บทที่ 284 ง้าวชิงหลง ทลายสวรรค์

เทพสังหาร ยุทธการระห่ำ

ตู้ม!

ครั้งนี้เย่เทียนเฉินระเบิดความสามารถขั้นสูงสุดของขอบเขตจอมราชันออกมา ทำให้ง้าวฟางเทียนซึ่งเกิดจากพลังพิเศษที่อยู่ในมือขวาของตนขยายใหญ่ขึ้นหลายเท่าในพริบตาเดียว ยิ่งไปกว่านั้นพลังทำลายล้างก็ไม่รู้ว่าเพิ่มขึ้นมากแค่ไหน เขาเตรียมที่จะโจมตีฆ่าฟันอาชูร่า เขาเองก็ไม่มีตัวเลือกอื่น ในเมื่ออาชูร่าอุทิศชีวิตปกป้องตระกูลเซวียนเยวี๋ยน เขาก็ทำได้เพียงลงมือฆ่าเท่านั้น

อาชูร่าเป็นคู่ต่อสู้คนแรกที่ทำให้เย่เทียนเฉินให้ความสำคัญขนาดนี้ และพูดได้ว่าตั้งแต่ที่เย่เทียนเฉินได้มาเกิดใหม่ในโลกแห่งนี้ เขาเป็นคู่มือที่แข็งแกร่งมากที่สุดที่เคยเจอ เมื่อครู่นี้ในช่วงเวลาสั้นๆ เพียงสองนาทีก็ประมือกันอย่างรุนแรงไปหลายร้อยกระบวนท่าแล้ว และเป็นเพราะพวกเขาเป็นยอดฝีมือขั้นสูง ไม่งั้นไม่รู้ว่ามือสังหารชั้นยอดเหล่านั้นจะตายไปแล้วกี่คน การต่อสู้ครั้งใหญ่เช่นนี้ยังไม่รู้แพ้รู้ชนะ ใครจะแพ้จะชนะก็ไม่มีเค้าลางเลยแม้แต่น้อย นี่เป็นครั้งแรกที่เย่เทียนเฉินลงมือกับคู่ต่อสู้ด้วยการกระตุ้นพลังทั้งหมดออกมา

ง้าวฟางเทียนร่วงหล่นจากฟากฟ้า ฟาดฟันลงไปยังอาชูร่าโดยตรง ภายในป่าเล็กๆ ทั่วทั้งป่า ใบไม้ปลิวพลิก ต้นไม้หลายต้นส่งเสียงครางลั่นอย่างรุนแรง ราวกับถูกพลังสังหารอันแข็งแกร่งจนแทบจะแตกสลาย เห็นได้ว่าพลังโจมตีในครั้งนี้ของเย่เทียนเฉินรุนแรงขนาดไหน

“มังกรเขียวฟ้าคำรน!”

ชั่วขณะนั้นเอง ดวงตาของอาชูร่าเปลี่ยนไปคมกริบอย่างหาที่เปรียบมิได้ มีประกายแสงจำนวนมากส่องสว่าง มองไปยังเงาของง้าวฟางเทียนอันใหญ่ยักษ์ที่ฟันลงมาบนศีรษะของตน เขาขมวดคิ้วแน่น รู้สึกได้ถึงพลังการฆ่าฟันที่รุนแรง ในใจตกตะลึงยิ่งนัก เย่เทียนเฉินเป็นคนหนุ่มที่มีพลังแห่งการต่อสู้ลึกล้ำอยากจะหยั่งถึงจริงๆ

ฉัวะ!

ดาบหนึ่งพุ่งขึ้นไปสู่ฟ้า ง้าวชิงหลงระเบิดประกายแสงสีทอง ทำให้ผู้คนลืมตาไม่ขึ้น อาชูร่าตะโกนออกมาเสียงดัง ไม่ยอมปล่อยเลยแม้แต่น้อย สะบัดง้าวออกไปครั้งหนึ่ง พบว่ามีเงาร่างของมังกรเขียวตัวเขื่องพุ่งทะยานขึ้นสู่ฟ้า อ้าปากอันใหญ่โตมโหฬารงับลงไปที่เงาของง้าวฟางเทียน ในปากถึงกับมีเสียงร้องคำรามของมังกรออกมา แน่นอนว่านี่เป็นของปลอม เย่เทียนเฉินรู้ดีว่านี่เป็นเพราะความสามารถของอาชูร่าแข็งแกร่งมากเกินไปจนพลังสังหารที่ตวัดออกไปรวมตัวกันจนกลายเป็นเงาของมังกร และยังทำให้รู้สึกเหมือนได้ยินเสียงมังกรคำรามอีกด้วย

ตู้ม!

