ตอนที่ 206 มาช้าไปเสียแล้ว

ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ

มู่เฉียนซีรีบหยิบยาวิเศษออกมาให้มู่อวู่ซวงกลืนกินลงไป นางจับมือมู่อวู่ซวงแน่น กล่าวว่า “ท่านอา ท่านต้องอดทนไว้นะเจ้าคะ ข้าจะจัดการเจ้าแมลงยักษ์นั่นเดี๋ยวนี้”

ร่างสีม่วงพุ่งออกไป มู่เฉียนซีกล่าวอย่างจริงจัง “จวินโม่ซี เจ้าดึงดูดความสนใจของมัน ข้าจะลงมือจัดการมันเอง”

จวินโม่ซี “มู่เฉียนซีสาวน้อย เจ้าแน่ใจนะว่ายาที่เจ้าสร้างมาจะจัดการมันได้จริง ๆ ถ้าทําไม่ได้ พวกเรารีบหนีกันเถอะ นี่ไม่ใช่เวลาที่จะอวดดีเลย”

มู่เฉียนซีขมวดคิ้ว กล่าวว่า “ข้ามั่นใจในยาของข้ามาก! หยุดกล่าววาจาไร้สาระได้แล้ว รีบลงมือซะ!”

จวินโม่ซียากจะขัดนาง เขากัดฟันกล่าวว่า “ได้! สาวน้อย วันนี้ข้าจะเชื่อเจ้าสักครั้ง”

ในเวลาไม่ถึงหนึ่งก้านธูป นางคิดหาวิธีหลอมยาที่สามารถจัดการกับยาพิษของราชาไป๋กู่ได้ แม้แต่ปรมาจารย์ด้านยาพิษในตํานานก็ยังทำเช่นนางไม่ได้ ทว่าตอนนี้สาวน้อยผู้นี้นางมั่นใจมาก ทำให้เขาผู้เป็นถึงราชาโอสถรู้สึกประหลาดใจอย่างยิ่ง

จวินโม่ซีใช้พลังทั้งหมดของเขาเพื่อดึงดูดความสนใจจากราชาไป๋กู่ และมู่เฉียนซีก็โจมตีจากด้านหลังของมัน

— ฟึ่บ!  ฟึ่บ!  ฟึ่บ! —

ทันใดนั้น เข็มยาของมู่เฉียนซีแทงเข้าไปในร่างของเจ้าราชาไป๋กู่  ขณะเดียวกัน จวินโม่ซีไม่รอช้า เขารีบหลบการโจมตีของราชาไป๋กู่ในทันใด

— ปัง! —

ราชาไป๋กู่ไล่ตามจวินโม่ซีอย่างไม่มีเป้าหมาย  ในตอนนั้นเอง ราชาไป๋กู่รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติไป  มันรู้สึกว่าร่างกายของตัวมันเองเจ็บปวดอย่างหาที่เปรียบมิได้ ความเจ็บปวดแล่นไปทุกที่ หลังจากนั้นร่างกายขนาใหญ่ก็เริ่มที่จะเหี่ยวแห้ง

ร่างของราชาไป๋กู่สั่นสะท้าน ท้ายที่สุดมันบิดตัวเป็นเกลียว แต่ก็ไม่ได้ยับยั้งความเจ็บปวดของตัวมันหรือทำให้ทุเลาลงแม้แต่น้อย

โอวหยางหว่านตกตะลึง เวลานี้ร่างกายของนางไม่สามารถขยับเขยื้อนได้  นางเห็นเต็มสองดวงตาว่าเกิดเรื่องขึ้นกับราชาไป๋กู่นั่น แต่นางกลับไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่

ราชาไป๋กู่ของนางเป็นสัตว์ใหญ่ยักษ์ไร้เทียมทาน มันสามารถช่วยนางเอาชนะทั่วทั้งทวีปเซี่ยโจวได้ แต่ว่า… เกิดเรื่องขึ้นกับมันได้อย่างไร ?

นี่มัน…

มู่เฉียนซีกล่าววาจาเย็นชา “เจ้าแมลงยักษ์ ตอนนี้เจ้าเจ็บปวดมากใช่หรือไม่ ?  ข้าให้เจ้าอีกสักสองสามเข็มเป็นอย่างไร ?”

