บทที่ 270 ภารกิจสมรภูมิ
“ท่านอาร์คบิชอป ทัพจักรพรรดิของพวกเราได้ระดมพลกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทางวิหารเป็นอย่างไรบ้าง?” แม่ทัพที่ 3 เหลาหู่นั้นเป็นคนจริงจังเช่นเดียวกับหัวหน้าบัลลังก์ผู้พิพากษากิโล หลังจากที่ทำความเคารพเซียวเฟิงแล้ว เขาก็เป็นฝ่ายเปิดฉากถามทันที
“ทางวิหารแห่งแสงเองก็เรียบร้อยแล้วเหมือนกัน ส่วนนี่เป็นประกาศิตจากเทพธิดาแห่งแสง” เซียวเฟิงหยิบเอาจดหมายสีทองที่เทพธิดาแห่งแสงมอบไว้กับตนขึ้นมา
จักพรรดิหลงโบกมือ จากนั้นแม่ทัพเหลาหู่ก็เดินเข้ามารับจดหมายจากเซียวเฟิงและนำไปแสดงให้ผู้เป็นจักรพรรดิดูแทน
“นี่มัน…” เมื่อจักรพรรดิหลงได้เห็นข้อความที่อยู่ในจดหมาย เขาก็ขมวดคิ้วทันที ชายสูงวัยผู้นี้ดูเหมือนจะคิดอะไรได้บางอย่างถึงได้คลายคิ้วที่ขมวดนั้นลงด้วยความโล่งใจ
“องค์จักรพรรดิ ทัพจักรพรรดิที่ 3 พร้อมแล้ว ได้โปรดออกคำสั่งด้วย” แม่ทัพเหลาหู่เองก็หันไปขอคำสั่งจากจักรพรรดิหลงเพื่อดำเนินการต่อด้วย
“เพื่อขจัดซึ่งความเศร้าโศก พลังของพวกเราอยู่ในมือท่านแล้ว อำนาจการสั่งการกองทัพสัมพันธมิตรทั้งหมดขึ้นอยู่กับนักผจญภัย ท่านอาร์คบิชอป เจ้าเองก็ต้องฟังคำสั่งเขาด้วย” จักรพรรดิหลงพยักหน้า
“รับทราบ!”
แม่ทัพเหลาหู่หันมองเซียวเฟิงด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย แต่ท้ายสุดก็พยักหน้ารับคำสั่งด้วยความยินยอม…
“ท่านอาร์คบิชอป กองทัพอันดับ 3 ขององค์จักรพรรดิ มีกำลังพลจำนวนทั้งสิ้นสองแสนนาย บัดนี้ได้ระดมพลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และพร้อมที่จะเคลื่อนพลได้ทุกเมื่อ ขอท่านได้โปรดออกคำสั่งมาได้เลย”
เมื่อออกมาจากห้องโถงพระราชวังแล้ว แม่ทัพที่ 3 ก็รีบหันมารายงานสถานการณ์ฝั่งตนให้เซียวเฟิงฟังด้วยสีหน้าจริงจังทันที
“ท่านแม่ทัพเหลาหู่ ทัพที่ 3 ที่ท่านควบคุมอยู่แข็งแกร่งระดับไหนเหรอ? อย่างที่ท่านรู้ว่าเมืองแห่งความโศกเศร้านั้นถือเป็นฐานที่ตั้งของเผ่าพันธุ์แห่งความมืด เพราะงั้นที่นั่นน่าจะมีอันตรายนับไม่ถ้วนอย่างแน่นอน” เซียวเฟิงไม่ได้รีบร้อนที่จะสั่งการแม่ทัพผู้นี้ กลับกันชายหนุ่มเลือกที่จะถามคำถามอีกฝ่ายไปก่อน