ง้าวฟางเทียนฟาดฟันลงมา ง้าวชิงหลงทะยานออกไปในแนวขวาง เกิดเงาร่างของมังกรตัวเขื่องกลืนง้าวฟางเทียนลงไป เย่เทียนเฉินตื่นตะลึง ความสามารถของอาชูร่าแข็งแกร่งมาก ท่าทางการโจมตีในครั้งนี้ของตนจะฆ่าเขาไม่ได้ซะแล้ว

หลังจากเสียงดังสนั่น จินตภาพของมังกรเขียวก็ไม่สามารถกลืนง้าวฟางเทียนลงไปได้ และหัวของมังกรก็ถูกฟันกลางอากาศ ในตอนที่ง้าวฟางเทียนฟันศีรษะของมังกร ก็ไม่อาจขวางพลังทำลายล้างที่พุ่งออกมาจากมังกรเขียวได้ สุดท้ายก็สั่นสะท้านและสลายหายไป

ซู่ม!

การต่อสู้ตกอยู่ในสถานการณ์ตึงเครียด ต้องลงมือเท่านั้น ถ้าเย่เทียนเฉินไม่ลงมือสังหาร ก็จะไม่สามารถหยุดยั้งเอาไว้ได้โดยเด็ดขาด นี่เป็นความคุ้นชินที่สั่งสมมาจากการต่อสู้ในช่วงยุคสิ้นโลก เขาจำเป็นต้องทำเช่นนี้ เมื่ออยู่ต่อหน้าศัตรูที่แข็งแกร่ง อีกฝ่ายไม่ตายเราก็ม้วย

เย่เทียนเฉินกระโดดขึ้นไปเหนือศีรษะอาชูร่า มือซ้ายไขว้เอาไว้ด้านหลัง มือขวากำเงาฟางเทียนแน่น ชี้ขึ้นไปบนฟ้า ภายใต้แสงจันทร์ เงาร่างของเขาดูน่าหวาดกลัวยิ่งนัก นี่เป็นการแสดงความแข็งแกร่งทั้งหมดของเขาออกมา

ครั้งนี้เย่เทียนเฉิน ฟันทั้งคนทั้งง้าวลงไปยังอาชูร่าพร้อมกัน ไม่รู้ว่าอำนาจทำลายล้างจะเพิ่มขึ้นกี่เท่า อาชูร่าไม่สามารถหลบได้ เพราะเย่เทียนเฉินฟาดฟันง้าวลงมาอย่างรวดเร็วและรุนแรงจนเกินไป

เคร้ง!

ง้าวชิงหลงในมือของอาชูร่าและง้าวฟางเทียนในมือขวาของเย่เทียนเฉินปะทะกัน เกิดเสียงก้องกังวานของโลหะ ประกายไฟลุกโชนไปทั่วทั้งสี่ทิศ เย่เทียนเฉินรู้สึกว่ามือขวาของตนเกิดอาการชา ส่วนอาชูร่าก็รู้สึกว่าตัวเขาแทบจะลงไปคุกเข่าอยู่กับพื้นรอมร่อ การโจมตีนี้ทั้งคู่ออกแรงเต็มที่แล้ว

“แกถึงกับสามารถสร้างง้าวฟางเทียนจากเท็จเป็นจริงได้ ทำได้ถึงขั้นนี้ ฉันต้องขอกล่าวเลยว่าแกแข็งแกร่งมากจริงๆ!” มือทั้งสองของอาชูร่าประคองง้าว สายตามองไปยังเย่เทียนเฉินอย่างเย็นชาแล้วพูดขึ้น

เย่เทียนเฉินใช้เคล็ดวิชาพลังพิเศษอันแข็งแกร่งสร้างง้าวฟางเทียนขึ้นมา ความจริงแล้วนี่ไม่ได้ทำให้อาชูร่ารู้สึกตื่นตกใจมากเท่าไหร่นัก เนื่องจากหลังจากที่พลังพิเศษพัฒนามาจนถึงขอบเขตที่แน่นอนแล้วก็สามารถทำได้ แต่ของที่สร้างออกมานั้น ต่อให้มีพลังพิเศษที่แข็งแกร่งมากขนาดไหนก็ทำได้เพียงสร้างจากเท็จเป็นจริงเท่านั้น จะอย่างไรก็เป็นการคงอยู่ที่เป็นภาพลวงตาไม่ใช่ความจริง แต่ง้าวฟางเทียนในมือขวาของเย่เทียนเฉินถึงกับสามารถปะทะกับง้าวชิงหลงของอาชูร่าได้ และยังปะทะกันจนเกิดประกายไฟขึ้นมา เหมือนกับง้าวฟางเทียนคือของจริงอย่างไรอย่างนั้น นี่ทำให้อาชูร่าตกตะลึงมากจริงๆ

