บทที่ 261 10 นาที
“มาทอยเต๋ากันดีกว่า!”
ชัดเจนเลยว่าไม่มีใครอยากจะเสียโอกาสให้กับคนอื่น พวกเขาทุกคนต่างก็อยากจะได้ม้าศึกอันเดดตัวนี้กันทั้งนั้น แต่สิ่งที่ทำได้ก็มีแค่ทอยเต๋าเสี่ยงดวงกันนั่นแหละ
“เชิญท่านหัวหน้าก่อนเลย”
ถึงแม้ว่าหลิวเฉียงเหว่ยนั้นจะเปรียบเสมือนแม่ทัพหลักที่ไม่ได้ออกรบแนวหน้า ดังนั้นหากเธอได้ม้าศึกอันเดดตัวนี้ไปมันก็ไม่มีประโยชน์อะไรกับตัวเธอเอง เพราะยังไงหญิงสาวก็ไม่ได้ออกไปสู้อยู่แล้ว แต่ในฐานะของหัวหน้ากิลด์ เธอยังคงมีสิทธิ์ที่จะทอยเต๋าครั้งนี้ด้วย ซึ่งพอซันนี่เสนอออกไปเช่นนั้น ทุก ๆ คนก็ไม่มีใครขัดข้องแต่อย่างใด
ตัวหลิวเฉียงเหว่ยเองก็ไม่ได้สนใจจะทอยเต๋าร่วมกับคนอื่นในครั้งนี้อยู่แล้วเพราะเธอรู้ดีว่าม้าศึกตนนี้ไม่เหมาะกับเธอไม่ว่ามันจะดีเลิศแค่ไหนก็ตาม แต่เมื่อรับรู้ได้ถึงความต้องการของซื่อเยี่ยจิ๋งที่อยากจะได้เจ้าม้าศึกตัวนี้ เธอจึงตัดสินใจใช้สิทธิ์ของเธอเพื่อทอยเต๋าให้ซือเยี่ยจิ๋งแทน
ลูกเต๋าขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นในมือของหลิวเฉียงเหว่ย จากนั้นเธอก็ค่อย ๆ โยนให้มันหมุนอยู่กับพื้นและรอจนกระทั่งมันหยุดหมุน ตัวเลข 3 แถมจึงค่อย ๆ กระจ่างชัดเจน
100 แต้ม!
ผลลัพธ์มันทำเอาเหล่าสมาชิกกิลด์มิดซัมเมอร์หลายคนพากันห่อเหี่ยว…
“ท่านหัวหน้ากำลังแกล้งพวกเราชัด ๆ ! เฮ้ย พวกหล่อนลืมกันแล้วหรือไงว่าท่านหัวหน้าเซนส์ในการทอยเต๋าดีขนาดไหนน่ะ? ไม่งั้นเธอจะได้อาร์ติแฟกต์จากตอนล่าสมบัติไปเรอะ! โธ่ ฉันอุตส่าห์เลี่ยงจะไม่ทอยเต๋ากับท่านหัวหน้าแล้วแท้ ๆ!”
ทันทีทันใด เหล่าผู้เล่นที่เคยติดตามหลิวเฉียงเหว่ยเข้าร่วมอีเวนต์ล่าสมบัติด้วยกันก็สั่นกึก ๆ ภาพของวันนั้นมันยังตราตรึงพวกเขาทั้งหมดอยู่จนไม่สามารถหยุดความช็อกได้ เมื่อได้พบเจอฉากเดียวกันอีกครั้ง แม้ว่าเจ้าตัวจะขึ้นเสียงด้วยความอเนจอนาถใจ แต่ก็ทำได้เพียงเท่านี้
“มีใครอยากจะทอยเต๋าอีกไหม?”