“ทัพที่ 3 ของจักรวรรดิถือเป็นทัพที่ทรงพลังอีกทัพหนึ่งในเมืองนี้ เพราะงั้นนักรบในทัพทุกคนถือว่าแข็งแกร่งมาก ๆ!” แม่ทัพเหลาหู่พูดโอ้อวดด้วยความหนักแน่นในตอนแรก แต่ไม่นานนักก็พูดต่อด้วยความจริงจัง “แต่พวกเราก็ไม่ได้ดูถูกพลังของพวกเผ่าพันธุ์แห่งความมืดพวกนั้นหรอกนะ ทัพที่ 3 สามารถยืนในฐานะแนวหน้าให้ได้ก็จริง แต่ถ้าถึงเวลาที่ต้องเผชิญหน้ากับสัตว์ประหลาดเหล่านั้นจริง ๆ เราเองก็ยังต้องการพลังของวิหารแห่งแสงเพื่อคอยสนับสนุน เพราะสิ่งเดียวที่จะจัดการพลังแห่งความมืดพวกนั้นได้ พลังแห่งแสงสว่างของพวกท่านถือว่าเป็นการมอบหายนะแก่พวกมันได้เลยทีเดียว”
เซียวเฟิงพูดไม่ออกขึ้นมาทันที แม้แม่ทัพผู้นี้จะโอ้อวดอย่างไรก็ตาม แต่เขาก็ยังรู้ว่าทัพของตนเองเป็นได้เพียงชุดเกราะที่ไม่ได้สามารถเข้าปะทะได้ด้วยพลังโจมตีหากต้องเจอกับเผ่าพันธุ์แห่งความมืด ดังนั้นแล้วหน้าที่ทำความเสียหายก็ยังเป็นหน้าที่ของเหล่าทัพของวิหารแห่งแสงดังเดิม
“ในเมื่อท่านอาร์คบิชอปถูกแต่งตั้งขึ้นเป็นผู้นำทัพของสัมพันธมิตรแล้ว แสดงว่าท่านเองก็คงจะมีแผนรับมือกับปัญหานี้อยู่แล้ว?” เหลาหู่มองเซียวเฟิงอยู่อีกพักใหญ่ เพราะตัวเขาเองก็ไม่ได้มั่นใจในสงครามครั้งนี้มากนัก แม่ทัพอย่างเขารู้ดีว่าอีกฝั่งนั้นไม่ใช่แค่กลุ่มก้อนของมอนสเตอร์ทั่ว ๆ ไป
“ถ้าเป็นแบบนี้ พวกเราคงต้องหวังพึ่งพลังจากเหล่านักผจญภัยเพิ่มกันแล้วล่ะ แม่ทัพเหลาหู่ ท่านสามารถมอบภารกิจขนาดใหญ่เพื่อเรียกเหล่านักผจญภัยมาช่วยเราต่อสู้ในเมืองแห่งความโศกเศร้าได้หรือเปล่า?” เซียวเฟิงพูดหลังจากคิดทบทวนเรื่องนี้อย่างถี่ถ้วนแล้ว
“หวังพึ่งพลังจากเหล่านักผจญภัยเหรอครับ? เป็นทางออกที่ดีมาก ถ้ายังไง ข้าจะรีบไปดำเนินการประกาศภารกิจทั่วทั้งอาณาจักรและขอความช่วยเหลือจากนักผจญภัยเดี๋ยวนี้เลย!”
