บทที่ 339
บทที่ 339

เจียงหลูอาจจะให้คำแนะนำไม่ดีนัก แต่วาจาของเขานั้นช่างคมคาย ทำให้ใครก็ตามที่ได้ยินต้องหยุดคิด

ก่อนที่จีหยิงจะตอบกลับในเวลานี้ ก็ได้มีกลุ่มคนเดินเข้ามาจากด้านนอก

คนเหล่านี้ล้วนเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาและกุนซือของจีหยิง หลังจากเข้ามา พวกเขาก็พลันหันมองไปทางเจียงหลู ก่อนจะกลับไปสบตากับผู้เป็นนายและพูดขึ้นพร้อมกัน “ท่านแม่ทัพ…” ทุกคนดูกังวล แต่พวกเขาก็ลังเลที่จะพูด

เจียงหลูอ้างว่าเป็นสหายเก่าของจีหยิง แต่ถ้าใครก็ตามที่มีสมองย่อมมองออกถึงเจตนาที่แท้จริง หลังจากที่พวกเขารู้ ก็พากันมาแอบฟังการสนทนา ก่อนที่จะไม่อาจหักห้ามตัวเอง และพากันเข้ามาหา เพื่อร้องขอให้จีหยิงตัดสินใจ

จีหยิงเงยหน้าขึ้นมองไปรอบ ๆ แล้วถาม “พวกเจ้าคิดว่าตอนนี้ข้าควรจะยอมจำนนอย่างนั้นหรือ ?”

ถึงปากจะบอกว่าไม่กลัวตาย แต่เมื่อเส้นทางแห่งชีวิตและความตายอยู่ตรงหน้าพวกเขา ก็คงมีไม่กี่คนหรอกที่จะเลือกเส้นทางที่ไม่มีวันหวนกลับ แม้ว่าทุกคนมีความตั้งใจที่จะยอมจำนนต่อกองทัพเทียนหยวน แต่ท่าทีของจีหยิงก็ไม่ชัดเจน ดังนั้นพวกเขาจึงไม่กล้าที่จะพูดสิ่งที่อยู่ในใจ

…หลังจากหยุดพักไปชั่วขณะ ทุกคนต่างพูดว่า “เราติดตามแม่ทัพมานานแล้ว ไม่ว่าท่านจะสู้หรือไม่ก็ตาม เราสาบานว่าจะอยู่และตายไปพร้อมกับท่าน !”

คำพูดของพวกเขาทำให้จีหยิงหนักใจมากขึ้น และหากทุกคนแนะนำให้เขายอมจำนน จีหยิงก็จะตกลงในทันที !

…ผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาควรค่าแก่การเคารพและชื่นชม เป็นไปได้ไหมว่าเพื่อตอบแทนน้ำใจของซ่งเทียน เขาจะต้องสังเวยชีวิตคนเหล่านี้ ?

เจียงหลูพูดไม่ผิดเลย ทหารเหล่านี้เป็นเพียงพลเมืองธรรมดาที่สวมชุดเกราะและถืออาวุธ พวกเขาไม่ได้เข้าร่วมกองทัพด้วยความสมัครใจตัวเอง ดังนั้นพวกเขาก็ควรที่จะเลือกเส้นทางของตัวเองได้ เพราะคงไม่มีใครที่อยากร่วมหัวจมท้ายเข้าสู่ความตายโดยไม่ยินยอม !

การแสดงออกของจีหยิงเปลี่ยนแปลงไปมา เช่นเดียวกับอารมณ์ของเขาที่แปรปรวน กลืนไม่เข้าคายไม่ออก

เจียงหลูเข้าใจทันทีว่าจีหยิงรู้สึกสะเทือนใจกับคำพูดของเขา และกำลังพิจารณามันอย่างรอบคอบ ดังนั้นเขาจึงไม่อาจผ่อนคลาย รีบกล่าวเสริมเพิ่มไปว่า “ท่านแม่ทัพอย่าลังเลเลยขอรับ ! จุดจบของซ่งเทียนอยู่ตรงหน้าแล้วในตอนนี้ !”