— ฟึ่บ!  ฟึ่บ!  ฟึ่บ! —

เมื่อเข็มยาของมู่เฉียนซีเข้าสู่ร่างราชาไป๋กู่อีกครั้ง ร่างของราชาไป๋กู่ค่อย ๆ เล็กลง  ร่างกายที่สูงราวกับหอคอยกลายเป็นครึ่งหนึ่งของตัวมนุษย์

มู่เฉียนซีกล่าวขึ้น “จวินโม่ซีเจ้าคุมเจ้านี่ไว้  เวลาสิบลมหายใจข้างหน้านี้ ข้าจะปรุงยาออกมาเพิ่มอีก”

ก่อนหน้านี้สถานการณ์เร่งด่วน เวลามีไม่เพียงพอที่จะปรุงยาได้มากนัก  มาบัดนี้ยาได้ถูกใช้หมดแล้ว นางจําเป็นต้องปรุงต่อไป  หากยามีเพียงพอ ราชาไป๋กู่ต้องจบสิ้นอย่างแน่นอน

จวินโม่ซียิ้ม “ไม่มีปัญหา ตอนนี้เจ้าตัวดำนี่อ่อนแอนัก แม้ข้าจะไม่สามารถฆ่ามันได้ แต่การจับมันไว้ได้ก็เพียงพอแล้ว”

ขณะที่จวินโม่ซีกําลังจะเริ่มแบ่งงานเพื่อร่วมมือกันอีกครั้ง ทันใดนั้นห่านป่าปรากฏตัวขึ้นบนท้องฟ้า ฉับพลันมีเสียงตะโกนอันอ่อนโยนดังขึ้นมา “สํานักอวิ๋นเยียนของสํานักอีชิง มาเก็บกวาดความร้ายกาจของสํานักไป๋กู่  คนอื่น ๆ ทั้งหมดถอยออกไปประเดี๋ยวนี้ มิเช่นนั้นอาจจะได้รับบาดเจ็บโดยไม่ได้ตั้งใจ”

มู่เฉียนซีแทบอยากจะด่าออกไป  บัดซบโดยแท้! สํานักอวิ๋นเยียนของสํานักอีชิง ตอนเกิดเรื่องใหม่ ๆ ไม่มา ตอนนี้มาทําอะไรกัน ?

แต่ความแข็งแกร่งของคนพวกนี้ไม่ธรรมดาเลย จวินโม่ซีดึงมู่เฉียนซีออกไปทันที

ทันใดนั้นเอง เงาร่างหลายร่างกระโดดลงมากลางอากาศ หนึ่งในนั้นคือหญิงสาวอายุยี่สิบต้น ๆ ในชุดสีเหลืองทองอร่ามดูงดงาม  นางมาพร้อมกับสิ่งที่ไม่คาดคิดคือนางมีความแข็งแกร่งระดับจอมภูตขั้นที่สาม

— ฟึ่บ!  ฟึ่บ!  ฟึ่บ! —

นางลงมือร่วมกับจักพรรดิวิญญาณ จักพรรดิยอดยุทธ์เหล่านั้นที่อยู่ข้าง ๆ นาง  และระเบิดราชาไป๋กู่อย่างบ้าคลั่ง

ในที่สุดราชาไป๋กู่สิ้นใจ ลมหายใจชีวิตสุดท้ายกําลังจะค่อย ๆ สลายหายไป

หญิงสาวชุดเหลืองเผยรอยยิ้มนุ่มนวลก่อนจะกล่าวว่า “ดูเหมือนว่าราชาไป๋กู่นี้จะไม่ได้เก่งกาจอะไรนัก  เพียงชั่วครู่ก็ถูกเก็บกวาดไปเสียแล้ว”

ผู้เฒ่าเหล่านั้นที่อยู่ข้าง ๆ หัวเราะ “ฮ่า ๆ ๆ  นั่นเป็นเพราะคุณหนูสามแข็งแกร่งมาก  เมื่อครู่คุณหนูสามได้โจมตีไปยังจุดสําคัญของราชาไป๋กู่ ดังนั้นจึงเอาชนะราชาไป๋กู่ได้”

จวินโม่ซีและมู่เฉียนซียืนอยู่ข้าง ๆ  พวกเขาอดไม่ได้ที่จะเหลือบตามองไปด้านบนอย่างระอาใจ ถ้าหากไม่ใช่เพราะพวกเขาร่วมมือกันใช้พิษโจมตีพิษจนทําให้ราชาไป๋กู่อ่อนแรง  ต่อให้พวกเขามีความแข็งแกร่งอยู่หลายเท่า ก็เกรงว่าคงต้องต่อสู้อยู่พักหนึ่ง และหญิงสาวผู้มีพลังระดับจอมภูตผู้นั้น ก็คงต้องส่งไปตายอย่างเสียเปล่ากับราชาไป๋กู่

ขณะนั้น ผู้เฒ่าคนหนึ่งกล่าวขึ้น “คุณหนูสาม โจมตีราชาไป๋กู่ผู้นี้ครั้งสุดท้าย! คุณหนูสามสามารถเอาชนะราชาไป๋กู่ได้ตั้งแต่อายุยังน้อย เกรงว่าทั่วทั้งสํานักอวิ๋นเยียนคงไม่มีใครทําได้เช่นนี้แล้ว”

“นั่นมันแน่นอนอยู่แล้ว” คุณหนูสามเงยหน้าขึ้นอย่างเย่อหยิ่ง  มือก็ฟันราชาไป๋กู่ขาดออกเป็นสองท่อนด้วยกระบี่เล่มเดียว

