ตอนที่ 581 ดูซิว่าใครจะทรมาน / ตอนที่ 582 ทุกอย่างล้วนเป็นบททดสอบ

ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ

ตอนที่ 581 ดูซิว่าใครจะทรมาน 

 

 

หลิงนีร้องไห้อยู่ที่เดิมเป็นเวลานาน ตอนที่อวี๋กานกานออกมาทั้งสองคนยังอยู่ 

 

 

ทันทีที่เห็นอวี๋กานกาน หลิงนีก็อยากจะพุ่งเข้าไปแต่ถูกจางอี๋เสวี่ยรั้งเอาไว้ได้ทันเวลา “หลิงนี เธอใจเย็นหน่อย ที่นี่เป็นบ้านฟัง ปู่ฟังอยู่ข้างใน” 

 

 

หลิงนีใจเย็นขึ้นมาบ้าง กัดฟันพูดพร้อมกับจับจ้องอวี๋กานกาน “ลุกเล่นร้ายกาจจริง เป็นฉันเองที่ดูถูกเธอ!” 

 

 

อวี๋กานกานมองเธออย่างประหลาดใจ “นี่คุณหมายความว่าอะไร” 

 

 

หลิงนีกัดฟันพลางเอ่ยด้วยความโมโห “หมายความว่าอะไร ไม่ใช่ว่าเธอรู้ดีแก่ใจหรอกเหรอ ปู่ฟังมีฐานะอะไรเธอไม่รู้เหรอ เธอตั้งใจเข้าใกล้ปู่ฟัง จากนั้นก็ใช้เขาเข้าใกล้พี่หัน ตอนนี้ยังหมั้นกับพี่หัน ช่างเก่งเสียจริงนะ เธอคอยดูฉันไม่แฉเธอ” 

 

 

อวี๋กานกานอดขำเสียไม่ได้ ย้อนถามอย่างไม่รีบไม่ร้อน “ในเมื่อรู้ว่าฉันเก่ง คุณยังจะแฉเหรอ คุณไม่กลัวว่าฉันจะใช้เล่ห์เหลี่ยมร้ายกาจกับตัวคุณหรือไง” 

 

 

หลิงนีพ่นลมหายใจพลางเปล่งเสียงย้ำ “อย่างเธอเหรอ!!” 

 

 

อวี๋กานกานพยักหน้า “ใช่สิ ฉันนี่แหละ ยังไงซะตอนนี้ฉันก็เป็นคู่หมั้นของตระกูลฟัง คุณตากับฟังจือหันต่างก็ชอบฉันมาก ถ้าฉันลองไปเป่าหู เกรงว่าคุณยังไม่ทันได้แฉฉัน ฉันก็ทำให้คุณทรมานแล้ว” 

 

 

หลิงนีสะอึก หมดคำพูดในทันทีแล้วประกาศออกมาด้วยความลนลาน “งั้นก็ลองดูว่าใครจะเจ็บหนักก่อน!” 

 

 

พูดจบก็ลากจางอี๋เสวี่ยออกไปด้วยกันแล้ว 

 

 

ในใจของอวี๋กานกานส่งเสียง “เอ่อ”  

 

 

หรือที่บอกว่าแต่ก่อนสองคนนี้จงใจทำให้เธอลำบากและยังเป็นเพราะฟังจือหันเหรอ 

 

 

หลิงนีคนนี้กับฟังจือหันเกี่ยวข้องอะไรกัน 

 

 

ผู้ชายคนนี้ช่างดึงความสนใจเสียจริง! 

 

 

หลังจากงานเลี้ยงจบลง อวี๋กานกานกับฟังจือหันไม่ได้อยู่ที่บ้านฟังต่อ จัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยก็เดินทางกลับในคืนนั้นเลย 

 

 

ตลอดทางกลับอวี๋กานกานไม่สนใจฟังจือหันเลยสักนิด 

 

 

พอถึงบ้านก็ยังไม่สนใจเขา คืนนั้นเธอยังอยากนอนแยกเตียงกับฟังจือหัน ในตอนนั้นฟังจือหันไม่ยอมทำตาม แล้วโอบไหล่ของเธอแกมบังคับ กอดเอาไว้ในอ้อมแขนพร้อมกับพูด “แก้มป่องอีกแล้ว กลัวว่าจะกลายเป็นมีมโมโหเอานะ” 

 

 

อวี๋กานกานตอบอย่างไม่พอใจ “คุณต่างหากที่เป็นมีมโมโห บ้านคุณทั้งบ้านเป็นมีมโมโหหมด!” 

 

 

“บ้านผมนอกจากคุณแล้วก็ไม่มีใครเป็นมีมโมโห!” 