จีหยิงขมวดคิ้วแน่น ด้วยนี่คือการตัดสินใจที่ยากที่สุดในชีวิตครั้งหนึ่งเลยก็ว่าได้

“ท่านแม่ทัพ !” ทหารรอบข้างตะโกนอย่างพร้อมเพรียงอีกครั้ง และแม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้แสดงทัศนคติออกมา แต่ก็สามารถเข้าใจเจตนาของคนเหล่านี้ได้ผ่านน้ำเสียงที่เร่งรีบนั่น

“พวกเจ้า…. ?” หลังจากครุ่นคิดเป็นระยะเวลาหนึ่ง จีหยิงก็เหมือนจะตัดสินใจได้และเงยหน้าขึ้น

เมื่อเจียงหลูและแม่ทัพคนอื่น ๆ เห็นภาพตรงหน้า พวกเขาก็ต้องตกตะลึง ด้วยมาตอนนี้ใบหน้าของจีหยิงบิดเบี้ยว ดวงตาทั้งสองข้างแดงก่ำ และการแสดงออกก็น่ากลัวเหมือนปีศาจ ทำให้หัวใจของเจียงหลูสั่นสะท้าน คิดเองเออเองว่าชีวิตของเขาคงจะจบลงตรงนี้อย่างแน่นอน !

ทว่าใครจะรู้ว่าจีหยิงไม่ได้สั่งฆ่าเขา แต่กลับทำสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิดว่าเขาจะทำมัน “ถ้าข้ายอมจำนน ถังหยินจะปฏิบัติกับพวกเราแบบไหนกัน ?”

“?”

คำพูดของจีหยิงทำเอาเขาไม่รู้ว่าควรจะตอบสนองอย่างไร หลังจากนั้นไม่นานเจียงหลูก็พยักหน้าอย่างต่อเนื่อง ขณะที่เขาพูดตะกุกตะกัก “นายท่าน…. กองทัพของเราไม่เคยฆ่านักโทษผู้ยอมจำนนมาก่อน โปรดวางใจได้ท่านแม่ทัพ !”

“งั้นก็ตามนั้น !” จีหยิงยืนตัวตรง ก่อนจะกวาดสายตาไปทั่วใบหน้าของผู้ใต้บังคับบัญชาของตนและมองกลับมาที่เจียงหลูในท้ายที่สุด เขาหายใจเข้าลึก ๆ ยกแขนขึ้นและยกมือขึ้นคำนับกล่าวว่า “หลังจากที่เจ้ากลับไป รายงานนายของเจ้าด้วยว่าข้ายินดีที่จะเข้าร่วม !”

หลังจากได้ยินแบบนั้น เจียงหลูก็ตื่นเต้นมากจนเขาแทบจะกระโดดตัวลอย ! ตัวเขาเสี่ยงที่จะเข้ามาเกลี้ยกล่อมจีหยิงและไม่มีความหวังมากนัก เขาเพียงรู้สึกว่านี่เป็นโอกาสแรกของเขาและคุ้มค่าที่จะเสี่ยง เขาไม่เคยคิดเลยว่าเขาจะสามารถโน้มน้าวให้จีหยิงยอมจำนนได้ !!!

“ข้ายินดี.. ที.. ที่… ที่ได้ยิน ขะ.. ขอรับ !” เจียงหลูพูดอย่างกระวนกระวาย ก้มหัวให้จีหยิงจนเกือบจะโขกกับพื้น เสียงของเขาสั่นสะท้านจากความตื่นเต้น “ท่านแม่ทัพได้เลือกเส้นทางที่ถูกต้องแล้วขอรับ มันเป็นโชคดีของแคว้นเฟิง ข้าขออวยพรให้กับท่านและขอบคุณท่านแทนประชาชนด้วย !” ขณะที่เขาพูด น้ำตาของเจียงหลูก็ร่วงหล่นขณะที่เขาคุกเข่าลงและกอดเขาด้วยความขอบคุณ

เมื่อเห็นเช่นนี้แม่ทัพทุกคนก็พากันทำตาม

ร่างกายของจีหยิงสั่นสะท้าน เขาเดินไปข้างหน้าอย่างกระวนกระวายและพยุงเจียงหลูขึ้น “เจ้ากำลังทำอะไรอยู่ ! ข้าเป็นเพียงทหารที่ยอมจำนนแล้วก็เท่านั้น !?”

“ท่านแม่ทัพไม่ได้ยอมแพ้ แต่ท่านช่วยชีวิตข้า และแคว้นเฟิงแห่งนี้เอาไว้ต่างหาก !” เจียงหลูสะอื้น

หลังจากที่จีหยิงได้ยินสิ่งนี้ ดวงตาของเขาก็พลันเปลี่ยนเป็นสีแดง เขาเป็นคนซื่อสัตย์ ดังนั้นแล้วการทรยศซ่งเทียนจึงไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ มันเจ็บปวดยิ่งกว่าการถูกศัตรูทำร้ายเสียอีก นอกจากนี้ครอบครัวของเขาทั้งหมดก็ล้วนแล้วแต่อยู่ในเมืองหยาน ทำให้เมื่อเขายอมจำนน คนในเขาครอบครัวก็ย่อมไม่มีทางที่จะปลอดภัยอย่างแน่นอน ทว่านี่ก็ถือเป็นการตัดสินใจที่เด็ดเดี่ยวครั้งหนึ่งที่เขาคิดจะทำ !!!