“ฉันยังไม่ได้ลงมือเต็มที่เลย ฉันเชื่อว่าแกเองก็ไม่ได้ลงมือเต็มที่เหมือนกัน ในเมื่อสาบานว่าจะใช้ชีวิตปกป้องตระกูลเซวียนเยวี๋ยนแล้ว งั้นพวกเราก็มาโจมตีครั้งสุดท้ายกันเถอะ!” เย่เทียนเฉินพูดด้วยรอยยิ้ม

ช่วงเวลาต่อไปเย่เทียนเฉินและอาชูร่าจะเปิดสงครามกันแล้ว สู้กันมาจนถึงตอนนี้ ก็นับว่าดวลกันไปหลายร้อยกระบวนท่าแล้ว ทั้งสองเป็นคู่ต่อสู้ที่มีฝีมือพอฟัดพอเหวี่ยงกัน ไม่อาจแบ่งแยกแพ้ชนะ แต่การต่อสู้ในคืนนี้จะต้องมีคนตาย ในใจของทั้งสองเข้าใจกระจ่างแจ้ง โดยเฉพาะเย่เทียนเฉิน พบกับผู้แข็งแกร่งเช่นอาชูร่า เขาย่อมต้องการรับสมัครมาเป็นพวกเพื่อขยายกองกำลังสิบสามจ้าวสวรรค์ให้ยิ่งใหญ่ แต่อาชูร่าไม่ได้มีความคิดเช่นนั้น เขาสาบานว่าจะใช้ชีวิตปกป้องตะกูลเซวียนเยวี๋ยน คำพูดของเขาชัดเจนมาก ต่อให้เขารู้ว่าตระกูลกลางจะทำเรื่องเลวร้ายมากมาย และรู้ว่าเซวียนเยวี๋ยนเสวียนอวี่และเซวียนเยวี๋ยนชิวสองพ่อลูกวางแผนใช้ประโยชน์จากตนเอง เขาก็ยังปกป้องตระกูลเซวียนเยวี๋ยน นี่เป็นการตอบแทนบุญคุณที่ตระกูลเซวียนเยวี๋ยนเลี้ยงดูเขา อาชูร่าเป็นคนที่ให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์มากคนหนึ่ง

“การโจมตีครั้งสุดท้าย จะเป็นเคล็ดวิชาสังหารพลังพิเศษที่แข็งแกร่งที่สุดในช่วงเวลาสี่สิบปีของฉัน ชื่อว่าทลายสวรรค์!”

อาชูร่ามองเย่เทียนเฉินอย่างเย็นชา พริบตาเดียวมือขวาก็แทงง้าวชิงหลงลงไปที่พื้น แทงลงไปเบื้องหน้าของตน ขณะเดียวกันในมือทั้งสองก็ปรากฏประกายแสงสีทองขึ้น เสียดแทงดวงตาเป็นอย่างมาก กระทั่งเย่เทียนเฉินก็ไม่กล้ามองตรงๆ ลมอันบ้าคลั่งพุ่งขึ้นมาจากดิน พัดต้นไม้ใหญ่แต่ละต้นจนแทบจะหัก เศษฝุ่นหินดินทรายออกไป กระทั่งเกาะทะเลทรายก็สั่นสะท้านขึ้นมา มีน้ำทะเลม้วนตัวอย่างบ้าคลั่ง นี่คือพลังพิเศษอันแข็งแกร่งของอาชูร่าที่กระจัดกระจายไปทั่ว พลังอำนาจหาใดเปรียบ

“ที่แท้ก็เป็นผู้มีพลังพิเศษธาตุทอง ยิ่งไปกว่านั้นยังไปถึงขอบเขตจอมราชันแล้วด้วย ในโลกนี้ที่เป็นสถานที่ไม่เหมาะสมกับการบ่มเพาะ สามารถประสบความสำเร็จถึงขั้นนี้ได้ ช่างไม่ธรรมดาเลยจริงๆ!” เย่เทียนเฉินอดไม่ได้ที่จะพูดออกมาอย่างตื่นตะลึง