เหลาหู่ตกตะลึงไปในตอนแรก แต่ทันใดนั้นเขาก็ทำความเคารพเซียวเฟิงด้วยความชื่นชมทันที
“กำหนดรางวัลของภารกิจให้สูง ๆ ด้วยนะ เพราะยังไงซะ เมืองแห่งความเศร้าโศกนั้นก็ถือเป็นแผนที่ระดับสูง ถ้าของรางวัลไม่ล่อตาล่อใจ พวกเขาจะไม่กล้าเสี่ยงดวงมาทำภารกิจกัน” เซียวเฟิงเตือน
“เข้าใจแล้ว จักรวรรดินั้นไม่เคยดูแคลนเหล่านักรบผู้อุทิศความแข็งแกร่งของตนเพื่อต่อต้านเผ่าพันธุ์แห่งความมืดอยู่แล้ว” เหลาหู่หันมาพูดด้วยความจริงจัง
“ดีแล้ว ถ้างั้นก็เริ่มแผนการนี้ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ จากนั้นท่านแม่ทัพเหลาหู่ก็ค่อยนำเหล่าทัพที่ 3 ของท่านไปยังเมืองหรี่ลั่วที่ซึ่งอยู่ใกล้กับดินแดนแห่งความมืดอีกที ที่นั่นทัพของวิหารแห่งแสงน่าจะล่วงหน้ากันไปก่อนแล้ว”
หลังจากพูดจบ เซียวเฟิงก็ออกจากโถงปราสาทไป เขาอยากจะเดินดูรอบ ๆ เมืองจักรวรรดิแห่งนี้เสียหน่อยอย่างน้อย ๆ ก็ถือเป็นการฆ่าเวลาระหว่างที่รอให้สัมพันธมิตรจัดทัพให้เรียบร้อยพร้อมออกเดินทาง
ยังไงเสียเซียวเฟิงก็เป็นผู้เล่นคนแรกที่ได้เข้ามาในเมืองจักรวรรดิแห่งนี้ ชายหนุ่มจะไม่ปล่อยให้เวลาที่มีนั้นสูญเปล่าแน่ และจะต้องใช้มันให้เกิดประโยชน์สูงสุด!
ก่อนอื่น…เซียวเฟิงมุ่งหน้าไปยังร้านขายยาประจำเมืองจักรวรรดิเพื่อตรวจสอบสินค้า และสิ่งที่เห็นก็ทำให้ชายหนุ่มโล่งใจเพราะยาฟื้นฟูที่ขายอยู่ในเมืองนั้นล้วนแต่เป็นเพียงยาระดับสูงเท่านั้น
อัตราการฟื้นฟูของยาระดับสูงอยู่ที่ 30 หน่วย ในขณะที่อัตราการฟื้นฟูของยาระดับหายากนั้นสูงถึง 50 หน่วย ดังนั้นแล้วต่อให้ในอนาคต เมืองจักรวรรดิจะเปิดให้ผู้เล่นส่วนใหญ่เข้ามาแล้ว มันก็จะไม่กระทบกับยาที่วางขายอยู่ในร้านค้ามหาสมบัติอย่างแน่นอน ยาระดับหายากจะยังเป็นของดีที่มีมูลค่าสูง เปรียบเสมือนบ่อทองที่ยังเรียกลูกค้าให้ตำหนักแห่งนี้ได้เรื่อย ๆ
นอกจากนี้ ที่ร้านขายยาประจำเมืองจักรวรรดินั้นไม่เพียงแต่ขายยาฟื้นฟูอย่างเดียวเท่านั้น ที่แห่งนี้ยังมียาอีกมากมายที่ตอบสนองแทบจะทุกความต้องการวางขายอยู่ด้วย ตัวอย่างเช่น ยาแปรธาตุ ที่เมื่อถูกใช้แล้วจะช่วยเพิ่มอัตราคริติคอลได้ในระยะเวลาอันสั้น
ยิ่งไปกว่านั้น ที่แห่งนี้ยังมี NPC สำหรับเปลี่ยนคลาสรองให้เป็นนักเล่นแร่แปรธาตุอยู่ด้วย คลาสรองคลาสนี้ค่อนข้างน่าสนใจไม่น้อย แต่ถึงอย่างไรเซียวเฟิงก็ไม่ได้สนใจคลาสรองนั้นอยู่แล้ว เพราะงั้นชายหนุ่มคงจะช่วยสนับสนุนให้เฉียนโตวโตวได้เปลี่ยนมาเป็นคลาสนี้ในอนาคตแทน