แม่ทัพโดยรอบรู้เหตุผลเบื้องหลังสถานการณ์ของจีหยิง ถ้าเขาเต็มใจที่จะยอมจำนน มันก็เท่ากับการแลกชีวิตครอบครัวของเขาเองเพื่อชีวิตของทหารทั้งหมดในกองทัพ ดังนั้นแล้วทุกคนจึงพากันคุกเข่าลง กระทั่งมีพวกเขาหลายคนที่ร้องไห้ออกมาเสียงดัง “ท่านแม่ทัพ”

จีหยิงถอนหายใจเบา ๆ ไม่พูดอะไรสักคำ

เจียงหลูไม่กล้าที่จะอยู่ต่ออีก เพราะเขากลัวว่าจีหยิงจะกลับคำ จึงเร่งรีบเช็ดน้ำตาและลุกขึ้นยืนก่อนจะพูดกับจีหยิง “ข้าจะกลับไปรายงานนายท่านให้ขอรับ ! ท่านแม่ทัพ !”

“เฮ้อ ! ลำบากเจ้าแล้วล่ะนะ !”

“ท่านแม่ทัพสุภาพเกินไปแล้วขอรับ !”

เจียงหลูกล่าวคำอำลาจีหยิง และออกจากค่ายเพื่อลงจากภูเขาให้เร็วที่สุด แต่ก่อนที่เขาจะได้ออกจากค่าย ทันใดนั้นก็พลันมีคลื่นแห่งความโกลาหลอยู่ข้างหลังและมีคนตะโกนซ้ำ ๆ ว่า “คนทรยศของกองทัพเทียนหยวนอยู่ตรงหน้า จับมันเอาไว้ !”

หรือว่าจะเป็นเขา ? เจียงหลูยืนนิ่งและมองย้อนกลับไป เขาเห็นทหารกลุ่มใหญ่ที่ในมือถือดาบและหอกวิ่งออกมาจากค่าย ที่นำโดยนายกองหนุ่ม 2 คนในชุดเกราะ พวกเขาสองคนเคลื่อนไหวเข้าหาเจียงหลูราวกับนักล่าเจอเหยื่อ

เจียงหลูเป็นบัณฑิต แน่นอนว่าเขาไม่เคยอยู่ในสนามรบมาก่อน จึงย่อมตกใจเป็นธรรมดา !

ไม่นานนักนายกองทั้งก็ตามมาถึงตัว ก่อนเป็นหนึ่งในนั้นที่คว้าคอไว้ และยกขึ้นพร้อมกับเหวี่ยงร่างของเจียงหลูลงกับพื้นด้วยแรงทั้งหมด พลางร้องตะโกนข่มขู่ว่า “คิดเหรอว่าจะหนีพวกข้าได้ !”

แรงกระแทกทำให้กระดูกทั้งหมดในร่างกายของเจียงหลูแทบจะกระจัดกระจาย เขานอนอยู่บนพื้นด้วยอาการมึนที่รุนแรงเหมือนฟ้าและพื้นดินกลับด้านกัน

นายกองอีกนายของแคว้นเปิงเดินเข้ามา คนผู้นั้นเดิมขึ้นมาเหยียบหน้าอกของเจียงหลูและพูดอย่างดุร้าย “ไอ้คนทรยศ กล้ามากที่ขึ้นมาบนภูเขา และทำให้พวกข้าเข้าใจผิด ทั้งยังปั่นหัวผู้นำของเรา อย่างแกคงจะปล่อยเอาไว้ไม่ได้แล้ว ! ” เมื่อพูดอย่างนั้น นายกองแคว้นเปิงคนนั้นก็พลันหยิบดาบของเขาออกมาและยกมันขึ้นสูง ทำท่าพร้อมที่จะตัดศีรษะของเจียงหลู !!

ทันใดนั้นก็ได้มีคนที่อยู่ข้างหลังเขาตะโกนขึ้น “หยุดเดี๋ยวนี้ !” ก่อนจะตามมาด้วยทหารที่เจียงหลูเคยเห็นมา ด้วยพวกเขาคือหนึ่งในรองแม่ทัพภายใต้คำสั่งของจีหยิงที่เห็นในเต็นท์ !

“นายกองหวัง นายกองโจว พวกเจ้าสองคนกำลังทำบ้าอะไรอยู่ ? นั่นแขกของท่านแม่ทัพใหญ่นะ !”