“แกเองก็เหมือนกันไม่ใช่หรือไง ตอนนี้ความสามารถของแกเหนือกว่าฉันตอนหนุ่มๆ ไปแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นก็ไม่แน่ว่าฉันจะเอาชนะแกได้ แต่ฉันจะลงมือเต็มที่!” อาชูร่ามองเย่เทียนเฉินแล้วพูดอย่างชื่นชม

จนถึงตอนนี้ อาชูร่าก็ต้องลงมือเต็มที่ ต้องการที่จะใช้การโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุดในหมู่เคล็ดวิชาพลังพิเศษของตนออกมา เย่เทียนเฉินรับรู้ถึงความแข็งแกร่งของอาชูร่า ในที่สุดถึงยืนยันได้ว่าอาชูร่าไม่เพียงแต่จะเป็นผู้มีพลังพิเศษธาตุทอง แต่ยังมีขอบเขตพลังถึงขั้นจอมราชันแล้วด้วย มิฉะนั้นจะสู้กับเย่เทียนเฉินนานขนาดนี้โดยไม่แพ้ได้อย่างไร

อาชูร่าก็เหมือนกับเย่เทียนเฉิน มีความสามารถในขอบเขตจอมราชันเช่นเดียวกัน บนโลกใบนี้ที่หลิงชี่แห้งเหือดไปนานแล้ว และกฎเกณฑ์ธรรมชาติแปรเปลี่ยนไป ดูเหมือนจะไม่มีทางบ่มเพาะได้ อาชูร่าถึงกับสามารถทะลวงไปยังขอบเขตจอมราชันได้ ไม่กล่าวไม่ได้ว่าไม่อาจดูเบา การที่เย่เทียนเฉินสามารถทะลวงขอบเขตไปได้นั้นเป็นเพราะเดิมทีเขาก็เป็นผู้แข็งแกร่งที่มีพลังพิเศษระดับพระเจ้า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความเชี่ยวชาญในเคล็ดวิชาพลังพิเศษ หรือจะเป็นประสบการณ์ในด้านการทะลวงขอบเขต เขาก็รู้มากกว่าอาชูร่า ต่อให้เป็นเช่นนี้ เย่เทียนเฉินกับยากที่จะทะลวงไปยังระดับจักรพรรดิ กฎเกณฑ์ธรรมชาติในโลกแห่งนี้ถูกทำลายไปอย่างสาหัส ต่อให้เขาจะพยายามยืนหยัดอย่างไม่ขาดสายมาโดยตลอดก็ตาม

เย่เทียนเฉินเห็นอาชูร่าใช้กระบวนท่าโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุดของเขา ในใจก็สั่นสะท้าน เขาสัมผัสได้ถึงไอพลังอันบ้าคลั่ง เดิมทีเคล็ดวิชาพลังพิเศษธาตุทองก็เป็นเคล็ดวิชาอันดับต้นๆ ของธาตุทั้งห้า แต่ไม่ได้กล่าวว่าเคล็ดวิชาพลังพิเศษธาตุทองจะแข็งแกร่งที่สุดในเหล่าเคล็ดวิชาพลังพิเศษของธาตุทั้งห้า ยิ่งไปกว่านั้นในเมื่อธาตุทั้งห้าอันได้แก่ทองไม้น้ำไฟดิน ธาตุทองอยู่ในอันดับที่หนึ่งย่อมมีสาเหตุ อย่างน้อยเคล็ดวิชาธาตุทองก็เป็นเคล็ดวิชาที่บ่มเพาะฝึกฝนได้ยากที่สุดในหมู่เคล็ดวิชาพลังพิเศษทั้งห้าธาตุ แต่เมื่อฝึกฝนไปถึงขอบเขตหนึ่ง ความสามารถจะลึกล้ำไม่อาจคาดเดา มีอำนาจถึงขั้นทะลวงฟ้าทะลายดิน

การโจมตีครั้งสุดท้าย เห็นได้ชัดว่าอาชูร่าจะลงมือเต็มที่โดยไม่ยั้งมือเลยแม้แต่น้อย ตั้งชื่อท่าว่า “ทลายสวรรค์” เห็นได้ชัดว่าเป็นการโจมตีที่แข็งแกร่งขนาดไหน จะต้องโจมตีรวดเร็วรุนแรงดั่งพายุฝนอันบ้าคลั่งแน่นอน เนื่องจากตอนนี้เขายังไม่ได้ลงมือก็ทำให้เกาะทะเลทรายทั้งเกาะสั่นสะท้านขึ้นมาแล้ว สีหน้าของเย่เทียนเฉินเคร่งขรึมขึ้นมาก

“ทลายสวรรค์!”