หลังจากที่รู้สึกตกใจกับแต้มบนลูกเต๋านิดหน่อย หลิวเฉียงเหว่ยก็เอ่ยถามด้วยรอยยิ้มในแววตา
“ไม่เอาค่ะ ฉันยอมแพ้”
“ฉันเองก็ด้วย”
…
ในเมื่อตอนนี้แต้มที่สูงสุดของเต๋าอย่าง 100 แต้มนั้นถูกเผยออกมาแล้ว ทำไมคนอื่นยังต้องคิดจะสู้อีกล่ะ? เหล่าผู้เล่นจากมิดซัมเมอร์ทำได้เพียงยอมรับในความโชคร้ายของตนเองและตั้งปณิธานกันไว้ว่าในอนาคตจะไม่มาทอยเต๋ากับหัวหน้ากิลด์ของตนเองอีก
มองไปยังเหล่าสมาชิกภายในกิลด์ด้วยท่าทีชื่นชม หลิวเฉียงเหว่ยก็ยกม้าศึกอันเดดให้ซือเยี่ยจิ๋ง หญิงสาวผู้ได้รับของรางวัลจากประธานกิลด์มองไปยังผู้ส่งมอบด้วยความลังเลครู่หนึ่งก่อนจะตัดสินใจรับมันมา
สำหรับเรื่องนี้ ผู้เล่นคนอื่น ๆ ในกิลด์ย่อมยอมรับได้อยู่แล้ว เพราะยังไงเสีย หลิวเฉียงเหว่ยก็ได้ม้าศึกอันเดดตัวนี้ไปด้วยฝีมือของเธอเอง มันเป็นของเธอโดยสมบูรณ์ ดังนั้นเธอจึงมีสิทธิ์เด็ดขาดที่จะทำยังไงกับมันก็ได้
ส่วนอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้สมาชิกกิลด์ยอมรับได้ก็เพราะ ไนท์ คูนเนอร์เองก็ถือเป็นผู้เล่นที่เปรียบเสมือนคมดาบของมิดซัมเมอร์อยู่แล้ว การที่เธอแข็งแกร่งขึ้นนั้นจะทำให้กิลด์แข็งแกร่งขึ้นไปด้วยโดยไม่ต้องคิดเลย
“ไปกันต่อเถอะ”
ไอเทมระดับสูงอื่น ๆ ที่ร่วงหล่นอยู่บนพื้นต่างถูกแบ่งและเก็บไปอย่างรวดเร็วตามสายอาชีพของแต่ละคน เมื่อเห็นดังนั้นแล้ว เซียวเฟิงจึงพูดก่อนจะเดินนำไปยังห้องบอสห้องต่อไป
ณ เวลานี้ไม่มีใครที่รู้สึกไม่พอใจกับเซียวเฟิงแล้ว ทุกคนยอมเดินตามเขาไปด้วยสีหน้าระรื่น เพราะในเมื่อห้องบอสตัวที่ 2 ยังดร็อปไอเทมระดับสูงขนาดนี้ได้ ดังนั้นบอสตัวที่ 3 จะต้องไม่ทำให้ผิดหวังแน่ ๆ
เหนือสิ่งอื่นใด ความสามารถของเซียวเฟิงนั้นเป็นที่ยอมรับขนาดทำให้ทุกคนที่ได้เห็นกับตานั้นอ้าปากค้างได้เลย ไม่มีใครคาดคิดหรอกว่าการลงดันเจี้ยนนั้นจะง่ายขนาดนี้ พวกเขาเพียงแค่เดินตามเก็บของที่ดร็อปมาจากบอสเท่านั้น