“แขกเหรอ ? หึ !?”

นายกองหนุ่มทั้งสองหัวเราะออกมา ก่อนจะหันไปพูดกับรองแม่ทัพอย่างเย็นชาว่า “อย่าคิดว่าเราไม่รู้ว่าพวกเจ้ากำลังคิดทำอะไรอยู่ ไอ้คนขี้ขลาดจีหยิงยอมจำนนต่อกองทัพกบฏ มันเป็นความอัปยศของแคว้นเปิงอย่างไม่อาจให้อภัย !”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น หัวใจของรองแม่ทัพก็พลันรู้สึกกระอักกระอ่วนเขาขมวดคิ้วและเผยให้เห็นสีหน้าจริงจัง “ยอมจำนนต่อกองทัพเทียนหยวน ? เจ้าเข้าใจผิดแล้ว นั่นเป็นเพียงแผนของแม่ทัพเท่านั้น !”

“อะไร ?” เมื่อได้ยินเช่นนั้น นายกองทั้งสองก็ขมวดคิ้ว พวกเขามองหน้ากันแล้วมองไปที่รองแม่ทัพด้วยความสับสน

รองแม่ทัพกำลังจะพูด แต่เขาปิดปากทันทีและมองเจียงหลู จากนั้นเขาก็ร้องเรียกนายกองทั้งสอง “เข้ามาใกล้ ๆ ข้าหน่อย !”

เมื่อเห็นสิ่งนี้ นายกองทั้งสองก็เข้าใจทันทีว่าเรื่องไม่ง่ายอย่างที่คิดพวกเขาเดินเข้าไปหารองแม่ทัพอย่างว่าง่าย ก่อนรองแม่ทัพจะกระซิบข้างหูพวกเขา “แท้จริงแล้วท่านแม่ทัพใหญ่ต้องการ …ให้พวกเจ้าทั้ง 2 คนตายเสีย !”

ก่อนที่นายกองทั้งสองจะโต้ตอบ มีดสั้นสองเล่มก็ได้ปรากฏขึ้นในมือของรองแม่ทัพ และแทงเข้าไปอย่างรุนแรงที่บริเวณท้องของพวกเขา !!

“ฉึก !!”

นายกองทั้งสองไม่มีเวลาแม้แต่จะหลบ พวกเขาถูกแทงและได้แต่กรีดร้องออกมาอย่างน่าอนาถ ก่อนที่คนทั้งคู่จะเดินโซเซออกมาและมองไปยังมีดที่ปักอยู่บริเวณท้อง “เจ้ามัน … เจ้า…ไอ้คนทรยศ !…เจ้าไม่ตายดีแ….”

…ก่อนที่จะทันได้พูดจบ คนทั้งคู่ก็ล้มลงกับพื้นในสภาพไร้วิญญาณไปเสียก่อน

รองแม่ทัพร้องเสียงแหลม เขาคว้าจับดาบและเดินไปที่ศพทั้งสองนั่น ก่อนจะทำการตัดศีรษะของพวกเขาและส่งมอบให้แก่เจียงหลู จากนั้นก็หัวเราะและพูดอย่างสุภาพว่า “หัวทั้งสองนี้เป็นเครื่องพิสูจน์ความจริงใจของท่านแม่ทัพใหญ่ มันเป็นของขวัญสำหรับนายท่านถัง ดังนั้นข้าจะต้องรบกวนท่านที่จะพาของสิ่งนี้กลับไปที่ค่าย !”

ในเวลานี้อย่าว่าแต่เจียงหลูเลย เพราะแม้แต่ทหารเปิงที่อยู่รอบ ๆ ก็ยังตกตะลึง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับทหารเปิงจำนวนมากที่ตามนายกองทั้งสองคนนั้นมา พวกเขาได้แต่ยืนมึนงง และไม่เข้าใจว่ามันเกิดเรื่องอะไรขึ้น !!!!

แท้จริงแล้วรองแม่ทัพคนนี้ถูกส่งมาโดยจีหยิง

อันที่จริงจีหยิงก็เป็นกังวลตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้ว ดังนั้นเขาจึงได้ใช้ให้ผู้ช่วยที่ไว้ใจได้ตามมา

…แล้วใครจะคิดกันว่าสิ่งที่จีหยิงคิดจะเป็นจริง ด้วยมีนายกองถึงสองนายที่ต้องการจะสกัดกั้นและฆ่าเจียงหลูทิ้ง และถ้าไม่ได้รองแม่ทัพคนนี้มาช่วย เขาก็คงถูกฆ่าตายไปแล้ว !