เซียวเฟิงสังเกตได้ว่าภายในเมืองนี้มีร้านค้าของระบบถูกจัดตั้งไว้อยู่มาก รับรู้ได้จากการที่เขาสามารถเห็นพ่อค้าที่นำสินค้าที่ไม่พบเจอในเมืองอื่น ๆ มาขายกันอย่างคับคั่ง จำนวนของพ่อค้าเหล่านี้มีมากกว่าที่อยู่ในเมืองหลักเสียอีก ท่ามกลางสินค้าเหล่านี้ ร้านเสื้อผ้าที่นำชุดที่ถูกตัดอย่างประณีตดูจะเป็นที่ดึงดูดสายตาเซียวเฟิงที่สุด ที่นั่นมีชุดเดรสเจ้าหญิงโลลิต้าสีดำถูกนำมาแสดงให้เห็น ซึ่งมันทำให้เขานึกถึงเซียวหลิงขึ้นมา ถึงแม้ว่าราคามันจะสูง แต่ชายหนุ่มก็ไม่ลังเลที่จะซื้อและเก็บไว้รอวันที่เซียวหลิงได้เข้ามาในโลกแห่งเกมนี้แต่อย่างใด
คุณภาพของเนื้อผ้าของชุดที่ซื้อผ่านระบบนั้นดีมาก ๆ เซียวเฟิงไม่เพียงแต่ซื้อชุดเดรสเจ้าหญิงตัวนั้น และยังซื้อชุดสไตล์ยุโรปให้ตัวเขาเองอีกด้วย เขาถูกล่อลวงให้จับจ่ายใช้สอยราวกับเป็นทายาทสุลต่านโดยชุดแฟชั่นผู้หญิงสวย ๆ ในร้านอย่างง่ายดาย
[ประกาศจากจักรวรรดิ! ภารกิจสมรภูมิ ณ สมรภูมิเมืองแห่งความโศกเศร้า ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว! ผู้เล่นทุกท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ป้ายประกาศตามเมืองหลักต่าง ๆ ภายในภารกิจสมรภูมิ ท่านจะได้รับค่าประสบการณ์ 10 เท่า! และเพิ่มอัตราการดร็อปไอเทมระดับสูงอีก 10 เท่าต่อการกำจัดมอนสเตอร์ 1 ตัวและมอนสเตอร์ตัวนั้นเป็นเผ่าพันธุ์แห่งความมืด! ขณะเดียวกันท่านจะได้รับแต้มความสำเร็จสมรภูมิไปด้วย ยิ่งมอนสเตอร์ที่ท่านได้กำจัดลงไปนั้นระดับสูงเท่าไหร่ แต้มความสำเร็จที่ได้รับก็จะมากขึ้นเท่านั้น! เมื่อท่านจัดตั้งปาร์ตี้และกำจัดมอนสเตอร์ แต้มความสำเร็จจะถูกหารให้เท่าเทียมกับสมาชิกทุกคนในปาร์ตี้ แต้มความสำเร็จสมรภูมิสามารถใช้แลกเปลี่ยนไอเทมและค่าชื่อเสียงได้ที่ฝ่ายพลาธิการประจำเมืองหลักแต่ละแห่ง! ขอความร่วมมือผู้เล่นทุกท่าน มีส่วนร่วมกันอย่างคับคั่งด้วย!]
[ประกาศจากจักรวรรดิ…]
[ประกาศจากจักรวรรดิ…]
เสียงของประกาศในระบบดังไปทั่วทุกแห่งหน ที่ซึ่งเนื้อหาในประกาศนั้นทำเอาเซียวเฟิงถึงกับตกตะลึง มันเป็นประกาศเกี่ยวกับภารกิจสมรภูมิจริง ๆ แล้วยิ่งไปกว่านั้น เซียวเฟิงยังไม่คาดคิดด้วยว่าระบบจะใจกว้างมาก ๆ ในครั้งนี้ ที่กล้าตบรางวัลสูงถึงสิบเท่าไม่ว่าจะเป็นค่าประสบการณ์หรืออัตราดร็อปไอเทม แล้วไหนจะยังมีแต้มความสำเร็จสมรภูมิอีก! มันกลายเป็นว่าของรางวัลเหล่านี้ล่อลวงเซียวเฟิงเองเสียแล้ว!