สถานที่ที่บอสตัวสุดท้ายอยู่นั้นเป็นแท่นบูชาขนาดใหญ่ และตรงที่กลางแท่นบูชานั้น มีร่างขนาดใหญ่กำลังนั่งอยู่บนโต๊ะที่ทำจากหิน จากท่าทีสงบนิ่งนั้น ราวกับว่าร่างนั้นกำลังหลับอยู่เสียอย่างงั้นแหละ
นายพลกระดูกบรรพกาล
เลเวล : 25
ระดับ : สูง
ธาตุ : วิญญาณอันเดด
พลังชีวิต : 91,000 / 91,000
พลังโจมตี : 219-225
พลังเวท : 198-205
พลังป้องกันกายภาพ : 155-165
พลังป้องกันเวทมนตร์ : 150-160
สกิล : คลุ้มคลั่งขั้นสุดยอด, กระหายโลหิต, ซากศพอบอวล, ระเบิดแรงสูง, วายุโหม, ความสยดสยองไม่สิ้นสุด, กองพันซี่โครง, กระหน่ำพสุธา, บัญชาเหล่าทัพ
คำนิยาม : ‘นายพลสูงสุดในสุสานแห่งนี้ ตัดสินใจที่จะกลายเป็นอันเดดด้วยตนเอง ตราบใดก็ตามที่สุสานแห่งนี้ยังไม่ถูกชำระล้าง เขาก็จะไม่มีวันตาย’
นายพลกระดูกบรรพกาลนั้นดูจะแข็งแกร่งจริง ๆ ตามรายละเอียดที่ได้รับมาอย่างไม่ต้องสงสัย ทว่าความแข็งแกร่งนั้นก็ไม่ได้มีผลอะไรกับเซียวเฟิงแม้แต่นิด
บอสผู้น่าสงสารตนนี้ไม่มีโอกาสที่จะได้ลืมตาตื่นขึ้นเสียด้วยซ้ำ ชะตาชีวิตของเขาไม่ต่างอะไรกับวิญญาณแม่ทัพโบราณที่ถูกเป่าหายไปด้วยแสงศักดิ์สิทธิ์ในครั้งเดียว พลังชีวิตมันหายฮวบไปราวกับสิ่งที่อยู่เหนือหัวนั้นเป็นเพียงช่องว่างเปล่าตั้งแต่ต้น เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นในเวลาไม่ถึงนาทีด้วยซ้ำ
“แสงสีขาว! ไอเทมระดับเทพเจ้าดร็อปนี่!”
ในทันทีที่ร่างของนายพลกระดูกบรรพกาลสลายไปพร้อมกับเสียงร้องโหยหวน เสียงนั้นยังไม่ทันจะกระจายหายไปจากบริเวณแท่นบูชาเลย เสียงของผู้เล่นคนหนึ่งก็ตะโกนออกมาเสียงดังด้วยความช็อกเสียก่อน!
มันเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วที่การฆ่าบอสระดับสูงแล้วจะมีโอกาสดร็อปไอเทมระดับเทพเจ้า แล้วไหนจะการเพิ่มโอกาสให้มากขึ้นจากการที่ดันเจี้ยนฉุกเฉินถูกเปิดด้วย รวม ๆ กันแล้วก็ถือว่าการลงดันเจี้ยนนี้มีโอกาสที่จะได้ไอเทมระดับเทพเจ้ามาครอบครองหากสังหารบอสได้หมดสูงมาก ๆ
ทุกคนต่างวิ่งตรงเข้าไปยังจุดนั้น รวมถึงเซียวเฟิงก็ด้วย
“อ๊ะ นี่มันไม่ใช่ไอเทมนี่… แต่มันเป็นหนังสือสกิลระดับเทพเจ้าเลยนี่นา!”