เสียงตะโกนดังลั่น มือทั้งสองของอาชูร่าเปล่งประกายสีทอง จับง้าวชิงหลงขึ้นมาในพริบตา ดึงออกมาจากพื้นจนส่งเสียงดังลั่น ง้าวชิงหลงทั้งเล่มมีประกายแสงสอดส่องไปทั่ว ฟันไปยังเย่เทียนเฉิน นี่ไม่ใช่เงาจินตภาพ แต่เป็นง้าวชิงหลงแท้จริงที่ฟันลงมา เสียงมังกรคำรามดังสะท้านฟ้า นี่คือการโจมตีเต็มกำลังของอาชูร่า

“กำแพงดิน!”

เย่เทียนเฉินตะโกนออกมาเช่นเดียวกัน ใช้ฝ่ามือตบลงไปบนดิน ชั่วขณะนั้นเบื้องหน้าของเขามีกำแพงดินหนาห้าชั้นปรากฏขึ้น ต้องการที่จะหยุดยั้งง้าวชิงหลงเอาไว้

ตู้ม!

ตู้ม!

ตู้ม…

เดิมทีง้าวชิงหลงมีอำนาจมหาศาล รวมกับที่ด้านในแฝงไปด้วยพลังพิเศษทั้งหมดของยอดฝีมือในขอบเขตจอมราชันเช่นอาชูร่าและโจมตีออกไปเต็มกำลัง แข็งแกร่งจนถึงขั้นที่ทำให้ผู้คนต้องสั่นสะท้าน เย่เทียนเฉินใช้เคล็ดวิชาธาตุดินออกมา สร้างเป็นกำแพงหนาห้าชั้นอย่างรวดเร็ว แต่ถึงกับไม่สามารถหยุดง้าวชิงหลงเอาไว้ได้ ไม่มีโอกาสแม้แต่พริบตาเดียว ง้าวชิงหลงพุ่งมาถึงเบื้องหน้าแล้ว เจาะทะลุไหล่ซ้ายของเย่เทียนเฉินโดยตรง

ตู้ม!

ไหล่ซ้ายของเย่เทียนเฉินถูกง้าวชิงหลงแทงทะลุ เรียกได้ว่าหน้าอกซ้ายทั้งแถบถูกแทงทะลุไปแล้ว เลือดสดๆ ไหลออกมา ยิ่งไปกว่านั้นพลังทำลายล้างของง้าวชิงหลงก็ไม่น้อย ปักอยู่บนต้นไม้ต้นหนึ่ง เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกะทันหันจนเกินไปและแข็งแกร่งจนเกินไป หากมียอดฝีมืออยู่ที่นี่ จะต้องไม่กล้าเชื่อสายตาของตนแน่นอน อาชูร่าแข็งแกร่งอย่างไม่ต้องสงสัย

“แกแพ้แล้ว แกแข็งแกร่งมาก เดิมทีหากอายุไม่ถึงสามสิบปีก็คงแข็งแกร่งกว่าฉันแล้ว เพียงแต่น่าเสียดาย…” อาชูร่าทอดถอนใจ เย่เทียนเฉินทำให้เขารู้สึกสั่นสะท้านมากจริงๆ อายุน้อยขนาดนี้แต่ความสามารถในการต่อสู้แข็งแกร่งถึงเพียงนี้ มีศักยภาพลึกล้ำไม่อาจคาดเดา เพียงแต่น่าเสียดายที่ต้องมาตายในน้ำมือของเขา หากไม่ใช่เพราะตระกูลเซวียนเยวี๋ยนมีบุญคุณที่เลี้ยงดูเขามา เขาคงไม่ยินยอมที่จะฆ่าบุคคลผู้เป็นความภาคภูมิใจแห่งสวรรค์คนนี้แน่

“ยังไม่จบ…โล่ทองคำ!”

ชั่วพริบตานั้น เย่เทียนเฉินตะโกนขึ้น ทั่วทั้งเกาะทะเลทรายถูกประกายแสงสีทองสาดส่องไปทั่ว อาชูร่าตื่นตะลึงอย่างหาที่เปรียบมิได้ เงยหน้าขึ้นมองพบของสิ่งหนึ่งที่ดูคล้ายกับก้อนอิฐสีทองอันใหญ่กำลังโถมลงมาที่เขา ส่วนเย่เทียนเฉินใช้ขาข้างหนึ่งเหยียบอยู่ด้านบน ต้องการจะใช้สิ่งนี้ทับเขาให้ตาย

…………