วินาทีที่ประกาศครั้งนี้เข้าหูผู้เล่นคนอื่น ๆ พวกเขาทุกคนที่อยู่ในอาณาจักรของมนุษย์ต่างก็ตกใจกันถ้วนหน้า เช่นเดียวกับในเขตฮัวเซีย ประกาศเรื่องภารกิจสมรภูมินี้แพร่กระจายเร็วราวกับเป็นกัมมันตภาพรังสีที่รั่วออกมา
การกำจัดมอนสเตอร์แต่ละตัวจะได้รับค่าประสบการณ์มากขึ้นสิบเท่าและได้รับอัตราดร็อปไอเทมระดับสูงเพิ่มขึ้นอีกสิบเท่าด้วย! แค่ของรางวัลเหล่านี้ก็มากพอที่จะเรียกความสนใจจากผู้เล่นทั้งหมดได้แล้ว แต่นี่ยังมีแต้มความสำเร็จเข้ามาเกี่ยวอีก!
ด้วยสิ่งนี้มันจะทำให้พวกเขาสามารถเปลี่ยนฉายาของตนเองได้! สิ่งที่ทำให้เหล่าผู้เล่นมากมายพยายามตั้งใจทำภารกิจอยู่ทุกวี่ทุกวันนั้น ก็คือการทำให้ระดับความสัมพันธ์กับ NPC ที่เพิ่มมากขึ้น แต่ตอนนี้ แต้มความสำเร็จสมรภูมิกำลังจะเอื้ออำนวยให้พวกเขาลดความน่าเบื่อในการทำภารกิจเพิ่มความสัมพันธ์ลงไปอีกเยอะ!
ดังนั้นแล้วผู้เล่นทั้งหมดที่ได้ยินข่าวแล้วจึงวกหน้ากลับไปยังเมืองหลักของพวกเขาเพื่อติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมในทันที ถึงแม้ว่านี่มันจะดึกมากแล้ว แต่ทุกเมืองหลวงของเผ่าพันธ์มนุษย์กลับเต็มไปด้วยผู้เล่นมากมายจนถึงขั้นแออัดไปแล้ว! เห็นได้ชัดเลยว่าภารกิจสมรภูมิครั้งนี้ล่อตาล่อใจผู้เล่นได้เป็นอย่างดี!
เนื่องจากภารกิจนี้เป็นภารกิจที่จัดตั้งขึ้นในอาณาจักรมนุษย์ เผ่าออร์คและเผ่าเอลฟ์จะรู้ข่าวนี้ก็ต่อเมื่อพวกเขาเข้ามาในเมืองหลักของมนุษย์เท่านั้น แต่ด้วยเวลานี้ไม่ว่าจะเมืองหลักแห่งไหนโดยเฉพาะเทียนหลงที่มีชื่อเสียงโด่งดังต่างก็มีแต่ประชากรมนุษย์เต็มไปหมด เพราะงั้นพวกเขาจึงไม่สามารถเข้ามาในเมืองได้โดยปริยาย
ทว่าหลังจากที่ได้อ่านรายละเอียดภารกิจกันไปแล้ว ผู้เล่นหลายคนต่างก็ล้มเลิกความคิดไป จริง ๆ พวกเขาก็เผื่อใจไว้แล้วและมันก็ดันเป็นจริง ๆ เสียอย่างนั้น ทุกคนเชื่อว่าภารกิจนี้จะต้องยากมากแน่ เนื่องจากของรางวัลที่ดีเกินคาดเช่นนี้ เช่นนั้นพวกเขาจึงไม่อยากจะเอาตัวเองเข้าไปเสี่ยงกับภารกิจที่ถูกจัดขึ้นในแผนที่ระดับสูงกันหรอก
สิ่งที่รออยู่ในแผนที่ระดับสูงนี้ไม่ใช่สิ่งที่จะรับมือได้ง่าย ๆ ภายในนั้นเต็มไปด้วยมอนสเตอร์เลเวล 30 มากมายรวมถึงบอสเลเวล 30 ด้วย ผู้เล่นทั่ว ๆ ไปสามารถถูกฆ่าตายได้ง่าย ๆ หากเผลอหลุดไปเจอมอนสเตอร์เหล่านี้เข้า ประสบการณ์การถูกฆ่าแบบไม่รู้ตัวช่วยบอกให้พวกเขารู้ว่า ของรางวัลระดับสูงเหล่านี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีความแข็งแกร่งเพียงพอเท่านั้น ถึงจะไขว่คว้ามันมาไว้ได้