ไม่นานนัก เมื่อแสงสีขาวค่อย ๆ ลดอัตราความสว่างลง มันก็ค่อย ๆ เผยให้เห็นรูปร่างที่แท้จริงของมัน ทว่าสิ่งนี้ทำให้หลายคนรู้สึกเสียดายอยู่ไม่น้อยเลย นั่นเพราะมันไม่ใช่ไอเทมระดับเทพเจ้า หากแต่เป็นหนังสือสกิลระดับมาสเตอร์ที่เทียบเท่าไอเทมระดับเทพเจ้าเฉย ๆ
แก่นแท้แห่งบุศกรลาลับ
ระดับ : เทพเจ้า
คลาสที่เรียนรู้ได้ : มือสังหาร
เอฟเฟกต์ : ทุก ๆ ครั้งที่ใช้การโจมตีหรือสกิลสร้างความเสียหายให้แก่เป้าหมายได้ มันจะยังสร้างความเสียหายต่อเนื่องเท่ากับความเสียหายที่สร้างไว้ก่อนหน้าแก่เป้าหมายเดิมตามระดับเลเวลของสกิล
จำนวนครั้งที่โจมตีซ้ำสูงสุด : เทียบเท่ากับเลเวลของสกิล
ความเสียหายของสกิล : แผดเผาเป้าหมายที่ถูกโจมตีต่อเนื่อง และมอบความเสียหายต่อเป้าหมายโดยไม่สนใจเกราะป้องกันใด ๆ
ระยะเวลา : การสร้างความเสียหายอย่างต่อเนื่องจะทอดยาวไปถึง 30 วินาที ใน 1 เป้าหมาย และใช้ได้กับเป้าหมายทีละ 1 เป้าหมายเท่านั้น ผลของการสร้างความเสียหายอย่างต่อเนื่องในเป้าหมายเดิมจะหยุดลงทันทีเมื่อผู้ใช้สกิลเปลี่ยนเป้าหมายการโจมตี
คูลดาวน์ : สกิลติดตัว ไม่มีคูลดาวน์ ระหว่างที่ทำการโจมตีเป้าหมายและสร้างความเสียหาย ผลการสร้างความเสียหายอย่างต่อเนื่องจะทำงานโดยอัตโนมัติ
“หนังสือสกิลระดับเทพเจ้าจริง ๆ ด้วย!!”
มันเป็นหนังสือสกิลระดับเทียบเท่ากับไอเทมระดับพระเจ้า ที่ระดับของมันยังถือว่าสูงกว่าสกิลระดับแรร์ของเซียวเฟิงอย่าง ค้อนแห่งการพิพากษา อีกขั้นหนึ่งด้วย!
เอฟเฟกต์ของมันนั้นไม่ได้หวือหวาอะไร หากแต่ก็หนักหน่วงและรุนแรงมาก ๆ!
ทุก ๆ ครั้งที่สร้างความเสียหาย สกิลจะส่งผลให้เกิดความเสียหายอย่างต่อเนื่องจำนวนครั้งตามเลเวลของสกิล ซึ่งอย่างน้อย ๆ ก็ถือว่าสามารถทำความเสียหายแบบ 2 ครั้ง แล้วสำหรับเลเวลแรก! ไหนจะไม่มีคูลดาวน์อีก! ช่างเป็นสกิลที่โกงอะไรขนาดนี้!
เนื่องจากแทบจะทุกคนในที่นี้สวมหน้ากากปิดบังใบหน้า รวมถึงซือเยี่ยจิ๋งด้วย มันเลยทำให้เซียวเฟิงไม่สามารถเห็นสีหน้าของเธอได้ แต่จากดวงตาที่โผล่มาน้อย ๆ ภายใต้หน้ากากนั้น เธอจะต้องกำลังดีใจสุด ๆ อยู่แน่ ๆ !
นั่นเพราะเธอเป็นนักฆ่าคนเดียวในทีมนี้!
อัตราการดร็อปไอเทมระดับสูงภายในดันเจี้ยนที่เพิ่งเปิดนั้น จะอิงตามคลาสที่มีอยู่ในปาร์ตี้เป็นหลัก ถึงอย่างนั้น นี่ก็ยังทำให้ทุกคนต่างตกใจได้ เพราะใครจะคิดว่าไอเทมที่เกี่ยวข้องกับมือสังหารที่มีเพียงคนเดียวในปาร์ตี้จะมาดร็อปแทนที่จะเป็นของคลาสอื่นเสียอย่างนั้น!
