม่มีสิทธิ์เสนอราคา ตอนนี้สามารถใช้ความสัมพันธ์กับเย่เซิ่งเทียน เอาโครงการเมืองใหม่มาสักหน่อย”