อีกทั้งภารกิจหลัก ๆ ก็คือการช่วยทัพของ NPC ในการล้อมและเข้าโจมตีเมืองที่ถือว่าเป็นแผนที่ระดับสูง มันแน่นอนแล้วว่าต้องไม่ใช่สถานที่ธรรมดา ๆ ผู้เล่นที่เพิ่งจะเลเวล 20 ต้น ๆ กันจึงไม่มีใครกล้าที่จะเสี่ยงดวง แถมผู้เล่นระดับที่ว่าเองก็ยังตีซะว่ามีจำนวนมากอีกด้วย
ต่อให้คนทั้งเขตฮัวเซียที่มีกันหลักร้อยล้านคนไปกันหมด พวกเขาก็อาจจะตายกันหมดเลยก็ได้…
ภารกิจสมรภูมินี้มันยากเกินไป ตอนนี้ผู้เล่นมากมายกำลังพากันถอดใจกับของรางวัลกันหมดแล้วไม่ว่ามันจะน่าสนใจขนาดไหนก็ตาม พวกเขาส่วนใหญ่รู้ตัวเองดีว่าไม่ได้แข็งแกร่งอะไรขนาดนั้น
แต่ถึงอย่างนั้น ก็ยังมีผู้เล่นอีกมากมายที่มองว่าของรางวัลมันคุ้มค่าแก่การได้ลิ้มลอง เพราะงั้นตอนนี้พวกเขาจึงกำลังมุ่งหน้าไปยังจุดที่ภารกิจนี้ระบุไว้อย่างดินแดนแห่งความมืดกันแล้ว
พวกเขาเหล่านี้ส่วนใหญ่จะจัดปาร์ตี้เล็ก ๆ กัน บ้างก็เป็นกิลด์เล็ก ๆ หรือบางทีก็เป็นกลุ่มเพื่อนที่มาด้วยกัน ทุกคนคิดเหมือนกันว่าภารกิจนี้ถ้าไม่มองในจุดที่ยากก็คือไม่ยาก ดังนั้นเป้าหมายหลักของพวกเขา ย่อมไม่ใช่การตีกรอบล้อมเมืองอยู่แล้ว แต่เป็นการกำจัดมอนสเตอร์ตัวเล็กตัวน้อยเพื่อให้ได้แต้มความสำเร็จมาแทน
ส่วนกิลด์ใหญ่ ๆ ในฮัวเซียเองก็เริ่มจัดกำลังและมุ่งหน้าไปยังสนามรบแห่งนั้นด้วยเช่นกันหลังจากที่เรียกประชุมสมาชิกในเวลาอันสั้น คนเหล่านี้ถูกล่อลวงด้วยของรางวัลทั้งหลายอย่างมาก!
เซียวเฟิงไม่ได้รีบเร่งไปที่นั่น ยังไงเสีย ทัพสัมพันธมิตรก็ต้องรอให้ผู้เล่นที่เข้าร่วมภารกิจนี้เปิดทางให้พวกเขาก่อนเป็นอันดับแรก
ที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะเซียวเฟิงมีเรื่องสำคัญที่ยังต้องทำให้เสร็จก่อน นั่นคือการหาซื้อที่ภายในเมืองจักรวรรดิแห่งนี้
แม้ว่าตัวเมืองจักรวรรดินั้นจะมีขนาดใหญ่ขนาดไหนก็ตาม แต่เซียวเฟิงก็พบว่าส่วนที่สามารถขายให้กับผู้เล่นได้นั้นกลับมีเพียงพื้นที่นอกเมืองเท่านั้น บริเวณที่เป็นพื้นที่ปล่อยขายด้านนอกนั้นจะต้องกลายเป็นแหล่งศูนย์รวมผู้เล่นในอนาคตอย่างแน่นอน