หนังสือสกิลแก่นแท้แห่งบุศกรลาลับถูกเก็บเข้ากระเป๋าของซือเยี่ยจิ๋งโดยไม่มีคำพูดใด ๆ หลุดออกมาจากปากเจ้าตัวท่ามกลางสายตาที่กำลังอิจฉาของทุกคน ก่อนหน้านี้เธอก็เพิ่งจะได้ม้าศึกอันเดดจากหัวหน้ากิลด์แท้ ๆ นี่มันจะคุ้มค่าไปแล้วนะ เซียวเฟิงมั่นใจมาก ๆ ว่าเธอคนนี้จะต้องกำลังสำลักความสุขอย่างเป็นบ้าเป็นหลังอยู่แน่นอน…
นอกจากหนังสือสกิลระดับเทพเจ้าแล้ว มันก็ยังมีไอเทมระดับทองเลเวล 25 อยู่อีกนิดหน่อยที่มีค่ามากรองลงมา ซึ่งพวกมันก็ถูกสมาชิกคนอื่น ๆ ในปาร์ตี้เก็บไปตามความเหมาะสม ส่วนเซียวเฟิงนั้นไม่ได้อะไรจากดันเจี้ยนในครั้งนี้
เหตุผลหลัก ๆ ก็เป็นเพราะไอเทมที่เซียวเฟิงใช้อยู่นั้นดีเกินไป ในสายตาของเขา ไอเทมที่ผู้เล่นคนอื่นเก็บไปนั้นจึงไม่ได้ต่างอะไรกับขยะเสียเท่าไหร่
นายพลกระดูกบรรพกาลดร็อปคทานักปราชญ์ระดับทองเลเวล 25 เอาไว้ สิ่งนี้นับว่ามีค่ามาก ๆ ทว่าเพราะเซียวเฟิงมีคทาระดับอาร์ติแฟกต์อยู่แล้ว เขาจึงไม่ได้สนใจคทาชิ้นนี้อีก
[ผู้เล่นทุกท่านโปรดทราบ! พวกคุณคือสมาชิกกลุ่มแรกที่บรรลุภารกิจดันเจี้ยนเลเวล 25 ประจำเขตฮัวเซีย! และได้รับของรางวัลเป็น คะแนนเขตเพิ่มขึ้น 25 แต้ม!]
[ผู้เล่นทุกท่านโปรดทราบ! พวกคุณคือสมาชิกกลุ่มแรกที่บรรลุภารกิจดันเจี้ยนเลเวล 25 ประจำเขตฮัวเซีย! และได้รับของรางวัลเป็น คะแนนเขตเพิ่มขึ้น 25 แต้ม!]
[ผู้เล่นทุกท่านโปรดทราบ! พวกคุณคือสมาชิกกลุ่มแรกที่บรรลุภารกิจดันเจี้ยนเลเวล 25 ประจำเขตฮัวเซีย! และได้รับของรางวัลเป็น คะแนนเขตเพิ่มขึ้น 25 แต้ม!]
[ผู้เล่นทุกท่านโปรดทราบ! พวกคุณคือสมาชิกกลุ่มแรกที่บรรลุภารกิจดันเจี้ยนเลเวล 25 ประจำเขตฮัวเซีย! และได้รับของรางวัลเป็น คะแนนเขตเพิ่มขึ้น 25 แต้ม!]
[ผู้เล่นทุกท่านโปรดทราบ! พวกคุณคือสมาชิกกลุ่มแรกที่บรรลุภารกิจดันเจี้ยนเลเวล 25 ประจำเขตฮัวเซีย! และได้รับของรางวัลเป็น คะแนนเขตเพิ่มขึ้น 25 แต้ม!]