 

 

มือบีบแก้มของเธอ 

 

 

แต่ถูกอวี๋กานกานปัดออก 

 

 

อวี๋กานกานเหลือบมองเขาแวบหนึ่ง พูดจาครุมเครือ “คุณไม่ชอบมีมโมโห เลือกคนอื่นก็ได้ ฉันว่าคุณเนื้อหอม เช่นคุณหนูหลิงคนนั้นที่งานเลี้ยงคืนนี้ หน้าตาสละสลวยไม่น้อยไปกว่าจยาอวี่ ยืนอยู่กับคุณซึ่งหล่อเหลาดูดี เป็นกิ่งทองใบหยกพอดี คู่สวรรค์สรรค์สร้าง” 

 

 

ฟังจือหันได้ฟังก็หัวเราะในพริบตา “หึงเหรอ” 

 

 

อวี๋กานกานรีบปฏิเสธ “เปล่า!” 

 

 

น้ำเสียงของฟังจือหันสูงขึ้นเล็กน้อย หัวเราะร่าเริงสุดขีด “โอเค คุณบอกว่าเปล่าก็เปล่า ผมหึงก็พอแล้วสินะ” 

 

 

ง้อแบบนี้แต่อวี๋กานกานยังคงไม่พอใจ 

 

 

เธอดันเขาออก นั่งตัวตรงพลางเอ่ยถามอย่างเคร่งเครียด “วันนั้นฉันอ่านบัตรเชิญให้คุณชัดๆ ชื่อในบัตรเชิญยังมีที่อยู่จัดงานเลี้ยง แค่คุณเห็นก็ต้องรู้ว่าเป็นใคร แต่คุณกลับไม่บอกฉัน ยังหลอกฉันว่าต้องไปทำงานนอกสถานที่ คุณหมายความว่าอะไร จงใจแกล้งฉันเหรอ?!” 

 

 

ฟังจือหันยกยิ้ม “ผมบอกแล้วว่ากลับบ้านจะบอกคุณทุกอย่างที่คุณอยากรู้” 

 

 

อวี๋กานกานแบมือ “แต่เรากลับมานานขนาดนี้แล้ว อาบน้ำเสร็จแล้ว เตรียมจะนอนแล้ว คุณก็ไม่ได้บอกฉันเลยนี่” 

 

 

“นั่นเพราะคุณไม่สนใจผม” 

 

 

“ฉันไม่สนใจคุณ คุณก็พูด? ฉันว่าคุณร้อนตัวต่างหาก!” 

 

 

  

 

 

 

 

 

ตอนที่ 582 ทุกอย่างล้วนเป็นบททดสอบ 

 

 

ฟังจือหันย้อนถามเธอ “ผมก็ไม่ได้ทำเรื่องที่ผิดต่อคุณ ต่อให้ผมปิดบัง ทำไมผมต้องร้อนตัวล่ะ” 

 

 

ปิดบังก็แค่อยากให้เธอประหลาดใจ แม้จะตกใจไปแล้วแต่ก็ไม่นับว่าเป็นเรื่องแย่อะไร ใช้ว่าร้อนตัวไม่ได้จริงๆ อวี๋กานกานจ้องเขา “งั้นในใจคุณ…ไม่มีฉันอยู่เลย คิดว่าอธิบายหรือไม่ล้วนไม่เป็นไร” 

 

 

ฟังจือหันดึงมือของเธอ “ผมไม่มีคุณอยู่ในใจ ตลอดทางกลับจนถึงตอนนี้ผมเหมือนหางที่ตามติดหลังคุณเลย” 

 

 

อวี๋กานกานยั่วแหย่ต่อไป “งั้นคุณ…ก็ตั้งใจแกล้งฉัน” 

 

 

ฟังจือหันแย้มยิ้ม “ถ้าผมบอกว่าคุณปู่ขอร้องไม่ให้ผมบอกคุณ คุณจะเชื่อไหม” 

 

 

อวี๋กานกานเชื่ออยู่แล้ว เพราะเมื่อสักครู่ปู่ฟังก็บอกว่าเขาไม่อนุญาตให้ฟังจือหันบอกเธอสักนิด 

 

 

แต่ว่า… “ทำไมไม่ให้บอกฉันล่ะ” 

 

 

“เพราะว่าผมกับเขาตกลงกันเอาไว้ ถ้าคุณสามารถรับมือกับทุกอย่างที่เกิดขึ้นในคืนนี้ได้อย่างใจกว้างและสบาย งั้นเขาก็จะไม่คัดค้านใดๆ อีก” 

 

 

สุดท้ายแล้วตระกูลฟังก็ไม่ใช่ครอบครัวธรรมดา อวี๋กานกานอยากแต่งกับฟังจือหัน มีบางเรื่องบางคนเธอต้องเผชิญหน้า 