เขาเดินทางไปหา NPC ที่รับผิดชอบด้านการซื้อขายที่ดินอย่าง NPC รัฐมนตรี เพื่อถามไถ่เรื่องการซื้อขาย ซึ่งมันไม่สำเร็จตั้งแต่ที่เขาเริ่มคิดจะถามเสียด้วยซ้ำ เซียวเฟิงถูกหยุดไว้โดยยามรักษาการณ์ตั้งแต่ยังไม่ได้พูดอะไร พวกเขาไม่ยอมให้เซียวเฟิงผ่านเข้าไปในประตูสถานที่ทำงานของรัฐมนตรีเลย ขนาดที่ว่าแสดงให้เห็นถึงยศของอาร์คบิชอปก็ยังไม่ยอม
เรื่องนี้มันทำให้เซียวเฟิงหนักใจขึ้นมานิดหน่อย เขาไม่คาดคิดเลยว่าตำแหน่งอาร์คบิชอปนั้นจะใช้ไม่ได้ผลภายในเมืองจักรวรรดิแห่งนี้ ไม่เพียงแต่ที่นี่จะไม่มีวิหารแห่งแสงสาขาย่อยถูกสร้างเอาไว้ แต่ NPC ภายในเมืองนี้ก็ไม่ได้สนใจเขาเท่าที่ควรด้วย
เพราะระบบการซื้อขายที่ดินนั้นยังไม่สามารถทำได้ในตอนนี้ เซียวเฟิงจึงทำได้เพียงเดินเล่นฆ่าเวลาอยู่ภายในเมืองจักรวรรดิเพื่อสำรวจสถานการณ์ไปเรื่อย จนกระทั่งใกล้ถึงเวลา ชายหนุ่มถึงได้เดินทางไปยังจุดวาร์ปประจำเมืองและส่งตัวเองไปยังเมืองหรี่ลั่วต่อในลำดับถัดไป
ขณะนั้น ที่เมืองหรี่ลั่วก็เต็มไปด้วยผู้คนเสียแล้ว ความรู้สึกของมันราวกับว่านี่เป็นเมืองเริ่มต้นเมื่อครั้งเล่นเกมครั้งแรกเลยก็มิปาน ผู้คนจากทั่วทุกสารทิศมารวมตัวกันอยู่ที่นี่!
“ฉันกำลังหาคนเข้าร่วมปาร์ตี้สำหรับทำภารกิจสมรภูมิ! ที่นี่มีฉันที่เป็นนักธนูที่มีพลังโจมตีสูงถึง 130 แล้ว! นอกจากนั้นก็ยังมีนักรบโล่ที่เป็นเพื่อนอยู่ในปาร์ตี้ด้วย! ไม่เพียงเท่านั้น ปาร์ตี้เรายังมีนักบวชด้วยนะ!”
“ปาร์ตี้เดอะวินด์ต้องการเพื่อนร่วมปาร์ตี้แสนดี! ไม่จำกัดว่าพวกนายจะอยู่คลาสไหน! ตอนนี้มีที่ว่างเหลือแค่ 3 ที่เท่านั้น!”
“กิลด์ฉาโปลังกำลังหานักบวช! ขอนักบวชฝีมือดีมาให้ความสนใจก็สามารถติดต่อเข้ากิลด์เรามาได้เลย”
“ปาร์ตี้เลเวลสูงกำลังหาเพื่อนร่วมปาร์ตี้! พวกเราต้องการคนเทพเท่านั้น! นักรบโล่ของเราพลังป้องกันทะลุ 100 แต้มไปแล้ว! ส่วนนักธนูเองก็โจมตีแรงกว่า 150 แต้มอีก ไหนจะนักเวทที่พลังเวทสูงกว่า 150 แต้มด้วย! ใครก็ตามที่คิดว่าตัวเองแข็งแกร่ง ก็เชิญเข้ามาสมัครได้เลย!”
“ฮือออออ มีเด็กผู้หญิงกำลังมองหาปาร์ตี้เพื่อทำภารกิจอยู่นะคะ! ฉันไม่รู้วิธีเล่นเกมนี้เลย ฮือ ๆๆ!”
“เด็กผู้หญิงเหรอ? สาวน้อย เธออยู่ไหน? เดี๋ยวฉันจะพาเธอไปทำภารกิจเอง!”
“มานี่ดีกว่าน้องสาว เดี๋ยวพี่ชายจะพาไปทำภารกิจ”
“หุบปากไปเลย! เธอคนนี้เป็นของฉันนะ!!”