…
ในขณะที่พวกเขาได้ทำการพิชิตดันเจี้ยนได้ เสียงจากระบบก็ดังขึ้นเพื่อประกาศข่าวดีนี้ไปทั่วทั้ง 5 ครั้ง ตอนนี้เป็นเวลาดึกมากจนใกล้จะเช้าแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีผู้คนมากมายที่รู้เรื่องนี้และพูดต่อ ๆ กันไปทั่วทั้งเขตอย่างรวดเร็วอยู่ดี
นั่นเพราะพวกเขาใช้เวลาไม่ถึง 10 นาทีในการพิชิตดันเจี้ยนสุสานจอมพล ซึ่งตอนที่ได้ยินประกาศนั้น ผู้เล่นที่กำลังเข้าไปอยู่ในดันเจี้ยนเดียวกัน ก็เพิ่งจะจัดการบอสตัวแรกไปได้เท่านั้นเอง
“หา!? เขตฮัวเซียพิชิตเป็นเขตแรกอีกแล้วเหรอ! ทำไมพวกนั้นถึงทำได้เร็วขนาดนี้นะ!!”
“บ้าน่า!? เป็นไปไม่ได้!”
ผู้เล่นเขตอื่นที่เพิ่งจะเปิดดันเจี้ยนนี้มาทำเหมือนกันต่างก็ยอมรับเรื่องนี้ไม่ได้ นั่นเพราะพวกเขายังไม่ถึงกลางดันเจี้ยนเลยด้วยซ้ำ!
มีเพียงผู้เล่นระดับสูงเท่านั้นที่ไม่ได้พูดอะไร พวกเขาเคยประสบกับเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อนแล้ว และแน่นอนว่าพวกเขาเองก็รู้อยู่แล้วด้วยว่าในเขตฮัวเซียนั้นมีคน ๆ หนึ่งที่สามารถทำให้เรื่องที่ไม่น่าเป็นไปได้ให้เป็นไปได้อยู่ ดังนั้นแล้วมันจึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจอะไรสำหรับพวกเขาหากจะได้ยินว่าเขตฮัวเซียสามารถพิชิตดันเจี้ยนเปิดใหม่ได้เป็นเขตแรกและใช้เวลาสั้นมาก ๆ ด้วย
[ผู้เล่นทุกท่านโปรดทราบ! ปาร์ตี้นำโดยลิลลี่ จากกิลด์มิดซัมเมอร์ เป็นปาร์ตี้แรกที่พิชิตดันเจี้ยนเลเวล 25 ภายในปาร์ตี้ประกอบด้วย xxx, ไนท์ คูนเนอร์, ซันนี่, เบลด, อีเธอร์นิตี้…]
[ผู้เล่นทุกท่านโปรดทราบ! ปาร์ตี้นำโดยลิลลี่ จากกิลด์มิดซัมเมอร์ เป็นปาร์ตี้แรกที่พิชิตดันเจี้ยนเลเวล 25 ภายในปาร์ตี้ประกอบด้วย xxx, ไนท์ คูนเนอร์, ซันนี่, เบลด, อีเธอร์นิตี้…]
[ผู้เล่นทุกท่านโปรดทราบ! ปาร์ตี้นำโดยลิลลี่ จากกิลด์มิดซัมเมอร์ เป็นปาร์ตี้แรกที่พิชิตดันเจี้ยนเลเวล 25 ภายในปาร์ตี้ประกอบด้วย xxx, ไนท์ คูนเนอร์, ซันนี่, เบลด, อีเธอร์นิตี้…]
ประกาศทั่วเขตฮัวเซียดังซ้ำ ๆ อีก 3 ครั้ง และมันทำให้ฮัวเซียแทบจะระเบิดไปด้วยเสียงของผู้คนที่พากันตกใจ
ข่าวคราวเรื่องการปรากฏขึ้นของดันเจี้ยนเลเวล 25 นั้นแพร่สะพรัดไปตามฟอรั่มในเขตต่าง ๆ ผู้เล่นของเขตฮัวเซียจำนวนมาก ไม่ว่าจะเก่งหรือไม่เก่งต่างก็พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อหาทางเข้าของมัน โดยหวังว่าพวกเขาจะได้มีส่วนร่วมในการพิชิตดันเจี้ยนใหม่นี้เป็นกลุ่มแรก
ทว่าพวกเขากลับได้ยินประกาศว่าเขตของพวกเขาพิชิตดันเจี้ยนแล้วตั้งแต่พวกเขายังไม่เจอทางเข้าของมันเลยด้วยซ้ำ
วินาทีนั้น มิดซัมเมอร์ก็กลายเป็นสิ่งที่ผู้เล่นทั่วทั้งฮัวเซียต่างพูดถึงไปพร้อม ๆ กัน
“อะไรน่ะ? กิลด์มิดซัมเมอร์เป็นกลุ่มแรกที่พิชิตดันเจี้ยนใหม่นี้ได้เหรอ? มันง่ายหรือไงน่ะ?”