 

 

คล้ายกับงานเลี้ยงแบบนี้ในวันนี้ ถ้าอวี๋กานกานเป็นคนแบบยายหลิวเดินเข้าสวน[1] งั้นงานหมั้นในคืนนี้ก็คงไม่เกิดขึ้น 

 

 

ถ้าเธอถูกจางอี๋เสวี่ยกับหลิงนีทำให้ลำบากใจ ทำอะไรไม่ถูก อารมณ์ไม่ดี งั้นงานหมั้นในคืนนี้ก็คงจะไม่มี 

 

 

ชายแก่รักและเอ็นดูฟังจือหัน แต่ก็เข้มงวดกับฟังจือหันมาก 

 

 

ฟังจือหันก็รักและเคารพชายแก่เป็นอย่างยิ่ง ตอนที่เขาเลือกไปเมืองไป๋หยางได้บอกทุกอย่างกับชายแก่ไว้ล่วงหน้าแล้ว 

 

 

ชายแก่จึงรู้นับตั้งแต่ตอนนั้น รู้ถึงการมีตัวตนของอวี๋กานกานแล้ว 

 

 

เขาให้บททดสอบอวี๋กานกานไม่ใช่ครั้งสองครั้งแล้ว อวี๋กานกานไม่เคยรู้เลยว่าประสบการณ์ตั้งแต่เด็กจนโตของตนเองถูกชายแก่นำกลับมาดูหลายครั้ง 

 

 

คนที่ถูกไล่ออกจากตระกูลเล่าว่าชายแก่รู้ว่าหญิงสาวคนนี้ดีมาก พอได้รู้จักก็ค่อนข้างชอบเธอ 

 

 

เธอชอบฟังจือหัน ฟังจือหันก็ชอบเขาขนาดนั้น เขาไม่มีเหตุผลที่จะคัดค้านทั้งสองคนนี้ 

 

 

แต่ว่าแต่งเข้าตระกูลฟัง ลำพังแค่ดีกับชอบนั้นไม่มีประโยชน์ 

 

 

ดังนั้นจึงเกิดทุกอย่างในงานเลี้ยงคืนนี้ขึ้นมา 

 

 

ที่จริงเป็นบททดสอบที่ชายแก่มอบให้อวี๋กานกาน 

 

 

ถ้างานเลี้ยงวันนี้เธอสามารถวางตัวเหมาะสมเดินไปจนจบ ทำให้ทุกคนเกิดความประทับใจที่ดี งั้นชายแก่จะไม่คัดค้านใดๆ อีกเกี่ยวกับเรื่องงานแต่งของฟังจือหัน 

 

 

กระทั่งยังประกาศเรื่องการหมั้นหมายของพวกเขาในงานเลี้ยงวันเกิด 

 

 

ในทางกลับกันถ้าอวี๋กานกานทำตัวน่าเกลียดในคืนนี้ ขี้ขลาด งั้นก็หมายความว่าเธอจะไม่มีการจัดการ คุณสมบัติในบทของการเป็นหลานสะใภ้ตระกูลฟัง 

 

 

ฟังจือหันสุดท้ายรับปากชายแก่ พิจารณาเรื่องอวี๋กานกานอีกครั้ง 

 

 

กลับมาพิจารณาอีกครั้งที่ชายแก่พูดที่จริงก็คือหมายความว่าเลิกกัน 

 

 

อวี๋กานกานพึมพำ “ดังนั้นคุณตาของคุณตอนแรกไม่เห็นด้วยที่พวกเราคบกันเหรอ” 

 

 

“ตอนนี้ยอมรับก็พอแล้ว” 

 

 

“มิน่าตอนที่เขามาให้ฉันตรวจจงใจทำให้ลำบาก ยังดีที่…” เธอไม่ได้ระเบิดอารมณ์ไล่คนออกไปทันที ไม่อย่างนั้นเกรงว่าพอชายแก่หันหลังกลับไปก็จะโทรศัพท์หาฟังจือหัน จากนั้นก็ออกคำสั่งให้ฟังจือหันว่าไม่อนุญาตให้เจอเธออีก 

 

 

อวี๋กานกานถามฟังจือหัน “งั้นถ้าวันนี้ฉันไม่สามารถทำให้คำขอของตาคุณสำเร็จ ตรงกันข้ามกับที่คุณคาดหวังพอดี งั้นคุณจะเลิกกับฉันไหม” 

 

 

ฟังจือหันมองเธออย่างลึกซึ้ง ย้อนถามเธอคล้ายกับครุ่นคิดอยู่ “งั้นถ้าผมเลิกกับคุณ คุณจะยอมเลิกไหม” 

 

 

 

 

 

 

 

 

——