“อ๊า!” เมื่อราชาไป๋กู่ตาย โอวหยางหว่านผู้เป็นเจ้านายของมันก็เริ่มกรีดร้องออกมาอย่างน่าสลดหดหู่ใจ

เสียงกรีดร้องอันน่าหดหู่ของนาง ทําให้กลุ่มคนของสํานักอวิ๋นหยานสังเกตเห็นนาง หญิงสาวชุดเหลืองออกคําสั่ง “สตรีนางนี้เป็นกากเดนของสํานักไป๋กู่  พานางไปสอบปากคำเพื่อดูว่ายังมีกากเดนอื่น ๆ หลงเหลืออยู่อีกหรือไม่  สํานักที่ถูกทําลายกลับยังกล้าสร้างปัญหาในทวีปเซี่ยโจว  การพยายามฟื้นฟูสํานัก  มันเป็นเพียงความฝันเท่านั้น!  เวลานี้สํานักแรกในทวีปเซี่ยโจวมีเพียงสํานักอวิ๋นเยียนของสํานักอีชิงเท่านั้น”

— ฟึ่บ! —

ร่างสีดําหลายร่างจับโอวหยางหว่านไว้ได้  คนเหล่านี้ดูเหมือนไม่ใช่คนดีอะไร โอวหยางหว่านตกอยู่ในเงื้อมมือพวกเขา ไม่มีทางที่นางจะมีจุดจบที่ดีอย่างแน่นอน แต่ทว่า…

โอวหยางหว่าน หญิงนางนี้น่ากลัวเกินไปแล้ว ถ้าหากพวกเขาไม่ได้ฆ่านางจริง ๆ ก็ยากที่จะสบายใจได้

หากไม่ใช่เพราะคนเหล่านี้ของสํานักอวิ๋นเยียนฆ่าไปแล้วครึ่งทาง พวกเขาก็คงสามารถแก้ปัญหาราชาไป๋กู่ และจัดการกับหญิงที่น่ากลัวนางนี้ได้อย่างง่ายดาย

มู่เฉียนซีอยากจะออกไป กลับถูกจวินโม่ซีรั้งไว้ เขากล่าวด้วยเสียงอันเบา “คนพวกนี้มาจากสํานักอวิ๋นเยียนอันเป็นอันดับหนึ่งของทวีปเซี่ยโจว อีกทั้งผู้อาวุโสเหล่านั้นที่อ่อนแอที่สุดก็ยังเป็นถึงระดับสามของจักพรรดิวิญญาณ ไม่ต้องพูดถึงว่าด้านหลังของหญิงผู้นั้นยังมียอดฝีมือระดับเก้าของจักรพรรดิวิญญาณซ่อนอยู่  พวกเราทุกคนที่นี่ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกเขา ปล่อยให้พวกเขาจัดการสิ่งต่าง ๆ เสร็จแล้วจากไปกันเองเถอะ”

มู่เฉียนซีกําหมัดแน่น ดวงตานางเต็มไปด้วยความโกรธขึ้ง

สํานักอวิ๋นเยียน…

ณ ตอนนั้นบุคคลที่ทำร้ายท่านอาเล็กของนางจนดวงตามืดบอดมองไม่เห็น ก็เป็นคนจากสํานักอวิ๋นเยียน

และเหล่าคนที่ทําลายนางในเวลานี้ก็คือสํานักอวิ๋นเยียน  หึ! สํานักอีชิงในทวีปเซี่ยโจวนี้ช่างดีเสียจริง!

ในขณะนั้นมีเสียงที่อ่อนแรงดังขึ้น “ข้า… ข้าเป็นลูกศิษย์ของนาง และข้าก็เป็นคนของสํานักไป๋กู่  ได้โปรดพาข้าไป ”

มู่หรูเหยียนคลานไปยังร่างคุณหนูสามผู้นี้อย่างยากลําบาก

“อ๊า!” คุณหนูสามเห็นใบหน้าของมู่หรูเหยียนพลันร้องโหยหวนออกมา “ช่างเป็นหญิงที่อัปลักษณ์อะไรเช่นนี้!”

เมื่อคิดถึงตอนที่มู่หรูเหยียนงดงามดั่งนางฟ้า ผู้ใดก็ตามที่เห็นนาง ล้วนทําได้เพียงคารวะในความงดงาม  ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่มู่หรูเหยียนถูกผู้อื่นบอกว่านางเป็นหญิงที่น่าเกลียดน่ากลัว

ดวงตาคู่นั้นของมู่หรูเหยียนทอประกายแสงสลัว ๆ  นางกล่าวอย่างอ่อนแรง

“ข้า… ข้ารู้ความลับมากมายของสำนักไป๋กู่ พาข้าไปแล้วข้าจะบอกเจ้าทั้งหมด”

แม้ว่านางจะมาถึงสำนักอวิ๋นเยียน นางก็จะต้องทนทุกข์ทรมาน  ทว่าแม้นางจะตายในมือของพวกเขาก็ไม่สามารถปล่อยให้แผนชั่วของมู่เฉียนซีประสบความสําเร็จได้

.