กิลด์ใหญ่ ๆ กิลด์อื่นภายในเขตฮัวเซียต่างก็ตื่นตระหนกกับประกาศล่าสุดนี้ไม่แพ้ผู้เล่นทั่ว ๆ ไปเลย นั่นเพราะพวกเขาเองก็ส่งกำลังที่มีทั้งหมดออกตามหาทางเข้าของดันเจี้ยนแห่งนี้เหมือนกัน ใครจะไปคาดคิดว่าไม่ถึง 10 นาทีหลังจากดันเจี้ยนปรากฏขึ้นมา ก็จะได้ยินข่าวเรื่องมีผู้พิชิตดันเจี้ยนแล้วออกมาแบบนี้
“ทำไมดันเจี้ยนถึงง่ายนัก? เมื่อครั้งที่ลงดันเจี้ยนรังซาลาแมนเดอร์พวกเราใช้เวลากันตั้งกี่ชั่วโมงนายจำได้หรือเปล่า? หากไม่ใช่เพราะเจ้าแห่งฮีลเลอร์แสดงศักยภาพที่เหนือชั้นนั้นขณะที่กำลังต่อสู้กับบอสใหญ่ล่ะก็ บางทีเราอาจจะไม่สามารถพิชิตดันเจี้ยนนั่นได้เลยด้วยซ้ำไป”
“กิลด์มิดซัมเมอร์แข็งแกร่งขึ้นมากนะ! ก่อนหน้านี้ก็เอาชนะกลอรี่กับดูมส์เดย์ลีกไป ตอนนี้ยังสามารถพิชิตดันเจี้ยนได้เป็นกลุ่มแรกอีก พวกเธอแข็งแกร่งขึ้นมากจริง ๆ!”
“นั่นสินะ โชคดีจริง ๆ ที่พวกเราเป็นพันธมิตรกับมิดซัมเมอร์ ยังไงซะกิลด์นี้ก็มีไนท์ คูนเนอร์เป็นผู้เล่นระดับสูงอยู่ด้วยนี่นา”
“เฮ้ ๆๆ นายเห็นตรงนั้นหรือเปล่า? มีผู้เล่นคนหนึ่งในปาร์ตี้ของมิดซัมเมอร์ที่ปกปิดชื่อเอาไว้ ฉันคิดว่านั่นน่าจะเป็นเจ้าแห่งฮีลเลอร์นะ ไม่งั้นดันเจี้ยนคงไม่ถูกพิชิตเร็วขนาดนี้หรอก ว่าไหม?”
“ไม่ต้องเดาเลย ถ้าไม่ใช่เจ้าแห่งฮีลเลอร์ ฉันยอมกินอึเลย เอ้า! ตะ… แต่ก็ห้ามเป็นคนอื่นนะเว้ย!!”
ในช่วงเวลานี้ คงมีเพียงสกายที่อยู่ภายในแคมป์ของวอร์สปิริตเท่านั้นที่นั่งปาดเหงื่อ และรู้สึกว่าตนเองนั้นช่างโชคดี ซึ่งระหว่างนั้นเอง เขาก็นั่งคิดด้วยว่าเขาจะขอเป็นพันธมิตรกับกิลด์มิดซัมเมอร์อย่างไรดี